รุ่งอรุณแห่งความสุข ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งความเป็นกรุงเก่า อันทรงเป็นขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์อันอุดมไปด้วยศิลปวัฒนธรรมไทยท้องถิ่นอันเก่าแก่และทรงคุณค่า รายล้อมไปด้วยแหล่งโบราณสถานทั้งวัดและเจดีย์จำนวนมากที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย ทำให้เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย คือเมืองมรดกโลกที่ได้รับการคัดเลือกจาก UNESCO เมื่อปี พ.ศ. 2534 ให้เป็นเมืองที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวเยี่ยมชมโบราณสถาน และโบราณวัตถุได้เป็นอย่างดี และเพียงไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ประกอบกับเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบาย อีกทั้งยังเอื้อต่อการพักผ่อนของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก ที่ต้องการใช้ชีวิตแบบเนิบช้า ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้เองทำให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวแห่งนี้ต้องการพัฒนาพื้นที่ให้มีความพร้อมที่จะรองรับการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวโดยยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมอันเป็นเอกลักษณ์เช่นเดิม
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง ห่างจากตัวจังหวัดสุโขทัยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันเรียกได้ว่าเป็นมรดกโลกชิ้นสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ มีพื้นที่กว้างขวางจนรู้สึกว่าหากจะเที่ยวให้ครบทุกจุดวันเดียวคงไม่ครบถ้วน แต่ที่นี่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัว หรือเช่าจักรยานเพื่อปั่นไปยังจุดสำคัญต่างๆ ได้ในราคาคันละ 20 บาท ซึ่งครั้งนี้ขอเลือกแนะนำจุดท่องเที่ยวสำคัญและใหญ่ที่สุดในอุทยานฯ ก่อน “วัดมหาธาตุ” ซึ่งจุดนี้ต้องเสียค่าเข้าอีกหนึ่งครั้ง สำหรับคนไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท และค่ารถยนต์ที่นำเข้ามาอีกคันละ 50 บาท โดยวัดมหาธาตุนับเป็นวัดที่ใหญ่ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของสุโขทัย สร้างสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระเจดีย์รวมกว่า 200 องค์ ตัวเจดีย์ประธานเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ รายล้อมด้วยเจดีย์อีก 8 องค์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ส่วนปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ในจตุรทิศทั้งสี่ รวมทั้งเจดีย์แบบศรีวิชัยผสมลังกาก่อด้วยอิฐตั้งอยู่ที่มุม ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นสี่เหลี่ยมซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระศรีศากยมุนี พระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ปัจจุบันได้รับการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ ที่ด้านเหนือ และด้านใต้เจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มพระ เรียกว่า "พระอัฎฐารศ" ด้านใต้ยังพบแท่งหินเรียกว่า "ขอมดำดิน" ตั้งอยู่อีกด้วย
เมื่อขึ้นไปยืนอยู่ด้านบนและมองลงมาจะพบว่าเป็นวัดที่ถูกโอบล้อมไปด้วยความเขียนขจีของธรรมชาติ แนะนำให้มาเดินชมตั้งแต่ช่วงเช้าจะได้บรรยากาศแห่งรุ่งอรุณที่สวยงามยากจะลืม
[CR] รุ่งอรุณแห่งความสุข ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ด้วยมนต์เสน่ห์แห่งความเป็นกรุงเก่า อันทรงเป็นขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์อันอุดมไปด้วยศิลปวัฒนธรรมไทยท้องถิ่นอันเก่าแก่และทรงคุณค่า รายล้อมไปด้วยแหล่งโบราณสถานทั้งวัดและเจดีย์จำนวนมากที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย ทำให้เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย คือเมืองมรดกโลกที่ได้รับการคัดเลือกจาก UNESCO เมื่อปี พ.ศ. 2534 ให้เป็นเมืองที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวเยี่ยมชมโบราณสถาน และโบราณวัตถุได้เป็นอย่างดี และเพียงไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ประกอบกับเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบาย อีกทั้งยังเอื้อต่อการพักผ่อนของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก ที่ต้องการใช้ชีวิตแบบเนิบช้า ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้เองทำให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวแห่งนี้ต้องการพัฒนาพื้นที่ให้มีความพร้อมที่จะรองรับการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวโดยยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมอันเป็นเอกลักษณ์เช่นเดิม
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง ห่างจากตัวจังหวัดสุโขทัยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันเรียกได้ว่าเป็นมรดกโลกชิ้นสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ มีพื้นที่กว้างขวางจนรู้สึกว่าหากจะเที่ยวให้ครบทุกจุดวันเดียวคงไม่ครบถ้วน แต่ที่นี่สามารถนำรถยนต์ส่วนตัว หรือเช่าจักรยานเพื่อปั่นไปยังจุดสำคัญต่างๆ ได้ในราคาคันละ 20 บาท ซึ่งครั้งนี้ขอเลือกแนะนำจุดท่องเที่ยวสำคัญและใหญ่ที่สุดในอุทยานฯ ก่อน “วัดมหาธาตุ” ซึ่งจุดนี้ต้องเสียค่าเข้าอีกหนึ่งครั้ง สำหรับคนไทย 20 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท และค่ารถยนต์ที่นำเข้ามาอีกคันละ 50 บาท โดยวัดมหาธาตุนับเป็นวัดที่ใหญ่ และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของสุโขทัย สร้างสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระเจดีย์รวมกว่า 200 องค์ ตัวเจดีย์ประธานเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ รายล้อมด้วยเจดีย์อีก 8 องค์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ส่วนปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ในจตุรทิศทั้งสี่ รวมทั้งเจดีย์แบบศรีวิชัยผสมลังกาก่อด้วยอิฐตั้งอยู่ที่มุม ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นสี่เหลี่ยมซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระศรีศากยมุนี พระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ปัจจุบันได้รับการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพฯ ที่ด้านเหนือ และด้านใต้เจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มพระ เรียกว่า "พระอัฎฐารศ" ด้านใต้ยังพบแท่งหินเรียกว่า "ขอมดำดิน" ตั้งอยู่อีกด้วย
เมื่อขึ้นไปยืนอยู่ด้านบนและมองลงมาจะพบว่าเป็นวัดที่ถูกโอบล้อมไปด้วยความเขียนขจีของธรรมชาติ แนะนำให้มาเดินชมตั้งแต่ช่วงเช้าจะได้บรรยากาศแห่งรุ่งอรุณที่สวยงามยากจะลืม