[CR] 10 วันปั่นสองล้อตีเมืองสามประเทศ 700 กิโลจากโฮจิมินท์-สีหนุวิล-เกาะกงแบบมือใหม่ถอดด้าม(ตอนจบ หลักกิโลสุดท้าย..ยาว)


ตอน 1 โฮจิมินท์-มีทอร์ [url]http://ppantip.com/topic/35610455
ตอน 2  เกิ่นเทอ [url]http://ppantip.com/topic/35612657
ตอน 3  ฮาเตี้ยน-กัมโพท http://ppantip.com/topic/35634796
วันที่ 1  กรุงเทพ-โฮจิมินท์                        สายการบินนกแอร์ ถึงโฮจิมินท์ 9 โมงเช้า  
วันที่ 2 โฮจิมินท์-มีโท (My Tho)                ระยะทาง  74 กิโลเมตร
วันที่ 3 มีโท (My Tho) - เกิ่นโท (Can Tho) ระยะทาง 88.5 กิโลเมตร
วันที่ 4 เกิ่นโท  ปั่นเที่ยวในเกิ่นโท               ระยะทาง 20 กิโลเมตร
วันที่ 5 เกิ่นโท - ฮาเตี้ยน (Ha Tien)            ระยะทาง 180 กิโลเมตร (เหมานั่งรถตู้)
วันที่ 6 ฮาเตี้ยน- Xa Xia (border) - Kampot ระยะทาง 50.7 กิโลเมตร
วันที่ 7 Kampot-Srihanoukville                  ระยะทาง 98.8 กิโลเมตร
วันที่ 8 Srihanoukville - Koh Rong             ข้ามเรือ
วันที่ 9 เกาะรง-สีหนุวิล-เกาะกงชายแดนกัมพูชา ระยะทาง 130 กิโลเมตร (เหมารถตู้)
         เกาะกง-กรุงเทพ                              ระยะทาง 500 กิโลเมตร (เหมารถตู้)

ปั่นเฮือกสุดท้ายสู่สีหนุวิลล์..คำเตือน: รีวิวยาวแต่มันส์ นานาจักรยาน

สีหนุวิลล์ เป็นหลักกิโลที่เป็นเป้าใหญ่ของเรา ภาษาต่างประเทศคือ  “Milestone”  ที่เราใฝ่ฝันเพื่อทริปปั่นทริปนี้โดยเฉพาะ

จ้างรถไปมั้ย..จะได้ถึงไวๆ” จำไม่ได้ว่าประโยคนี้ออกมาจากใคร  

“ถ้าขึ้นรถแล้วจะมาปั่นทำ....รัยอ่า”         เราขาปั่นมือใหม่ถอดด้ามปี๊ดขึ้น 555

“ยังไงนี่ก็จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้ปั่น   ทิ้งทวนให้เต็มที่กันเถอะ”

เพราะระยะทางปั่นวันนี้จะเป็นวันที่ยาวที่สุดในทริปคือเกือบ 100 กิโล (ขาดไป 1.2 กิโล)
เมื่อคืนแม้ว่าจะกินกันอิ่มแปร้ กินแบบกินแล้วกินอีก จากพิซซ่า ไปเค้กและไอศครีม (โชคดีที่ร้านส้มตำเก็บร้านไปก่อน..ไม่งั้นโดน) แต่เราก็ยังมีสติที่นัดกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าล้อหมุน..ฉะนั้นคุณต้องลงมาก่อนครึ่งชั่วโมงนะเพื่อเตรียมโหลดข้าวของอุปกรณ์และเช็ครถ  ทั้งๆที่เราอยากอยู่ต่ออีก 1-2 วัน เพราะกัมโพทมีเสน่ห์เหลือเกิน...มีแหล่งธรรมชาติอีกหลายที่ในกัมโพทที่รอให้เราไปพบเจอ..

เช้ามืดวันนั้นเลยเหมือนต้องจากลาแฟนที่เพิ่งตกหลุมรักกัน..

เช้าปั่นลา Kam Pot


หลังจากก๋วยเตี๋ยวกัมโพท และกาแฟ เบเกอรี่กัมโพท ที่ทำให้หัวใจหนุ่มซ้งฝากไว้ที่สาวกัมโพท (555 ถ้าแฟนซ้งอ่านต้องขออำภัย ...) กว่าจะได้เคลื่อนตัวก็เจ็ดโมงเช้า เป็นการเริ่มต้นการปั่นของวันแบบมีพลังกายพลังใจสูงสุดเพราะเป็นวันสุดท้ายในการอยู่บนอานสองล้อของทริปนี้


พงศ์หน้าร้านกาแฟและเบอรี่ที่หัวมุมถนน


ปั่นข้ามสะพานเหล็กออกจาก Kam Pot

วิวของทั้งสองข้างเป็นสีเขียวของทุ่งนาเพราะเป็นหน้าฝน สลับกับการเปียกฝนหลบฝน..เราจะพยายามปั่นให้ได้ครั้งละ 10 กิโลแล้วพักหนึ่งครั้งตามร้านน้ำอ้อย  ร้านข้าว...บางครั้งพักเพื่อหลบฝน


เส้นทางปั่นสู่สีหนุวิวล์



ร้านน้ำอ้อยที่อาศัยเพิ่มพลังเป็นระยะ

“พี่ๆ น้องคนนี้เป็นพระเอกได้เลย...หล่อมากกก” เจนนี่ (โด่ง) พูดกับพวกเราเป็นภาษาไทยตอนหลบฝนที่ร้านค้าเพิงหมาแหงน เรามองน้องเค้าพร้อมๆกัน
คนกัมพูชาจะออกผิวเข้ม ขนตางอน หน้าคม..ทำให้เจนนี่ลืมหมวกจักรยานไว้ที่ร้านให้น้องรูปหล่อเอามาส่งให้...แผนเจนนี่ค่ะ

มีร้านนึงที่เราพักกินน้ำมะพร้าว แต่ขอบอกว่าน้ำมะพร้าวกัมพูชาสู้ไทยไม่ได้ค่ะ ของไทยหวานและหอมมากกว่า  เจอเพื่อนชาวกัมพูชาที่พูดไทยกับเราได้อีกแล้ว  เพราะเคยมาทำงานในไทย เค้าก็จะพยายามมาถาม คุย และสื่อสารเป็นภาษาไทย


“Connect to People, Connect the World”

การได้เดินทางมาอยู่ในบ้านเค้า ทำให้เราเหมือนเป็นแขก และพบว่าเค้าเป็นเจ้าบ้านที่น่ารัก   เป็นความรู้สึกต่างออกไปจากตอนที่เราเป็นเจ้าบ้าน ที่เราคิดกับเค้าเป็นผู้มาทำงานแบบแลกแรงงาน...
นี่คือหนึ่งความคิดที่เปลี่ยนไป...ตั้งแต่เริ่มเดินทางไปพม่าครั้งแรกคนเดียว หรือ ไปจีน อินเดีย   เมื่อได้รับมิตรภาพและน้ำใจของคนท้องถิ่นเอง..ความห่างหรือระยะทางมันแคบลง...ใจเราเปิดกว้างขึ้น..แต่ใกล้กันขึ้น

พอกลับมาเราเที่ยวเล่าหรือบอกให้เพื่อนๆ ที่ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ว่า เรารักพม่า..น้อยคนที่จะอิน จะเข้าใจเหมือนที่เราได้พบและรู้สึก  
ถึงมาเข้าใจว่าความคิดบางอย่างก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จากแค่การบอกเล่า... คือได้แต่ “รับทราบ” สุดท้ายต้องประสบการณ์ที่เจอด้วยตัวเองค่ะ
การเปิดใจ รับรู้ ความแตกต่าง ทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น   ปัญหาระดับประเทศ เชื้อชาติที่เกิดขึ้นอยู่เพราะเรายังปิดกั้นแยก “คือฉันคือเธอ”  “คือพวกฉันคือพวกเธอ”

ปล่อยให้คนมีอำนาจบางกลุ่มที่จ้องหาผลประโยชน์จากความแตกแยก  จากการขัดแย้งเป็นช่องทางให้คนรังเกียจกัน สร้างเรื่องราว ให้ตกเป็นเครื่องมือของพวกหาอำนาจ...

...เครียดไปป่าวคะป้า..  แต่จริงนะคะ...


การเดินทางคือการพบเจอ

ในเมื่อชีวิตเราหนึ่งชั่วชีวิตเหมือนหนึ่งการเดินทาง  เราขึ้นรถคันนึงที่ประกอบไปด้วยคนขับ ผู้โดยสารที่เป็นเพื่อนร่วมเส้นทางที่เราต้องพบเจอและไปในเส้นทางเดียวกันหากรถเสียเราต้องช่วยกันเข็นบ้างซ่อมบ้าง  บางครั้งพอถึงทางแยก เราอยากเปลี่ยนเส้นทาง เราต้องตัดสินใจลงรถ ลาจากเพื่อนที่โดยสารมาด้วยกัน มาขึ้นรถคันใหม่ที่ต้องเจอเพื่อนใหม่ไปเส้นทางใหม่ที่ให้ความหวัง สุดท้ายรถคันนั้นอาจไปถึงจุดหมายหรืออาจจะพบจุดจบก่อน..

เวลาในชีวิตส่วนมาก..เราจึงใช้ไปในระหว่างทางมากกว่าจุดหมาย เราต้องสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทาง  ความสุขจึงหาใช่ที่เป้าหมาย  ที่อาจแทนด้วยความมั่งคั่ง ตัวเลขบัญชีหลายหลัก หรือ...จุดสูงสุดของยอดเขา แต่เวลาที่เราใช้ที่เติมเต็มจิตใจที่แห้งแล้งให้ชุ่มชื่น....คงเป็นความหมายของแต่ละคนที่อาจแทนด้วยครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่กับคนที่เพิ่งรู้จัก..

หรือการเสียสละสิ่งเล็กน้อยที่จะทำให้สังคมส่วนใหญ่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆได้บ้าง  คือดีเยี่ยมค่ะ... และบางครั้งสังคมก็ต้องการการเสียสละการรวมพลังสีขาวจากมดเล็กๆ มาคัดคานอำนาจใหญ่ๆที่จ้องทำลายเพื่อผลประโยชน์

...เพ้อรัยเนี่ย.....555 ตรงป่าว เขียนเอง งงเอง...


เส้นทางวันนี้ถึงแม้เหนื่อย แต่พวกเราก็มีกำลังใจปั่นกันถึงที่สุด แม้ว่าบางทีเราก็เขวกันว่าจะแบ่งหยุดที่ 30 กิโลดีมั้ยแต่พบว่ามันน้อยเกินไปที่จะปั่นแค่นั้น..
“กำลังใจ” และ “ความมุ่งมั่น” คือคีย์เวิร์ดในการปฏิบัติภารกิจใดภารกิจหนึ่งให้ลุล่วง...ทั้งการปั่นท่ามกลางแดด กลางฝน ท่ามกลางรถใหญ่ หรือ ภารกิจการนั่งเขียนรีวิว..ที่คิดหลายครั้งว่า..เขียนไปก็ไม่ได้ตังค์จะเขียนทำไม..ทำงานดีกว่ามั้ยชีวิตยังต้องกินต้องใช้.. (555)  แต่ก็เหอะ..เขียนแค่นี้ถ้าทำให้อดตายเธอก็เก่งมาก..



สภาพถนนสู่สีหนุวิลล์เป็นถนนลาดยาง

วันนี้เราปั่นแบบทดสอบการใช้ความเร็ว พงศ์กับซ้งจะสลับกันปิดท้าย  ส่วนเรากับปองจะสลับกันปั่นขี้นหน้าบ้างเพราะเป็นรถเล็กสุด พอเจอเจนนี่มาจ่อก้น

“พี่แหม่ม..เร็วอีก”   เจ้ก็ต้องสับขาโดยไวเพราะอีเจ้าล้อ 26 มาไล่ล้อ 20 (เป็นทอมต้องอดทน..เจนนี่บอก... เถียงค่ะเถียงหญิงพันเปอร์เซนต์ค่ะ ไม่ใช่ทอมแก่ 555)

แต่จัดพีคสุดมันอยู่ตรงหกโมงเย็นขึ้นไป เพราะเส้นทางเริ่มเป็นที่ลาดชัน ...จำไว้นะคะนักปั่น ลาดชันเลยค่ะ ยิ่งตัวสีหนุวิลล์ในตัวเมือง ชันโฮกๆ..
บางช่วงเจนนี่ (รวมทั้งป้า) ถึงต้องกับลงจูงหลาย ช่วง..ปล่อยให้ 2 หนุ่มบ้าพลังปั่นล่วงหน้าไปก่อน


เส้นทางไปสีหนุวิลล์จะขนานไปกับชายฝั่งทะเล จะพบเรือหาปลาหมู่บ้านประมงทั่วไประหว่างทาง


แวะกินข้าวเย็นที่ตลาดนัดระหว่างทาง..อาหารส่วนมากเป็นเนื้อวัว


ชายทะเลสวยที่สุดของเวียดนาม

สุดท้ายเรามาเข้าตัวสีหนุวิลล์ ด้วยการเจอ Amazon ในปั๊ม ปตท. ที่เราจะฉลองกาแฟไทยที่กัมพูชา แต่ปรากฎว่า ..ร้านปิด..เพราะเป็นเวลาทุ่มกว่าๆ
ในที่สุดเราก็มาถึงจังหวัดสีหนุวิลล์ หรือ จังหวัดพระสีหนุ ตอนเกือบสองทุ่มเป็นระยะทาง 98.8 กิโลเมตร
เราหาโรงแรมก่อนเป็นอันดับแรก  ที่นี่เราได้นอนที่ไฮโซที่สุดต้องแต่นอนมาคือที่ Holiday Nataya คืนละ 45 USD เป็นคืนแรกที่ได้สระผมโดยมีไดร์เป่าผมให้แห้งและได้ซักผ้าเต็มสตรีมก่อนกลับ..

และเล้วก็ต้องมาโหวต “เสียงส่วนน้อย-เสียงส่วนมาก” อีกครั้งว่าครั้งนี้ใน 5 เสียงจะเอาเสียงส่วนน้อยหรือเสียงส่วนมาก เพราะฝนตกทั้งวันเราเลยไม่แน่ใจว่าจะข้ามไปเกาะรง เกาะที่สวยที่สุดของกัมพูชาดีมั้ย หรือนอนที่นี่อีกคืน แต่สุดท้ายคือไม่ว่าสภาพอากาศเป็นยังไงโอกาสที่จะได้มาคงมีไม่บ่อย เราควรไปดูให้รู้ดีกว่า

เราเลยได้ซื้อตั๋วเพื่อข้ามไปเกาะรงในราคา คนละ 4 USD แต่ก่อนนั้นเราก็ไปหารถเพื่อกลับไปชายแดนไทยที่เกาะกง – ตราด
สีหนุวิลล์ เป็นจังหวัด ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกัมพูชา ติดต่อกับอ่าวไทย เมืองเอกของจังหวัดเรียกว่า สีหนุวิลล์ เป็นเมืองท่าเรือน้ำลึก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศ
มีชายหาดทั้งหมด 5 แห่ง ว่ากันว่าที่สวยที่สุด คือ หาดสุขา และ หาดโอจือเตียล (Occheuteal) เมืองสีหนุวิลล์ ติดอันดับ 8 ในการจัดอันดับ 10 สุดยอดหาดในเอเชีย โดยหนังสือพิมพ์ Sunday Herald Sun ของ ประเทศออสเตรเลีย
หาข้อมูลได้จาก https://th.wikipedia.org/wiki/สีหนุวิลล์
ชื่อสินค้า:   ปั่นจักรยานข้ามประเทศ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่