สวัสดีค่ะ Cat ขออนุญาตรีวิว 4 แบรนด์ผลิตภัณฑ์ เพื่อขอบคุณที่ส่งมาให้ใช้นะคะ เนื่องจาก Cat ไปเล่นเกมส์ในเฟซบุ๊กแล้วได้มา (จริงๆ ได้มานานแล้ว ยังไม่เคยเปิดใช้เลย จัดห้องแล้วมาเจอคลีนซิ่งกองรวมๆ กัน ก็เลยต้องจัดหน่อยค่ะ) ปกติแล้วชอบเล่นเกมส์ Like & Share ชิงของรางวัลตามเพจบ้าง พวกรางวัลใหญ่ๆ ไม่เคยได้กับเขา ส่วนใหญ่จะได้เป็นสินค้ามาทดลองใช้ค่ะ
มีช่วงหนึ่งบ้าเห่อคลีนซิ่งมาก ตัวแรกที่ได้ทดลองใช้เป็นของ The FaceShop ช่วงที่จัดโปรได้ฟรีจากการเอา Voucher ไปแลกมา จำไม่ได้ว่าราคาเต็มเท่าไหร่
The Faceshop Rice Water Bright
เนื้อ : เป็นเนื้อครีมค่ะ
วิธีใช้ : BA แนะนำว่าให้บีบครีมลงในสำลี และโปะไว้บริเวณที่ต้องการเช็ดเครื่องสำอางค์ เช่น รอบดวงตา อาจจะต้องทำซ้ำ 2 – 3 รอบ เพื่อความสะอาด และส่วนบริเวณอื่นบนใบหน้าก็เช็ดปกติค่ะ เนื้อเป็นครีมกลิ่นหอมของข้าวตามชื่อรุ่นเลยค่ะ
ความสะอาด : ต้องเช็ดซ้ำ 2 รอบขึ้นไปถึงจะเกลี้ยงค่ะ
ความประทับใจ : มีกลิ่นหอมของข้าว เหมือนชาเขียวกลิ่นข้าวมอลต์ ฝาปั๊มกดง่ายค่ะ วางไว้ในห้องน้ำสะดวกมาก
ราคา : ราคาเต็มน่าจะ 400 กว่าบาทค่ะ
ตัวที่ 2 เป็นเนื้อครีมนม ได้มาจากการเล่นเกมกับนิตยสารเลมอเนดค่ะ (ตอนนี้นิตยสารนี้ไม่มีแล้ว)
MYLA Cleansing Milk Lotion
เนื้อ : เป็นเนื้อครีม กลิ่นนมค่ะ
วิธีใช้ : ใช้เหมือน The Faceshop ค่ะ คือใช้สำลีเช็ดออกก็ได้ หรือจะพอกไว้เบาๆ โดยไม่ใช้สำลีแล้วลูบๆ เบาๆ วนๆ แล้วค่อยล้างออก ตัวนี้ต้องล้างออกด้วยน้ำเปล่าค่ะ แล้วจะรู้สึกเกลี้ยง
ความสะอาด : 1-2 รอบก็เกลี้ยงแล้วค่ะ ต้องล้างออกด้วยน้ำเปล่าเพื่อขจัดเนื้อครีมไม่ให้ตกค้างบนใบหน้า
ความประทับใจ : เนื้อลื่นดีค่ะ พอล้างน้ำเปล่าอีกรอบแล้วรู้สึกเกลี้ยงมาก และฝาปั๊มกดง่าย
ราคา : 550 บาท
ตัวที่ 3 เป็นน้ำค่ะ ได้มาจากการเล่นเกมบนเฟซบุ๊ก นานๆ จะจัดที
AYA Cleansing Water
เนื้อ : เป็นน้ำค่ะ
วิธีใช้ : ใช้สำลีเช็ดออกหรือใช้เทลงบนฝ่ามือแล้วนวดหน้า ตามด้วยล้างออกด้วยน้ำเปล่าค่ะ พวกรองพื้นกับแป้งจะหลุดออกมา
ความสะอาด : ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้สำลีหรือใช้เทบนฝ่ามือค่ะ ถ้าใช้สำลี เช็ด 1 – 2 รอบก็เกลี้ยง แต่ถ้าเทบนฝ่ามือจะต้องล้างออกด้วยน้ำเปล่าหลังลูบบนใบหน้า หน้าจะไม่ตึงค่ะ
ความประทับใจ : ชอบกลิ่นค่ะ ดมๆ แล้วมันสดชื่นมาก เขาว่าเป็นกลิ่นสกัดจากกุหลาบ คือมันหอมแบบละมุนๆ แล้วก็เนื้อใสเวลาเห็นพวกรองพื้นหลุดออกมาแล้วสะใจดีค่ะ
ราคา : 550 บาท
ตัวที่สุดท้ายที่ขอนำมาเปรียบเทียบเป็นน้ำมันมะพร้าวค่ะ ซื้อมา 1 แถม 1 ปกติจะใช้น้ำมันมะพร้าวทำความสะอาดทุกอย่างบนผิวเพราะไม่ทิ้งสารตกค้าง และเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ด้วย (เอามาหมักผมก็ได้)
น้ำมันมะพร้าว
เนื้อ : เป็นน้ำมันค่ะ
วิธีใช้ : ต้องเช็ดด้วยสำลีอย่างเดียวค่ะ และอย่าเผลอใส่เยอะ คือให้พอดีๆ และโปะไว้ก่อนแล้วค่อยเช็ดออก อย่าลืมล้างออกด้วยค่ะ
ความสะอาด : แน่นอนว่าสะอาดหมดจด แต่ว่ามันเหนียวมากเมื่อน้ำมาเช็ดหน้า ต้องล้างน้ำสบู่ซ้ำอีกรอบจึงทำให้หน้าแห้ง แต่สำหรับคนที่ชอบความชุ่มชื่นก็ล้างน้ำเปล่าพอค่ะ
ความประทับใจ : ชอบตรงที่เก็บความชุ่มชื่นไว้ได้ดี (แต่บางคนอาจจะรู้สึกเหนียวหน้าได้) มันสารพัดประโยชน์และราคาถูกค่ะ
ราคา : 130 บาท (1 แถม 1)
หลังจากได้ลองใช้คลีนซิ่งหลายๆ ตัวแล้วรู้สึกว่าชอบแบบเหลวๆ มากกว่าค่ะ เพราะขี้เกียจใช้สำลี (คือแอบเปลือง) และมันจะเป็นขุยๆ ติดตามผิวเราด้วย ที่สำคัญคือเรื่องกลิ่นค่ะ ถ้ามีกลิ่นที่ดมแล้วดูเคมี๊เคมี หรือเป็นแอลกอฮอล์มากเกินไปจะไม่ค่อยกล้าใช้เลย เมื่อก่อนเคยซื้อโทนเนอร์มาลองใช้พักนึงแล้วรู้สึกว่าหน้าตึงเกินไป ผิวเสียมาก เข้าหน้าหนาวแล้วหรือห้องแอร์หน้าแห้งจนเจ็บหน้า
รีวิวแรกนี้สำหรับคนชอบของถูก ของฟรี และของแถม หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ^^
Cat ค่ะ ><
[SR] [[Review]] Cleansing Remover ได้ฟรีมาจากเล่มเกมและโปรโมชั่น
มีช่วงหนึ่งบ้าเห่อคลีนซิ่งมาก ตัวแรกที่ได้ทดลองใช้เป็นของ The FaceShop ช่วงที่จัดโปรได้ฟรีจากการเอา Voucher ไปแลกมา จำไม่ได้ว่าราคาเต็มเท่าไหร่
เนื้อ : เป็นเนื้อครีมค่ะ
วิธีใช้ : BA แนะนำว่าให้บีบครีมลงในสำลี และโปะไว้บริเวณที่ต้องการเช็ดเครื่องสำอางค์ เช่น รอบดวงตา อาจจะต้องทำซ้ำ 2 – 3 รอบ เพื่อความสะอาด และส่วนบริเวณอื่นบนใบหน้าก็เช็ดปกติค่ะ เนื้อเป็นครีมกลิ่นหอมของข้าวตามชื่อรุ่นเลยค่ะ
ความสะอาด : ต้องเช็ดซ้ำ 2 รอบขึ้นไปถึงจะเกลี้ยงค่ะ
ความประทับใจ : มีกลิ่นหอมของข้าว เหมือนชาเขียวกลิ่นข้าวมอลต์ ฝาปั๊มกดง่ายค่ะ วางไว้ในห้องน้ำสะดวกมาก
ราคา : ราคาเต็มน่าจะ 400 กว่าบาทค่ะ
ตัวที่ 2 เป็นเนื้อครีมนม ได้มาจากการเล่นเกมกับนิตยสารเลมอเนดค่ะ (ตอนนี้นิตยสารนี้ไม่มีแล้ว)
เนื้อ : เป็นเนื้อครีม กลิ่นนมค่ะ
วิธีใช้ : ใช้เหมือน The Faceshop ค่ะ คือใช้สำลีเช็ดออกก็ได้ หรือจะพอกไว้เบาๆ โดยไม่ใช้สำลีแล้วลูบๆ เบาๆ วนๆ แล้วค่อยล้างออก ตัวนี้ต้องล้างออกด้วยน้ำเปล่าค่ะ แล้วจะรู้สึกเกลี้ยง
ความสะอาด : 1-2 รอบก็เกลี้ยงแล้วค่ะ ต้องล้างออกด้วยน้ำเปล่าเพื่อขจัดเนื้อครีมไม่ให้ตกค้างบนใบหน้า
ความประทับใจ : เนื้อลื่นดีค่ะ พอล้างน้ำเปล่าอีกรอบแล้วรู้สึกเกลี้ยงมาก และฝาปั๊มกดง่าย
ราคา : 550 บาท
ตัวที่ 3 เป็นน้ำค่ะ ได้มาจากการเล่นเกมบนเฟซบุ๊ก นานๆ จะจัดที
เนื้อ : เป็นน้ำค่ะ
วิธีใช้ : ใช้สำลีเช็ดออกหรือใช้เทลงบนฝ่ามือแล้วนวดหน้า ตามด้วยล้างออกด้วยน้ำเปล่าค่ะ พวกรองพื้นกับแป้งจะหลุดออกมา
ความสะอาด : ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้สำลีหรือใช้เทบนฝ่ามือค่ะ ถ้าใช้สำลี เช็ด 1 – 2 รอบก็เกลี้ยง แต่ถ้าเทบนฝ่ามือจะต้องล้างออกด้วยน้ำเปล่าหลังลูบบนใบหน้า หน้าจะไม่ตึงค่ะ
ความประทับใจ : ชอบกลิ่นค่ะ ดมๆ แล้วมันสดชื่นมาก เขาว่าเป็นกลิ่นสกัดจากกุหลาบ คือมันหอมแบบละมุนๆ แล้วก็เนื้อใสเวลาเห็นพวกรองพื้นหลุดออกมาแล้วสะใจดีค่ะ
ราคา : 550 บาท
ตัวที่สุดท้ายที่ขอนำมาเปรียบเทียบเป็นน้ำมันมะพร้าวค่ะ ซื้อมา 1 แถม 1 ปกติจะใช้น้ำมันมะพร้าวทำความสะอาดทุกอย่างบนผิวเพราะไม่ทิ้งสารตกค้าง และเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ด้วย (เอามาหมักผมก็ได้)
เนื้อ : เป็นน้ำมันค่ะ
วิธีใช้ : ต้องเช็ดด้วยสำลีอย่างเดียวค่ะ และอย่าเผลอใส่เยอะ คือให้พอดีๆ และโปะไว้ก่อนแล้วค่อยเช็ดออก อย่าลืมล้างออกด้วยค่ะ
ความสะอาด : แน่นอนว่าสะอาดหมดจด แต่ว่ามันเหนียวมากเมื่อน้ำมาเช็ดหน้า ต้องล้างน้ำสบู่ซ้ำอีกรอบจึงทำให้หน้าแห้ง แต่สำหรับคนที่ชอบความชุ่มชื่นก็ล้างน้ำเปล่าพอค่ะ
ความประทับใจ : ชอบตรงที่เก็บความชุ่มชื่นไว้ได้ดี (แต่บางคนอาจจะรู้สึกเหนียวหน้าได้) มันสารพัดประโยชน์และราคาถูกค่ะ
ราคา : 130 บาท (1 แถม 1)
หลังจากได้ลองใช้คลีนซิ่งหลายๆ ตัวแล้วรู้สึกว่าชอบแบบเหลวๆ มากกว่าค่ะ เพราะขี้เกียจใช้สำลี (คือแอบเปลือง) และมันจะเป็นขุยๆ ติดตามผิวเราด้วย ที่สำคัญคือเรื่องกลิ่นค่ะ ถ้ามีกลิ่นที่ดมแล้วดูเคมี๊เคมี หรือเป็นแอลกอฮอล์มากเกินไปจะไม่ค่อยกล้าใช้เลย เมื่อก่อนเคยซื้อโทนเนอร์มาลองใช้พักนึงแล้วรู้สึกว่าหน้าตึงเกินไป ผิวเสียมาก เข้าหน้าหนาวแล้วหรือห้องแอร์หน้าแห้งจนเจ็บหน้า
รีวิวแรกนี้สำหรับคนชอบของถูก ของฟรี และของแถม หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ^^
Cat ค่ะ ><