ครั้งนี้อยากถ่ายทอดประสบการณ์การใช้บัตรเครดิต ที่ขาดวินัยทางการเงิน จนชีวิตเกือบพังเพราะหนี้สิน
แม้จำนวนหนี้บัตรเคตดิตจะไม่สูงมากเหมือนหลายๆท่าน แต่กว่าจะปลดหนี้ลงได้ ก็ใช้เวลานานเป็นปี
สวัสดีทุกท่านครับ ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง ที่อยากได้อยากมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนคนอื่นๆทั่วๆไป
เมื่อสองปีที่แล้ว ด้วยความที่เงินเดือนตัวเองถึงเกณฑ์ทำบัตรเครดิตได้ บวกทั้งการอนุมัติบัตรที่ค่อนข้างรวดเร็ว
เนื่องจากอาชีพหน้าที่การงานของผมที่มั่นคง (รับราชการ ทำงานมาได้สามปีกว่าแล้ว) มีหลักแหล่งและเชื่อถือได้
ไม่นานนักบัตรเครดิตก็อยู่ในมือผม พร้อมกับวงเงินในบัตร 40,000 บาท
ช่วงแรกที่ผมใช้ ก็ใช้จ่ายบัตรเครดิตสำหรับเติมน้ำมัน ซื้อของในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ทานอาหารร้านอาหาร
ซึ่งยอดใช้จ่ายไม่สูงมากนัก สามารถชำระเงินได้ครบกำหนดตามเวลา
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมเป็นหนี้บัตรเครดิตสะสมพอกพูนจนกระทั่งเต็มวงเงิน
เพราะช่วงเวลาดังกล่าว ช็อตเงิน เงินเดือนไม่พอใช้ เพราะภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ
ทำให้บ่อยครั้งจะกดเงินสดจากบัตรบ่อยครั้ง บวกกับช่วงเวลานั้นจีบสาวคนนึงอยู่
แล้วต้องเดินทางไปหาเค้าที่ กทม.เป็นประจำ แน่นอนล่ะครับเดินทางที
ก็ต้องจ่ายค่าอาหาร ค่าที่พักค้าใกล้ๆคอนโดเค้า ค่าน้ำมันไป-กลับ
เมื่อใช้จ่ายยอดมากขึ้น ก็ไม่สามารถชำระได้เต็มจำนวน บางเดือนชำระขั้นต่ำแค่ 10%
แต่ยอดก็ไม่ลดลงไปมากนัก เนื่องจากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆของบัตรเครดิตสูงขึ้น
จนกระทั่งในที่สุด ยอดค้างชำระบัตรเครดิตสูงถึงเกือบห้าหมื่นบาท โดยต้องจ่ายขั้นต่ำสูงถึงเกือบหมื่นบาท
ซึ่งผมไม่มีเงินจ่ายมากขนาดนั้นแล้ว ซึ่งผมค้างจ่ายไปห้าเดือน จนกระทั่งบัตรถูกปิด
และบริษัทบัตรเตรียมส่งเรื่องฟ้องศาลแล้ว
โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากแฟนเก่า ที่ยินดีให้ผมยืมเงินก้อนประมาณหมื่นห้าพันบาท ให้ผมไปชำระหนี้บางส่วน
บวกกับเงินรายได้พิเศษที่ผมได้รับเกือบห้าพันบาท ไปชำระหนี้บัตรบางส่วนก่อน
พร้อมทั้งผมก็ได้กู้เงินฉุกเฉินสหกรณ์ออมทรัพย์กรมฯ เพื่อใช้หนี้ให้แฟน และใช้หนี้บัตรยอดที่เหลือให้ครบ
โดยผ่อนชำระหนี้ผ่านการหักเงินเดือน ประมาณหนึ่งปี และใช้จ่ายประหยัด พร้อมทั้งส่งเงินชำระหนี้เพิ่มเติม
กับสหกรณ์ฯ บวกกับน้องสนิทกับพลพรรคนำเงินที่เคยยืมผมไปมาใช้คืนให้ ก็เลยส่งหนี้ได้เร็วกว่ากำหนด จนกระทั่งเดือนนี้หนี้หมดลงแล้วครับ
อยากบอกว่าการเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดผลดีในชีวิต แต่เมื่อเกิดหนี้แล้วก็ต้องจ่ายชำระไป เพราะเป็นความรับผิดชอบของตัวเราเอง
ยอมรับว่าช่วงที่มีหนี้นอนไม่หลับ ไม่มีความสุขในชีวิตเลย เพราะใช้บัตรเครดิตเพราะอำนวยความสะดวกแต่ขาดวินัยในการใช้จ่ายแท้ๆ
ทำเอาทุกข์ไปนานกว่าจะชำระหนี้หมด อย่างไรเป็นกำลังใจให้ผู้มีหนี้บัตรเครดิตทุกคนนะครับ
ประสบการณ์สอนใจจากหนี้บัตรเครดิต : ผ่านพ้นวิกฤตการเงิน ด้วยวินัยทางการเงิน
แม้จำนวนหนี้บัตรเคตดิตจะไม่สูงมากเหมือนหลายๆท่าน แต่กว่าจะปลดหนี้ลงได้ ก็ใช้เวลานานเป็นปี
สวัสดีทุกท่านครับ ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่ง ที่อยากได้อยากมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนคนอื่นๆทั่วๆไป
เมื่อสองปีที่แล้ว ด้วยความที่เงินเดือนตัวเองถึงเกณฑ์ทำบัตรเครดิตได้ บวกทั้งการอนุมัติบัตรที่ค่อนข้างรวดเร็ว
เนื่องจากอาชีพหน้าที่การงานของผมที่มั่นคง (รับราชการ ทำงานมาได้สามปีกว่าแล้ว) มีหลักแหล่งและเชื่อถือได้
ไม่นานนักบัตรเครดิตก็อยู่ในมือผม พร้อมกับวงเงินในบัตร 40,000 บาท
ช่วงแรกที่ผมใช้ ก็ใช้จ่ายบัตรเครดิตสำหรับเติมน้ำมัน ซื้อของในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ทานอาหารร้านอาหาร
ซึ่งยอดใช้จ่ายไม่สูงมากนัก สามารถชำระเงินได้ครบกำหนดตามเวลา
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ผมเป็นหนี้บัตรเครดิตสะสมพอกพูนจนกระทั่งเต็มวงเงิน
เพราะช่วงเวลาดังกล่าว ช็อตเงิน เงินเดือนไม่พอใช้ เพราะภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ
ทำให้บ่อยครั้งจะกดเงินสดจากบัตรบ่อยครั้ง บวกกับช่วงเวลานั้นจีบสาวคนนึงอยู่
แล้วต้องเดินทางไปหาเค้าที่ กทม.เป็นประจำ แน่นอนล่ะครับเดินทางที
ก็ต้องจ่ายค่าอาหาร ค่าที่พักค้าใกล้ๆคอนโดเค้า ค่าน้ำมันไป-กลับ
เมื่อใช้จ่ายยอดมากขึ้น ก็ไม่สามารถชำระได้เต็มจำนวน บางเดือนชำระขั้นต่ำแค่ 10%
แต่ยอดก็ไม่ลดลงไปมากนัก เนื่องจากดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆของบัตรเครดิตสูงขึ้น
จนกระทั่งในที่สุด ยอดค้างชำระบัตรเครดิตสูงถึงเกือบห้าหมื่นบาท โดยต้องจ่ายขั้นต่ำสูงถึงเกือบหมื่นบาท
ซึ่งผมไม่มีเงินจ่ายมากขนาดนั้นแล้ว ซึ่งผมค้างจ่ายไปห้าเดือน จนกระทั่งบัตรถูกปิด
และบริษัทบัตรเตรียมส่งเรื่องฟ้องศาลแล้ว
โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากแฟนเก่า ที่ยินดีให้ผมยืมเงินก้อนประมาณหมื่นห้าพันบาท ให้ผมไปชำระหนี้บางส่วน
บวกกับเงินรายได้พิเศษที่ผมได้รับเกือบห้าพันบาท ไปชำระหนี้บัตรบางส่วนก่อน
พร้อมทั้งผมก็ได้กู้เงินฉุกเฉินสหกรณ์ออมทรัพย์กรมฯ เพื่อใช้หนี้ให้แฟน และใช้หนี้บัตรยอดที่เหลือให้ครบ
โดยผ่อนชำระหนี้ผ่านการหักเงินเดือน ประมาณหนึ่งปี และใช้จ่ายประหยัด พร้อมทั้งส่งเงินชำระหนี้เพิ่มเติม
กับสหกรณ์ฯ บวกกับน้องสนิทกับพลพรรคนำเงินที่เคยยืมผมไปมาใช้คืนให้ ก็เลยส่งหนี้ได้เร็วกว่ากำหนด จนกระทั่งเดือนนี้หนี้หมดลงแล้วครับ
อยากบอกว่าการเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดผลดีในชีวิต แต่เมื่อเกิดหนี้แล้วก็ต้องจ่ายชำระไป เพราะเป็นความรับผิดชอบของตัวเราเอง
ยอมรับว่าช่วงที่มีหนี้นอนไม่หลับ ไม่มีความสุขในชีวิตเลย เพราะใช้บัตรเครดิตเพราะอำนวยความสะดวกแต่ขาดวินัยในการใช้จ่ายแท้ๆ
ทำเอาทุกข์ไปนานกว่าจะชำระหนี้หมด อย่างไรเป็นกำลังใจให้ผู้มีหนี้บัตรเครดิตทุกคนนะครับ