สวัสดีครับทุกๆท่าน ผมขอเอ่ยถึงความเป็นมาของทริปนี้ก่อนเลย
คือว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ผมอยากไปนานมากแล้วครับแต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักที
และแล้ววันนั้นก็มาถึงเพื่อนผมมัน Line มาบอกว่าแฟนมันจะกลับมาจากเมืองนอกเราไปเที่ยวไหนกันดี
ไอ้ตัวผมก็บอกแบบไม่คิดเลย “เชียงใหม่” ไงเพื่อน หลังจากนั้นมันก็ไปคุยกับแฟนมันตกลงว่าไป
เอ้าเชียงใหม่ก็เชียงใหม่ (รู้สึกดีใจเบาๆ) แต่...เพื่อนไปกับแฟน แล้วเราล่ะ???
เลยลองชวนคนนั้น คนนี้ดูว่าใครจะไปบ้าง แต่ก็นั่นละครับ
วันที่ผมไปมันดันเป็นวันทำงานของใครหลายๆคน ซึ่งผมได้ทำการลาพักร้อนไว้เรียบร้อยแล้ว
ระยะเวลาการเดินทางครั้งนี้คือวันที่ 14 – 18 กันยายน 2559 ครับ เวลาก็ประมาน 5 วัน 4 คืน
หลังจากไม่มีใครว่าง เอาละยังไงทริปเราต้องเดินหน้าต่อไป ผมเป็นคนจัดการทุกอย่าง
ไม่ว่าจะจองตั๋ว จัดตารางทริป เช่ารถ หาที่พัก แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยหรอกครับ เพราะเราชอบทำอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
พอได้วันที่จะเดินทาง จำนวนคน เอาล่ะรออะไรจองตั๋วเครื่องบินสิครับ รอบบนี้พยายามหาตั๋วที่ถูกที่สุด
ตอนไปเผมได้ของ Airasia ในราคา 540 บาท ส่วนตอนกลับผมเดินทางด้วย Thai Lion air ในราคา 1020 บาท
ราคาถือว่ารับได้ครับ เพื่อแลกกับระยะเวลาในการเดินทาง
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว งานต่อมาคือการหาที่พัก,ตารางทริปต่างๆและเช่ารถยนต์ครับ
รถยนต์ผมใช้บริการของ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้“กิน เที่ยว รถเช่าเชียงใหม่”
อันนี้ต้องขอบคุณหลายๆท่านใน Pantip เลยครับ ผมจองรถยนต์ เครื่อง 1500 CC ในราคา 800 บาท/วัน
มัดจำ 3000 บาทครับ หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็เหลือแค่แพคกระเป๋าแล้วเดินทางไปเที่ยวกัน
วันที่ 14 กันยายน 2559
และแล้ววันเดินทางก็มาถึง เราสามคนเจอกันที่สนามบินดอนเมือง 8 โมงนิดๆ
แบบไม่มีใครต้องรอใครเลย เครื่องเราออก 10 โมงเช้า ไปถึงก็ 11 โมงนิดๆ
พอลงเครื่องก็มารอรับรถครับทางร้านน่ารักมากส่งรถได้ตรงเวลาดีครับผม
เราได้เป็นรถ Mazda 2 เครื่อง 1500 CC รับได้ที่สนามบินเลยครับ
หลังจากตรวจสอบรถและวางมัดจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปหาอะไรกินกัน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
มื้อแรกของเราเริ่มต้นที่นี่ครับ “ร้านข้าวซอยอิสลาม”
ข้าวซอยทะเลครับผม
ข้าวหมกเนื้อมาพร้อมน้ำซุป
หลังจากอิ่มท้องแล้วก็เริ่มเดินทาง คืนแรกเราจะไปพักกันที่ ”บ้านระเบียงดาว”
ราคาที่พักก็นั่นละครับท่านผู้ชม 500 บาท/คืน/คน อาหาร 2 มื้อ เรามาถึงกันก็ประมาน 4 โมงเย็นแล้วครับ
พอมาถึงก็จ่ายมัดจำที่เหลืออีก 1000 บาท แล้วก็เข้าที่พักได้เลย ที่นี่งดส่งเสียงดังหลัง 22.00 น. ครับผม
ที่นี่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี มีแค่ที่นอน มุ้ง หมอน ผ้าห่ม บ้านหนึ่งหลังนอนได้ 4 คนครับ
พอเก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินถ่ายรูปเล่นกัน ชาวบ้านที่นี่อยู่กันแบบสบายๆ พอตกเย็นก็มานั่งคุยกัน
ร้านค้าก็มีไม่เยอะมากมาย ผู้คนไม่วุ่นวาย นี่สิครับชีวิตเรียบง่าย หลังจากเดินเที่ยวกันเลร็จแล้วก็กลับมาที่พัก
ทางพนักงานก็เดินมาถามครับว่าอาหารเย็นจะทานที่ระเบียงกลางหรือจะทานกน้าห้องพัก
ผมเลยเลือกหน้าห้องพักครับเพราะห้องที่ผมพักนั้น มองเห็นดอยเชียงดาวได้ชัดเจน เลยขออยู่ตรงนี้ละกัน
แล้วก็แยกย้ายกันจัดการเรื่องตัวเองกันไปรออาหารมา ผมก็คิดแล้วว่าเราควรจะรีบอาบน้ำนะเฟ้ย ไม่งั้นมีหนาวแน่ๆ
นี่ขนาดผมอาบตอนหกโมงเองนะครับ หืม!!!!หนาวไปอีก แนะนำใครที่หนาวง่ายๆถ้ามาพักที่นี่ รีบอาบน้ำก่อนเลยครับ
อาบน้ำเสร็จอาหารก็มาพอดี มื้อนี้ก็มี ไข่เจียว ผัดผัก แกงจืด น้ำพริก ข้าวอีก 1 หม้อ อาหารอร่อยครับ
ยิ่งไข่เจียวกินคู่กับน้ำพริกของบ้านระเบียงดาวด้วยยิ่เพิ่มความอร่อย ผมยังซื้อกลับมาตั้ง 2 กระปุก ราคากระปุกละ 100 บาทครับ
ทานข้าวเสร็จเรียบร้อยก็นั่งคุยกันตามประสาเพื่อน ประมาน 1 ทุ่มที่นี่ก็เริ่มเงียบ
ได้ยินแต่เสียงลม อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ที่นี่อากาศดีมากเย็นสบาย
นั่งคุยกันไปสักพักฝนเริ่มตกลงมาทำให้อากาศเย็นขึ้นไปอีก จะรออะไรละครับนอนสิครับ
ไม่รู้จะทำอะไรแล้วเลยขอซุกตัวไว้ในผ้าห่มอุ่นๆละกัน บอกเลยมีความสุขมากๆเลยครับ
ได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้เช้าจะมีหมอกให้เราได้เห็น
ไปเชียงใหม่ตอนหน้าฝน 5 วัน 4 คืน
คือว่าจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ผมอยากไปนานมากแล้วครับแต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักที
และแล้ววันนั้นก็มาถึงเพื่อนผมมัน Line มาบอกว่าแฟนมันจะกลับมาจากเมืองนอกเราไปเที่ยวไหนกันดี
ไอ้ตัวผมก็บอกแบบไม่คิดเลย “เชียงใหม่” ไงเพื่อน หลังจากนั้นมันก็ไปคุยกับแฟนมันตกลงว่าไป
เอ้าเชียงใหม่ก็เชียงใหม่ (รู้สึกดีใจเบาๆ) แต่...เพื่อนไปกับแฟน แล้วเราล่ะ???
เลยลองชวนคนนั้น คนนี้ดูว่าใครจะไปบ้าง แต่ก็นั่นละครับ
วันที่ผมไปมันดันเป็นวันทำงานของใครหลายๆคน ซึ่งผมได้ทำการลาพักร้อนไว้เรียบร้อยแล้ว
ระยะเวลาการเดินทางครั้งนี้คือวันที่ 14 – 18 กันยายน 2559 ครับ เวลาก็ประมาน 5 วัน 4 คืน
หลังจากไม่มีใครว่าง เอาละยังไงทริปเราต้องเดินหน้าต่อไป ผมเป็นคนจัดการทุกอย่าง
ไม่ว่าจะจองตั๋ว จัดตารางทริป เช่ารถ หาที่พัก แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเหนื่อยหรอกครับ เพราะเราชอบทำอะไรพวกนี้อยู่แล้ว
พอได้วันที่จะเดินทาง จำนวนคน เอาล่ะรออะไรจองตั๋วเครื่องบินสิครับ รอบบนี้พยายามหาตั๋วที่ถูกที่สุด
ตอนไปเผมได้ของ Airasia ในราคา 540 บาท ส่วนตอนกลับผมเดินทางด้วย Thai Lion air ในราคา 1020 บาท
ราคาถือว่ารับได้ครับ เพื่อแลกกับระยะเวลาในการเดินทาง
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว งานต่อมาคือการหาที่พัก,ตารางทริปต่างๆและเช่ารถยนต์ครับ
รถยนต์ผมใช้บริการของ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้ต้องขอบคุณหลายๆท่านใน Pantip เลยครับ ผมจองรถยนต์ เครื่อง 1500 CC ในราคา 800 บาท/วัน
มัดจำ 3000 บาทครับ หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็เหลือแค่แพคกระเป๋าแล้วเดินทางไปเที่ยวกัน
แบบไม่มีใครต้องรอใครเลย เครื่องเราออก 10 โมงเช้า ไปถึงก็ 11 โมงนิดๆ
พอลงเครื่องก็มารอรับรถครับทางร้านน่ารักมากส่งรถได้ตรงเวลาดีครับผม
เราได้เป็นรถ Mazda 2 เครื่อง 1500 CC รับได้ที่สนามบินเลยครับ
หลังจากตรวจสอบรถและวางมัดจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปหาอะไรกินกัน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง
มื้อแรกของเราเริ่มต้นที่นี่ครับ “ร้านข้าวซอยอิสลาม”
ข้าวซอยทะเลครับผม
ข้าวหมกเนื้อมาพร้อมน้ำซุป
หลังจากอิ่มท้องแล้วก็เริ่มเดินทาง คืนแรกเราจะไปพักกันที่ ”บ้านระเบียงดาว”
ราคาที่พักก็นั่นละครับท่านผู้ชม 500 บาท/คืน/คน อาหาร 2 มื้อ เรามาถึงกันก็ประมาน 4 โมงเย็นแล้วครับ
พอมาถึงก็จ่ายมัดจำที่เหลืออีก 1000 บาท แล้วก็เข้าที่พักได้เลย ที่นี่งดส่งเสียงดังหลัง 22.00 น. ครับผม
ที่นี่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีพัดลม ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี มีแค่ที่นอน มุ้ง หมอน ผ้าห่ม บ้านหนึ่งหลังนอนได้ 4 คนครับ
พอเก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินถ่ายรูปเล่นกัน ชาวบ้านที่นี่อยู่กันแบบสบายๆ พอตกเย็นก็มานั่งคุยกัน
ร้านค้าก็มีไม่เยอะมากมาย ผู้คนไม่วุ่นวาย นี่สิครับชีวิตเรียบง่าย หลังจากเดินเที่ยวกันเลร็จแล้วก็กลับมาที่พัก
ทางพนักงานก็เดินมาถามครับว่าอาหารเย็นจะทานที่ระเบียงกลางหรือจะทานกน้าห้องพัก
ผมเลยเลือกหน้าห้องพักครับเพราะห้องที่ผมพักนั้น มองเห็นดอยเชียงดาวได้ชัดเจน เลยขออยู่ตรงนี้ละกัน
แล้วก็แยกย้ายกันจัดการเรื่องตัวเองกันไปรออาหารมา ผมก็คิดแล้วว่าเราควรจะรีบอาบน้ำนะเฟ้ย ไม่งั้นมีหนาวแน่ๆ
นี่ขนาดผมอาบตอนหกโมงเองนะครับ หืม!!!!หนาวไปอีก แนะนำใครที่หนาวง่ายๆถ้ามาพักที่นี่ รีบอาบน้ำก่อนเลยครับ
อาบน้ำเสร็จอาหารก็มาพอดี มื้อนี้ก็มี ไข่เจียว ผัดผัก แกงจืด น้ำพริก ข้าวอีก 1 หม้อ อาหารอร่อยครับ
ยิ่งไข่เจียวกินคู่กับน้ำพริกของบ้านระเบียงดาวด้วยยิ่เพิ่มความอร่อย ผมยังซื้อกลับมาตั้ง 2 กระปุก ราคากระปุกละ 100 บาทครับ
ทานข้าวเสร็จเรียบร้อยก็นั่งคุยกันตามประสาเพื่อน ประมาน 1 ทุ่มที่นี่ก็เริ่มเงียบ
ได้ยินแต่เสียงลม อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ที่นี่อากาศดีมากเย็นสบาย
นั่งคุยกันไปสักพักฝนเริ่มตกลงมาทำให้อากาศเย็นขึ้นไปอีก จะรออะไรละครับนอนสิครับ
ไม่รู้จะทำอะไรแล้วเลยขอซุกตัวไว้ในผ้าห่มอุ่นๆละกัน บอกเลยมีความสุขมากๆเลยครับ
ได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้เช้าจะมีหมอกให้เราได้เห็น