ขาไปเลือกเดินทางด้วยรถไฟนอน จาก กรุงเทพ-เชียงใหม่ ( เตียงบน 791 บาท/คน เตียงล่าง 881 บาท/คน)  เพื่อจะได้ชมบรรยากาศ ส่วนขากลับก็เลือกนั่งเครื่องบิน ( 1,089บาท/คน ) มาเริ่มออกเดินทางกันดีกว่า !!!   จุดมุ่งหมายของพวกเราคือ...เชียงใหม่ฮิ...ไม่ใช่แล้ว เชียงใหม่เจ้า ^^



รถไฟออกเลทไปครึ่งชั่วโมงได้ ออกประมาณ 2 ทุ่ม แล้วพวกเราก็ไม่ได้นั่ง ตู้ที่จองไว้ด้วยเพราะ ว่าตู้นั้นมีปัญหา แต่ทางการรถไฟคืนค่าตั๋วให้ส่วนหนึ่ง ที่สถานีเชียงใหม่  เลยอดเก็บตั๋วรถไฟเลย T-T




หลังจากใช้เวลาเดินทางอยู่บนรถไฟกว่า 13 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเราก็มาถึงสถานีเชียงใหม่แล้วค่ะ เย้!!! ><

เรามาถึงเชียงใหม่เวลาประมาน 9.20น. ของวันที่ 17 ตุลาคม  หลังจากนั้นเราก็นั่งรถแดงเพื่อไปที่ร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์กันต่อ  เราเลือกร้าน Bikky สาขาอาเขต ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสถานีเลยค่ะ ค่ารถแดงจากสถานีรถไฟไป อาเขตคนละ 30 บาทค่ะ  ส่วนราคามอไซ ก็ 250-300/คัน/วัน  ร้านนี้ดีตรงที่ไม่มีค่ามัดจำสำหรับรถราคาต่ำ กว่า 400 บาทค่ะ สำหรับคนงบน้อยเหมาะมากๆเลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bikkychiangmai.com/store/
หลังจากเช่ามอเตอร์ไซค์เสร็จพวกเราก็ไปหาอะไรกินกัน ก็มาจบที่ร้านนี้ !!!!!


    โดยมื้อแรกของวันที่เราได้กินนั้น เป็นอาหารพื้นเมืองของทางภาคเหนือ ที่เรียกว่า “ ข้าวซอย “ หากมาเชียงใหม่แล้วไม่ได้กินนั้น ถือว่ามาไม่ถึงเลยค่ะขอบอก 555 ในร้านก็จะมีทั้งข้าวซอยไก่ ข้าวซอยเนื้อ ข้าวซอยทะเล เนื้อสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะ และอีกหลายอย่างเลยค่ะ  ร้านข้าวซอยอิสลามตั้งอยู่ใน ถ.เจริญประเทศซอย 1  ซึ่งเป็นซอยมัสยิดฮิดายาตุ้ลอิสลาม(บ้านฮ่อ) (ราคา45-50 /ชาม)
      หลังจากนั้นพวกเราก็รีบเดินทางกันต่อ  จุดมุ่งหมาย ก็คือ...ดอยอินทนนท์เจ้า >O< อยากสัมผัสความหนาวแล้วค่ะ #แต่ระหว่างทางไปนี่แดดไม่ธรรมดาเลย 555555  ระยะทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงดอยอินทนนท์นั้นประมาณ80กิโลเมตร


  ในการเดินทางไปดอยอินทนนท์นั้นเราจะใช้ทางหลวงหมายเลข108มาจากตัวเมืองเชียงใหม่ผ่านCentral Airport มาจนถึงอำเภอจอมทอง และเราจะเลี้ยวไปตามทางหลวงหมายเลข1009ไปเรื่อยๆจนถึงยอดดอยอินทนน์รวมระยะทางประมาน96กิโลเมตร *แนะนำให้แวะเติมน้ำมันก่อนที่อำเภอจอมทอง เนื่องจากทางต่อจากนี้จะไม่มีปั๊มน้ำมันใหญ่ๆแล้ว จะมีอีกทีก็เป็นปั๊มหยอดเหรียญตรงสถานที่กางเต็นท์ห่างจากดอยอินทนนท์ประมาณ7กิโลเมตร ในระหว่างทางไปพวกเราก็ไปแวะที่ “ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ”  อยู่ที่อำเภอ จอมทอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นวัดสำคัญอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ในวัดมีพระบรมธาตุเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวา  มีความรู้ไปอีกกกกก


พระธาตุศรีจอมทองเป็นพระธาตุประจำปี ชวด ค่ะ


ในพระวิหารหลวงของวัดพระธาตุศรีจอมทอง เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระทักขิโมลีธาตุ


เดินทาง ไปดอยอินทนนท์กันต่อเลยค่ะ !!!   เราจะเดินทางย้อนทางเดิมไปนิดหน่อย เพื่อเข้าไปตามทางหลวงหมายเลข1009ในการที่จะขึ้นไปดอยอินทนน์ โดยขี่มาเรื่อยๆเราจะเจอด่านตรวจที่1 จะเก็บค่าเข้า ผู้ใหญ่ 50 บาท นักศึกษา 20 บาท  ค่ารถมอเตอร์ไซค์ 20 บาทจ้า ใครเป็นนักศึกษาถ้าจะไปก็อย่าลืมเอาบัตรนักศึกษาไปนะคะ *--*


ขี่ผ่านด่านตรวจที่1 มาไม่ไกล เราก็จะพบกับ นาขั้นบันไดบ้านแม่กาหลวง

ซึ่งเราสามารถมองวิวนาขั้นบันไดสวยๆ ได้จากข้างถนนเลยค่ะ

หลังจากนั้นเราก็ขี่ตามเส้นทางไปเรื่อยๆ

จะเจอด่านตรวจที่2 ของอุทยาน เราสามารถขี่ผ่านไปได้เลยไม่ต้องเสียค่าผ่านทางอีกรอบ

ผ่านประตูด่านมาจะมีแยกทางซ้ายไปอำเภอแม่แจ่ม พวกเรากะว่าจะไปน้ำพุร้อนเทพพนม พอขับไปเรื่อยๆ รู้สึกว่ามันไกลเกินไปก็เลยถามชาวบ้าน ปรากฎว่า....ต้องไปอีก 40 กิโลเมตร หันหลังกลับ มาดอยอินทนนท์ ให้ไวเลยจ้า  ระหว่างทางขึ้นมาดอย หนาวมากเลยค่ะมีหมอกด้วย(ใครไม่มีถุงมือขี่มอเตอร์ไซค์นี่อาจมือชาได้เลยนะ) ได้สัมผัสความหนาวสมใจกันเลยทีเดียว
แต่ก่อนที่จะถึงยอดดอยอินทนนท์นั้น จะมีสถานที่สำคัญอีกที่นึงที่ไม่ควรพลาดเข้าไปชมคือ พระมหาธาตุนภเมทนีดล

พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

พระธาตุทั้ง 2 องค์นี้มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ มีฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยมมีระเบียงแก้วโดยรอบ 2 ระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์โดยรอบได้อย่างสวยงาม และก็มีสวนดอกไม้ให้ได้ถ่ายรูปด้วย ส่วนค่าเข้าก็เพียงท่านละ20บาท เท่านั้นค่ะ



หลังจากที่เราเดินชมบริเวณรอบๆ และถ่ายรูปกันอย่างจุใจแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปที่ยอดดอยอินทนนท์กันทันทีเนื่องจาก ใกล้จะถึงช่วงเย็นของวันแล้ว

ถึงแล้วสูงสุดแดนสยาม สูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ตอนมาถึงก็ช่วงเวลาเย็นๆ แล้วค่ะ  ( อุณหภูมิประมาน 13 องศา ) แต่เมื่อเช้าป้ายบอกว่า8องศา!!!!!


มอสที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์ ช่วงที่เรามานั้นเป็นหน้าฝนพอดี จึงทำให้มีมอสขึ้นเขียวชะอุ่มตลอดเส้นทางเดินเลยค่ะ สวยมากกกกก

เหรียญบนหมุดหลักฐานจุดสูงสุดแดนสยาม 2565 เมตร

น้ำค้างนี่ค้างที่ยอดหญ้าเลยทีเดียวค่ะ หนาวมากกก
พวกเราตัดสินใจจะขึ้นมาบนดอยกันอีกที ตอนเช้า และพวกเราก็ลงไปหา ที่กางเต็นท์


นี่ก็เป็นที่กางเต็นท์ นะคะ ห่างจากยอดดอยอินทนนท์ประมาณ 7กิโลเมตร อยู่ตรงข้ามตลาดม้ง รอบๆ ก็จะมีน้ำตกเล็กๆ แล้วก็จะมีปลั๊กไฟให้เสียบชาร์จแบตฯด้วยค่ะ  แถมห้องน้ำยังมีน้ำอุ่นให้อาบอีกด้วย   ถ้ามีเต็นท์มาเอง คิดคนละ  80 บาท  ถ้าไม่มีเต็นซ์แล้วจะเช่า ราคาเต็นท์ ก็ 250 บาท ผ้าห่ม 50 บาท/ผืน หมอน 20 บาท/อัน พี่เขาใจดีมากค่ะ หาปลั๊กพ่วงให้ด้วย : ) แต่ไฟจะมาเวลา18.00-06.00น. เท่านั้นค่ะ

หลังจากจัดแจงที่พักเสร็จเรียบร้อย  ท้องก็เริ่มร้อง มีร้านขายอาหารอยู่ตรงข้ามกับที่กางเต็นท์  และตรงนี้แหละค่ะเป็นที่ที่มีปั๊มหยอดเหรียญดังที่เจ้าของกระทู้ได้กล่าวไว้ข้างต้น


ขอบอกว่านั้นเป็นน้ำตกหมูป่า เด็ด ค่ะ !!!!  เมื่อท้องอิ่มหนังตาก็ย่อน  อากาศเย็นๆ หลับสบายมากหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน

เช้าวันที่ 18 ตุลา เราจะพากลับขึ้นไป บนดอยอินทนนท์อีกครั้ง.......




หลังจากที่พวกเรานอนพักเอาแรงมากันคนละนิดละหน่อยแล้ว(ที่ใช้คำว่านิดหน่อย เพราะกลางคืนนั้นพอจะมีปาร์ตี้เล็กๆค่ะ ฮ่าๆ เพราะกลางคืนมันหนาวพวกเราเลยต้องหาอะไรทานอุ่นเครื่องกันหน่อย 5555)พวกเราก็ออกเดินทางอย่างรวดเร็ว เพราะพวกเราตื่นสายยยย!!!! ขาขึ้นไป....พระอาทิตย์ แหวกเมฆมาเลยยยยย ฮ่าๆๆ

เราเดินทางออกจากที่พักมาถึงที่จุดชมวิวหน้าทางเข้ากิ่วแม่ปานเวลาประมาณ 6.30 น. ซึ่งพระอาทิตย์ก็ได้ขึ้นก่อนเรามาถึงเป็นที่เรียบร้อย แต่บรรยากาศก็ดีไม่แพ้กันค่ะ อุณหภูมิอยู่ประมาณ13องศา มีแสงแดดส่องลงมาพอช่วยคลายหนาวได้บ้าง



แต่เนื่องจากเรายังไม่ได้รับประทานอาหารเช้ากันมาเลย ดังนั้นพวกเราจึงรีบพุ่งตรงไปที่ ร้านทองศรีกิ่วแม่ปานทันที เลยค่ะ มื้อแรกของวันเริ่มด้วยโจ๊กหมูใส่ไข่ ร้อนๆ พร้อมกาแฟร้อน กินช่วยคลายหนาวได้ดีทีเดียวเลยค่ะ

เนื่องจากพวกเรามาช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลท่องเที่ยว ทำให้คนน้อย ไม่ต้องรอคิวนาน และเมื่อเรามองวิวจากด้านในร้านออกไปข้างนอก ก็สวยไปอีกแบบค่ะ

ใกล้ๆร้าน ก็จะเป็นทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน แต่ช่วงที่เรามานั้นเส้นทางยังไม่เปิด พวกเราก็แอบเสียใจเล็กๆ (พวกเราไม่ได้หาข้อมูลกันมา) ได้แค่ถ่ายรูปป้ายติดกล้องไปเท่านั้น
[img]http://f.ptcdn.info/170/