ย้อนกลับไปในปี 2010 เกิดเหตุโศกนาฎกรรมน้ำมันรั่วขนาดใหญ่ในอ่าวเม็กซิโกเป็นระยะเวลานานถึง 86 วัน พร้อมปริมาณน้ำมันหลายสิบล้านแกลลอนจนได้รับการประเมินว่าเป็นการรั่วไหลนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
มีคนงานเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น 11 คน และบาดเจ็บอีก 17 คน
ชื่อของหายนะครั้งนี้คือ
“Deepwater Horizon” ซึ่งผู้กำกับ-ปีเตอร์ เบิร์ก (Hancock; 2008, Battleship; 2012, Lone Survivor; 2013) จับมือกับผู้อำนวยการสร้างจาก Transformers ทุกภาค นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน จ่อเข้าคิวฉายวันที่ 29 กันยายนนี้
แท็กทีมกับทีมเขียนบทสุดแกร่งอย่างแมทธิว ไมเคิล คาร์นาแฮน ที่เคยเขียนบท The Kingdom (2007) และ World War Z (2013) มาแล้ว
Deepwater Horizon หรือ ฝ่าวิบัติเพลิงนรก เล่าเรื่องผ่านไมค์ วิลเลียมส์ หัวหน้าช่างไฟประจำ ดีพวอเตอร์ ฮอไรซัน (มาร์ค วอลเบิร์ก) หัวหน้าครอบครัวซึ่งใจจดใจจ่อจะกลับไปหาภรรยาและลูกที่บ้านหลังพ้นงานที่อ่าวเม็กซิโก และไม่รู้เนื้อรู้ตัวแม้สักนิดว่าการไปเยือนอ่าวในครั้งนี้จะนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่เขาต้องจำจนตาย เมื่อแท่นขุดเจาะน้ำมันเกิดระเบิด และเป็นสุสานทะเลเพลิงเหนือน่านน้ำ
และจากนี้ คือเบื้องลึกเบื้องหลังสารพัดเกร็ดน่าสนใจก่อนไปดู Deepwater Horizon
1. ทีมงานติดต่อมาร์ค วอลเบิร์กเพื่อแจ้งว่า ตัวละครชายหลักในเรื่องนี้มีสองคน คือคนหนุ่มและคนรุ่นพ่อ ซึ่งพอได้ยินครั้งแรก พี่มาร์คก็ยินดีปรีดา รับบทแล้วก็หาทางติดต่อนักแสดงอาวุโสสักคนที่จะมาเข้าฉากด้วย แต่ตัดภาพมาที่ทีมงานเบรคอย่างจังว่า-เอ่อพี่มาร์คครับ คือพี่เนี่ย แสดงเป็นตัวละครวัยพ่อแล้วครับ ไม่ใช่วัยรุ่น ซึ่งแน่นอนว่ามาร์คประหลาดใจมากว่านี่ถึงวันที่เขาต้องมารับบทเป็นคนที่แก่กว่าแล้วเหรอฟะ (ใช่จ้ะพี่มาร์ค)
อย่างไรก็ตาม บทตัวละครหลักวัยรุ่นนั้น รับบทโดยดีแลน โอ’ไบรอัน จาก Teen Wolf (2011– ) และ Maze Runner: The Scorch Trials (2015)
.
2. ความที่สร้างจากเหตุการณ์จริง คนงานจากเหตุการณ์วิปโยคหลายคนปฏิเสธจะให้ความร่วมมือในการสร้างหนังเรื่องนี้ด้วยเหตุผลว่ามันดูเป็นการไม่เคารพเพื่อนร่วมอาชีพที่เสียชีวิตไปจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว
แต่ไมค์ วิลเลียมส์ตัวจริง ยินดีให้ความร่วมมือกับกระบวนการสร้างหนังอย่างเต็มที่ โดยเขาให้เหตุผลว่า นี่เป็นวิธีที่ดีแล้วในการจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ทีมงานผ่านพ้นหายนะเหล่านั้นมาได้อย่างไร และถ้าต้องการให้การนำเสนอนี้ประสบความสำเร็จ-แรกสุดคือหนังต้องสมจริงเสียก่อน เขาจึงเต็มใจช่วยเหลือและให้คำปรึกษา
.
3. นี่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ระหว่างมาร์ค วอลเบิร์กและผู้กำกับปีเตอร์ เบิร์ก โดยก่อนหน้านี้คือ Lone Survivor (2013) ซึ่งก็สร้างจากเรื่องจริงเช่นกัน และได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์หลายสำนักไม่น้อยเลยทีเดียว
.
4. ระหว่างถ่ายทำ มาร์ค วอลเบิร์กคงสภาพตัวเองเป็นตัวละครไมค์ วิลเลียมส์อยู่เสมอ ซึ่งกระบวนการเข้าถึงตัวละครของเขานั้นละเอียดและใช้เวลานาน ทีมงานถึงกับบอกว่าเขาจะรับบทและแสดงก็ต่อเมื่อเขาเข้าถึงตัวละครนั้นทุกซอกทุกมุมของจิตใจแล้ว (การันตีด้วยรางวัลนักแสดงนำชายเต็มตู้ที่บ้าน)
.
5. ในการฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลหนังโตรอนโต้ Deepwater Horizon เป็นที่ชื่นชอบมากถึงขั้นได้รับการยืนสแตนดิ้ง โอเวชันภายในเทศกาล
.
6. นักแสดงสาว จีน่า ร็อดดิเกวซ ซึ่งรับบทเป็นทีมงานวัย 23 ที่ติดแหง็กอยู่บนแท่นขุดเจาะกลางอ่าวลึกต้องทำการบ้านอย่างหนัก ด้วยการไปเทรนการเป็นลูกเรือถึงฮูสตัน
.
7. เพื่อความสมจริง ทีมงานจ้างคนงานน้ำมันทั้งในอดีตและปัจจุบันมาเข้าฉากด้วยหลายต่อหลายฉาก
.
8. ในความเป็นจริงแล้ว เรือไททานิคถูกประเมินว่าไม่มีทางจมฉันใด แท่นขุดเจาะน้ำมันอย่างดีพวอร์เตอร์ ฮอไรซัน ก็ถูกมองว่าไม่มีทางระเบิดฉันนั้น ดังนั้นแล้ว การระเบิดของแท่นเมื่อปี 2010 จึงสั่นสะเทือนความรู้สึกของชาวอเมริกันอย่างมาก
.
9. ไม่เพียงเท่านั้น ผลของเหตุการณ์ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของสิ่งมีชีวิตทางทะเลกว่า 8,332 สปีชีส์ เกิดเป็นสารพิษรุนแรงที่ชื่อ “PAHs” (Polycyclic aromatic hydrocarbons) ที่มีส่วนทำให้ออกซิเจนในท้องทะเลลดลงเป็นจำนวนมาก
.
10. ฉากที่แท่นระเบิด ทีมงานต้องใช้โคลนถึง 25,000 แกลลอนต่อวันในการถ่ายทำ (ซึ่งนักแสดงก็คลุกโคลนพวกนี้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น)
.
11. นี่ไม่ใช่หนังเรื่องแรกของผู้กำกับ-ปีเตอร์ เบิร์ก ที่เล่าเรื่องความกล้าหาญและหัวจิตหัวใจที่เด็ดเดี่ยวสุดขีดของมนุษย์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขาให้สัมภาษณ์ว่า ความกล้าหาญและจิตวิญญาณที่จะเอาชนะในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้น คือสิ่งที่เขาหลงไหล และแน่นอนว่าเป็นหัวใจของของหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์กันนะคะ
Page:
https://www.facebook.com/llkhimll
Blog:
http://llkhimll.wordpress.com/
10 เรื่องน่ารู้ก่อนไปดู Deepwater Horizon (2016)-หายนะจากมนุษย์ ต้องกอบกู้ด้วยความหวังของมนุษย์
ย้อนกลับไปในปี 2010 เกิดเหตุโศกนาฎกรรมน้ำมันรั่วขนาดใหญ่ในอ่าวเม็กซิโกเป็นระยะเวลานานถึง 86 วัน พร้อมปริมาณน้ำมันหลายสิบล้านแกลลอนจนได้รับการประเมินว่าเป็นการรั่วไหลนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
มีคนงานเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้น 11 คน และบาดเจ็บอีก 17 คน
ชื่อของหายนะครั้งนี้คือ “Deepwater Horizon” ซึ่งผู้กำกับ-ปีเตอร์ เบิร์ก (Hancock; 2008, Battleship; 2012, Lone Survivor; 2013) จับมือกับผู้อำนวยการสร้างจาก Transformers ทุกภาค นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน จ่อเข้าคิวฉายวันที่ 29 กันยายนนี้
แท็กทีมกับทีมเขียนบทสุดแกร่งอย่างแมทธิว ไมเคิล คาร์นาแฮน ที่เคยเขียนบท The Kingdom (2007) และ World War Z (2013) มาแล้ว
Deepwater Horizon หรือ ฝ่าวิบัติเพลิงนรก เล่าเรื่องผ่านไมค์ วิลเลียมส์ หัวหน้าช่างไฟประจำ ดีพวอเตอร์ ฮอไรซัน (มาร์ค วอลเบิร์ก) หัวหน้าครอบครัวซึ่งใจจดใจจ่อจะกลับไปหาภรรยาและลูกที่บ้านหลังพ้นงานที่อ่าวเม็กซิโก และไม่รู้เนื้อรู้ตัวแม้สักนิดว่าการไปเยือนอ่าวในครั้งนี้จะนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่เขาต้องจำจนตาย เมื่อแท่นขุดเจาะน้ำมันเกิดระเบิด และเป็นสุสานทะเลเพลิงเหนือน่านน้ำ
และจากนี้ คือเบื้องลึกเบื้องหลังสารพัดเกร็ดน่าสนใจก่อนไปดู Deepwater Horizon
1. ทีมงานติดต่อมาร์ค วอลเบิร์กเพื่อแจ้งว่า ตัวละครชายหลักในเรื่องนี้มีสองคน คือคนหนุ่มและคนรุ่นพ่อ ซึ่งพอได้ยินครั้งแรก พี่มาร์คก็ยินดีปรีดา รับบทแล้วก็หาทางติดต่อนักแสดงอาวุโสสักคนที่จะมาเข้าฉากด้วย แต่ตัดภาพมาที่ทีมงานเบรคอย่างจังว่า-เอ่อพี่มาร์คครับ คือพี่เนี่ย แสดงเป็นตัวละครวัยพ่อแล้วครับ ไม่ใช่วัยรุ่น ซึ่งแน่นอนว่ามาร์คประหลาดใจมากว่านี่ถึงวันที่เขาต้องมารับบทเป็นคนที่แก่กว่าแล้วเหรอฟะ (ใช่จ้ะพี่มาร์ค)
อย่างไรก็ตาม บทตัวละครหลักวัยรุ่นนั้น รับบทโดยดีแลน โอ’ไบรอัน จาก Teen Wolf (2011– ) และ Maze Runner: The Scorch Trials (2015)
.
2. ความที่สร้างจากเหตุการณ์จริง คนงานจากเหตุการณ์วิปโยคหลายคนปฏิเสธจะให้ความร่วมมือในการสร้างหนังเรื่องนี้ด้วยเหตุผลว่ามันดูเป็นการไม่เคารพเพื่อนร่วมอาชีพที่เสียชีวิตไปจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว
แต่ไมค์ วิลเลียมส์ตัวจริง ยินดีให้ความร่วมมือกับกระบวนการสร้างหนังอย่างเต็มที่ โดยเขาให้เหตุผลว่า นี่เป็นวิธีที่ดีแล้วในการจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ทีมงานผ่านพ้นหายนะเหล่านั้นมาได้อย่างไร และถ้าต้องการให้การนำเสนอนี้ประสบความสำเร็จ-แรกสุดคือหนังต้องสมจริงเสียก่อน เขาจึงเต็มใจช่วยเหลือและให้คำปรึกษา
.
3. นี่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ระหว่างมาร์ค วอลเบิร์กและผู้กำกับปีเตอร์ เบิร์ก โดยก่อนหน้านี้คือ Lone Survivor (2013) ซึ่งก็สร้างจากเรื่องจริงเช่นกัน และได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์หลายสำนักไม่น้อยเลยทีเดียว
.
4. ระหว่างถ่ายทำ มาร์ค วอลเบิร์กคงสภาพตัวเองเป็นตัวละครไมค์ วิลเลียมส์อยู่เสมอ ซึ่งกระบวนการเข้าถึงตัวละครของเขานั้นละเอียดและใช้เวลานาน ทีมงานถึงกับบอกว่าเขาจะรับบทและแสดงก็ต่อเมื่อเขาเข้าถึงตัวละครนั้นทุกซอกทุกมุมของจิตใจแล้ว (การันตีด้วยรางวัลนักแสดงนำชายเต็มตู้ที่บ้าน)
.
5. ในการฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลหนังโตรอนโต้ Deepwater Horizon เป็นที่ชื่นชอบมากถึงขั้นได้รับการยืนสแตนดิ้ง โอเวชันภายในเทศกาล
.
6. นักแสดงสาว จีน่า ร็อดดิเกวซ ซึ่งรับบทเป็นทีมงานวัย 23 ที่ติดแหง็กอยู่บนแท่นขุดเจาะกลางอ่าวลึกต้องทำการบ้านอย่างหนัก ด้วยการไปเทรนการเป็นลูกเรือถึงฮูสตัน
.
7. เพื่อความสมจริง ทีมงานจ้างคนงานน้ำมันทั้งในอดีตและปัจจุบันมาเข้าฉากด้วยหลายต่อหลายฉาก
.
8. ในความเป็นจริงแล้ว เรือไททานิคถูกประเมินว่าไม่มีทางจมฉันใด แท่นขุดเจาะน้ำมันอย่างดีพวอร์เตอร์ ฮอไรซัน ก็ถูกมองว่าไม่มีทางระเบิดฉันนั้น ดังนั้นแล้ว การระเบิดของแท่นเมื่อปี 2010 จึงสั่นสะเทือนความรู้สึกของชาวอเมริกันอย่างมาก
.
9. ไม่เพียงเท่านั้น ผลของเหตุการณ์ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของสิ่งมีชีวิตทางทะเลกว่า 8,332 สปีชีส์ เกิดเป็นสารพิษรุนแรงที่ชื่อ “PAHs” (Polycyclic aromatic hydrocarbons) ที่มีส่วนทำให้ออกซิเจนในท้องทะเลลดลงเป็นจำนวนมาก
.
10. ฉากที่แท่นระเบิด ทีมงานต้องใช้โคลนถึง 25,000 แกลลอนต่อวันในการถ่ายทำ (ซึ่งนักแสดงก็คลุกโคลนพวกนี้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น)
.
11. นี่ไม่ใช่หนังเรื่องแรกของผู้กำกับ-ปีเตอร์ เบิร์ก ที่เล่าเรื่องความกล้าหาญและหัวจิตหัวใจที่เด็ดเดี่ยวสุดขีดของมนุษย์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเขาให้สัมภาษณ์ว่า ความกล้าหาญและจิตวิญญาณที่จะเอาชนะในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้น คือสิ่งที่เขาหลงไหล และแน่นอนว่าเป็นหัวใจของของหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ฝากบล็อก-เพจ สำหรับติดตามข่าวสาร-แลกเปลี่ยนกันเรื่องภาพยนตร์กันนะคะ
Page: https://www.facebook.com/llkhimll
Blog: http://llkhimll.wordpress.com/