[CR] รีวิว: แม่ดอกบัวทอง Vietnam Airlines กรุงเทพ - โอซาก้า ขาไปเปลี่ยนเครื่องที่ฮานอย ขากลับเปลี่ยนเครื่องที่โฮจิมินห์

สวัสดีครับ ชาวบลูแพนเน็ต นี่เป็นรีวิวครั้งแรกของผม ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้

เมื่อวันที่ 14 - 19 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวโอซาก้ากับครอบครัว โดยใช้บริการของสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์
ในราคาไปกลับ คนละ 8,400 บาท จองตั๋วโปรกับ Expedia ตั้งแต่เดือนมีนาคม 59 ที่ผ่านมาครับ โดยขาไป แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนอยไบ ฮานอย
ประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าพอรับได้ ไม่นานเกินไปครับ ส่วนขากลับเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน ทรัน เซิ่น เยิ๊ต (เรียกยากแท้) ที่โฮจิมินห์ครับ

เส้นทางการบินจะเป็นตามนี้

ขาไป BKK - HAN - KIX
ขากลับ KIX - SGN - BKK

สำหรับสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ เป็นสายการบินแห่งชาติของเวียดนามครับ บริการแบบฟูลเซอร์วิส มีอาหารเสริฟบนเครื่อง พร้อมน้ำหนักกระเป๋าโหลด 30 กิโลต่อคน สามารถแชร์น้ำหนักกันได้ ก่อนหน้านี้แทบจะหารีวิวเพื่อเป็นข้อมูลได้น้อยมาก เพราะไม่ค่อยมีใครบินกับสายการบินนี้ แต่พักหลังๆ นี่ลงมาเล่นโปรโมชั่นสู้กับโลว์คอสต์อย่างหนัก ทำให้มีคนเดินทางกับสายการบินนี้เพิ่มมากขึ้น ผมก็หาดูราคาโปรจากเพจในเฟซบุ๊ก พวกอาแปะ เพื่อนบอกโปร อะไรประมาณนี้ละครับ

ขาไปวันแรกเครื่องออกที่สุวรรณภูมิเวลา 19.05 น. เช็คอินที่ Row L ครับ คนเดินทางเที่ยวบินนี้หนาแน่นเลยทีเดียว



การเช็คอินจะใช้เจ้าหน้าที่ของการบินไทยมาดำเนินการให้ครับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของเวียดนามแอร์ไลน์คอยดูแลและแก้ไขปัญหาต่างๆ ประมาณ 2 คน ซึ่งการเช็คอินเหมือนสายการบินอื่นๆ ปกติทั่วไปครับ

เมื่อเช็คอินแล้วเราจะได้บอรด์ดิ้งพาสมา 2 ใบ ใบนึงไว้ขึ้นเครื่องไปฮานอย ส่วนอีกใบเอาไว้ต่อเครื่องไปโอซาก้าครับ



ได้บอร์ดดิ้งพาสแล้ว ก็ไปขึ้นเครื่องกันครับ เครื่องจอดรออยู่ที่ Gate G4 ครับ เดินค่อนข้างไกลลลลลเลยทีเดียว



เครื่องที่ใช้บินในเส้นทางนี้จะใช้เครื่อง Airbus A321 ครับ ลำที่เรานั่งเป็นลาย Sky Team ซึ่งเจ้านี้เค้าสังกัดอยู่นะครับ การจัดที่นั่งก็จะเป็นแบบ 3 - 3 คล้ายๆ โลว์คอสต์ภายในประเทศบ้านเรา (ปล.รูปถ่ายที่ฮานอยนะครับ ตอนจอดที่สุวรรณภูมิไม่ได้ถ่าย มัวแต่เอ้อระเหย เลยไม่ทันได้ถ่ายไว้)



ขึ้นเครื่องกันครับ



ขึ้นไปบนเครื่องเราจะต้องผ่านที่นั่งชั้น Business Class ก่อนนะครับ (ตรงนี้ฐานะอย่างเราก็ต้องเดินผ่านไปไว ๆ ครับ ที่สมฐานะของเราอยู่ด้านหลัง อิอิ)



นี่ครับ ที่นั่งเราอยู่ตรงนี้ ชั้นประหยัด จัดแบบ 3 - 3 เครื่องไม่ได้เก่านะครับ แต่การใช้สีของเบาะมันทึมๆ ทำให้ดูเก่า



Seat Pitch กว้างพอประมาณเลยนะครับ ผมสูง 180 ก็ยังนั่งพอสบายๆ ยืดขาเข้าไปใต้เบาะด้านหน้าได้พอควร ไม่แน่นเหมือนกับนั่งโลว์คอสต์ในประเทศครับ ถ้าตัวเล็ก ๆไม่ใหญ่เบิ้มเหมือนผมนี่นั่งสบายเลยทีเดียว



นั่งได้แปบนึง แอร์ก็เอาผ้าเย็นมาแจกครับ นึกถึงนครชัยแอร์เลย



ซักพักเครื่องก็ดันถอยหลัง แล้วแท็กซี่เตรียมขึ้นละครับ บนจอเพดาน ก็ฉายวีดิโอความปลอดภัยให้ดูครับ ประมาณหนังการ์ตูนจ๊ะทิงจานั่นแหละครับ มี 3310 กับ gameboy ด้วย โบราณเกิ๊น น่าจะมีการปรับปรุงในส่วนนี้ (รูปเกมบอยกับ 3310 ถ่ายขากลับครับ)








ลาก่อนนะประเทศไทย ขอไปเที่ยวนอกเมืองซักแป๊บ



คุมะมงไปเที่ยวด้วยก๊าบ



พอเครื่องรักษาระดับได้แล้ว แอร์ก็เริ่มเสริฟอาหารละครับ เมนูมีสองเซ็ตครับ ผมสั่งคนละเซ็ตกับแฟนเพื่อลองชิม เซ็ตแรกเป็นบะหมี่กับหมูอบซ๊อสอะไรซักอย่าง อร่อยดีเหมือนกันครับ ส่วนอีกเซ็ตเป็นข้าวสวยกับห่อหมกปลา และทั้งสองเซ็ตก็มีสลัดผลไม้ กับขนมหวาน พร้อมขนมปังมาให้ด้วย ปริมาณนี่ให้ถึงอิ่มท้องยาวๆ เลยครับ นอกจากนี้ พวกเครื่องดื่มก็จะมีน้ำผลไม้ เบียร์ ไวน์แดง ไวน์ขาว ครบครันครับ ขอได้ตลอด พี่เวียดจัดห้าย... ปล. แอร์ไม่ค่อยยิ้มนะครับ แต่ขออะไรก็จัดให้





ลองสั่งเบียร์มาดื่มครับ มีสองยี่ห้อ เบียร์ฮานอย กับ ฮาลิดา เป็นเบียร์เวียดนามทั้งคู่ รสชาติพอใช้ได้ครับ






นั่งกินๆ หม่ำๆ ไปซักพัก เครื่องก็ลดระดับลงสู่สนามบินนอยไบครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก่อนลงมีเสียวเล็กน้อย เมื่อกัปตันแลนดิ้งครั้งแรกมีลมกระโชกด้านข้าง กัปตันต้องรีบเชิดหัวขึ้นกลับไปวนอีกครั้ง ผู้โดยสายสาวๆ กรี๊ดลั่นเลยครับ แต่หลังจากวนกลับมาก็ลงได้อย่างนิ่มนวล ผู้โดยสารปรบมือให้ทั้งลำเลย



ลงเครื่องก็ตามป้าย transfer ไปโลดครับ




ก็รอที่นอยไบ ประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อรอเครื่องออกอีกที 00.05 น.ครับ เวลาทีเวียดนามกับไทยตรงกัน เลยไม่ต้องปรับเวลาใดๆ ทั้งสิ้น



ระหว่างรอก็สำรวจสนามบินซักหน่อยครับ ถ้าใครได้มีโอกาสมาสายการบินนี้ ถ้าเลือกเวลาต่อเครื่องนานหน่อย ก็อาจจะออกไปชมเมืองฮานอยก่อนก็ได้ครับ ผ่าน ตม.ออกไปได้เลย ประเทศกลุ่มอาเซียน ไม่ต้องมีวีซ๋าครับ แต่กลับมาให้ทันขึ้นเครื่องต่อนะครับ

สนามบินนอยไบ ได้มีการปรับปรุงตัวอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ ทุกอย่างดูใหม่ และสดใสมากครับ มีไวไฟให้ใช้ฟรีด้วย เร็วใช้ได้เลยครับ ตอนที่เราไปนั้นคนไม่พลุกพล่าน เดินเล่นสบายๆ เลยครับ ผมนี่ยึดที่นั่งแถวนึงนอนเล่นระหว่างรอขึ้นเครื่องได้เลย แต่วันนั้นไม่ได้แลกเงินดอลล่าไป เลยไม่ได้ชิมของกินที่นั่น และไม่แน่ใจว่าเขาจะรับเงินไทยหรือเปล่าด้วยนะครับ









นั่งๆ นอนๆ รอ พักเดียวก็เรียกขึ้นเครื่องครับ รอบนี้ก็ยังคงเป็น Airbus A321 เช่นเคย แอบหวังจะได้นั่ง 787 Dreamliner แต่อดครับ เขาเอาไปบินเส้นอื่นแล้ว แงๆ (รูปเครื่องถ่ายที่คันไซครับ ตอนออกจากฮานอย ลืมถ่ายอีกแระ)



แอบมีมาจอดยั่วด้วยนะ Dreamliner



เนื่องจากเป็นเครื่องแบบเดียวกับที่เรานั่งมาจากกรุงเทพ พวก Seat Pitch การจัดวางที่นั่ง ก็จะเหมือนกัน ก็เลยข้ามไปไม่ลงรูปนะครับ พอเครื่องขึ้นไปแล้ว ก็สเต็ปเดิมครับ แจกผ้าเย็น แจกถั่วถุงเล็กๆ เสริฟเบียร์ (อ่ะ อันนี้สำคัญ) อิอิ ซักพักก็ปิดไฟนอนครับ หลับๆ ตื่นๆ ไปได้ซักพัก ประมาณตีสาม กัปตันก็เปิดไฟ ปลุกกินข้าว (ภาคดึก) กันแล้ว

อาหารคราวนี้สั่ง Japanese Set ครับ เป็นข้าวกับไก่ผัดอะไรซักอย่าง แล้วก็หัวไช้เท้าดอง เต้าหู้ ผลไม้ อิ่มเหมือนเดิม



จากนั้นไม่หลับแล้วครับ แปบเดียวเครื่องก็ถึงโอซาก้าครับ แลนดิ้งอย่างสวยงาม



คุมะมงมาถึงโอซาก้าแล้วก๊าบบบบ









จากนั้นก็ไปลั้นลาโอซาก้า เกียวโต กันสี่วันรวดครับ (เดี๋ยวมารีวิวให้ชมครับผม) วันที่ 19 กย. ก็ได้เวลากลับบ้าน (เงินหมดแล้วนี่) นั่งรถไฟจาก Shin-Imamiya ใกล้ๆ ที่พัก เข้าสนามบินคันไซครับ



ค่าโดยสาร 920 เยน



ที่คันไซ รีบมากครับ เลยไม่ได้ถ่ายภาพเคาน์เตอร์เช็คอินมา ส่วนถ้าใครไปกับสายนี้ ต้องไปเช็คเคาน์เตอร์เช็คอินอีกครั้งที่สนามบินครับ ว่าจะเช็คตรงไหน ที่นี่เราก็จะได้บอร์ดดิ้งพาสมาอีกสองใบ ไว้บินไปโฮจิมินห์ และกรุงเทพครับ จากนั้นก็ไปขึ้นเครื่อง (ดิวตี้ฟรี ไม่สามารถทำอะไรเราได้ เพราะเงินเราหมดแล้ว อิอิ)







วันนี้เราบินเครื่อง Airbus A330 ครับ ลำใหญ่กว่าขามา จัดที่นั่งแบบ 2 - 4 - 2 ผมเลือกที่นั่งสองที่ติดหน้าต่างครับ มากับแฟนก็เป็นส่วนตัวดี







รอบนี้มีจอส่วนตัวทุกที่นั่งครับ ความบันเทิงก็เหมือนๆ กับสายการบินอื่นๆ มีหนัง มีเพลง ดู flight Map ได้ ก็ช่วยคลายเหงาไปได้บ้างครับ แต่ซับเวียดนามนี่ อ่านไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ อิอิ







Seat Pitch กว้างกว่า A321 มากมายครับ ถูกใจคนตัวสูงอย่างผมจริงๆ





เครื่องขึ้นซักพัก แอร์ก็เริ่มเสริฟๆ ครับ ครบครันเช่นเดิม ขาออกจากญี่ปุ่นนี่ เบียร์เป็น อาซาฮี กับกิริน นะครับ ถูกใจยิ่งนัก



ซักสองชั่วโมงก่อนเครื่องลง ก็เสริฟอาหารครับ มีสองเซ็ต Western Style กับ Japanese Style ลองสั่งมาทั้งสองแบบ แบ่งกันกิน อร่อยใช้ได้เลยครับ

Western Style


Japanese Style


กินอิ่ม หลับตาพักซักแป๊บ ก็ถึงสนามบิน ทรัน เซิ่น เยิ๊ต (เรียกยากแท้) ที่โฮจิมินห์ครับ ที่นี่สนามบินจะดูเก่ากว่า แต่ก็มีสายการบินบินเข้าออกถี่เหมือนกันครับ มีไวไฟฟรีให้เล่นเหมือนกับที่ฮานอยเช่นกัน ที่นี่เราก็รอเปลี่ยนเครื่อง 3 ชม.เหมือนขาไปครับ

ชื่อสินค้า:   Vitenam Airline
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่