ทริปญี่ปุ่นครั้งแรกในชีวิตตะลุยกันแค่ 2 คน หาข้อมูลกันไปมาจนมาลงเอยที่ตั๋วโปรโมชั่น
แต่ได้บริการ Full service จากสายการบิน Vietnam airline (บริการอาหารพร้อมโหลดกระเป๋าได้ถึง 30 กก.)
ตั๋วโปรที่ว่านี้เราสอยมาได้ในราคา 10,774.22 บาท
เดินทาง 16 พย. 60 - 21 พย.60
แต่จริง ๆ ราคาโปรโมชั่น vitenam airlines ออกมาตอนนั้นของเส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว
อยู่ที่ประมาณ 9,300 บาท ถือว่าราคาไม่ห่างจากราคาโปรมาก
ขาไป ๆ จากสุวรรณภูมิต้องไปต่อเครื่องที่ฮานอยนั่ง airbus A321 ที่นั่ง 3-3 (เครื่องแนว ๆ แอร์เอเซีย)
ไฟล์ทนี้เดินทาง 2 ชม. มีเมนูให้เลือกระหว่างบิน 2 เมนู
เครื่องดื่มมีบริการจัดให้ครบตั้งแต่น้ำเปล่า น้ำผลไม้ เบียร์ แล้วก็ไวน์
ปลา+มันอบให้เลือก
บะหมี่ไก่
มาต่อเครื่องที่ฮานอยนี่สบายมากสนามบินเล็ก ไม่ต้องเดินไกล
ผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 เดินมามีป้ายบอกว่าต่อเครื่องเดินขึ้นไปชั้น 3 ผ่านเครื่องสแกนอีกรอบ
ตรงนี้ถอดรองเท้าใส่เข้าเครื่องสแกนกันทุกคนไม่มีเว้น
มาถึงช่วงหัวค่ำคนยังน้อยอยู่มากเลือกจับจองที่นั่ง+นอนรอได้เลย มีเยอะมากกกก
หรือมาเดิน shopping แก้เซ็งก่อนไม่ช็อปกระจายที่ญี่ปุ่นก็ได้
ถ้าอยากกินเฝอลองดูร้านนี้เห็นมีป้ายผญ.ยกนิ้วอยู่หน้าร้านสงสัยอร่อย 555
ขาไปมารอเปลี่ยนเครื่องที่เวียดนามประมาณ 4 ชม. แล้วก็ต่อไปนาริตะตอนประมาณเที่ยงคืน
รอลุ้นมากว่าจะได้นั่ง dreamliner ตัวใหม่หรือเปล่า
สรุปจากเวียดนามไปนาริตะรอบนี้ได้เครื่อง Boeing 787-9 ทั้งขาไปและกลับที่นั่งแบบ 3-3-3
(**ขากลับรอเปลี่ยนเครื่องที่เวียดนามประมาณเกอบ 2 ชม.)
สำหรับเส้นทางบินฮานอย-นาริตะใช้เวลาบินประมาณ 5 ชม.
ขึ้นเครื่องปุ๊บเครื่องนอนพร้อม
จะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ หูฟังก็มีให้
หน้าจอส่วนตัวทุกที่นั่ง
เครื่องออกแล้วนอนได้ แต่นอนไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ตื่นซะแล้ว เตรียมกินอาหารเช้ากันก่อนเครื่องลง
เมนูอาหารจะเป็นเมนูประจำในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 เดือนนี้แล้วถึงจะเปลี่ยนเมนูอีกที
เมนูอาหารมีแบบ Japanese Style กับ Western Style
(ขาไปจากฮานอยเป็นอาหารเช้า ขากลับจากนาริตะเป็นอาหารกลางวัน)
เครื่องดื่มมีให้เลือกเยอะเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมี cocktail ด้วย
อันนี้เมนูJapanese Style ของเส้นทาง ฮานอย-นาริตะ
กินเสร็จปุ๊บมองออกไปนอกหน้าต่างฟ้าก็สว่างแล้วเตรียมตัว landing ได้เลย
ถึงตามเวลาที่กำหนดไว้พอดิบพอดี ออกมาคิวตม.ไม่เยอะ
ใช้เวลาตั้งแต่เครื่องลง ไปล้างหน้าแปรงฟัน รับกระเป๋า ผ่านตม. ผ่านศุลกากร น่าจะประมาณ 40 นาที่เห็นจะได้
ส่วนอันนี้เมนูไฟล์ทกลับจากนาริตะ-ฮานอย แจกถั่วก่อนด้วย(ขามาก็มีแต่ลืมถ่าย)
ใครอยากเห็นฟูจิซังบอกเลยว่าให้เลือกนั่งฝั่งซ้ายขากลับจากนาริตะนะจ๊ะ
เพราะขาไปกัปตันบินออกทะเลจ้าาาาาาา
อันนี้เฉพาะสายการบิน Vietnam airline เท่านั้นนะ สายการบินอื่นเค้ามักจะเจอขาไปกัน
แล้วทำไงจะได้นั่งที่ ๆ อยากนั่งหล่ะ ก็ check in online และเลือกที่นั่งเองโลดดดดด
เค้าเปิดให้ check in online ได้ 24 ชม.ก่อนบินเราเลยจัดแจงที่นั่งได้สมใจ
ส่วนอันนี้เมนูขากลับจากฮานอย-กรุงเทพ นั่ง Airbus A321 เหมือนเดิม
เหตุผลที่เราเลือกเดินทางจาก Vietnam airlines ก็เพราะ
1. งบประมาณจำกัด(ตั้งงบไว้หมื่นนิด ๆ)
2. เทียบกับ low cost ในไทยที่บินตรงในช่วงเวลาเดียวกัน
2.1 แอร์เอเชียลองบวกมันทุกอย่างเข้าไปสรุปแพงกว่า และเวลาก็ไม่ได้สวยไปกว่ากันมากนัก
2.2 Nok skoot เห็นมีปัญหาเทผู้โดยสารอยู่หลายรอบเลยตัดไปก่อนเลยจ้าาาา
3. เทียบกับ Full service ที่ต้องเปลี่ยนเครื่อง ณ ตอนนั้นเอามาเทียบด้วยอีก 2 เจ้าคือ
3.1 Hongkong airlines ที่ราคาน่าจะใกล้เคียงกับเวียดนามมากที่สุดแล้ว
แต่ไม่เลือกเพราะอ่านเจอบ่อยว่าชอบ delay บ่อย และ delay นานด้วย
3.2 Cathy Pacific ก็อยากนั่งนะ แต่ราคาก็แพงกว่าประมาณ 5000 ซึ่งถ้าบวกอีกนิดก็บินตรงเลยไม่ดีกว่าหรอ
4. จากการหาข้อมูลที่ผ่านมาเรายังไม่เจอปัญหา flight delay ของเวียดนาม แอร์ไลน์
ในเส้นทาง ฮานอย-นาริตะและนาริตะ-ฮานอย รวมถึงเส้นทางที่ลงเมืองอื่นในญี่ปุ่น
แค่นี้แหละที่เราเลือกบินไปญีปุ่นกับ Vietnam airlines
อันนี้คือเวลาไฟล์ทบินทั้งไป-กลับที่เดินทาง
บริการ Full service จาก Vietnam airline เส้นทางกรุงเทพ-ญี่ปุ่น(ทุกเมือง)
บอกเลยว่าได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างมากรับรองไปไม่มีเหงาแน่นอนเชื่อเรา
[CR] Full service กรุงเทพ-โตเกียว(นาริตะ) ราคาสบายกระเป๋ากับ Vietnam airlines
แต่ได้บริการ Full service จากสายการบิน Vietnam airline (บริการอาหารพร้อมโหลดกระเป๋าได้ถึง 30 กก.)
ตั๋วโปรที่ว่านี้เราสอยมาได้ในราคา 10,774.22 บาท
เดินทาง 16 พย. 60 - 21 พย.60
แต่จริง ๆ ราคาโปรโมชั่น vitenam airlines ออกมาตอนนั้นของเส้นทางกรุงเทพ-โตเกียว
อยู่ที่ประมาณ 9,300 บาท ถือว่าราคาไม่ห่างจากราคาโปรมาก
ขาไป ๆ จากสุวรรณภูมิต้องไปต่อเครื่องที่ฮานอยนั่ง airbus A321 ที่นั่ง 3-3 (เครื่องแนว ๆ แอร์เอเซีย)
ไฟล์ทนี้เดินทาง 2 ชม. มีเมนูให้เลือกระหว่างบิน 2 เมนู
เครื่องดื่มมีบริการจัดให้ครบตั้งแต่น้ำเปล่า น้ำผลไม้ เบียร์ แล้วก็ไวน์
ปลา+มันอบให้เลือก
บะหมี่ไก่
มาต่อเครื่องที่ฮานอยนี่สบายมากสนามบินเล็ก ไม่ต้องเดินไกล
ผู้โดยสารขาเข้าชั้น 2 เดินมามีป้ายบอกว่าต่อเครื่องเดินขึ้นไปชั้น 3 ผ่านเครื่องสแกนอีกรอบ
ตรงนี้ถอดรองเท้าใส่เข้าเครื่องสแกนกันทุกคนไม่มีเว้น
มาถึงช่วงหัวค่ำคนยังน้อยอยู่มากเลือกจับจองที่นั่ง+นอนรอได้เลย มีเยอะมากกกก
หรือมาเดิน shopping แก้เซ็งก่อนไม่ช็อปกระจายที่ญี่ปุ่นก็ได้
ถ้าอยากกินเฝอลองดูร้านนี้เห็นมีป้ายผญ.ยกนิ้วอยู่หน้าร้านสงสัยอร่อย 555
ขาไปมารอเปลี่ยนเครื่องที่เวียดนามประมาณ 4 ชม. แล้วก็ต่อไปนาริตะตอนประมาณเที่ยงคืน
รอลุ้นมากว่าจะได้นั่ง dreamliner ตัวใหม่หรือเปล่า
สรุปจากเวียดนามไปนาริตะรอบนี้ได้เครื่อง Boeing 787-9 ทั้งขาไปและกลับที่นั่งแบบ 3-3-3
(**ขากลับรอเปลี่ยนเครื่องที่เวียดนามประมาณเกอบ 2 ชม.)
สำหรับเส้นทางบินฮานอย-นาริตะใช้เวลาบินประมาณ 5 ชม.
ขึ้นเครื่องปุ๊บเครื่องนอนพร้อม
จะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ หูฟังก็มีให้
หน้าจอส่วนตัวทุกที่นั่ง
เครื่องออกแล้วนอนได้ แต่นอนไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ตื่นซะแล้ว เตรียมกินอาหารเช้ากันก่อนเครื่องลง
เมนูอาหารจะเป็นเมนูประจำในช่วงระยะเวลาประมาณ 3 เดือนนี้แล้วถึงจะเปลี่ยนเมนูอีกที
เมนูอาหารมีแบบ Japanese Style กับ Western Style
(ขาไปจากฮานอยเป็นอาหารเช้า ขากลับจากนาริตะเป็นอาหารกลางวัน)
เครื่องดื่มมีให้เลือกเยอะเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมี cocktail ด้วย
อันนี้เมนูJapanese Style ของเส้นทาง ฮานอย-นาริตะ
กินเสร็จปุ๊บมองออกไปนอกหน้าต่างฟ้าก็สว่างแล้วเตรียมตัว landing ได้เลย
ถึงตามเวลาที่กำหนดไว้พอดิบพอดี ออกมาคิวตม.ไม่เยอะ
ใช้เวลาตั้งแต่เครื่องลง ไปล้างหน้าแปรงฟัน รับกระเป๋า ผ่านตม. ผ่านศุลกากร น่าจะประมาณ 40 นาที่เห็นจะได้
ส่วนอันนี้เมนูไฟล์ทกลับจากนาริตะ-ฮานอย แจกถั่วก่อนด้วย(ขามาก็มีแต่ลืมถ่าย)
ใครอยากเห็นฟูจิซังบอกเลยว่าให้เลือกนั่งฝั่งซ้ายขากลับจากนาริตะนะจ๊ะ
เพราะขาไปกัปตันบินออกทะเลจ้าาาาาาา
อันนี้เฉพาะสายการบิน Vietnam airline เท่านั้นนะ สายการบินอื่นเค้ามักจะเจอขาไปกัน
แล้วทำไงจะได้นั่งที่ ๆ อยากนั่งหล่ะ ก็ check in online และเลือกที่นั่งเองโลดดดดด
เค้าเปิดให้ check in online ได้ 24 ชม.ก่อนบินเราเลยจัดแจงที่นั่งได้สมใจ
ส่วนอันนี้เมนูขากลับจากฮานอย-กรุงเทพ นั่ง Airbus A321 เหมือนเดิม
เหตุผลที่เราเลือกเดินทางจาก Vietnam airlines ก็เพราะ
1. งบประมาณจำกัด(ตั้งงบไว้หมื่นนิด ๆ)
2. เทียบกับ low cost ในไทยที่บินตรงในช่วงเวลาเดียวกัน
2.1 แอร์เอเชียลองบวกมันทุกอย่างเข้าไปสรุปแพงกว่า และเวลาก็ไม่ได้สวยไปกว่ากันมากนัก
2.2 Nok skoot เห็นมีปัญหาเทผู้โดยสารอยู่หลายรอบเลยตัดไปก่อนเลยจ้าาาา
3. เทียบกับ Full service ที่ต้องเปลี่ยนเครื่อง ณ ตอนนั้นเอามาเทียบด้วยอีก 2 เจ้าคือ
3.1 Hongkong airlines ที่ราคาน่าจะใกล้เคียงกับเวียดนามมากที่สุดแล้ว
แต่ไม่เลือกเพราะอ่านเจอบ่อยว่าชอบ delay บ่อย และ delay นานด้วย
3.2 Cathy Pacific ก็อยากนั่งนะ แต่ราคาก็แพงกว่าประมาณ 5000 ซึ่งถ้าบวกอีกนิดก็บินตรงเลยไม่ดีกว่าหรอ
4. จากการหาข้อมูลที่ผ่านมาเรายังไม่เจอปัญหา flight delay ของเวียดนาม แอร์ไลน์
ในเส้นทาง ฮานอย-นาริตะและนาริตะ-ฮานอย รวมถึงเส้นทางที่ลงเมืองอื่นในญี่ปุ่น
แค่นี้แหละที่เราเลือกบินไปญีปุ่นกับ Vietnam airlines
อันนี้คือเวลาไฟล์ทบินทั้งไป-กลับที่เดินทาง
บริการ Full service จาก Vietnam airline เส้นทางกรุงเทพ-ญี่ปุ่น(ทุกเมือง)
บอกเลยว่าได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างมากรับรองไปไม่มีเหงาแน่นอนเชื่อเรา