โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ก.ย. 2559 23:09
แอร์บัส A350 เครื่องใหม่การบินไทย จอดรอซ่อมแซม หลังล้อของเครื่องบินเกิดหลุดขอบรันเวย์ ขณะแลนดิ้งสนามบินภูเก็ต จนยางล้อด้านซ้ายทั้ง 4 เส้นแตก ขณะทีมสอบหาสาเหตุที่แท้จริง 23 ก.ย.นี้ ...
จากกรณี เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 21 ก.ย. มีรายงานว่า สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 221 (BKK-HKT) ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 18.38 วันที่ 21 ก.ย. ปลายทางสนามบินนานาชาติ จ.ภูเก็ต โดยใช้อากาศยานแบบ แอร์บัส A350-900XWB จากนั้นเวลา 19.46 น.วันเดียวกัน ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องลงสู่รันเวย์ของสนามบินภูเก็ตได้มีฝนตกและลมกระโชกแรง ส่งผลให้ขณะลงจอด ล้อของเครื่องบินเกิดหลุดขอบรันเวย์ลงสู่พื้นดินด้านข้างรันเวย์ โดยภายในเครื่องมีผู้โดยสารจำนวน 140 คน แต่นักบินสามารถดึงเครื่องและล้อกลับสู่พื้นรันเวย์ได้ และนำเครื่องจอดบนรันเวย์ได้ตามปกติ โดยไม่มีผู้โดยสารบนเครื่องได้รับอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ทั้งนี้ เบื้องต้นมีรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบพบเศษหญ้าติดที่ล้อ-ยางและได้รับความเสียหาย 4 เส้น อากาศยานได้ลากมาจอดที่หลุม 9 ได้ตามปกติ ไฟขอบรันเวย์ (Runway edge light ) เสียหาย 3 ดวง จากนั้นเวลา 20.20 น.ได้มีการตรวจพบเศษไฟรันเวย์บนทางวิ่ง จึงต้องปิดทางวิ่งเป็นการชั่วคราว เพื่อเก็บเศษไฟที่แตกเสียหายและได้เคลียร์รันเวย์เป็นที่เรียบร้อย จนสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติในเวลา 22.10 น.วันเดียวกัน แต่เครื่องบินที่อยู่ในหลุมจอดจะต้องทำการตรวจสอบเป็นเวลา 12 ชม.
ต่อมาเมื่อเวลา 23.30 น. บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีเที่ยวบินที่ TG 221 ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทยจำกัด(มหาชน) ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.เที่ยวบินที่ TG 221 เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต มีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 18.15 น.และถึงท่าอากาศยานภูเก็ต เวลา 19.35 น.ขณะนั้นท่าอากาศยานภูเก็ตมีฝนตก แต่ยังอยู่ในทัศนวิสัยที่สามารถทำการบินลงจอดได้
จากนั้นเอง นักบินจึงได้นำเครื่องบินลงจอด แต่ขณะที่ล้อเครื่องบินลงแตะพื้น คาดว่าเกิดมีลมกระโชกแรงมาปะทะ ทำให้เครื่องเซและล้อแฉลบออกนอกรันเวย์ อย่างไรก็ตาม นักบินสามารถบังคับเครื่องบินให้กลับเข้ารันเวย์ได้และนำเครื่องเข้าจอดที่หลุมจอดได้อย่างปลอดภัย และไม่มีผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้ตรวจพบว่ายางล้อด้านซ้ายทั้ง 4 เส้นแตก ทำให้เครื่องบินไม่สามารถทำการบินเที่ยวกลับได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในเที่ยวบินขากลับ
ต่อมา บริษัทฯ จึงได้ประสานและดำเนินการจัดหาเที่ยวบินอื่นให้ผู้โดยสารเดินทางในเที่ยวกลับแทน สำหรับสาเหตุที่ยางทั้ง 4 เส้นแตก บริษัทฯจะดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป อนึ่งเที่ยวบินที่ TG 221 เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ตดังกล่าวทำการบินด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 350 บรรทุกผู้โดยสาร 138คนและลูกเรือ 14 คนล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.มีรายงานว่า แอร์บัส A 350 ของสายการบินไทยที่ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกจากรันเวย์สนามบินภูเก็ตยังคงจอดรอซ่อมอยู่บริเวณหลุมจอดที่ 9 ของท่าอากาศยานภูเก็ต โดยยังไม่มีการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด
ความคืบหน้า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (22 ก.ย.) ทีมสอบสวนข้อเท็จจริงอากาศยานอุบัติเหตุแห่งราชอาณาจักรได้เริ่มสอบปากคำแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาคพื้นของท่าอากาศยานภูเก็ต ภาคพื้นของการบินไทยร่วมกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู จากนั้นในวันที่ 23 ก.ย. ทีมสอบสวนข้อเท็จจริงจะมีการสอบพนักงานศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต พร้อมกับเข้าวัดระยะรอยล้อที่ทางวิ่งหรือรันเวย์ เพื่อสรุปผลการสอบสวนรายงานต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยต่อไป ซึ่งแนวทางการสอบสวนดังกล่าว เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เช่น เกิดจากสภาพอากาศในขณะเกิดเหตุหรือเกิดจากเครื่องบิน ตลอดจนตัวนักบิน ซึ่งได้มีการนำกล่องดำของเครื่องบินไปตรวจสอบแล้วเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า หลังเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้เครื่องบินที่ต้องบินลงสนามบินภูเก็ตต้องบินวนรอบน่านฟ้าสนามบินภูเก็ตจำนวน 13 เที่ยวบิน และเที่ยวบินที่ต้องจอดรถการเคลียร์รันเวย์หลังเกิดเหตุอีก 9 เที่ยวบิน เนื่องจากต้องทำความสะอาดเก็บเศษไฟรันเวย์ที่แตก 3 ดวงกระจายอยู่บนรันเวย์.
อ่านข่าวต่อได้ที่:
http://www.thairath.co.th/content/731265
แอร์บัสบินไทย จอดรอซ่อมหลังไถลออกรันเวย์ สนามบินภูเก็ต
แอร์บัส A350 เครื่องใหม่การบินไทย จอดรอซ่อมแซม หลังล้อของเครื่องบินเกิดหลุดขอบรันเวย์ ขณะแลนดิ้งสนามบินภูเก็ต จนยางล้อด้านซ้ายทั้ง 4 เส้นแตก ขณะทีมสอบหาสาเหตุที่แท้จริง 23 ก.ย.นี้ ...
จากกรณี เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 21 ก.ย. มีรายงานว่า สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 221 (BKK-HKT) ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 18.38 วันที่ 21 ก.ย. ปลายทางสนามบินนานาชาติ จ.ภูเก็ต โดยใช้อากาศยานแบบ แอร์บัส A350-900XWB จากนั้นเวลา 19.46 น.วันเดียวกัน ขณะที่นักบินกำลังนำเครื่องลงสู่รันเวย์ของสนามบินภูเก็ตได้มีฝนตกและลมกระโชกแรง ส่งผลให้ขณะลงจอด ล้อของเครื่องบินเกิดหลุดขอบรันเวย์ลงสู่พื้นดินด้านข้างรันเวย์ โดยภายในเครื่องมีผู้โดยสารจำนวน 140 คน แต่นักบินสามารถดึงเครื่องและล้อกลับสู่พื้นรันเวย์ได้ และนำเครื่องจอดบนรันเวย์ได้ตามปกติ โดยไม่มีผู้โดยสารบนเครื่องได้รับอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ทั้งนี้ เบื้องต้นมีรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบพบเศษหญ้าติดที่ล้อ-ยางและได้รับความเสียหาย 4 เส้น อากาศยานได้ลากมาจอดที่หลุม 9 ได้ตามปกติ ไฟขอบรันเวย์ (Runway edge light ) เสียหาย 3 ดวง จากนั้นเวลา 20.20 น.ได้มีการตรวจพบเศษไฟรันเวย์บนทางวิ่ง จึงต้องปิดทางวิ่งเป็นการชั่วคราว เพื่อเก็บเศษไฟที่แตกเสียหายและได้เคลียร์รันเวย์เป็นที่เรียบร้อย จนสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติในเวลา 22.10 น.วันเดียวกัน แต่เครื่องบินที่อยู่ในหลุมจอดจะต้องทำการตรวจสอบเป็นเวลา 12 ชม.
ต่อมาเมื่อเวลา 23.30 น. บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีเที่ยวบินที่ TG 221 ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท การบินไทยจำกัด(มหาชน) ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย.เที่ยวบินที่ TG 221 เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต มีกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 18.15 น.และถึงท่าอากาศยานภูเก็ต เวลา 19.35 น.ขณะนั้นท่าอากาศยานภูเก็ตมีฝนตก แต่ยังอยู่ในทัศนวิสัยที่สามารถทำการบินลงจอดได้
จากนั้นเอง นักบินจึงได้นำเครื่องบินลงจอด แต่ขณะที่ล้อเครื่องบินลงแตะพื้น คาดว่าเกิดมีลมกระโชกแรงมาปะทะ ทำให้เครื่องเซและล้อแฉลบออกนอกรันเวย์ อย่างไรก็ตาม นักบินสามารถบังคับเครื่องบินให้กลับเข้ารันเวย์ได้และนำเครื่องเข้าจอดที่หลุมจอดได้อย่างปลอดภัย และไม่มีผู้โดยสารและลูกเรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้ตรวจพบว่ายางล้อด้านซ้ายทั้ง 4 เส้นแตก ทำให้เครื่องบินไม่สามารถทำการบินเที่ยวกลับได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในเที่ยวบินขากลับ
ต่อมา บริษัทฯ จึงได้ประสานและดำเนินการจัดหาเที่ยวบินอื่นให้ผู้โดยสารเดินทางในเที่ยวกลับแทน สำหรับสาเหตุที่ยางทั้ง 4 เส้นแตก บริษัทฯจะดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป อนึ่งเที่ยวบินที่ TG 221 เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ตดังกล่าวทำการบินด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 350 บรรทุกผู้โดยสาร 138คนและลูกเรือ 14 คนล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.มีรายงานว่า แอร์บัส A 350 ของสายการบินไทยที่ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกจากรันเวย์สนามบินภูเก็ตยังคงจอดรอซ่อมอยู่บริเวณหลุมจอดที่ 9 ของท่าอากาศยานภูเก็ต โดยยังไม่มีการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด
ความคืบหน้า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (22 ก.ย.) ทีมสอบสวนข้อเท็จจริงอากาศยานอุบัติเหตุแห่งราชอาณาจักรได้เริ่มสอบปากคำแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาคพื้นของท่าอากาศยานภูเก็ต ภาคพื้นของการบินไทยร่วมกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู จากนั้นในวันที่ 23 ก.ย. ทีมสอบสวนข้อเท็จจริงจะมีการสอบพนักงานศูนย์ควบคุมการบินภูเก็ต พร้อมกับเข้าวัดระยะรอยล้อที่ทางวิ่งหรือรันเวย์ เพื่อสรุปผลการสอบสวนรายงานต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยต่อไป ซึ่งแนวทางการสอบสวนดังกล่าว เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เช่น เกิดจากสภาพอากาศในขณะเกิดเหตุหรือเกิดจากเครื่องบิน ตลอดจนตัวนักบิน ซึ่งได้มีการนำกล่องดำของเครื่องบินไปตรวจสอบแล้วเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า หลังเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้เครื่องบินที่ต้องบินลงสนามบินภูเก็ตต้องบินวนรอบน่านฟ้าสนามบินภูเก็ตจำนวน 13 เที่ยวบิน และเที่ยวบินที่ต้องจอดรถการเคลียร์รันเวย์หลังเกิดเหตุอีก 9 เที่ยวบิน เนื่องจากต้องทำความสะอาดเก็บเศษไฟรันเวย์ที่แตก 3 ดวงกระจายอยู่บนรันเวย์.
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/731265