บริษัทส่งผมไปทำงานในชนบทของ จ.เลย เป็นเวลา 1 เดือน จึงได้รู้ว่าเกษตรกรในตำบลนี้ที่มีอาชีพทำไร่ข้าวโพดขาย เกิน 50% มีฐานะพอๆ กับชนชั้นกลางใน กทม อีกเกือบ 10% เข้าขั้นเศรษฐี 10 ล้านขึ้น(กลุ่มนี้นอกจากทำไร่แล้วก็เป็นพ่อค้าคนกลางรับซื้อข้าวโพด กับ รับจ้างขนหินดินทราย ออกรถพ่วงรถสิบล้อกันเป็นว่าเล่น)
เห็นเขาอยู่บ้านไม้ครึ่งปูนหลังเก่าๆ รกๆ แต่งตัวกินอยู่ธรรมดาๆ ใช้มือถือปุ่มกดแบบนั้น มีเงินฝากกันเป็นล้านครับ มีรถกระบะกับรถไถคูโบต้าแทบทุกหลังคาเรือน(ค่านิยมนี้ ครอบครัวที่จน ไม่มีเงินเก็บก็เอาด้วย โดยการซื้อมือรถสอง ผ่อนเป็นรายปี)
มีรายได้จากการทำไร่ข้าวโพดเฉลี่ยแล้วปีละประมาณ 5 แสนต่อครัวเรือน จากเงินลงทุนแสนกว่าบาท รายจ่ายประจำวันมีไม่มาก เนื่องจากปลูก เลี้ยง และหากินเองเป็นส่วนใหญ่ รายจ่ายหลักๆ ต่อวัน คือให้เงินลูกวัยมัธยมไปโรงเรียน แล้วส่วนใหญ่จะได้ผัวได้เมียก่อนจบ ม.6 พ่อแม่จึงไม่ต้องเสียเงินส่งเรียนถึงมหาวิทยาลัย
แต่เป็นหนี้ ธกส ทุกครอบครัวครับ และพักชำระหนี้เกือบ 100% บอกที่กู้เพราะต้องการเงินฌาปนกิจ ที่พักชำระหนี้ก็ทำตามสิทธิ์ที่รัฐให้ แถมยังได้เงินชดเชยไร่ละพันอีกด้วย
สรุป จากที่ผมเจอมา เกษตรกรใน จ.เลย กับ จ.เพชรบูรณ์ ไม่จนครับ
ครอบครัวชนบท อาชีพเกษตรกรที่ผมเห็น ไม่จนครับ
เห็นเขาอยู่บ้านไม้ครึ่งปูนหลังเก่าๆ รกๆ แต่งตัวกินอยู่ธรรมดาๆ ใช้มือถือปุ่มกดแบบนั้น มีเงินฝากกันเป็นล้านครับ มีรถกระบะกับรถไถคูโบต้าแทบทุกหลังคาเรือน(ค่านิยมนี้ ครอบครัวที่จน ไม่มีเงินเก็บก็เอาด้วย โดยการซื้อมือรถสอง ผ่อนเป็นรายปี)
มีรายได้จากการทำไร่ข้าวโพดเฉลี่ยแล้วปีละประมาณ 5 แสนต่อครัวเรือน จากเงินลงทุนแสนกว่าบาท รายจ่ายประจำวันมีไม่มาก เนื่องจากปลูก เลี้ยง และหากินเองเป็นส่วนใหญ่ รายจ่ายหลักๆ ต่อวัน คือให้เงินลูกวัยมัธยมไปโรงเรียน แล้วส่วนใหญ่จะได้ผัวได้เมียก่อนจบ ม.6 พ่อแม่จึงไม่ต้องเสียเงินส่งเรียนถึงมหาวิทยาลัย
แต่เป็นหนี้ ธกส ทุกครอบครัวครับ และพักชำระหนี้เกือบ 100% บอกที่กู้เพราะต้องการเงินฌาปนกิจ ที่พักชำระหนี้ก็ทำตามสิทธิ์ที่รัฐให้ แถมยังได้เงินชดเชยไร่ละพันอีกด้วย
สรุป จากที่ผมเจอมา เกษตรกรใน จ.เลย กับ จ.เพชรบูรณ์ ไม่จนครับ