คือถ้าเราแคร์ใครสักคนอยู่ แต่รู้ว่าสถานะตัวเองว่าเป็นได้แค่ไหน
ต้องคอยรับฟังความรู้สึกของเค้า เรื่องเก่าๆของเค้า เป็นคนปรึกษาให้เค้า มั้งที่ในใจลึกก็แคร์เค้าพอๆกับที่เค้ารักอีกคน
ส่วนเราที่ทำไปก็เพราะแคร์เค้า แล้วก็มีความสุขและทุกข์ไปพร้อมกัน อยากพูดอะไรที่เป็นตัวตนของเราก็ไม่ได้ กลัวว่าเค้าจะเปลี่ยนไป ต้องเก็บไว้ในใจ
ต้องทำอะไรสวนทางกับความรู้สึกตัวเอง เหมือนหลอกตัวเอง พยายามยื้อเวลา ถึงเวลาเค้าคุยถึงคนเก่ารู้สึกถึงคนเก่า เราก็จะต้องทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แล้วก็แกล้งหัวเราะ แกล้งเป็นคนสนุกสนาน เสเสร้งไป
บางทีผมก็อยากเป็นตัวร้ายนะ ที่ทำตามใจตัวเองบ้างทำตามความรู้สึกที่รู้สึกอะไรก็ทำ ไม่ใช่พระเอกที่ต้องทำอะไรเพราะแคร์ความรู้สึกคนอื่นอย่างเดียว
บางทีการเป็นตัวร้ายคงจะมีความสุข มากกว่าการเป็นพระเอก
อยากเป็นตัวร้าย แต่สถานการณ์บังคับให้เป็นพระเอก มีใครเคยเจอแบบนี้บ้างครับ
ต้องคอยรับฟังความรู้สึกของเค้า เรื่องเก่าๆของเค้า เป็นคนปรึกษาให้เค้า มั้งที่ในใจลึกก็แคร์เค้าพอๆกับที่เค้ารักอีกคน
ส่วนเราที่ทำไปก็เพราะแคร์เค้า แล้วก็มีความสุขและทุกข์ไปพร้อมกัน อยากพูดอะไรที่เป็นตัวตนของเราก็ไม่ได้ กลัวว่าเค้าจะเปลี่ยนไป ต้องเก็บไว้ในใจ
ต้องทำอะไรสวนทางกับความรู้สึกตัวเอง เหมือนหลอกตัวเอง พยายามยื้อเวลา ถึงเวลาเค้าคุยถึงคนเก่ารู้สึกถึงคนเก่า เราก็จะต้องทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แล้วก็แกล้งหัวเราะ แกล้งเป็นคนสนุกสนาน เสเสร้งไป
บางทีผมก็อยากเป็นตัวร้ายนะ ที่ทำตามใจตัวเองบ้างทำตามความรู้สึกที่รู้สึกอะไรก็ทำ ไม่ใช่พระเอกที่ต้องทำอะไรเพราะแคร์ความรู้สึกคนอื่นอย่างเดียว
บางทีการเป็นตัวร้ายคงจะมีความสุข มากกว่าการเป็นพระเอก