ถ้าถามว่าในชีวิตของคุณไป เกาะพีพี สักกี่ครั้ง ??? คำตอบคงมีมากมายตามแต่ละคน
นับครั้งไม่ถ้วน
ไม่กี่ครั้ง
หรือ
ไม่เคยไปมาเลย ???
สำหรับผมนั้น
ครั้งแรกนั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือภูเก็ตไปขึ้นที่อ่าวต้นไทร และพักที่โรงแรมบนเกาะ และ เหมาเรือหางยาวให้เค้าพารอบๆ ทั้ง เกาะพีพี ดอน และ พีพี เล
ส่วนครั้งที่สองนั้นนั่งเรือสปีดโบ้ทไปแบบไปเช้า-เย็นกลับ โดยแวะ เกาะไข่ เป็นตัวแถม
ส่วนครั้งนี้ มีโอกาสอาศัยหน้าที่การงานติดเรือ Speed Boat ไปอีกครั้ง แต่รอบนี้พี่ๆ บอกว่า เราจะไปดูทริป " Phi Phi Luxury Trip " กัน โดย บริษัท Anchor Andaman ที่จำหน่ายทริปโดย Fantastic Similan Travel ที่ขึ้นชื่อเรื่องไกด์ฝั่งเกาะสิมิลัน (เดี๋ยวมาเล่ารอบหน้านะครับว่าไกด์ที่นี่เด็ดยังไง)
ทางทัวร์มีบริการรถรับส่ง แต่เราเลือกที่จะเดินทางไปยังท่าเรือเอง จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก ท่าเรือที่นี่ ใช้ท่าเรือ " Boat Lagoon" ที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองภูเก็ต ดังนั้นคนที่พักในตัวเมืองจึงไม่ต้องตื่นเช้านัก สามารถรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมได้สบายๆ ระหว่างรอรถของบริษัททัวร์มารับไปยังท่าเรือ
8.30 น. เรามาถึงก่อนใครที่ท่าขึ้นเรือของ Anchor Andaman ณ Boat Lagoon Phuket ซึ่งให้บริการเพียง 3 ลำเท่านั้น (ด้านซ้ายคนน้อยมาก ด้านขวาคนแน่นเชียว ซึ่งเป็นของ Ocean Mania ที่นำเที่ยวเกาะพีพี-เกาะไข่ และส่วนใหญ่จะเป็นกรุ๊ปจีน)
ด้านในที่รอสำหรับขึ้นเรือนั้นดูดีเกินคาดและมีที่นั่งไม่มากนัก เนื่องจากเรามาคนแรกเลยเลือกนั่งได้ตามสบาย
ห้องที่รอขึ้นเรือ ติดแอร์สบายๆ มี 2 ห้องขนาดกว้างขวางพอดีๆ ห้องแรกมีเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสำหรับเพื่อนๆ ที่อาจจะลืมพกมาหรืออยากจะได้พร๊อบในการไปเที่ยวทะเลเพิ่ม ก็สามารถเลือกซื้อได้ ส่วนอีก 1 ห้องดูสบายๆ กว่า เพราะ ไม่มีของขาย มีเฉพาะชากาแฟและขนมปัง ที่ผู้โดยสายที่ซื้อทริปเดินเวียนมาหยิบไปกินบ้าง รวมๆ แล้วก็สบายทีเดียวสำหรับที่นั่งรอขึ้นเรือ
ออกจากห้องรับรองเป็นท่าเรือที่จอดเรือหลากหลายประเภท เป็น Background สวยๆ ให้ถ่ายภาพ นักท่องเที่ยวหลายๆ คนยืนโพสท่าโดยมีฉากเรือสวยๆเป็นฉากหลัง แต่วันนี้มาทำงานไม่มีนายแบบหรือนางแบบมาเป็นแบบให้ถ่ายรูปด้วย
จุดแรกที่เราเดินทางมาถึงคือ เกาะไม้ไผ่ หรือ Bamboo Island คล้ายๆ เกาะไข่ แต่ไม่มีร่มชายหาด มองไกลๆ มีชายหาดที่กว้างเลยทีเดียว มีเรือจอดอยู่เพียงไม่กี่ลำ พี่ๆ บอกว่า มาตอนเช้าๆ จะไม่ค่อยร้อนและยังมีนักท่องเที่ยวมาน้อย จุดนี้จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำทะเลใสๆ หรือ Snorkeling ส่วนตัวผมนั้นว่ายน้ำไม่เป็นและมือถือกล้องเลยเลือกที่จะเดินไปรอบๆ เกาะถ่ายรูปดูว่าบนเกาะมีอะไรบ้าง
ความหิวคืบคลานเข้าสู่กระเพาะราวกับเมฆฝนที่ค่อยก่อตัวกลางทะเล แม้จะไม่มีเสียงคลืนๆ ของท้องฟ้า แต่ เสียงดังจากท้องของทุกคนดังยิ่งกว่า .... " ถึงเวลาอาหารแล้ว เดี๋ยวเราจะไปกินอาหารกัน" พี่ๆ ประกาศ ราวกับเสียงจากสวรรค์
รอบที่แล้ว มาเที่ยวด้วย Speedboat เช่นกัน แต่ได้รับประทานอาหารที่ร้านอาหารแถวอ่าวต้นไทร ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่.... ที่นี่ คือ ที่ไหน ??? [คำถามในใจเพราะไม่เคยมา] พี่หมูอ้วน (ผู้นำทีม) บอกว่า จุดนี้เป็น โรงแรม Phi Phi Island Village ที่อยู่อีกฝั่งของเกาะพีพี ดอน เป็นโรงแรมระดับ 4.5 ดาว และเราจะได้รับประทานอาหารในโรงแรมนี้ พร้อมพักผ่อนบนหาดส่วนตัวของโรงแรม
แม้ว่าหาดทรายและน้ำทะเล จะไม่ขาวและไม่ใส เหมือนบนเกาะไม้ไผ่ ตรงจุดแรก แต่ บรรยากาศที่นี่ ทำให้รู้สึกสงบสบาย แตกต่างจากภาพเกาะพีพี ที่มีข่าวออกบ่อยๆ ว่านักท่องเที่ยวเนืองแน่น จนคนไทยขยาดที่จะมา
แต่ที่นี่เป็นหาดกว้างที่จะให้คนที่มาเที่ยวได้พักอย่างสงบๆ ซึมซับกับธรรมชาติ .... ไม่ ๆ ๆ สำหรับคนไทย แดดมา ฟ้าสวยแล้ว ถ่ายรูปสิครับรออะไร ฮ่าๆๆๆๆ
เลยจากหาดทรายเข้ามาก็เป็นบริเวณโรงแรมที่เราสามารถไปโพสท่าถ่ายรูปได้
ส่วนอาหารนั้น อร่อยแบบไม่ต้องพูดถึง รสชาติส่วนใหญ่ก็จะเป็นรสชาติกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวมากหรือเผ็ดจนเกินไป
[ส่วนเรียกว่าอะไรนั้น ..... อิอิ จำไม่ได้ครับ]
หลังจากอิ่มหนำสำราญ และ ถ่ายรูปกันครบพันแล้วนั้น ก็ได้เวลาเดินทางด้วยรถลุยหาดเพื่อขึ้นเรือไปยังจุดต่อไป
บ๊าย บาย PHI PHI ISLAND VILLAGE เกาะพีพี ดอน
ปิเล๊ะ ลากูน [Pileh Lagoon]
จุดเล่นน้ำที่เคยมา 2 รอบแล้วเมื่อหลายปีก่อน ไม่สวยงามเท่าวันนี้ น้ำใสสีเขียวมรกตมองเห็นใต้ผืนน้ำสะท้อนแสงแดดวิบวับๆ
เอาจริงๆ วันนี้ผมว่าน้ำสวยพอๆ กับ เกาะตาชัย ที่ปิดไปแล้วกันเลยทีเดียว [ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานน้ำใสๆ มาให้ได้ชม] สวยจังอันดามันบ้านของผม
อธิษฐานขอบคุณสวรรค์ฺเรียบร้อยแล้ว กับตันของเราก็พุ่งเรือเข้าสู่ Pileh Lagoon
โอ้วมายก๊อดดดดดดด วาวววววว สวยมากกกกกกก [ฝรั่งข้างๆ อุทาน]
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดด สวยมากกกกกก [สาวๆ ข้างๆ ร้องอุทาน]
ส่วนผม มือกดชัตเตอร์กล้องรัวๆๆๆๆๆๆ
ไม่มีใครต้านพลังเย้ายวนชวนให้ลงไปกอดน้ำเบื้องล่างได้ ..... ตูมมมมมมมม !!!!
หมุนไปรอบๆ กาย ราวกับอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ไม่สงสัยเลยทำไมชาวต่างชาติถึงมากันมากมาย .... เพื่อมาให้พบกับวันที่สวยงามเช่นนี้นี่เอง
สวยจนน้ำตาไหล
เราใช้เวลาอยู่นาน ทั้งว่ายน้ำ กระโดดน้ำ ถ่ายภาพ เหมือนมีเวลาเหลือเฟือทีจะอยู่ในจุดที่สวยงามของวันนี้ จนถึงเวลาที่ต้องลาอย่างขนิดที่ไม่วางกล้องลงแม้ในวินาทีสุดท้าย ... ให้ฟองสีขาวจากใบพัดทิ้งความเสียดายเอาไว้ภายหลัง
เมื่อออกจาก "ปิเล๊ะ ลากูน" แล้ว ... พี่หมูผู้นำทีมบอกว่า จุดต่อไปจะเป็น "อ่าวมาหยา" เกาะพีพี เล
แน่นอนว่า ภาพของเรือมากมาย และ นักท่องเที่ยวล้นๆ เหมือนในทีวี ผุดมาในสมองพร้อมกับมือปิดกล้องเก็บใส่กระเป๋า
อ้าว....เฮ้ยยยยยยยยยย !!!
เรือไม่เยอะ นักท่องเที่ยวก็น้อยนะ หรือ เพราะ เรามาใน ฤดูมรสุม ??? แต่จะเพราะอะไร วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันที่ ผมโชคดี เสียจริงๆ
แสงแดดที่สาดส่องลงบนพื้นน้ำสีเขียวของอ่าวมาหยา กับเด็กเรือที่ชิวๆ กับนักท่องเที่ยวบางๆ ช่างให้ความรู้สึกดีสุดๆ
" อ่าวมาหยา " ส ว ร ร ค์ ข อ ง วั ย รุ่ น ห นุ่ ม ส า ว
ผมลืมภาพที่เคยเห็นในทีวีที่มีนักท่องเที่ยวแน่นชายหาดไปโดยสิ้นเชิง .... ความสวยเช่นนี้ สมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยว อันดับต้นๆ ของโลกจริงๆ คำตอบที่ว่า ทำไมถึงต้องมา ??? คำตอบนั้นอยู่เบื้องหน้าเพียงไม่กี่เมตร ^_^
ผละจากอ่าวมาหยา เดินลดเลี้ยวไปไม่ไกล เพื่อไปชม " อ่าวโล๊ะซามะ Loh Samah Bay "
บันไดไม้ที่ทอดไปยังจุดชมวิว ดูผุกร่อนไปตามกาลเวลา ทำเอานึกถึงยุคโจรสลัดในหนังเมื่อหลายสิบไปก่อน
เมื่อไปถึงด้านบนจุดชมวิว จะมีเชือกไต่ลงเพื่อว่ายน้ำเล่น หรือ ดำน้ำดูปลาและปะการัง [แต่ต้องใส่เสื้อชูชีพตามคำเตือนนะครับ]
สีน้ำยั่วยวนใจเหลือเกิน หนุ่มๆ ชาวต่างชาติที่ใจกล้า ก็ไต่เชือกลงไปเล่นน้ำกันสนุกสนาน
เสียดายตรงติดกล้องมาเลยได้แต่มองดูเขาเล่นน้ำกัน ... รอบหน้าจะขอลองลงไปว่ายน้ำกับวัยรุ่นดูบ้าง
เหลือเวลาอีกไม่นานนัก ผมเลยกลับไปยัง "อ่าวมาหยา" ที่วันนี้คนบางตาและใช้เวลาแห่งโชคนี้เก็บเกี่ยวความสุขก่อนกลับ
[SR] เที่ยวพีพี ... กี่ทีก็ไม่พอ
ถ้าถามว่าในชีวิตของคุณไป เกาะพีพี สักกี่ครั้ง ??? คำตอบคงมีมากมายตามแต่ละคน
นับครั้งไม่ถ้วน
ไม่กี่ครั้ง
หรือ
ไม่เคยไปมาเลย ???
สำหรับผมนั้น
ครั้งแรกนั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือภูเก็ตไปขึ้นที่อ่าวต้นไทร และพักที่โรงแรมบนเกาะ และ เหมาเรือหางยาวให้เค้าพารอบๆ ทั้ง เกาะพีพี ดอน และ พีพี เล
ส่วนครั้งที่สองนั้นนั่งเรือสปีดโบ้ทไปแบบไปเช้า-เย็นกลับ โดยแวะ เกาะไข่ เป็นตัวแถม
ส่วนครั้งนี้ มีโอกาสอาศัยหน้าที่การงานติดเรือ Speed Boat ไปอีกครั้ง แต่รอบนี้พี่ๆ บอกว่า เราจะไปดูทริป " Phi Phi Luxury Trip " กัน โดย บริษัท Anchor Andaman ที่จำหน่ายทริปโดย Fantastic Similan Travel ที่ขึ้นชื่อเรื่องไกด์ฝั่งเกาะสิมิลัน (เดี๋ยวมาเล่ารอบหน้านะครับว่าไกด์ที่นี่เด็ดยังไง)
ทางทัวร์มีบริการรถรับส่ง แต่เราเลือกที่จะเดินทางไปยังท่าเรือเอง จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก ท่าเรือที่นี่ ใช้ท่าเรือ " Boat Lagoon" ที่อยู่ใกล้กับตัวเมืองภูเก็ต ดังนั้นคนที่พักในตัวเมืองจึงไม่ต้องตื่นเช้านัก สามารถรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมได้สบายๆ ระหว่างรอรถของบริษัททัวร์มารับไปยังท่าเรือ
8.30 น. เรามาถึงก่อนใครที่ท่าขึ้นเรือของ Anchor Andaman ณ Boat Lagoon Phuket ซึ่งให้บริการเพียง 3 ลำเท่านั้น (ด้านซ้ายคนน้อยมาก ด้านขวาคนแน่นเชียว ซึ่งเป็นของ Ocean Mania ที่นำเที่ยวเกาะพีพี-เกาะไข่ และส่วนใหญ่จะเป็นกรุ๊ปจีน)
ด้านในที่รอสำหรับขึ้นเรือนั้นดูดีเกินคาดและมีที่นั่งไม่มากนัก เนื่องจากเรามาคนแรกเลยเลือกนั่งได้ตามสบาย
ห้องที่รอขึ้นเรือ ติดแอร์สบายๆ มี 2 ห้องขนาดกว้างขวางพอดีๆ ห้องแรกมีเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสำหรับเพื่อนๆ ที่อาจจะลืมพกมาหรืออยากจะได้พร๊อบในการไปเที่ยวทะเลเพิ่ม ก็สามารถเลือกซื้อได้ ส่วนอีก 1 ห้องดูสบายๆ กว่า เพราะ ไม่มีของขาย มีเฉพาะชากาแฟและขนมปัง ที่ผู้โดยสายที่ซื้อทริปเดินเวียนมาหยิบไปกินบ้าง รวมๆ แล้วก็สบายทีเดียวสำหรับที่นั่งรอขึ้นเรือ
ออกจากห้องรับรองเป็นท่าเรือที่จอดเรือหลากหลายประเภท เป็น Background สวยๆ ให้ถ่ายภาพ นักท่องเที่ยวหลายๆ คนยืนโพสท่าโดยมีฉากเรือสวยๆเป็นฉากหลัง แต่วันนี้มาทำงานไม่มีนายแบบหรือนางแบบมาเป็นแบบให้ถ่ายรูปด้วย
จุดแรกที่เราเดินทางมาถึงคือ เกาะไม้ไผ่ หรือ Bamboo Island คล้ายๆ เกาะไข่ แต่ไม่มีร่มชายหาด มองไกลๆ มีชายหาดที่กว้างเลยทีเดียว มีเรือจอดอยู่เพียงไม่กี่ลำ พี่ๆ บอกว่า มาตอนเช้าๆ จะไม่ค่อยร้อนและยังมีนักท่องเที่ยวมาน้อย จุดนี้จะปล่อยให้นักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำทะเลใสๆ หรือ Snorkeling ส่วนตัวผมนั้นว่ายน้ำไม่เป็นและมือถือกล้องเลยเลือกที่จะเดินไปรอบๆ เกาะถ่ายรูปดูว่าบนเกาะมีอะไรบ้าง
ความหิวคืบคลานเข้าสู่กระเพาะราวกับเมฆฝนที่ค่อยก่อตัวกลางทะเล แม้จะไม่มีเสียงคลืนๆ ของท้องฟ้า แต่ เสียงดังจากท้องของทุกคนดังยิ่งกว่า .... " ถึงเวลาอาหารแล้ว เดี๋ยวเราจะไปกินอาหารกัน" พี่ๆ ประกาศ ราวกับเสียงจากสวรรค์
รอบที่แล้ว มาเที่ยวด้วย Speedboat เช่นกัน แต่ได้รับประทานอาหารที่ร้านอาหารแถวอ่าวต้นไทร ที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่.... ที่นี่ คือ ที่ไหน ??? [คำถามในใจเพราะไม่เคยมา] พี่หมูอ้วน (ผู้นำทีม) บอกว่า จุดนี้เป็น โรงแรม Phi Phi Island Village ที่อยู่อีกฝั่งของเกาะพีพี ดอน เป็นโรงแรมระดับ 4.5 ดาว และเราจะได้รับประทานอาหารในโรงแรมนี้ พร้อมพักผ่อนบนหาดส่วนตัวของโรงแรม
แม้ว่าหาดทรายและน้ำทะเล จะไม่ขาวและไม่ใส เหมือนบนเกาะไม้ไผ่ ตรงจุดแรก แต่ บรรยากาศที่นี่ ทำให้รู้สึกสงบสบาย แตกต่างจากภาพเกาะพีพี ที่มีข่าวออกบ่อยๆ ว่านักท่องเที่ยวเนืองแน่น จนคนไทยขยาดที่จะมา
แต่ที่นี่เป็นหาดกว้างที่จะให้คนที่มาเที่ยวได้พักอย่างสงบๆ ซึมซับกับธรรมชาติ .... ไม่ ๆ ๆ สำหรับคนไทย แดดมา ฟ้าสวยแล้ว ถ่ายรูปสิครับรออะไร ฮ่าๆๆๆๆ
เลยจากหาดทรายเข้ามาก็เป็นบริเวณโรงแรมที่เราสามารถไปโพสท่าถ่ายรูปได้
ส่วนอาหารนั้น อร่อยแบบไม่ต้องพูดถึง รสชาติส่วนใหญ่ก็จะเป็นรสชาติกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวมากหรือเผ็ดจนเกินไป
[ส่วนเรียกว่าอะไรนั้น ..... อิอิ จำไม่ได้ครับ]
หลังจากอิ่มหนำสำราญ และ ถ่ายรูปกันครบพันแล้วนั้น ก็ได้เวลาเดินทางด้วยรถลุยหาดเพื่อขึ้นเรือไปยังจุดต่อไป
บ๊าย บาย PHI PHI ISLAND VILLAGE เกาะพีพี ดอน
ปิเล๊ะ ลากูน [Pileh Lagoon]
จุดเล่นน้ำที่เคยมา 2 รอบแล้วเมื่อหลายปีก่อน ไม่สวยงามเท่าวันนี้ น้ำใสสีเขียวมรกตมองเห็นใต้ผืนน้ำสะท้อนแสงแดดวิบวับๆ
เอาจริงๆ วันนี้ผมว่าน้ำสวยพอๆ กับ เกาะตาชัย ที่ปิดไปแล้วกันเลยทีเดียว [ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานน้ำใสๆ มาให้ได้ชม] สวยจังอันดามันบ้านของผม
อธิษฐานขอบคุณสวรรค์ฺเรียบร้อยแล้ว กับตันของเราก็พุ่งเรือเข้าสู่ Pileh Lagoon
โอ้วมายก๊อดดดดดดด วาวววววว สวยมากกกกกกก [ฝรั่งข้างๆ อุทาน]
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดด สวยมากกกกกก [สาวๆ ข้างๆ ร้องอุทาน]
ส่วนผม มือกดชัตเตอร์กล้องรัวๆๆๆๆๆๆ
ไม่มีใครต้านพลังเย้ายวนชวนให้ลงไปกอดน้ำเบื้องล่างได้ ..... ตูมมมมมมมม !!!!
หมุนไปรอบๆ กาย ราวกับอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ไม่สงสัยเลยทำไมชาวต่างชาติถึงมากันมากมาย .... เพื่อมาให้พบกับวันที่สวยงามเช่นนี้นี่เอง สวยจนน้ำตาไหล
เราใช้เวลาอยู่นาน ทั้งว่ายน้ำ กระโดดน้ำ ถ่ายภาพ เหมือนมีเวลาเหลือเฟือทีจะอยู่ในจุดที่สวยงามของวันนี้ จนถึงเวลาที่ต้องลาอย่างขนิดที่ไม่วางกล้องลงแม้ในวินาทีสุดท้าย ... ให้ฟองสีขาวจากใบพัดทิ้งความเสียดายเอาไว้ภายหลัง
เมื่อออกจาก "ปิเล๊ะ ลากูน" แล้ว ... พี่หมูผู้นำทีมบอกว่า จุดต่อไปจะเป็น "อ่าวมาหยา" เกาะพีพี เล
แน่นอนว่า ภาพของเรือมากมาย และ นักท่องเที่ยวล้นๆ เหมือนในทีวี ผุดมาในสมองพร้อมกับมือปิดกล้องเก็บใส่กระเป๋า
อ้าว....เฮ้ยยยยยยยยยย !!!
เรือไม่เยอะ นักท่องเที่ยวก็น้อยนะ หรือ เพราะ เรามาใน ฤดูมรสุม ??? แต่จะเพราะอะไร วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันที่ ผมโชคดี เสียจริงๆ
แสงแดดที่สาดส่องลงบนพื้นน้ำสีเขียวของอ่าวมาหยา กับเด็กเรือที่ชิวๆ กับนักท่องเที่ยวบางๆ ช่างให้ความรู้สึกดีสุดๆ
" อ่าวมาหยา " ส ว ร ร ค์ ข อ ง วั ย รุ่ น ห นุ่ ม ส า ว
ผมลืมภาพที่เคยเห็นในทีวีที่มีนักท่องเที่ยวแน่นชายหาดไปโดยสิ้นเชิง .... ความสวยเช่นนี้ สมกับเป็นแหล่งท่องเที่ยว อันดับต้นๆ ของโลกจริงๆ คำตอบที่ว่า ทำไมถึงต้องมา ??? คำตอบนั้นอยู่เบื้องหน้าเพียงไม่กี่เมตร ^_^
ผละจากอ่าวมาหยา เดินลดเลี้ยวไปไม่ไกล เพื่อไปชม " อ่าวโล๊ะซามะ Loh Samah Bay "
บันไดไม้ที่ทอดไปยังจุดชมวิว ดูผุกร่อนไปตามกาลเวลา ทำเอานึกถึงยุคโจรสลัดในหนังเมื่อหลายสิบไปก่อน
เมื่อไปถึงด้านบนจุดชมวิว จะมีเชือกไต่ลงเพื่อว่ายน้ำเล่น หรือ ดำน้ำดูปลาและปะการัง [แต่ต้องใส่เสื้อชูชีพตามคำเตือนนะครับ]
สีน้ำยั่วยวนใจเหลือเกิน หนุ่มๆ ชาวต่างชาติที่ใจกล้า ก็ไต่เชือกลงไปเล่นน้ำกันสนุกสนาน
เสียดายตรงติดกล้องมาเลยได้แต่มองดูเขาเล่นน้ำกัน ... รอบหน้าจะขอลองลงไปว่ายน้ำกับวัยรุ่นดูบ้าง
เหลือเวลาอีกไม่นานนัก ผมเลยกลับไปยัง "อ่าวมาหยา" ที่วันนี้คนบางตาและใช้เวลาแห่งโชคนี้เก็บเกี่ยวความสุขก่อนกลับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น