เปิดฤดูกาลแล้ววว
คอบอลบุนเดสลีกา คิดว่าจะมีแชมป์หน้าใหม่ไหมคะปีนี้ มาวิเคราะห์กันเถอะ!!
5 ทีมผู้ท้าชิงบัลลังก์แชมป์
เมื่อพูดถึงลีกบุนเดสลีกาของฟุตบอลเยอรมัน ชื่อของทีม “บาเยิร์นมิวนิค” มักจะปรากฎออกมาเป็นชื่อแรกเสมอ ด้วยความยิ่งใหญ่ของทีมประวัติศาสตร์ที่สร้างสมเพียบพร้อมด้วยถ้วยรางวัลมากมายตั้งแต่แชมป์ในลีกเยอรมันไปจนถึงถ้วยใหญ่อย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนสลีก
แต่สำหรับแฟนฟุตบอลบุนเดสลีกาย่อมทราบดีว่าในบุนเดสลีกาหาได้มีแต่เพียง “บาเยิร์นมิวนิค” เท่านั้น! เพราะในบุนเดสลีกายังมีอีกหลายทีมที่มีศักยาภาพและมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ไม่น้อยไปกว่าทีมเสือใต้ ลองไปทำความรู้จักกับ 5 ทีมฟุตบอลที่มีโอกาสท้าชิงบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกากันเลย
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund)
ดอร์ทมุนด์คือคู่แข่งเบอร์แรกที่คอยขับเคี่ยวแย่งแชมป์ในหลายปีที่ผ่านมาด้วยสไตล์การ เล่นที่มีความเกมบุกดุดัน การสร้างสรรค์เกมที่ยอดเยี่ยมทำให้หลายคนที่ได้ดูดอร์ทมุนด์ ย่อมติดใจในลีลาการเล่นของทีมนี้ได้ไม่ยาก
ในฤดูกาลนี้ แม้ดอร์ทมุนด์จะเสียกองหลังตัวหลักอย่าง ‘มัทส์ ฮุมเมล’ ไปให้บาเยิร์นมิวนิคคู่แข่งสำคัญไป รวมถึงย้ายไปร่วมทีมปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของมาร์คิตายาน กองกลางตัวเก่ง
แต่การเสริมทัพของทีมเรียกว่าจัดเต็ม ดอร์ทมุนด์ ลงทุนคว้านักเตะฝีเท้าดีเข้ามาหลายคนตั้ง แต่แดนหน้าที่ได้ ‘อังเดร ชูร์เล’ จากโวล์ฟบวร์ก การดึงตัวแดนกลางตัวเก่งอย่าง ‘มาริโอ เกิทเซ่’ กลับมาจากบาเยิร์นมิวนิค เสริมด้วย ‘อุสมาเน เดมเบเล’ แนวรุกอนาคตไกลจากแรนส์ การดึงเอา ‘มาร์ค บาร์ตร้า’ จากบาเซโลน่า ผนวกรวมกับดาวเตะซูเปอร์สตาร์หน้าเดิมที่ต่างมีคุณภาพสูงอยู่แล้ว (คากาวะ,มาร์โก รอยส์, โอบาเมยอง) ทำให้ฤดูกาลนี้ ดอร์ทมุนด์ ยังคงเป็นทีมที่มีศักยภาพอย่างมากและนี่จะเป็นอีกปีที่แฟนบอลเสือเหลืองได้ลุ้นอย่างสนุกสนานและมีโอกาสได้เฮจนถึงแชมป์เลยทีเดียว
โวล์ฟบวร์ก (Wolfsburg)
แม้จะมีข่าวคราวความงอแงของนักเตะที่ดีที่สุดของทีมอย่าง ‘ยูเลียน ดรักซ์เลอร์’ ด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมทั้งในสโมสรและทีมชาติทำให้ทีมยักษ์ใหญ่มากมายต้องการกองกลางอนาคตไกล และถึงเวลานี้ก็ค่อนข้างยืนยันได้แน่ชัดแล้วว่าเขาต้องการย้ายทีม
ด้านการเสริมทัพ ฤดูกาลนี้พวกเขาได้กองหน้าจอมเก๋าอย่าง ‘มาริโอ โกเมซ’ มาเสริมแดนหน้า และก่อนหน้านั้นก็ได้ ‘ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้’ ปีกจอมเก๋าวัย 30 จากดอร์ทมุนด์มาร่วมถิ่นโฟล์กสวาเกนอารีนา เพื่อทดแทนการขาดหายของ ‘อังเดร ชูร์เล’ ที่โยกไปอยู่ดอร์ทมุนด์แล้ว
อย่างไรก็ตาม โวล์ฟบวร์ก นับเป็นอีกทีมที่มีความสามารถในการลุ้นแชมป์ ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่ยึดติด นักเตะซูเปอร์สตาร์รวมถึงแนวรุกอันดุดันที่แสดงให้เห็นในฤดูกาลก่อน ทั้งฟอร์มในลีก หรือการเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่าง รีลมาริด ในยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกมาแล้ว แม้จะมีความไม่หวือหวาในการเสริมทีม แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มากเกินไปนี้เองทำให้เกิด ความต่อเนื่องของทีมทั้งการเล่นและสปิริต จัดว่าเป็นทีมที่น่าลุ้นน่าเชียร์ในการชิงแชมป์ไม่น้อย
เอฟซี โคโลญ (FC Koln)
เจ้าของฉายาแพะบ้า เอฟซีโคโลญจบอันดับ 9 ได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาลก่อน และในช่วงต้นฤดูกาลก็ถือว่าออกสตาร์ทได้ดีจากชัยชนะนัดแรกเก็บสามแต้มรั้งอันดับสองเป็นรองแค่เพียงบาเยิร์นมิวนิคนั่นเอง
‘โจนาส เฮคเตอร์’ คือผู้เล่นที่โดดเด่นกับทีมชาติเยอรมันในศึกฟุตบอลยูโร 2016 ครั้งที่ผ่านมา และแน่นอนว่ามีทีมใหญ่มากมายตามจีบกองหลังตัวเก่งคนนี้ไปร่วมทีม แน่นอนว่าโคโลญไม่ต้องการขายเขาออกไป และพร้อมจะรั้งตัวเพื่อเป็นกำลังหลักให้กับทีม นอกจากนี้เยอรมันนั้นขึ้นชื่อเรื่องการดึงนักเตะเอเชียมาปั้น และนักเตะจากฝั่งตะวันออกหลายคนก็แจ้งเกิดได้ในเวทีบุนเดสลีกา ‘ยูยะ โอซาโกะ’ ศูนย์หน้าตัวเก่งชาวญี่ปุ่นของโคโลญเป็นอีกคนที่น่าจับตามอง
แม้จะไม่ใช่ทีมตัวเก็งที่น่าจะลุ้นแชมป์ได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง แต่ด้วยคุณภาพของทีมบวกกับกำลังใจที่น่าจะมาทำให้ฟอร์มของโคโลญเป็นที่น่าจับตามองว่าอาจเป็นม้ามืดที่ได้ลุ้นก็เป็นได้
ชาลเก้ 04 (Schalke 04)
อีกหนึ่งทีมใหญ่ในเวทีบุนเดสลีกา แม้ดาวเตะที่โดดเด่นอย่าง ‘เลรอย ซาเน่’ ได้ย้ายไปแมนซิตี้แล้ว แต่ชาลเก้ยังอุดมไปด้วยนักเตะคุณภาพ ศูนย์หน้าตัวเก่งอย่าง ‘คลาสแยน ฮุนเตลาร์’ และ ‘รัฟฟาเอล’ ศูนย์หน้าตัวเก่งจากบราซิล หรือ ‘มักซ์ เมเยอร์’ กองกลางฝีเท้าดี มีนักเตะดีกรีทีมชาติอย่าง ‘เบเนดิกต์ โฮเวเดส’ หรือนักเตะหน้าหล่อชาวญี่ปุ่นอย่าง ‘อุชิดะ’
ภาพรวมของชาลเก้ ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงใหญ่คือการเสียตัวสำคัญออกไป แต่การไม่ต้องพึ่งพานักเตะเพียงคนเดียวอาจดึงสปิริตของทีมกลับมาได้มากกว่าเดิมก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม “ชาลเก้” ถือเป็นทีมที่ยังเอาแน่เอานอนในฟอร์มไม่ได้ แต่หากวัดกันที่ตัวนักเตะแล้ว ฝีเท้าของราชันสีน้ำเงินนับว่ายังมีคุณภาพพอจะเป็นอีกหนึ่งทีม ที่ได้ลุ้นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาด้วยเช่นกัน
โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค (Borussia M’gladbach)
ความแรงของ “กลัดบัค” ทำให้หลายคนหันมาสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลงานของ ‘อันเดร ชูแบร์ต’ กุนซือหนุ่มที่เริ่มจากการเข้ามารับหน้าที่ขัดตาทัพเมื่อซีซั่นก่อน จากทีมอันดับล่างที่แพ้รวดมาหลายนัด กลับพลิกมาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนต่อเนื่องมาถึงฤดูกาลนี้ ที่เริ่มออกสตาร์ทอย่างสวยงามจากสามแต้มที่มีอยู่ในมือ
ต้องยกเครดิตให้กับความเก่งกาจของ ‘อันเดร ชูแบร์ต’ ในการทำทีม เพราะนอกจาก ‘คริสโตฟ คราเมอร์’ นักเตะดีกรีทีมชาติเยอรมันแล้ว ก็ไม่ได้ถือว่านักเตะระดับเทพคนใดบรรจุอยู่ในทีมอีก อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าในโลกฟุตบอลปัจจุบันนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะทีมเล็กหรือใหญ่ “โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค” จึงนับเป็นอีกทีมที่ได้ลุ้นและน่าเชียร์ให้ล้มยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีกาทั้งหลายอีกทีมหนึ่งเลย
Credit: FOX Sports
Facebook : FOX Sports Asia
คิดว่ายังไงกันบ้างคะ มีใครสาวกทีมไหนออกตัวกันดีกว่า มารอดูแชมป์ของปีนี้กัน
5 ทีมผู้ท้าชิงบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกา !!
เปิดฤดูกาลแล้ววว
คอบอลบุนเดสลีกา คิดว่าจะมีแชมป์หน้าใหม่ไหมคะปีนี้ มาวิเคราะห์กันเถอะ!!
เมื่อพูดถึงลีกบุนเดสลีกาของฟุตบอลเยอรมัน ชื่อของทีม “บาเยิร์นมิวนิค” มักจะปรากฎออกมาเป็นชื่อแรกเสมอ ด้วยความยิ่งใหญ่ของทีมประวัติศาสตร์ที่สร้างสมเพียบพร้อมด้วยถ้วยรางวัลมากมายตั้งแต่แชมป์ในลีกเยอรมันไปจนถึงถ้วยใหญ่อย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนสลีก
แต่สำหรับแฟนฟุตบอลบุนเดสลีกาย่อมทราบดีว่าในบุนเดสลีกาหาได้มีแต่เพียง “บาเยิร์นมิวนิค” เท่านั้น! เพราะในบุนเดสลีกายังมีอีกหลายทีมที่มีศักยาภาพและมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์ไม่น้อยไปกว่าทีมเสือใต้ ลองไปทำความรู้จักกับ 5 ทีมฟุตบอลที่มีโอกาสท้าชิงบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกากันเลย
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund)
ดอร์ทมุนด์คือคู่แข่งเบอร์แรกที่คอยขับเคี่ยวแย่งแชมป์ในหลายปีที่ผ่านมาด้วยสไตล์การ เล่นที่มีความเกมบุกดุดัน การสร้างสรรค์เกมที่ยอดเยี่ยมทำให้หลายคนที่ได้ดูดอร์ทมุนด์ ย่อมติดใจในลีลาการเล่นของทีมนี้ได้ไม่ยาก
ในฤดูกาลนี้ แม้ดอร์ทมุนด์จะเสียกองหลังตัวหลักอย่าง ‘มัทส์ ฮุมเมล’ ไปให้บาเยิร์นมิวนิคคู่แข่งสำคัญไป รวมถึงย้ายไปร่วมทีมปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของมาร์คิตายาน กองกลางตัวเก่ง
แต่การเสริมทัพของทีมเรียกว่าจัดเต็ม ดอร์ทมุนด์ ลงทุนคว้านักเตะฝีเท้าดีเข้ามาหลายคนตั้ง แต่แดนหน้าที่ได้ ‘อังเดร ชูร์เล’ จากโวล์ฟบวร์ก การดึงตัวแดนกลางตัวเก่งอย่าง ‘มาริโอ เกิทเซ่’ กลับมาจากบาเยิร์นมิวนิค เสริมด้วย ‘อุสมาเน เดมเบเล’ แนวรุกอนาคตไกลจากแรนส์ การดึงเอา ‘มาร์ค บาร์ตร้า’ จากบาเซโลน่า ผนวกรวมกับดาวเตะซูเปอร์สตาร์หน้าเดิมที่ต่างมีคุณภาพสูงอยู่แล้ว (คากาวะ,มาร์โก รอยส์, โอบาเมยอง) ทำให้ฤดูกาลนี้ ดอร์ทมุนด์ ยังคงเป็นทีมที่มีศักยภาพอย่างมากและนี่จะเป็นอีกปีที่แฟนบอลเสือเหลืองได้ลุ้นอย่างสนุกสนานและมีโอกาสได้เฮจนถึงแชมป์เลยทีเดียว
โวล์ฟบวร์ก (Wolfsburg)
แม้จะมีข่าวคราวความงอแงของนักเตะที่ดีที่สุดของทีมอย่าง ‘ยูเลียน ดรักซ์เลอร์’ ด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมทั้งในสโมสรและทีมชาติทำให้ทีมยักษ์ใหญ่มากมายต้องการกองกลางอนาคตไกล และถึงเวลานี้ก็ค่อนข้างยืนยันได้แน่ชัดแล้วว่าเขาต้องการย้ายทีม
ด้านการเสริมทัพ ฤดูกาลนี้พวกเขาได้กองหน้าจอมเก๋าอย่าง ‘มาริโอ โกเมซ’ มาเสริมแดนหน้า และก่อนหน้านั้นก็ได้ ‘ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้’ ปีกจอมเก๋าวัย 30 จากดอร์ทมุนด์มาร่วมถิ่นโฟล์กสวาเกนอารีนา เพื่อทดแทนการขาดหายของ ‘อังเดร ชูร์เล’ ที่โยกไปอยู่ดอร์ทมุนด์แล้ว
อย่างไรก็ตาม โวล์ฟบวร์ก นับเป็นอีกทีมที่มีความสามารถในการลุ้นแชมป์ ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่ยึดติด นักเตะซูเปอร์สตาร์รวมถึงแนวรุกอันดุดันที่แสดงให้เห็นในฤดูกาลก่อน ทั้งฟอร์มในลีก หรือการเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่าง รีลมาริด ในยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกมาแล้ว แม้จะมีความไม่หวือหวาในการเสริมทีม แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มากเกินไปนี้เองทำให้เกิด ความต่อเนื่องของทีมทั้งการเล่นและสปิริต จัดว่าเป็นทีมที่น่าลุ้นน่าเชียร์ในการชิงแชมป์ไม่น้อย
เอฟซี โคโลญ (FC Koln)
เจ้าของฉายาแพะบ้า เอฟซีโคโลญจบอันดับ 9 ได้อย่างน่าประทับใจในฤดูกาลก่อน และในช่วงต้นฤดูกาลก็ถือว่าออกสตาร์ทได้ดีจากชัยชนะนัดแรกเก็บสามแต้มรั้งอันดับสองเป็นรองแค่เพียงบาเยิร์นมิวนิคนั่นเอง
‘โจนาส เฮคเตอร์’ คือผู้เล่นที่โดดเด่นกับทีมชาติเยอรมันในศึกฟุตบอลยูโร 2016 ครั้งที่ผ่านมา และแน่นอนว่ามีทีมใหญ่มากมายตามจีบกองหลังตัวเก่งคนนี้ไปร่วมทีม แน่นอนว่าโคโลญไม่ต้องการขายเขาออกไป และพร้อมจะรั้งตัวเพื่อเป็นกำลังหลักให้กับทีม นอกจากนี้เยอรมันนั้นขึ้นชื่อเรื่องการดึงนักเตะเอเชียมาปั้น และนักเตะจากฝั่งตะวันออกหลายคนก็แจ้งเกิดได้ในเวทีบุนเดสลีกา ‘ยูยะ โอซาโกะ’ ศูนย์หน้าตัวเก่งชาวญี่ปุ่นของโคโลญเป็นอีกคนที่น่าจับตามอง
แม้จะไม่ใช่ทีมตัวเก็งที่น่าจะลุ้นแชมป์ได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง แต่ด้วยคุณภาพของทีมบวกกับกำลังใจที่น่าจะมาทำให้ฟอร์มของโคโลญเป็นที่น่าจับตามองว่าอาจเป็นม้ามืดที่ได้ลุ้นก็เป็นได้
ชาลเก้ 04 (Schalke 04)
อีกหนึ่งทีมใหญ่ในเวทีบุนเดสลีกา แม้ดาวเตะที่โดดเด่นอย่าง ‘เลรอย ซาเน่’ ได้ย้ายไปแมนซิตี้แล้ว แต่ชาลเก้ยังอุดมไปด้วยนักเตะคุณภาพ ศูนย์หน้าตัวเก่งอย่าง ‘คลาสแยน ฮุนเตลาร์’ และ ‘รัฟฟาเอล’ ศูนย์หน้าตัวเก่งจากบราซิล หรือ ‘มักซ์ เมเยอร์’ กองกลางฝีเท้าดี มีนักเตะดีกรีทีมชาติอย่าง ‘เบเนดิกต์ โฮเวเดส’ หรือนักเตะหน้าหล่อชาวญี่ปุ่นอย่าง ‘อุชิดะ’
ภาพรวมของชาลเก้ ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงใหญ่คือการเสียตัวสำคัญออกไป แต่การไม่ต้องพึ่งพานักเตะเพียงคนเดียวอาจดึงสปิริตของทีมกลับมาได้มากกว่าเดิมก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม “ชาลเก้” ถือเป็นทีมที่ยังเอาแน่เอานอนในฟอร์มไม่ได้ แต่หากวัดกันที่ตัวนักเตะแล้ว ฝีเท้าของราชันสีน้ำเงินนับว่ายังมีคุณภาพพอจะเป็นอีกหนึ่งทีม ที่ได้ลุ้นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาด้วยเช่นกัน
โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค (Borussia M’gladbach)
ความแรงของ “กลัดบัค” ทำให้หลายคนหันมาสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลงานของ ‘อันเดร ชูแบร์ต’ กุนซือหนุ่มที่เริ่มจากการเข้ามารับหน้าที่ขัดตาทัพเมื่อซีซั่นก่อน จากทีมอันดับล่างที่แพ้รวดมาหลายนัด กลับพลิกมาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนต่อเนื่องมาถึงฤดูกาลนี้ ที่เริ่มออกสตาร์ทอย่างสวยงามจากสามแต้มที่มีอยู่ในมือ
ต้องยกเครดิตให้กับความเก่งกาจของ ‘อันเดร ชูแบร์ต’ ในการทำทีม เพราะนอกจาก ‘คริสโตฟ คราเมอร์’ นักเตะดีกรีทีมชาติเยอรมันแล้ว ก็ไม่ได้ถือว่านักเตะระดับเทพคนใดบรรจุอยู่ในทีมอีก อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าในโลกฟุตบอลปัจจุบันนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะทีมเล็กหรือใหญ่ “โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบลัค” จึงนับเป็นอีกทีมที่ได้ลุ้นและน่าเชียร์ให้ล้มยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีกาทั้งหลายอีกทีมหนึ่งเลย
Credit: FOX Sports
Facebook : FOX Sports Asia
คิดว่ายังไงกันบ้างคะ มีใครสาวกทีมไหนออกตัวกันดีกว่า มารอดูแชมป์ของปีนี้กัน