คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
แชร์ความรู้สึกด้วยคนครับ
สมัยก่อนตั้งแต่เพลย์ 1 - 2 ผมก็วินนิ่งมาโดยตลอดครับ เรียกว่าปิดเทอมไม่ทำอะไร วันๆไปเกาะบ้านเพื่อนเล่นแต่วินนิ่งกันทั้งวี่ทั้งวัน
โคนามิคัพบ้าง จัดลีกเล็กๆบ้าง เล่นกันจนปุ่มจอยสึก สมัยนั้นวินนิ่งคือที่สุดแล้วจริงๆ แถมพอวินนิ่ง 4 มีมาสเตอร์ลีกอีกยิ่งไปใหญ่เลย
ส่วนฟีฟ่านี่สมัยนั้นแค่เห็นแผ่นก็แทบอยากกระทืบทิ้งแล้วครับ เคยเปิดเล่นบ้าง แต่ไม่เกินครึ่งแมตช์ครับ กราฟฟิกตลกๆ เกมเพลย์กากๆ
สมัยเด็กเราไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่นะ เหมือนเราต้องการแค่ความมันส์ เปิดมาเลือกทีม ชื่อนักเตะมั่วๆ ไม่สนใจ แค่เรารู้ว่าไอ้นี่เป็นใครพอ
เอาว่าสมัยนั้นยอมเล่นวินนิ่งเจลีกล้วนยังดีซะกว่าได้เล่นทีมไฮโซแต่ต้องเปิดเล่นจากฟีฟ่า หรือแม้แต่วินนิ่งภาคทีมชาติ ชื่อนักเตะเป็นภาษาญี่ปุ่นก็ยอม
แต่ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าทั้งสองเกมเลือกเดินคนละเส้นทางแล้วครับ
ทั้งสองเกมมีอย่างเดียวที่เหมือนกันคือใช้การแข่งขันฟุตบอลเป็นแกนหลักในเกม แต่แนวทางค่อนข้างแตกต่างกันมาก
ตอนเกมจะออก ผมโหลดเดโม่มาทั้งคู่ครับ แต่พอเวลาซื้อ ผมซื้อฟีฟ่าครับ
PES ผมไม่ได้สนใจจะลงลึกในเนื้อหา เพราะรู้สึกว่ามันขาดความน่าสนใจ ทุกอย่างดูค่อนข้างซ้ำซากอย่างที่คุณ จขกท. ว่าไว้ครับ
เดโม่ PES โหลดมาแล้ว ผมก็เลยไม่ลบครับ เอาไว้เล่นขำๆ โชคดีที่เดโม่ภาคนี้มีอาร์เซน่อลมาไว้ให้เล่นด้วย อิอิ เล่นเป็นนัดๆ แล้วก็จบไป
สิ่งที่ PES ให้คือความมันส์ครับ ตอนเด็กเล่นสนุกเร้าใจยังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมครับ
แต่พอเตะจบแล้วก็จบกัน เล่นไปไม่นานแล้วบางทีมันก็จะรู้สึกขึ้นมาว่าเราจะเล่นมันไปทำไม
ในขณะที่ฟีฟ่า ผมรู้สึกว่ามันให้อะไรมากกว่ามากครับ พอเราโตขึ้น เราอยากเห็นอะไรที่มันสมจริง
ความสมจริงไม่ใช่แค่การเคลื่อนไหวของการเล่นครับ แต่มันหมายถึงทุกอย่างในเกมจริงๆ
เอาแค่เวลาเปิดเฟรนด์ลี่แมตช์ ถ้าเราเปิดเลือกทีมในลีกดังๆ แล้วมันให้ทีมมาไม่ครบ เราจะเซ็งนิดหน่อยละ (ทั้งที่บางทีเล่นทั้งชาติก็ยังเล่นไม่ครบทุกทีมในลีกเลยก็เถอะ ฮ่าๆ)
แต่มันคือรายละเอียดที่เราก็ต้องการมัน เราจะรู้สึกว่าถ้าเกมให้อะไรที่เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้ เราก็เหมือนได้ทุกอย่างจากเกมแล้ว
นี่ยังไม่รวมถึงสนาม บรรยากาศก่อนเริ่มเกม บรรยากาศระหว่างเล่น เสียงบรรยาย กราฟฟิก ฯลฯ
รวมทั้งโหมดต่างๆ ที่ฟีฟ่าให้เราเล่น โดยเฉพาะภาค 17 มันทำให้รู้สึกได้ว่าคุ้มค่ากับเงินเฉียดๆ 2 พันที่เราจ่ายไปจริงๆ
ถ้าจะมีอะไรที่ฟีฟ่าด้อยกว่า ก็คงจะเป็นเรื่องความเร้าใจจากเกมเพลย์ แต่มันก็ไม่ได้แย่ เพราะเวลาเล่นบอลจริงๆ มันก็ไม่ได้ง่ายไปหมดทุกอย่าง
กับในส่วนกราฟฟิกหน้าตาท่าทางนักเตะ ผมว่า PES ทำได้ดีกว่าฟีฟ่าอยู่ครับ ถึงภาพ PES มันจะดูฟุ้งๆ ฝันๆ หน่อย แต่มันเหมือนจริงกว่าฟีฟ่าอยู่ครับ
สมัยก่อนตั้งแต่เพลย์ 1 - 2 ผมก็วินนิ่งมาโดยตลอดครับ เรียกว่าปิดเทอมไม่ทำอะไร วันๆไปเกาะบ้านเพื่อนเล่นแต่วินนิ่งกันทั้งวี่ทั้งวัน
โคนามิคัพบ้าง จัดลีกเล็กๆบ้าง เล่นกันจนปุ่มจอยสึก สมัยนั้นวินนิ่งคือที่สุดแล้วจริงๆ แถมพอวินนิ่ง 4 มีมาสเตอร์ลีกอีกยิ่งไปใหญ่เลย
ส่วนฟีฟ่านี่สมัยนั้นแค่เห็นแผ่นก็แทบอยากกระทืบทิ้งแล้วครับ เคยเปิดเล่นบ้าง แต่ไม่เกินครึ่งแมตช์ครับ กราฟฟิกตลกๆ เกมเพลย์กากๆ
สมัยเด็กเราไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่นะ เหมือนเราต้องการแค่ความมันส์ เปิดมาเลือกทีม ชื่อนักเตะมั่วๆ ไม่สนใจ แค่เรารู้ว่าไอ้นี่เป็นใครพอ
เอาว่าสมัยนั้นยอมเล่นวินนิ่งเจลีกล้วนยังดีซะกว่าได้เล่นทีมไฮโซแต่ต้องเปิดเล่นจากฟีฟ่า หรือแม้แต่วินนิ่งภาคทีมชาติ ชื่อนักเตะเป็นภาษาญี่ปุ่นก็ยอม
แต่ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าทั้งสองเกมเลือกเดินคนละเส้นทางแล้วครับ
ทั้งสองเกมมีอย่างเดียวที่เหมือนกันคือใช้การแข่งขันฟุตบอลเป็นแกนหลักในเกม แต่แนวทางค่อนข้างแตกต่างกันมาก
ตอนเกมจะออก ผมโหลดเดโม่มาทั้งคู่ครับ แต่พอเวลาซื้อ ผมซื้อฟีฟ่าครับ
PES ผมไม่ได้สนใจจะลงลึกในเนื้อหา เพราะรู้สึกว่ามันขาดความน่าสนใจ ทุกอย่างดูค่อนข้างซ้ำซากอย่างที่คุณ จขกท. ว่าไว้ครับ
เดโม่ PES โหลดมาแล้ว ผมก็เลยไม่ลบครับ เอาไว้เล่นขำๆ โชคดีที่เดโม่ภาคนี้มีอาร์เซน่อลมาไว้ให้เล่นด้วย อิอิ เล่นเป็นนัดๆ แล้วก็จบไป
สิ่งที่ PES ให้คือความมันส์ครับ ตอนเด็กเล่นสนุกเร้าใจยังไง ตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมครับ
แต่พอเตะจบแล้วก็จบกัน เล่นไปไม่นานแล้วบางทีมันก็จะรู้สึกขึ้นมาว่าเราจะเล่นมันไปทำไม
ในขณะที่ฟีฟ่า ผมรู้สึกว่ามันให้อะไรมากกว่ามากครับ พอเราโตขึ้น เราอยากเห็นอะไรที่มันสมจริง
ความสมจริงไม่ใช่แค่การเคลื่อนไหวของการเล่นครับ แต่มันหมายถึงทุกอย่างในเกมจริงๆ
เอาแค่เวลาเปิดเฟรนด์ลี่แมตช์ ถ้าเราเปิดเลือกทีมในลีกดังๆ แล้วมันให้ทีมมาไม่ครบ เราจะเซ็งนิดหน่อยละ (ทั้งที่บางทีเล่นทั้งชาติก็ยังเล่นไม่ครบทุกทีมในลีกเลยก็เถอะ ฮ่าๆ)
แต่มันคือรายละเอียดที่เราก็ต้องการมัน เราจะรู้สึกว่าถ้าเกมให้อะไรที่เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้ เราก็เหมือนได้ทุกอย่างจากเกมแล้ว
นี่ยังไม่รวมถึงสนาม บรรยากาศก่อนเริ่มเกม บรรยากาศระหว่างเล่น เสียงบรรยาย กราฟฟิก ฯลฯ
รวมทั้งโหมดต่างๆ ที่ฟีฟ่าให้เราเล่น โดยเฉพาะภาค 17 มันทำให้รู้สึกได้ว่าคุ้มค่ากับเงินเฉียดๆ 2 พันที่เราจ่ายไปจริงๆ
ถ้าจะมีอะไรที่ฟีฟ่าด้อยกว่า ก็คงจะเป็นเรื่องความเร้าใจจากเกมเพลย์ แต่มันก็ไม่ได้แย่ เพราะเวลาเล่นบอลจริงๆ มันก็ไม่ได้ง่ายไปหมดทุกอย่าง
กับในส่วนกราฟฟิกหน้าตาท่าทางนักเตะ ผมว่า PES ทำได้ดีกว่าฟีฟ่าอยู่ครับ ถึงภาพ PES มันจะดูฟุ้งๆ ฝันๆ หน่อย แต่มันเหมือนจริงกว่าฟีฟ่าอยู่ครับ
แสดงความคิดเห็น
มาพูดถึงเกมส์ FIFA17 กับ PES2017 ในส่วนของคนเล่น แบบบ้านๆกันครับ
ผมอยากให้ทุกคนที่เข้ามา อย่าแบ่งฝ่ายอวยฝั่งเกมส์ข้างตัวเองจนเกินไปเนอะ เปิดใจคุยกันทั้ง 2 ฝ่าย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีกว่าครับ เผื่อว่ากระทู้นี้จะไปถึงสายตาของผู้พัฒนาเกมส์ทั้ง 2 ค่ายนี้นะ (แอบหวังเล็กๆ อิอิ)
บอกก่อนเลยนะครับ ผมเป็นแฟน วินนิ่ง ที่จงรักภักดีกับทางค่าย โคนามินี้มาตลอด ตั้งแต่เล่น PS1 ก็เล่นต่อมาแทบจะทุกภาคที่มี
จนถึงวันนี้ มีการเปิดตัวภาคล่าสุดของทั้ง 2 ค่าย ก็ทำให้ผมหวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มากกว่าปีก่อนๆ (จริงๆ หวั่นไหวตั้งแต่ ภาค 16 แล้ว) มีตัวเดโมให้ทดลองเล่น ทั้ง 2 ค่าย นี่ยิ่งทำให้ความหวั่นไหวของผมมีมากขึ้นเป็นทวีคูณ เฮ้อออออออออออออออออ
เอาล่ะ ในฐานะที่ผมเป็นแฟนทางค่ายโคนามิ ผมขอพูดถึงทางฝั่งที่ผมคุ้นเคยก่อนแล้วกันนะครับ
Pro Evolution soccer เป็นเกมส์ฟุตบอลที่อยู่ในใจคนเล่นเกมส์ที่เน้น ความรวดเร็ว ความเหมือนจริง ความสนุก ได้อรรถรส ในการเล่น นี่คือข้อสำคัญของคนที่ยังเล่นวินนิ่งอยู่ในทุกวันนี้ บางคนยังเล่นภาค 2013 อยู่เลย ก็เพราะเหตุผลนี้แหละนะครับ
เอาล่ะ!! ได้เวลาฉะค่ายที่ตัวเองรักซะที (อัดอั้นมานานหลายภาค)
อันดับแรกเลย ขอพูดถึงบรรยายกาศของเกมส์ ตั้งแต่ เริ่มเข้าเกมส์เลย รูปแบบซ้ำๆเดิมๆมากๆ หลายภาคแล้วที่ผมนั่งเฝ้าจับตาดูว่าจะมีอะไรมาทำให้ผมรู้สึกแปลกไปในทางที่ดีขึ้นกับเกมส์นี้ มันเหมือนกับเอาภาคของปีก่อนมาเพิ่มเติมอะไรนิดหน่อยให้พอรู้ว่า เออกูเปลี่ยนภาคแล้วนะ แพทเทิ่ลการเข้าเกมส์แบบเดิมๆ ตัวเลือกเดิมๆ สลับที่วางกันบ้าง เออ ขอบจ๊ายยย
อันดับสอง บรรยายกาศของรอบๆ สนาม โค้ช ผู้เล่นสำรอง เด็กเก็บบอล ตำรวจ ช่างภาพ กล้องหลังตาข่าย แฟนบอล ผมสามารถพูดได้เลยว่าแม่มกากมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีอารมณ์หรือโมเมนต์ร่วมกับการแข่งเลย ยืนกันนิ่งเหมือนตัดแปะในโฟโต้ชอปโง่ๆมาใส่ไว้ให้รู้ว่าเออ กูมีนะ
อันดับสาม การเคลื่อนไหวของผู้เล่นในสนามรวมถึงกรรมการ ฉากเดินเข้า ฉากจังหวะบาดเจ็บ ฉากเปลี่ยนตัว ฉากฟาล์ว ฉากให้ใบเหลืองใบแดง ตักเตือนฉากดีใจและอีกมากมาย คือ เท่าที่ผมนึกย้อนไป มีบางอันน่าจะมีอยู่ในภาค 2013 อ่ะ คือเข้าใจว่ามันดีอยู่แล้ว ถ้าเข้าใจอย่างนั้นอ่ะก็ควรเพิ่มท่าทางอะไรต่อมิอะไรมากขึ้นไปอีกป่ะวะ สมมติๆสมมติ พูดแบบโง่ๆเลย ภาคนึงมี 10 มูฟเม้น ทำเพิ่มภาคละ 10 มูฟเม้น ตั้งแต่ 2013-2017 รวมแล้ว 5 ปี 50 มูฟเม้นแล้วนะ !!! ได้อะไรใหม่ๆเยอะนะ มันช่วยแก้อารมณ์เบื่อของคนเล่นเกมส์ได้เหมือนกันนะเว่ยย
อันดับสี่ เสียงภาคก็เช่นกัน ซ้ำๆเดิมๆ มีประโยคที่จะพูดทั้งหมดเท่าไหร่ไม่ทราบ แต่ที่ออกมานั้นคือมันซ้ำมากๆ อยากให้เป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้ พูดต่อเนื่องกว่านี้ น้ำหนักเสียงไม่โดดไปมา เพราะมันทำให้อารมณ์สะดุดได้เช่นกัน เอาเป็นว่าถ้าทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ก็ขอให้มีเสียงเรียกชื่อนักเตะทุกคน ทีมทุกทีมที่มีในเกมส์ที่คุณทำก็พอใจแล้ว เอ้ออ เสียงเชียร์ก็เช่นกัน เกมส์จะสนุกหรือไม่สนุกเสียงเชียร์คือสิ่งสำคัญนะครับ ฝากไว้ในที่นี้ด้วย
อันดับห้าเรื่องลิขสิทธิ์ นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ฐานแฟนของเกมส์ค่ายนี้ลดลงไปเยอะเช่นกัน เข้าใจครับว่าเกมส์เรามันโหลดแพทเสริมที่มีคนใจดีทำให้เราเล่นได้สมจริงมากขึ้น และนี่เป็นอีกหนึ่งข้อที่ผมยังเลือกเล่นเกมส์นี้อยู่ แต่ภาคล่าสุดนี้ ลิขสิทธิ์น้อยมากจริงๆ ได้ลิขสิทธิ์ส่วนใหญ่ก็ลีกที่คนเล่นไม่ค่อยเล่นกัน ทำเพื่ออะไรหรอครับ เปิดตลาดใหม่หรอ ไม่ผิดนะครับแต่ผมอยากจะบอกว่า อย่าลืมฐานแฟนเกมส์เก่าที่นับวันจะเริ่มสั่นครอน พรีเมียร์ลีคอังกฤษ ลาลีก้า เนี่ย ไม่อยากให้พลาดเลย แต่ก็ช่างมันเถอะ เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะการตลาดหรือทุนที่มี ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น
อับดับหก เรื่องนี้หัวอกคนเล่น PC จะเข้าใจผม คือ จะลดคุณภาพกราฟฟิคเพื่ออออออออ ????? ทำไมไม่ทำมาให้เท่ากันวะะะะะ หรือไม่ก็ทำตัวเลือกมาให้เลือกสำหรับคนงบซื้อคอมน้อย ให้เลือกคุณภาพได้ในระดับที่เขาสามารถเข้าถึง คนที่เขามีคอมแรงๆ ที่สามารถเล่นกราฟฟิคสูงๆได้ ก็เลือกคุณภาพที่ดีที่สุด เนี่ยยยยย แค่เนี้ยยยยย คุณก็จะได้ใจทุกระดับแล้วครับ ง่ายๆ เบสิคมากๆ มองข้ามทำไมมมมมมมมมม
มาพูดถึงทางฝั่งของ FIFA กันมั่งดีกว่าครับบ
FIFA เป็นเกมส์ฟุตบอลที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จริงๆผมเคยเล่นทางฝั่งนี้นะครับเมื่อหลายปีก่อน แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับหลายๆอย่างในเกมส์ของค่ายนี้ จนมาวันนี้ ผมรู้สึกในสิ่งที่ผมไม่เคยรู้สึกกับ PES มาก่อนเมื่อผมลองโหลดเดโม 2017 มาเล่น คือ เฮ้ยยยยยยยยยยยย เจ๋งว่ะ พัฒนาการก้าวกระโดดสัสๆ ดูมีเรื่องราว ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับมุมกล้อง อันนี้สังเกตุได้จากจังหวะได้ประตู ภาพที่เราเห็นจะสั่นเล็กๆเหมือนตอนที่เราดูในทีวีเลย ภาพ Insert โค้ช ซึ่งโค้ชก็คือมีตัวตนจริงๆ เข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงย้ายค่ายมาเยอะมากๆ (ดูจากคนรอบๆตัวผมเอง) หลังๆผมยังสงสัยว่าทำไมมีแต่คนเล่นฟีฟ่าวะ เฮ้อออ จนวันนี้ได้เข้าใจแล้วว่าเพราะเหตุใด ผมขอชื่นชมนะครับสำหรับเกมส์ภาคล่าสุดนี้ที่ทำขึ้นมาได้ดีมากๆ จนทำให้ผม (ซึ่งเป็นคนที่ไม่เปลี่ยนใจอะไรง่ายๆ) มีความหวั่นไหวได้ขนาดนี้ และยอมรับว่าผมจะไม่พลาด FIFA 17 แน่นอน สัญญา
แต่ก็นะ ยังไงซะทุกอย่างก็ต้องมีข้อเสีย ซึ่งวันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง ถือซะว่าบอกเพื่อที่จะแนะนำให้พัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไป เอาให้ดีกว่า PES แบบไม่เห็นฝุ่นไปเลยก็ได้ ยอมครับ !!
อันดับหนึ่ง อย่างแรกที่เห็นเลยคือ เครนกล้องที่อยู่หลังโกล คือไรรรรรรรรรรรรรรรรร !!! จำเป็นต้องมีหรออ มีทุกสนามเลยยยย สแตมป์ฟอร์ดบริดจ์ มีหรออออออออออออ แล้วจำเป็นต้องอยู่ใกล้ขนาดนั้นเลยหรอออออออออออออออ หื้อออออออออออ
อันดับสอง สเกลตัวอักษรบนเสื้อนักเตะ คือนี่สังเกตุมาหลายภาคแล้ว คือต้องตัวใหญ่อะไรเบอร์นั้นนนนนนนน กลัวใครไม่เห็นหรืออย่างไรรรร โลโก้ต่างๆ ก็เช่นกัน เกือบดีแล้วเว่ยยยยยยยย อีกนิดเดียวววววววววว พ่อคุณเอ้ยยยย รายละเอียดทุกอย่างรอบสนามดีมากๆแล้ว แต่อย่ามองข้างเรื่องพวกนี้เลยยย นะขอร้องงงงงงงงง พลีสสสสสส
อันดับสาม การเคลื่อนไหว ท่าทางต่างๆ การเคลื่อนที่ของลูกบอล ผมว่ายังแปลกๆอยู่ แม้จะเปลี่ยนเอนจิ้นใหม่แล้วก็เถอะ ยังติดอยู่นิดนึงง
สำหรับผม นี่คือจุดด้อยของ FIFA ครับ น้อยจุง (นี่ผมรักเกมส์ค่ายไหนกันแน่เนี่ย 5555555)
เอาล่ะ มาถึงสิ่งที่อยากแนะนำทั้ง 2 ค่ายเลยก็คือ
อันดับหนึ่ง สกอร์บอร์ดครับ สังเกตุไหมครับ ทุกๆลีคจะมีสกอร์บอร์ดของตัวเอง ทรานซิชั่นตอนเปลี่ยนไปรีเพลย์หรืออะไรก็ตาม มันมีเป็นของตัวเองทุกลีคครับ
อันดับสอง ป้ายโฆษณาข้างสนาม น่าจะหลากหลายกว่านี้ครับบ
อันดับสาม กรรมการ เด๋วนี้กรรมการเป็นที่จับตาของแฟนบอลเช่นกันนะครับ การมีกรรมการที่มีตัวตนจริงๆเนี่ย มันทำให้ดูไม่น่าเบื่อเช่นกัน
อันดับสี่ เสียงพากษ์ อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่า ควรจะมีเสียงเรียกชื่อนักเตะทุกคน ทีมทุกทีม ลีคทุกลีคแล้วคอมเม้นเตเตอร์หลายๆคนหน่อย ไม่ใช่มีแค่ 2 คน เช่นที่ทั้ง 2 ค่ายทำกันอยู่ครับ
อันดับห้า ธรรมชาติของนักเตะ และสิ่งที่มีชีวิตรอบๆสนาม คนดู การ์ด เด็กเก็บบอล ช่างภาพ โค้ช ตัวสำรอง อยากให้มีความหลากหลายมากกว่านี้มากๆเลยครับ โดยเฉพาะคนดู ยกมือเฮกันมาเป็นแผ่นเลยจ้าาาา นักเตะวิ่งอยู่ ล้มพร้อมกัน ท่าทางเหมือนกันเป๊ะ ยิ่งกว่าฝาแฝดอีก นึกว่าส่องกระจกอยู่หรือไง หืออออ
อับดับหก โลโก้อาร์มต่างๆ เวลาไปเล่นในรายการที่ไม่ใช่ลีคตัวเอง ตัวอย่างเช่น พรีเมียร์ลีก เล่นเอฟเอคัพ ลีคคัพ เลื่อนดิวิชั่น การได้แชมป์ต้องมีอาร์มทอง อาร์มแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ยูโรป้า ฟีฟ่าคลับเวิลคัพสำหรับทีมแชมป์ ควรอัพเดทได้อย่างอิสระและอัตโนมัติ เช่น ปีนี้เลสเตอร์ได้แชมป์ แต่พอเราเล่นจบไป 1 ฤดูกาล อีกทีมได้แชมป์ อาร์มของทีมนั้นเปลี่ยนเป็นสีทอง ส่วงของเลสเตอร์ก็เปลี่ยนเป็นธรรมดา อะไรอย่างเนี้ยยยย
เอาล่ะครับ น่าจะประมานนี้เนอะสำหรับทั้ง 2 ค่าย นี่คือเสียงจากลูกค้าตัวเล็กๆของคุณทั้ง 2 ค่าย
จะเห็นได้ว่า ผมไม่ค่อยพูดถึงเกมส์เพลย์ของทั้ง 2 เท่าไหร่เพราะผมเข้าใจว่า มันคือเสน่ห์ของแต่ละค่ายเนอะ ใครชอบแบบไหนก็เล่นแบบนั้น ไม่มีใครดี่กว่าใครในเรื่องนี้ เป็นความชอบส่วนบุคคลที่คุณจะเลือกเล่น แต่สิ่งที่ผมมาพูดคือสิ่งที่ผมสัมผัสได้ว่ามันควรจะพัฒนาได้แล้ว
สุดท้ายนี้ขอบอกเลยว่าถ้าทั้ง 2 ค่ายทำได้แบบที่ผมบอกจริงๆนะ ผมคนนึงล่ะที่จะยอมจ่ายทั้ง 2 ค่ายเพื่อเล่นทั้ง 2 ค่ายเลยครับ
ปล. คุณทั้ง 2 รวมตัวกันได้ไหม ให้ PES ดูแลเรื่องเกมส์เพลย์ FIFA ดูแลเรื่องรายละเอียด บรรยากาศของเกมส์ แล้วคุณจะเป็นเกมส์ฟุตบอลที่โครตจะเจ๋งที่สุดในดวงใจผมและอีกหลายๆคนในโลกใบนี้เลยย