แบงค์ แคลช ยอมรับเลิก นินิว กฤติยา ปิดตำนานรัก 13 ปี จากกันด้วยดี ขอถอยหลังคนละก้าว เผยอยากให้ฝ่ายหญิงได้คนที่ดี มีเวลาให้ ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักมาราธอนที่คบหาดูใจกันมานานหลายปี สำหรับคู่ของนักร้องหนุ่ม แบงค์ ปรีติ หรือ แบงค์ แคลช กับแฟนสาว นินิว กฤติยา ที่บ่มรักกันมานานถึง 13 ปี จนหลาย ๆ คนได้แต่รอฟังข่าวดี อยากให้มีงานวิวาห์ แต่ทว่าล่าสุด (19 กันยายน 2559) ก็ทำเอาฝันสลาย หลังหนุ่มแบงค์ได้เปิดใจถึงความรักครั้งนี้ว่า ได้แยกทางกันมาสักพักแล้ว
โดยหนุ่มแบงค์ เผยว่า แยกทางกันมาได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกใคร เพราะเราคบกันมา 13 ปี ซึ่งการจะบอกใครว่าเราแยกทางกันมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ต้องใช้เวลาให้แน่ใจก่อนว่าเราแยกทางกันแล้วจริง ๆ ไม่ชอบไปบอกว่าเลิกกัน แต่แล้วสักพักก็กลับมาคืนดีกันอีก แต่ในขณะเดียวกันเราก็แฟร์กับเขาด้วย เผื่อเขาได้เจอคนใหม่ที่ดีกว่าผม จริง ๆ เรารักกันมากถึงขนาดที่ว่า เราเห็นเขามีแฟนใหม่แล้วเราไม่เจ็บ ผมรักเขาแบบนั้น ก็ยินดีถ้าเขาเจอคนดี ๆ มีคนใหม่ที่มีเวลาให้ ถามผมก่อนก็ได้ว่าดีหรือเปล่า ผู้ชายดูกันออกอยู่แล้ว อยากให้เขาเจอสิ่งที่ดีที่สุด
ส่วนสาเหตุที่ต้องแยกทางกัน หนุ่มแบงค์ บอกว่า มันเกิดจากปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งชีวิตคู่ทุกคู่ต้องเจออยู่แล้ว ไม่ใช่ปัญหาใหญ่มาก แต่เราคบกันมา 13 ปี มันก็มีหลาย ๆ ปัญหารวมกัน คบกันมานาน มีความเข้าใจให้กัน ทว่าในอีกมุมหนึ่งการให้เกียรติกันอาจลดน้อยลง มองข้อเสียของกันและกันมากขึ้น จนทำให้รู้สึกว่าบางอย่างมันรักษาไม่หาย ซึ่งเราก็คิดว่าลองแยกกันดูว่าจะเป็นยังไง ถอยคนละก้าว บางครั้งการหันหลังให้กันอาจจะทำให้เราไปเจอสิ่งที่ดีกว่า เป็นการเลิกกันแบบไม่มีใครผิด
ถ้าถามว่าชีวิตหลังจากนั้นเป็นอย่างไร หนุ่มแบงค์ บอกว่า รู้สึกเคว้ง ๆ เหมือนกันที่หันไปแล้วไม่มีเขา ยังรู้สึกงงกับการใช้ชีวิตคนเดียวมันต้องทำยังไง เพราะเราคบกันมานานมาก แต่การอยู่คนเดียวมันก็มีข้อดี ทำให้เรามองเห็นตัวเองได้มากขึ้น ส่วนเขาก็ไปทำธุรกิจของคุณแม่เขากับเป็นที่ปรึกษาเสริมความงามที่เกาหลี เขาเองก็มีแรงขับเคลื่อนในการใช้ชีวิตของเขาเหมือนกัน แน่นอนอยู่แล้วการเลิกกันเราเสียใจกันทั้งคู่ แต่การเลิกกันของเรา เราแยกกันด้วยความรัก มีความหวังดีให้กันเสมอ ผมก็ยังติดตามชีวิตเขาอยู่ ยังดูว่าเขาทำอะไรเป็นอย่างไรบ้าง เราไม่ได้เกลียดกัน ส่วนโอกาสคืนดีนั้น ไม่รู้เลยจริง ๆ ตอนนี้เอาเรื่องงานเป็นหลักก่อนดีกว่า
ที่มา :
http://women.kapook.com/view156992.html
แบงค์ แคลช เลิก นินิว ปิดฉากรัก 13 ปี จากกันด้วยดี ถอยหลังเพื่อให้เห็นตัวเอง
แบงค์ แคลช ยอมรับเลิก นินิว กฤติยา ปิดตำนานรัก 13 ปี จากกันด้วยดี ขอถอยหลังคนละก้าว เผยอยากให้ฝ่ายหญิงได้คนที่ดี มีเวลาให้ ถือเป็นอีกหนึ่งคู่รักมาราธอนที่คบหาดูใจกันมานานหลายปี สำหรับคู่ของนักร้องหนุ่ม แบงค์ ปรีติ หรือ แบงค์ แคลช กับแฟนสาว นินิว กฤติยา ที่บ่มรักกันมานานถึง 13 ปี จนหลาย ๆ คนได้แต่รอฟังข่าวดี อยากให้มีงานวิวาห์ แต่ทว่าล่าสุด (19 กันยายน 2559) ก็ทำเอาฝันสลาย หลังหนุ่มแบงค์ได้เปิดใจถึงความรักครั้งนี้ว่า ได้แยกทางกันมาสักพักแล้ว
โดยหนุ่มแบงค์ เผยว่า แยกทางกันมาได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว แต่ก็ไม่ได้บอกใคร เพราะเราคบกันมา 13 ปี ซึ่งการจะบอกใครว่าเราแยกทางกันมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ต้องใช้เวลาให้แน่ใจก่อนว่าเราแยกทางกันแล้วจริง ๆ ไม่ชอบไปบอกว่าเลิกกัน แต่แล้วสักพักก็กลับมาคืนดีกันอีก แต่ในขณะเดียวกันเราก็แฟร์กับเขาด้วย เผื่อเขาได้เจอคนใหม่ที่ดีกว่าผม จริง ๆ เรารักกันมากถึงขนาดที่ว่า เราเห็นเขามีแฟนใหม่แล้วเราไม่เจ็บ ผมรักเขาแบบนั้น ก็ยินดีถ้าเขาเจอคนดี ๆ มีคนใหม่ที่มีเวลาให้ ถามผมก่อนก็ได้ว่าดีหรือเปล่า ผู้ชายดูกันออกอยู่แล้ว อยากให้เขาเจอสิ่งที่ดีที่สุด
ส่วนสาเหตุที่ต้องแยกทางกัน หนุ่มแบงค์ บอกว่า มันเกิดจากปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งชีวิตคู่ทุกคู่ต้องเจออยู่แล้ว ไม่ใช่ปัญหาใหญ่มาก แต่เราคบกันมา 13 ปี มันก็มีหลาย ๆ ปัญหารวมกัน คบกันมานาน มีความเข้าใจให้กัน ทว่าในอีกมุมหนึ่งการให้เกียรติกันอาจลดน้อยลง มองข้อเสียของกันและกันมากขึ้น จนทำให้รู้สึกว่าบางอย่างมันรักษาไม่หาย ซึ่งเราก็คิดว่าลองแยกกันดูว่าจะเป็นยังไง ถอยคนละก้าว บางครั้งการหันหลังให้กันอาจจะทำให้เราไปเจอสิ่งที่ดีกว่า เป็นการเลิกกันแบบไม่มีใครผิด
ถ้าถามว่าชีวิตหลังจากนั้นเป็นอย่างไร หนุ่มแบงค์ บอกว่า รู้สึกเคว้ง ๆ เหมือนกันที่หันไปแล้วไม่มีเขา ยังรู้สึกงงกับการใช้ชีวิตคนเดียวมันต้องทำยังไง เพราะเราคบกันมานานมาก แต่การอยู่คนเดียวมันก็มีข้อดี ทำให้เรามองเห็นตัวเองได้มากขึ้น ส่วนเขาก็ไปทำธุรกิจของคุณแม่เขากับเป็นที่ปรึกษาเสริมความงามที่เกาหลี เขาเองก็มีแรงขับเคลื่อนในการใช้ชีวิตของเขาเหมือนกัน แน่นอนอยู่แล้วการเลิกกันเราเสียใจกันทั้งคู่ แต่การเลิกกันของเรา เราแยกกันด้วยความรัก มีความหวังดีให้กันเสมอ ผมก็ยังติดตามชีวิตเขาอยู่ ยังดูว่าเขาทำอะไรเป็นอย่างไรบ้าง เราไม่ได้เกลียดกัน ส่วนโอกาสคืนดีนั้น ไม่รู้เลยจริง ๆ ตอนนี้เอาเรื่องงานเป็นหลักก่อนดีกว่า
ที่มา : http://women.kapook.com/view156992.html