คิดมากไปก็เท่านั้นแหละ
อะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ในกะลาแห่งนี้ครับ
กะอีแค่ "ปฐมพล"
ที่เป็นลูกชายของ "ปรีชา"
ตั้งบริษัทชื่อ คอนเทมโพลารี่ คอนสตรัคชั่น เพื่อรับเหมาก่อสร้าง
แล้วสามารถได้งานของกองทัพภาคที่ 3 ไปร่วมๆ 27,000,000,000 ล้านบาทในช่วง 2 ปีนี้
แหมมมม...
ปรีชาพ่อเขาเคยคุมภาค 3 นะครับ
เขาอาจจะรู้จักผู้คน มีคอนเน็คชั่นมากมาย จนได้งานแบบไม่มีใครกล้าแข่งก็เป็นได้
มิหนำซ้ำปรีชายังมีคุณูปการกับกองทัพภาค 3 อีกต่างหาก
เพราะปรีชาเคยดูแลเงินของสหกรณ์กองทัพภาคที่ 3 เป็นอย่างดี
ด้วยการช่วยนำไปเก็บไว้ในบัญชีของ "ผ่องพรรณ" ผู้ซึ่งเป็นเมียของปรีชาเพื่อป้องกันการสูญหาย
เงินอยู่ในบัญชีเมียนี่ไม่มีทางหายแน่นอน...เชื่อจ่าเถอะ....!!!!!
แถมปรีชายังช่วยเหลือราชการ
ในตอนที่กระทรวงกลาโหมขาดแคลนบัณฑิตสาขา "นิเทศศาสตร์"
ด้วยการส่ง "ปฏิพัทธ์" ลูกชายอีกคนหนึ่งเข้ามาเป็นทหารโดยวิธีพิเศษแบบไม่ต้องสอบเข้า
เป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนคนทำงานสายนิเทศศาสตร์ในแบบที่ "ใครๆเขาก็ทำกัน"
นิเทศศาสตร์นี่ "ขาดแคลน" มากนะครับ ไม่ค่อยมีใครเรียนหรอก เพราะมันจบยากมาก
กรณีของปฐมพลลูกปรีชา
ที่ได้งานไปร่วมๆ 27 ล้านนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรอกครับ
เพราะมันก็จริงอย่างที่ปรีชาเคยพูดตอนเอาลูกมาเป็นทหารว่า "ใครๆเขาก็ทำกัน"
เพราะเคยมีบริษัทชื่อ "พฤกษาพรรณพัฒนา"
และ บริษัทนี่เคยมีชื่อ "อนุพงษ์" เป็นบอร์ด
ได้งานหลวงพร้อมงบก้อนโตไปจัดงาน "คืนความสุขให้ประชาชน"
เพราะเคยมีบริษัทชื่อ "วินเทคซาวด์ จำกัด"
และ บริษัทชื่อ "เคทีออกาไนซ์เซอร์ จำกัด"
ที่มีสถานที่ตั้งซึ่งเป็นที่อยู่เดียวกันกับบ้านของ "วินธัย" มาได้งบหลวงไปจัดงาน "ธงฟ้า"
เพราะเคยมีบริษัทชื่อ "ดี.เอ็ม.อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด"
ที่เคยมีเจ้าของที่ชื่อว่า "ยงยุทธ" ผู้ซึ่งเป็นทั้งหมอเป็นทั้งทหาร
ได้งบหลวงไปจัดงาน "ธงฟ้า" โดยมีเมียของยงยุทธเป็นคนลงนามในสัญญา
เห็นมั๊ยล่ะครับ...ใครๆเขาก็ทำกัน
ทั้ง คอนเทมโพลารี่ คอนสตรัคชั่น ของปฐมพล ลูกปรีชา, ทั้ง "พฤกษาพรรณพัฒนา" , ทั้ง "วินเทคซาวด์ จำกัด" , ทั้ง "เคทีออกาไนซ์เซอร์ จำกัด" , ทั้ง "ดี.เอ็ม.อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด" ....ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้น
ก็ทำกันเป็นเรื่องปกติ แล้วเราจะไปคิดมากให้เยี่ยวเหลืองทำไมล่ะครับ...????
จ่าพิเชษฐ์
@@@@@@@@@@---------------จ่าว่าเราอย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ-------@@@@@@@@@@
อะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ในกะลาแห่งนี้ครับ
กะอีแค่ "ปฐมพล"
ที่เป็นลูกชายของ "ปรีชา"
ตั้งบริษัทชื่อ คอนเทมโพลารี่ คอนสตรัคชั่น เพื่อรับเหมาก่อสร้าง
แล้วสามารถได้งานของกองทัพภาคที่ 3 ไปร่วมๆ 27,000,000,000 ล้านบาทในช่วง 2 ปีนี้
แหมมมม...
ปรีชาพ่อเขาเคยคุมภาค 3 นะครับ
เขาอาจจะรู้จักผู้คน มีคอนเน็คชั่นมากมาย จนได้งานแบบไม่มีใครกล้าแข่งก็เป็นได้
มิหนำซ้ำปรีชายังมีคุณูปการกับกองทัพภาค 3 อีกต่างหาก
เพราะปรีชาเคยดูแลเงินของสหกรณ์กองทัพภาคที่ 3 เป็นอย่างดี
ด้วยการช่วยนำไปเก็บไว้ในบัญชีของ "ผ่องพรรณ" ผู้ซึ่งเป็นเมียของปรีชาเพื่อป้องกันการสูญหาย
เงินอยู่ในบัญชีเมียนี่ไม่มีทางหายแน่นอน...เชื่อจ่าเถอะ....!!!!!
แถมปรีชายังช่วยเหลือราชการ
ในตอนที่กระทรวงกลาโหมขาดแคลนบัณฑิตสาขา "นิเทศศาสตร์"
ด้วยการส่ง "ปฏิพัทธ์" ลูกชายอีกคนหนึ่งเข้ามาเป็นทหารโดยวิธีพิเศษแบบไม่ต้องสอบเข้า
เป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนคนทำงานสายนิเทศศาสตร์ในแบบที่ "ใครๆเขาก็ทำกัน"
นิเทศศาสตร์นี่ "ขาดแคลน" มากนะครับ ไม่ค่อยมีใครเรียนหรอก เพราะมันจบยากมาก
กรณีของปฐมพลลูกปรีชา
ที่ได้งานไปร่วมๆ 27 ล้านนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่หรอกครับ
เพราะมันก็จริงอย่างที่ปรีชาเคยพูดตอนเอาลูกมาเป็นทหารว่า "ใครๆเขาก็ทำกัน"
เพราะเคยมีบริษัทชื่อ "พฤกษาพรรณพัฒนา"
และ บริษัทนี่เคยมีชื่อ "อนุพงษ์" เป็นบอร์ด
ได้งานหลวงพร้อมงบก้อนโตไปจัดงาน "คืนความสุขให้ประชาชน"
เพราะเคยมีบริษัทชื่อ "วินเทคซาวด์ จำกัด"
และ บริษัทชื่อ "เคทีออกาไนซ์เซอร์ จำกัด"
ที่มีสถานที่ตั้งซึ่งเป็นที่อยู่เดียวกันกับบ้านของ "วินธัย" มาได้งบหลวงไปจัดงาน "ธงฟ้า"
เพราะเคยมีบริษัทชื่อ "ดี.เอ็ม.อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด"
ที่เคยมีเจ้าของที่ชื่อว่า "ยงยุทธ" ผู้ซึ่งเป็นทั้งหมอเป็นทั้งทหาร
ได้งบหลวงไปจัดงาน "ธงฟ้า" โดยมีเมียของยงยุทธเป็นคนลงนามในสัญญา
เห็นมั๊ยล่ะครับ...ใครๆเขาก็ทำกัน
ทั้ง คอนเทมโพลารี่ คอนสตรัคชั่น ของปฐมพล ลูกปรีชา, ทั้ง "พฤกษาพรรณพัฒนา" , ทั้ง "วินเทคซาวด์ จำกัด" , ทั้ง "เคทีออกาไนซ์เซอร์ จำกัด" , ทั้ง "ดี.เอ็ม.อินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด" ....ใครๆเขาก็ทำกันทั้งนั้น
ก็ทำกันเป็นเรื่องปกติ แล้วเราจะไปคิดมากให้เยี่ยวเหลืองทำไมล่ะครับ...????
จ่าพิเชษฐ์