สวัสดีค่ะ ภูสอยดาว กับการปีนเขาครั้งแรกของหมวยเลยนะ เอาล่ะสิจะลำบากไม เหนื่อยไม จะไปถึงไม คำถามมากมายก่อนออกทริปครั้งนี้
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น
ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาดของจังหวัดอุตรดิตถ์ การเดินทางครั้งนี้อุ่นใจมาก
ก็บ้านหมวยอยู่ อุตรดิตถ์ นะแต่ทำงานที่ นนทบุรี แต่หมวยไม่เคยขึ้นภูเลยสักครั้ง หมวยนัดกับน้าสาวไว้เป็นตัวหลักรอที่บ้านเลย
ให้เตรียมเรื่องเสบียงและเต้นท์รอหมวยเลย กำหนดการเดินทาง 23-24 สิงหาคม 2559 1 คืนก็พอเพราะหน้าฝนในสวนของ
ไฮไลท์ยอดภูสอยดาวระดับ สองพันหนึ่ง (2,100 จากระดับน้ำทะเล) จะเปิดให้ขึ้นเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น
หมวยถึงบ้านที่อุตรดิตถ์ก็มีพี่ๆน้องๆจะไปด้วยแต่เอาเข้าจริงก็เหลือแค่หมวยกับน้า 2 คน พร้อมออกจากบ้านกัน ตี 5 เลยจร้า
เพราะเคยไปน้ำตกภูสอยดาวมาครั้งนึงแล้วตอนช่วงสงกรานต์ ตาม Gps ใช้เวลาประมาณ 1.30 นาที แต่เอาเข้าจริงประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าเลยค่ะ
ออกจากบ้านได้ประมาณครึ่งทางฝนตกหนักมากค่ะ หนักชนิดว่ามองไม่เห็นทางกันเลยทีเดียว
เราตกลงกับน้าว่าถ้าไปถึงไม่หยุดตกเราก็ไปถ่ายรูปที่น้ำตกแล้วก็กลับกัน พอเข้าเขตของอำเภอน้ำปาดเราก็ แวะซื้อเสบียงมื้อเช้ากันค่ะ
รถกับข้าวนี่เอง ได้หมูปิ้งมา 6 ไม้ แต่ข้าวเหนียวไม่มีขาย แม่ค้าบอกว่าซื้อตามบ้านได้เลยชาวบ้านหุงทุกบ้านเอามาขายก็ขายไม่ได้
แต่เราไม่ทันได้ซื้อหรอกค่ะ เพราะขับรถมาอีกนิดเจอพระบิณฑบาต น้าเรานี่รีบวิ่งถือถุงหมูปิ้งมื้อเช้าของเราไปใส่บาตรเรียบร้อยเลย
หลังจากที่เราไม่มีหมูปิ้งกินกันแล้ว เอ้ยไม่ใช่...เราเข้าเขตบ้านห้วยมุ่นฝนก็หยุดตก แล้วเราก็ยังเลี้ยวผิดค่ะ แค่นิดเดียวเอง
แต่เจอวิวสวยมากเลย จริงแล้วต้องเลี้ยวกลับมาทางที่จะไปชาติการนะค่ะ
ขับไปเรื่อยๆพร้อมกับฝนปรอยๆอีกรอบ ลัดเลาะตามโค้งไปค่ะ จนเข้าเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ขับรถเลยจุดนี้ไปอีกประมาณ 1 กิโลก็จะเจอที่ทำการอุทยานค่ะ เสียค่าเข้าคนล่ะ 40 บาทกับค่ารถ 30 บาท
เรามาถึงประมาณ 8 โมงเช้าพอดีเลยค่ะ มีคนมาก่อนหน้าเรา แล้ว 4 คน ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีใครขึ้นภูแล้ววันนี้
เราจัดแจงติดต่อเจ้าหน้าที่กรอกเอกสาร ชั่งน้ำหนักสัมภาระแต่เรื่องเต้นท์นี่เราเอาของอุทยานเพราะเจ้าหน้าที่แนะนำว่า
ที่เราเตรียมมาหลังเล็กกลัวว่าถ้าฝนตกหนักเหมือน 2 คืนที่ผ่านมาจะเอาไม่อยู่ เราเลยต้องเช่า 1 คืน 800 บาท
เราจ้างลูกหาบนะค่ะอุดหนุดคนอุตรดิตถ์ด้วยกัน 55+ที่จริงไม่ไหวแบกอะไรทั้งนั้นค่ะ เอาตัวเองให้รอดก่อนจะดีกว่า
เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกการเดินขึ้นภูแถมฝนก็ตกไปกลัวว่าจะไม่ถึงข้างบนเนาะ ค่าลูกหาบกิโลล่ะ 30 บาท
จากนั้นเราก็ไปร้านค้าของอุทยานค่ะทานมื้อเช้าก่อนเดียวไม่มีแรงเดิน อร่อยแนะนำเลย ราคาไม่แพง
มีของให้เราซื้อเผื่อเตรียมมาไม่พร้อมด้วยนะค่ะ เจ้าหน้าที่ย้ำเราเรื่องเสื้อกันฝนกับน้ำและมื้อเที่ยงด้วยว่าสำคัญมาก
จากนั้นเราก็พร้อมนั่งรถของอุทยานไปยังทางขึ้นภูซึ่งก็คือตรงน้ำตกภูสอยดาวที่เราผ่านมาตอนแรกนั่นเอง
เราก็แสดงบัตรที่เราจ่ายเงินมาให้เจ้าหน้าที่ดูค่ะแล้วก็พร้อม ลุยได้เลย เช้านี้มีแค่ 6 สาวเท่านั้นเองและคนที่อยู่ด้านบนภูวันนี้
ก็จะลงมาทั้งหมดเท่ากับว่าเรา 6 สาวเหมาภูสอยดาวกันเลยทีเดียว แต่วันนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปทำความสะอาดด้านบนด้วยเพราะ
ตั้งแต่วันแม่ที่คนมาเยอะต้องขึ้นไปทำความสะอาดสถานที่อุปกรณ์ต่างๆด้วย
ป้ายนี้จะติดแค่เฉพาะช่วงที่เปิดให้เดินขึ้นภูเท่านั้น ต้องถ่ายเป็นที่ระทึกซะหน่อย
[CR] ภูสอยดาว ขุนเขาแห่งสายหมอก เดินฟอกปอด กอดป่า ฝ่าฝน ไปกับหมวยซ่าส์
สวัสดีค่ะ ภูสอยดาว กับการปีนเขาครั้งแรกของหมวยเลยนะ เอาล่ะสิจะลำบากไม เหนื่อยไม จะไปถึงไม คำถามมากมายก่อนออกทริปครั้งนี้
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น
ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาดของจังหวัดอุตรดิตถ์ การเดินทางครั้งนี้อุ่นใจมาก
ก็บ้านหมวยอยู่ อุตรดิตถ์ นะแต่ทำงานที่ นนทบุรี แต่หมวยไม่เคยขึ้นภูเลยสักครั้ง หมวยนัดกับน้าสาวไว้เป็นตัวหลักรอที่บ้านเลย
ให้เตรียมเรื่องเสบียงและเต้นท์รอหมวยเลย กำหนดการเดินทาง 23-24 สิงหาคม 2559 1 คืนก็พอเพราะหน้าฝนในสวนของ
ไฮไลท์ยอดภูสอยดาวระดับ สองพันหนึ่ง (2,100 จากระดับน้ำทะเล) จะเปิดให้ขึ้นเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น
หมวยถึงบ้านที่อุตรดิตถ์ก็มีพี่ๆน้องๆจะไปด้วยแต่เอาเข้าจริงก็เหลือแค่หมวยกับน้า 2 คน พร้อมออกจากบ้านกัน ตี 5 เลยจร้า
เพราะเคยไปน้ำตกภูสอยดาวมาครั้งนึงแล้วตอนช่วงสงกรานต์ ตาม Gps ใช้เวลาประมาณ 1.30 นาที แต่เอาเข้าจริงประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าเลยค่ะ
ออกจากบ้านได้ประมาณครึ่งทางฝนตกหนักมากค่ะ หนักชนิดว่ามองไม่เห็นทางกันเลยทีเดียว
เราตกลงกับน้าว่าถ้าไปถึงไม่หยุดตกเราก็ไปถ่ายรูปที่น้ำตกแล้วก็กลับกัน พอเข้าเขตของอำเภอน้ำปาดเราก็ แวะซื้อเสบียงมื้อเช้ากันค่ะ
รถกับข้าวนี่เอง ได้หมูปิ้งมา 6 ไม้ แต่ข้าวเหนียวไม่มีขาย แม่ค้าบอกว่าซื้อตามบ้านได้เลยชาวบ้านหุงทุกบ้านเอามาขายก็ขายไม่ได้
แต่เราไม่ทันได้ซื้อหรอกค่ะ เพราะขับรถมาอีกนิดเจอพระบิณฑบาต น้าเรานี่รีบวิ่งถือถุงหมูปิ้งมื้อเช้าของเราไปใส่บาตรเรียบร้อยเลย
หลังจากที่เราไม่มีหมูปิ้งกินกันแล้ว เอ้ยไม่ใช่...เราเข้าเขตบ้านห้วยมุ่นฝนก็หยุดตก แล้วเราก็ยังเลี้ยวผิดค่ะ แค่นิดเดียวเอง
แต่เจอวิวสวยมากเลย จริงแล้วต้องเลี้ยวกลับมาทางที่จะไปชาติการนะค่ะ
ขับไปเรื่อยๆพร้อมกับฝนปรอยๆอีกรอบ ลัดเลาะตามโค้งไปค่ะ จนเข้าเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ขับรถเลยจุดนี้ไปอีกประมาณ 1 กิโลก็จะเจอที่ทำการอุทยานค่ะ เสียค่าเข้าคนล่ะ 40 บาทกับค่ารถ 30 บาท
เรามาถึงประมาณ 8 โมงเช้าพอดีเลยค่ะ มีคนมาก่อนหน้าเรา แล้ว 4 คน ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีใครขึ้นภูแล้ววันนี้
เราจัดแจงติดต่อเจ้าหน้าที่กรอกเอกสาร ชั่งน้ำหนักสัมภาระแต่เรื่องเต้นท์นี่เราเอาของอุทยานเพราะเจ้าหน้าที่แนะนำว่า
ที่เราเตรียมมาหลังเล็กกลัวว่าถ้าฝนตกหนักเหมือน 2 คืนที่ผ่านมาจะเอาไม่อยู่ เราเลยต้องเช่า 1 คืน 800 บาท
เราจ้างลูกหาบนะค่ะอุดหนุดคนอุตรดิตถ์ด้วยกัน 55+ที่จริงไม่ไหวแบกอะไรทั้งนั้นค่ะ เอาตัวเองให้รอดก่อนจะดีกว่า
เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกการเดินขึ้นภูแถมฝนก็ตกไปกลัวว่าจะไม่ถึงข้างบนเนาะ ค่าลูกหาบกิโลล่ะ 30 บาท
จากนั้นเราก็ไปร้านค้าของอุทยานค่ะทานมื้อเช้าก่อนเดียวไม่มีแรงเดิน อร่อยแนะนำเลย ราคาไม่แพง
มีของให้เราซื้อเผื่อเตรียมมาไม่พร้อมด้วยนะค่ะ เจ้าหน้าที่ย้ำเราเรื่องเสื้อกันฝนกับน้ำและมื้อเที่ยงด้วยว่าสำคัญมาก
จากนั้นเราก็พร้อมนั่งรถของอุทยานไปยังทางขึ้นภูซึ่งก็คือตรงน้ำตกภูสอยดาวที่เราผ่านมาตอนแรกนั่นเอง
เราก็แสดงบัตรที่เราจ่ายเงินมาให้เจ้าหน้าที่ดูค่ะแล้วก็พร้อม ลุยได้เลย เช้านี้มีแค่ 6 สาวเท่านั้นเองและคนที่อยู่ด้านบนภูวันนี้
ก็จะลงมาทั้งหมดเท่ากับว่าเรา 6 สาวเหมาภูสอยดาวกันเลยทีเดียว แต่วันนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นไปทำความสะอาดด้านบนด้วยเพราะ
ตั้งแต่วันแม่ที่คนมาเยอะต้องขึ้นไปทำความสะอาดสถานที่อุปกรณ์ต่างๆด้วย
ป้ายนี้จะติดแค่เฉพาะช่วงที่เปิดให้เดินขึ้นภูเท่านั้น ต้องถ่ายเป็นที่ระทึกซะหน่อย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น