"น่าน" ฉบับกะทัดรัด 2 วัน 1 คืน



วิวท้องนาและป่าเขาสุดสายตาของ อำเภอปัว จังหวัดน่าน ที่เราได้เห็นจากหลายๆ รีวิวในพันทิป ทำให้เราอยากจะไปเห็นด้วยตาตัวเองกันสักครั้ง แต่ด้วยภารกิจมากมาย จึงตัดสินใจเดินทางทริปนี้เพียง 2 วัน 1 คืนเท่านั้นค่ะ

ครั้งนี้ขอพึ่งรุ่นพี่ อย่างนครชัยแอร์ ที่เราเคยใช้บริการเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ กันมาแล้ว รถทัวร์ออกจากศูนย์บริการนครชัยแอร์ ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ นอนฟังเพลง พลิกตัวไปมาสักพักก็ถึงสถานีขนส่งจังหวัดน่านตอนเช้าพอดี

ทริปนี้เราตั้งใจ อยากจะไปแบบวิถีไบค์เกอร์ เช่ามอเตอร์ไซค์ขับจากร้านช่างแต้น บ้านท่าลี่ (พิกัดร้าน: ไม่ไกลจากข่วงเมืองน่าน บนถนนผากองไปสายท่าลี่ลุ่มเลยสี่แยกไฟแดงไปเล็กน้อยจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ)
เมืองน่านเช้าๆ แบบนี้ ก็ต้องใส่บาตรทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน จากนั้นก็ไปหาอะไรกินที่ตลาดเช้าในตัวเมืองกัน






แว๊นออกจากตัวเมืองน่านมุ่งหน้าอำเภอปัว อากาศกำลังดีไม่ร้อนออกจะเย็นๆ ด้วย ขับไปเรื่อยๆ เมื่อยก็แวะยืดเส้นยืดสายระหว่างทาง ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (ลืมจับเวลาแต่คิดว่าประมาณนี้ค่ะ) และแล้วก็มาถึงที่พักของเราคืนนี้ โฮมสเตย์ตานงค์ บ้านหลังใหญ่สีขาว ท่ามกลางท้องทุ่งนาและป่าเขาสีเขียวขจี รอจนบ่ายนิดๆ ก็พร้อมออกเดินทางเที่ยวปัวกันแล้ว จุดแรกที่จะไปเป็นสถานที่ห้ามพลาดของที่นี่นั่นคือ วัดภูเก็ต ค่ะ วัดนี้ตั้งอยู่บนเขาที่ไม่สูงมาก สามารถขับรถขึ้นไปจอดข้างบนได้ค่ะ ด้วยมุมสูงของวัดนี้จึงเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของปัว ด้านล่างมีการสร้างสะพานไม้ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปใกล้ชิดและเป็นส่วนหนึ่งของวิวสีเขียวสวยๆ ของที่นี่ด้วย








ขับรถออกจากวัดภูเก็ต ท่ามกลางเส้นทางเขียวขจี บางที่ได้แวะถ่ายรูป บางที่ก็ไม่ทันได้แวะ แต่เก็บความสวยงามและความทรงจำกลับมาเต็มเปี่ยมค่ะ เราไปต่ออีกสถานที่นั่นคือ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ก็ด้วยพิซซ่าหน้าเห็ดมันล่อใจให้ต้องมาอ่ะนะ ที่นี่มีโฮมสเตย์ด้วยนะเผื่อใครสนใจ ที่สำคัญวิวจากร้านอาหารมองลงไปข้างล่างก็ดีงามไม่น้อย มีป้ายบอกอีก 1 สถานที่แนะนำของที่นี่คือ วังศิลาแลง หรือคนแถวนี้เค้าเรียก แกรนแคนยอนเมืองปัว แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เป็นฤดูนี้น้ำหลาก เส้นทางไม่เอื้ออำนวยเราจึงไม่ได้ไปเห็นวังศิลาแลงกันด้วยตาของเราเอง แอบเสียดาย เศร้า







กลับถึงที่พัก กินมื้อเย็น นอนเล่น จิบเบียร์ เชียร์ลิเวอร์พูล เคล้าด้วยเสียงฝนที่เล่นตกทั้งคืน หลับสบายจริงๆ




เช้าวันอาทิตย์แล้วยังอยู่บนที่นอน.. จะให้ลุกไปไหนได้ล่ะคะ ก็ 7 โมงกว่าแล้วฝนยังไม่หยุดตกเลย เราเลยทำได้แค่เก็บข้าวของเพื่อเตรียมออกเดินทางอีกครั้ง ไม่นานฝนก็ซาพอดี แบบนี้ก็ต้องไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศที่นี่ให้หนำใจกันหน่อย







ออกจากที่พักเราตั้งใจจะไปพิชิตยอดดอยภูคา แต่ออกเดินทางมาไม่นานก็พบอุปสรรคนั่นคือ ฝนที่ตกปรอยๆ ตลอดทาง ทำให้ถนนลื่น ประกอบกับพี่ Wave ของเราก็เก่าแล้ว น้ำหนักตัวเราอีก ดูท่าจะไปไม่รอด เลยต้องบอกลาดอยภูคาแล้วแว๊นกลับไปเที่ยวในตัวเมืองน่านกันดีกว่า






เริ่มจากวัดพระธาตุเขาน้อย ตั้งอยู่บนเขาไกลจากตัวเมืองออกไปไม่กี่กิโล เพื่อไหว้พระขอพรและเก็บภาพเมืองน่านในมุมสูง เสียดายที่ฟ้าปิดเราจึงได้ภาพที่ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ถัดมาคือวัดภูมินทร์ วัดนี้อยู่ใจกลางเมืองและเป็นที่รู้จักกันจากภาพเขียนฝาผนัง กระซิบรักบันลือโลก ของปู่ม่านย่าม่าน จากนั้นเดินข้ามฝั่งไปพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน ถ่ายรูปกับอุโมงค์ต้นลีลาวดี แต่ที่พิพิธภัณฑ์กำลังดำเนินการปรับปรุงอยู่ซะนี่ เลยอดเข้าไปเยี่ยมชมด้านในเลย










เริ่มเหนื่อยกันแล้ว ขอไปพักกินกาแฟอ่านหนังสือ ทำตัวให้ช้าลงหน่อยที่ ห้องสมุดบ้านๆ น่านๆ ค่ะ ที่นี่ต้นไม้เยอะหนังสือแยะมีความอบอุ่นเป็นกันเองมากมาย ชอบจัง







เกือบได้เวลากลับกรุงเทพฯ กันแล้ว ขอเอาพี่ Wave ไปคืนแล้วออกมาเดินเล่นถนนคนเดินบริเวณหน้าวัดภูมินทร์ดีกว่า ทุกวันอาทิตย์ที่นี่จะมีการปิดถนนเพื่อให้พ่อค้าแม่ค้านำสินค้าพื้นเมืองมาขาย รวมทั้งอาหารพื้นเมืองน่าอร่อยทั้งหลาย และที่ข่วงเมืองนันทบุรีศรีนครน่าน (ลานกว้างสำหรับทำกิจกรรม) มีการแสดงดนตรีพื้นเมืองน่าน และปูเสื่อ ตั้งขันโตก เป็นแนวยาว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้คนได้นั่งพักและเพลิดเพลินไปกับอาหารและดนตรีสดพื้นเมืองน่านอีกด้วย






ได้เวลากลับจริงๆ กันแล้ว เราเดินตากฝนปรอยๆ จากวัดภูมินทร์ไปที่สถานีขนส่งจังหวัดน่าน นั่งพักสักครู่ก็ได้เวลาออกเดินทางกลับ

ขอบคุณผู้ร่วมเดินทาง ขอบคุณผู้คนที่ได้พบเจอ ขอบคุณสถานที่ และขอบคุณ "น่าน" ยังมีอีกหลายที่ที่เรายังไม่ได้เจอกัน ถ้ามีเวลาว่างเราจะกลับมาอีกแน่นอน

ปล. กะทัดรัดมั้ยล่ะค่ะท่านผู้ช้มมมม!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่