[CR] [Spoiler Alert] Sully : ปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสัน



-----------รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญในหนัง----------------

----กระทู้นี้มีบทวิจารณ์ฉากต่างๆ อย่างละเอียด เหมาะกับผู้ที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้ว หรือผู้ที่สตรองพอกับการสปอยล์หนังแบบฮาร์ดคอร์---


ก่อนจะพูดถึงตัวหนัง ขอเท้าความก่อนว่าเหตุการณ์ลงจอดฉุกเฉินในแม่น้ำฮัดสันนี้เราเคยได้อ่านสมัยอยู่ม.ปลายจากบทอ่านในหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ ตอนนั้นคิดว่าเป็นเรื่องเกิดขึ้นนานแล้วเสียอีก (ในบทอ่านไม่ได้ระบุปี) พอมาดูหนังเรื่องนี้จึงรู้สึกทึ่งว่าเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้เอง คือ วันที่ 15 มกราคม 2009 (ปีเดียวกับหนังสือเรียนที่ตีพิมพ์นั่นแหละ หนังสือเรียนภาษาอังกฤษเล่มนั้นอัพเดทเรื่องทันเหตุการณ์สุดๆ!---จำชื่อหนังสือเรียนไม่ได้นะ ถ้าจำได้เดี๋ยวมาอัพเดทค่ะ)

ก่อนจะไปดูหนังเราได้อ่านบทวิเคราะห์วิจารณ์จากในพันทิปมาพอสมควร และด้วยความที่รู้รายละเอียดของเหตุการณ์มาบ้างแล้วจากบทอ่านที่เคยอ่านสมัยเรียน การอ่านสปอยล์จึงไม่มีผลกับการตัดสินใจของเรา เราสัมผัสได้ว่าในพันทิปค่อนข้างชื่นชมหนังเรื่องนี้มาก ถึงขนาดบอกว่ามีสิทธิ์ส่งให้คุณลุงทอม แฮงก์ส เข้าชิงออสการ์อีกสมัยกันเลยทีเดียว หลังจากดูด้วยตัวเองแล้วเรารู้สึกว่าบทวิจารณ์เหล่านั้นกล่าวเกินจริงไปพอสมควรค่ะ (overrated)




จากประสบการณ์ดูหนังที่คุณปู่คลินท์ อีสต์วู้ดกำกับแล้วพอจะเดาทิศทางของหนังได้ว่าจะต้องมีการตัดสลับกลับไปกลับมา (flashback) ของเหตุการณ์ แต่รู้สึกว่ายุคหลังๆ ผลงานของคุณปู่ไม่ได้ละเมียดละไมเหมือนสมัยก่อน การจับอารมณ์ความรู้สึกของคนดูก็ยังไปได้ไม่สุด

หนังเปิดมาด้วยความวิตกกังวลของกัปตันเชสลี่ย์ "ซัลลี่" ซัลเลนเบอร์เกอร์ นักบินผู้คร่ำหวอดในการบินกว่า 40 ปี ในวัย 58 กัปตันเชสลีย์ต้องทำการบินครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต คือ การตัดสินใจลงจอดกลางแม่น้ำฮัดสันในวันกลางฤดูหนาวที่แม่น้ำเย็นจัด หนังเล่าเหตุการณ์ผ่านความฝันของกัปตันซัลลี่ที่นำเครื่องบินพุ่งชนตึกอันอาจจะเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้หากกัปตันตัดสินใจเลี้ยวกลับลากัวเดีย สนามบินที่บินออกมา

หนังพยายามเล่าสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้กัปตันรู้สึกวิตกกังวลกับการตัดสินใจของเขา โดยมีนักบินที่ 2 เจฟ สไคลส์(แสดงโดยแอรอน เอิร์กฮาร์ท) คอยให้กำลังใจว่ากัปตันได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดแล้ว จากนั้นตามมาด้วยการพิจารณาคดีของ NTBS หรือคณะกรรมการกำกับดูแลความปลอดภัยทางคมนาคมแห่งชาติที่เข้ามาตรวจสอบการบินหลังจากอุบัติเหตุทางการบินครั้งนี้ ในขณะที่หนังพยายามจะชี้นำให้คณะกรรมการเหล่านี้ "ดู" เป็นผู้ร้าย เรากลับได้เห็นการทำงานอย่างรอบคอบของหน่วยงานรัฐบาล (ซึ่งยังน่าสงสัยว่าในรายงานของคณะกรรมการชุดนี้ได้ตัดระยะเวลาและการตัดสินใจภาวะฉุกเฉินออกจากปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลงจอดจริงหรือไม่)

หนังทำได้ซึ้งในหลายฉาก โดยเฉพาะความห่วงใยต่อชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือของกัปตัน ซัลลี่ต้องการทราบว่าลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดรอดชีวิตหรือไม่ ฉากในห้องตรวจของโรงพยาบาลที่มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าลูกเรือทุกคนปลอดภัยทำเอาเราน้ำตาคลอเลยทีเดียว กัปตันซัลลี่ก็คงรู้สึกตื้นตันเช่นกันที่ไม่มีผู้โดยสายและลูกเรือเสียชีวิต แต่กลับน่าเสียดายที่หนังเล่าเรื่องย้อนแย้งตัวเองในหลายฉาก โดยเฉพาะฉากที่คุยโทรศัพท์กับภรรยา ในตอนเริ่มเรื่องในรถแท็กซี่ บอกว่ายังไม่ได้คุยกับภรรยาเลย แต่ต่อมาเมื่อย้อนลำดับไปช่วงที่อพยพผู้โดยสารจากแม่น้ำขึ้นมาบนเรือจะเห็นเลยว่ากัปตันซัลลี่โทรหาภรรยาเป็นคนแรก หนังอาจจะสื่อไปในทางที่ว่า "วันนั้น" ที่ยังไม่ได้โทรหาภรรยาหมายถึง "วันที่ถูกสอบสวนจากNTBS" แต่เราเชื่อว่าผู้ชมหลายคนคงเข้าใจไปว่าหมายถึงวันที่เครื่องบินตกไปแล้ว



นอกจากนี้ ยังน่าเสียดายที่หนังน่าจะเล่นกับปัญหาครอบครัวของกัปตันมากกว่านี้ การทำงานเป็นกัปตันมากว่า 40 ปี ในมุมมองของคนทั่วไป อาชีพกัปตันน่าจะทำรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างไม่ลำบาก แต่ทำไมลุงและภรรยาถึงต้องมากังวลเรื่องจะโดนธนาคารยึดที่ดินและบ้าน แสดงว่าลุงก็น่าจะมีปัญหาทางการเงินในระดับน่ากังวลใจ หากลุงไม่สามารถกลับไปบินได้นั่นหมายถึงครอบครัวประสบวิกฤติทางการเงินแน่นอน (พยายามคิดหาเหตุผลให้ว่าอาจจะเป็นเพราะขับแต่สายการบินในประเทศและเป็น low cost airline หรือเปล่า? ถ้าหนังขยายความประเด็นนี้ด้วยอาจจะมีส่วนช่วยขมวดเรื่องให้แน่นขึ้นได้อีก)

ที่สำคัญคือการลำดับภาพฉากสำคัญ คือ ฉากการฟังเทปในห้องนักบิน สำหรับเราถือว่าทำได้น่าผิดหวังมาก แม้อาจจะมองได้ว่าไคลแมกซ์ของเรื่องคือตอนก่อนหน้านี้ที่กัปตันซัลลี่และผู้ช่วยนักบินเจฟได้พยายามอธิบายให้คณะกรรมการฯเห็นว่า เวลาที่ใช้ในการตัดสินใจนั้นสำคัญมาก และนี่คือเหตุการณ์จริงไม่ใช่การจำลองสถานการณ์ ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดังนั้น จะยึดการจำลองสถานการณ์ของคอมพิวเตอร์ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ฉากการฟังบทสนทนาระหว่างกัปตันและนักบินที่ 1 ถือได้ว่ามีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจพิจารณากรณีนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะแสดงให้เห็นถึงความสุขุม ใจเย็น และการตัดสินใจอย่างเฉียบขาดของกัปตัน น่าเสียดายที่มันถูกสปอยล์ไปตั้งแต่ตอนต้นของเรื่อง และอีกหลายต่อหลายครั้งในเรื่องไปแล้ว...

การพยายามสร้างเรื่องราวของผู้โดยสารที่ใส่มาก็ดู random เกินไปจนไม่ได้ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมให้รู้สึกสงสารหรือตื่นตกใจไปกับผู้โดยสารเลย ตรงจุดนี้เรามองว่าเป็นความล้มเหลวของการตัดต่อและลำดับภาพ รวมถึงการใช้ดนตรีประกอบสื่ออารมณ์ให้คนดูรู้สึกไปกับหนัง

คะแนนสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ในมุมมองของเราคือ 7/10 นักแสดงนำเล่นได้ดีสมบทบาท เพียงแต่บทและการลำดับภาพยังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานของหนังปู่คลินท์ อีสต์วู้ด (แย่กว่า American Sniper)

ปล. ขอชมการแปลไทยของบทภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำได้สมบูรณ์และเหมาะสมกับเนื้อเรื่องดีค่ะ

----by มะหมาหมีขาว---
ชื่อสินค้า:   Sully
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่