ร้องศูนย์ดำรงธรรมมาสองปีสุดท้ายงานเข้า ตอบหน่อยครับหน่วยงานรัฐทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ

ที่บ้านเราอยู่กาญจนบุรี มีปัญหาเสียงดังจากแพเธค สถานบริการลอยน้ำตามแบบนี้เลย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ร้องเรียนหน่วยงานรัฐมาเกือบจะสองปีแล้วไม่มีอะไรคืบหน้าเลย แถมยังจะเดือดร้อนหนักกว่าเก่า หน่วยงานที่เคยไปร้องเรียนก็มีตามนี้เลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ก่อนหน้านี้เป็นสิบปีก็ใช้วิธีอดทน เพราะคิดว่ามันมีเรื่องอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็เลยไม่อยากยุ่ง แต่พอเห็นว่ายุคนี้มีหลายสิ่งที่หน่วยงานรัฐกล้าเอาจริง เราก็เลยเริ่มร้องเรียน ตอนแรกโทรไป 191 ตำรวจก็บอกว่ามันอยู่ในน้ำทำอะไรไม่ได้

พอตำรวจทำอะไรไม่ได้ เราก็ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรม (27 พ.ย. 2557) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทางศูนย์รับเรื่อง แล้วก็ส่งต่อไปที่อำเภอ อำเภอส่งต่อไปที่ตำรวจ  ตำรวจก็เรียกผู้ประกอบการสถานบันเทิงมาตักเตือน จากนั้นก็ส่งหนังสือแจ้งกลับมาถึงเราเพื่อเป็นหลักฐานว่าได้ดำเนินการให้แล้ว ทั้งหมดนี่ใช้เวลาเจ็ดเดือนเต็ม[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ถ้าเราไปแจ้งซ้ำ ทางศูนย์ดำฯ ก็ทำก็อปปี้จดหมายแบบซ้ำ  ๆ มาให้เรา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ที่แย่คือยิ่งแจ้งเสียงยิ่งดัง

โทรไป 1111 สำนักนายกรัฐมนตรี 8 ครั้ง ตั้งแต่ เมษายน – กรกฎาคม 2558 ครั้งสุดท้ายโทรไปวันที่ 9 ก.ค. 2558 เขาบอกว่าส่งเรื่องมาให้ที่เดียวกับศูนย์ดำรงธรรมนั่นแหละ

วันที่ 6 ก.ค. 2558 เราก็ไปที่ศูนย์ดำรงธรรมอีก คราวนี้เอาคลิปวีดีโอกับทำพาวเวอร์พอยต์ไปด้วย เพื่อจะบอกว่าเสียงมันดังยังงัย แพจอดที่ไหน วัยรุ่นมามั่วสุมลงแพกันยังงัย แล้วก็เขียนคำร้องไปอย่างละเอียด (ข้ามไปมั่งก็ได้ เอกสารเยอะเดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน)[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้  เจ้าหน้าที่ก็บอกให้เราไปตามเรื่องภายใน 15 วัน  พอครบ 15 วันเราไปตามเรื่องก็สรุปว่ายังไม่ได้ทำอะไร พึ่งจะร่างหนังสือส่งไปที่อำเภอ รวมแล้วเราตามเรื่องอยู่เกือบสี่เดือนก็ยังไม่ได้ทำอะไร พอไปตามบ่อย ๆ ก็บอกให้เราไปตามเรื่องเองที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี

วันที่ 27 ต.ค. 2558 เราไปอำเภอ ไปเจอปลัดอำเภอผู้หญิง ปลัดถามว่าเราเป็นใคร เจ้าหน้าที่ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ก็ไอ้นี่งัย คนที่ร้องเรียนเรื่องแพเธคเสียงดัง” แกบอกชื่อ นามสกุลของเราได้อย่างถูกต้องทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน เหมือนเราไปทำความเดือดร้อนให้ แล้วพอปลัดรู้ว่าเราเป็นคนในพื้นที่ก็พูดเสริมว่า”อยู่มาตั้งนาน  ยังไม่ชินอีกเหรอ” แต่ปลัดก็โทรถึงนายกสมาคมที่เกี่ยวกับเรื่องแพ แล้วคุยกันแบบสนิทสนม (เรียกชื่อเล่นกัน ทักทายกัน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ) ปลัดขอความร่วมมือนายกสมาคมให้บอกพวกแพเธคว่าอย่าไปจอดบริเวณบ้านเรา พอเรากลับมาบ้านคืนนั้นก็โดนสั่งสอนเลย พวกแพเธคมารวมกันจอดแล้วกระหน่ำเสียงเพลงตั้งแต่สองทุ่มจนถึงเที่ยงคืน แบบดังกว่าเดิมมาก

พอเป็นแบบนี้เราเลยส่งเรื่องขอให้ไทยพีบีเอสมาช่วย แล้วผ่านไปไม่กี่วันก็เป็นข่าว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พอเป็นข่าวเจ้าหน้าที่ก็เริ่มขยับ เรือมาอะไรมา สรรพกำลังดูจะพร้อมไปหมด แต่ชาวบ้านก็รู้กันอยู่แล้วว่าทำงานบังหน้าเฉย ๆ  ก็เลยฮึดกันขึ้นมาแล้วชวนกันไปร้องนายกรัฐมนตรี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พอเรื่องถึงนายกฯ ทุกคนก็ตื่นตัว ตื่นตัว ตื่นตัว ตำรวจทหาร ออกตรวจพรึบพรับ แพเธคถอดลำโพงออก  นายอำเภอเรียกประชุมด่วนวันอาทิตย์ แล้วก็ได้มาตรการออกมาแบบเสกได้ทันใจ เรื่องอะไรที่ก่อนหน้านี้เคยล่าช้าอืดอาดมาเป็นปี ก็บอกว่าจะเสร็จเรียบร้อยภายใน 7 วัน[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันที่ 23 พ.ย. 59 เจ้าหน้าที่ก็เรียกชาวบ้านให้มาประชุม ฝ่ายรัฐก็ตกลงจะทำตามมาตรการที่เตรียมเอาไว้กับผู้ประกอบการ ตำรวจก็ออกมารับปากว่าจะเป็นคนดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด และถ้าพบว่ามีเสียงดังให้โทรแจ้ง 191 (ก่อนหน้านี้ก็ถือว่าให้แล้ว ๆ กันไป ) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

หลังจากนั้นอีก 3 สัปดาห์ (4 ธ.ค. 2558)  พอเรื่องเงียบแล้วแพเธคก็เอาลำโพงกลับมาติดอีก พวกแพเธคเขารู้งานกันดี เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หน่วยงานระดับประเทศลงมาจัดการแพเธค ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ว่าฯที่เคยไปจัดระเบียบแพเธคโดนย้าย แล้วตอนหลังผู้ว่าฯคนนี้ได้เป็นกรรมการปปช. คณะกรรมการปปช.ก็เลยลงมาจัดการเมื่อปี 2551 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ก็ดีอยู่พักนึงแล้วมันก็กลับมาแย่อีก คราวนี้ปี 2555 ชาวบ้านก็ไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ก็มีการทำงานจัดฉากบังหน้า ทำได้ไม่นานเสียงก็ดังอีก ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ลงมาตรวจอีกตอนปี 2556 [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ก็ออกอาการเดียวกัน คือทุกฝ่ายออกมาทำงานแบบพอเป็นพิธีเท่านั้น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พอไปร้องนายกรัฐมนตรีคราวนี้ เขาก็ใช้โมเดลเดียวกัน ขั้นแรกถอดลำโพง ขั้นที่สองจัดประชุมหามาตรการ ขั้นที่สามรอให้เรื่องเงียบ (โครงการประชารัฐเลยนะเนี่ย)

มาดูกระบวนการทำงานของข้าราชการกัน

พอมีเสียงดังเกิดขึ้นแล้วเราโทรไป 191 เขาก็ส่งตำรวจมา พอตำรวจรู้ว่าเป็นแพใครเขาก็ไม่ได้ทำอะไร เขาบอกว่าจะประสานไปที่เจ้าของ(เป็นแกนนำในสมาคมชาวเรือชาวแพ) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เป็นแบบนี้หลายครั้งหลายหน แพที่ทำผิดก็เป็นกลุ่มเดิม ๆ บางทีตอนกลางคืนก็มองไม่เห็นชื่อแพว่าเป็นแพอะไร พอเป็นแบบนี้หลาย ๆ ครั้ง ตำรวจที่ลงพื้นที่เขาก็คงอึดอัด เขาบอกว่าต้องแจ้งทางปกครองให้มาจัดการ เราก็เลยคุยกับทางตำรวจที่เป็นร้อยเวรให้ชัด ๆ ไปเลยว่าปกครองที่ว่าคือใคร [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พอตำรวจแนะนำให้ไปแจ้งศูนย์ดำรงธรรม เราไปแล้วศูนย์ดำรงธรรมเขาก็โยนให้ไปตามที่อำเภอ แล้วพอไปกล่าวหาเขามาก ๆ ว่าหน่วยงานรัฐไม่ได้ทำงานเขาบอกให้คุยกับทหาร [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ระหว่างนั่งรอทหารมาปรับทัศนคติ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมก็แนะนำว่า “เวลาเสียงดัง ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น”[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(ขอข้ามเรื่องทหาร)

หลังจากนั้นเราก็ไปที่อำเภอ ปลัดอำเภอเขาก็บอกว่าเบื้องต้นต้องแจ้งตำรวจ เพราะตำรวจเป็นฝ่ายปราบปราม อำเภอมีหน้าที่ดูภาพรวม [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เรางงกับเรื่องราวก็เลยกลับไปที่ศาลากลาง เจ้าหน้าที่ก็ให้หนังสือคำสั่งมาฉบับหนึ่ง บอกว่านายอำเภอนั่นแหละเป็นหัวหน้าชุดออกตรวจ พอกลับไปอำเภออีกรอบคราวนี้ปลัดเขาโยนแบบกระจายเลย ทั้งสิ่งแวดล้อม ทั้งสาธารณสุข ทั้งสำนักงานเจ้าท่า[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

พอเรากลับไปเริ่มที่ตำรวจ191 เจ้าหน้าที่เขาก็โอนไปให้ตำรวจที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี แล้วตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรี ก็บอกว่าจังหวัดนั่นแหละโยนมาให้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แล้วคนที่ควบคุมดูแลหน่วยงานเหล่านี้ล่ะเขาทำอะไรอยู่ ทั้ง ๆ ที่นายกฯรัฐมนตรีก็มีคำสั่งมาแล้ว ชาวบ้านก็ทำหนังสือย้ำเตือนไปแล้วก็ยังไม่ขยับ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ รายงานสิ่งแวดล้อมก็ระบุชัดว่าเสียงมันเกินมาตรฐานถึงสองเท่า  แล้วเขาทำอะไรอยู่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จะด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ หลังจากร้องเรียนหนัก ๆ ก็เกิดสามสิ่งที่ทำให้ต้องหยุดร้องเรียน
สิ่งแรกมีเจ้าหน้าที่มาจากกองช่าง มาตรวจบ้าน แจ้งว่ามีคนร้องเรียนว่าบ้านเราปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงขอเข้าตรวจ พอสอบถามปรากฏว่าคนที่มาตรวจนั่นแหละเป็นคนอนุมัติเอง พอจำเรื่องราวได้แล้วก็กลับไป (เจ้าหน้าที่คงไม่รู้เรื่องด้วย แต่อยากรู้ว่ามีใครสั่งให้มาตรวจ)
สิ่งที่สอง แพเธคเสียงดังมากขึ้นและจะเร่งเสียงให้ดังมากขึ้นไปอีกตอนผ่านบ้านคนที่ไปร้องเรียน
สิ่งที่สาม เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ มาตรวจบ้านสามครั้ง (เราไม่อยู่บ้าน ผู้รับเหมาเป็นคนเล่าให้ฟัง) ครั้งที่สามขอให้บริจาคช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ 1900 บาท และผู้รับเหมาช่วยไป 190 บาท

เจ้าหน้าที่รัฐช่วยตอบหน่อยทำงานกันแบบนี้มันปกติหรือเปล่า
(คืนวันที่ 16 ก.ย. เสียงยังดังอยู่ และดังตั้งแต่สองทุ่มจนถึงตีหนึ่งของวันที่ 17 ก.ย. แล้วจะให้ไปแจ้งหน่วยงานไหน บอกมาเลย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่