สวัสดีชาวพันทิปทุกคนนะคะ วันนี้อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ โดยเรายืมล็อคอินเพื่อนมาใช้ค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า...เราจะไปเบิกค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง พอไปถึงสำนักงานใหญ่แถวๆ สีลม ก็เดินไปตรงศูนย์บริการลูกค้า พนักงานตรงนั้นก็ไล่ให้ไปทำเรื่องตั้งเบิกก่อน ซึ่งต้องเดินไปที่ตึกด้านหลัง เราก็เดินไปตามที่เค้าบอกจนถึงห้องนั้น พนักงานในห้องนั้นก็บอกว่าคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ไม่มา เค้าลาหยุด ถ้าจะทำเรื่องตั้งเบิกให้ไปสำนักงานที่สุรวงศ์ แล้วก็ให้เดินขึ้นไปติดต่อที่ชั้น10นะ โชคดีที่มีรถรับส่งพนักงานก็เลยติดรถไปกับเค้าด้วย พอไปถึงที่สุรวงศ์ก็ขึ้นไปชั้น 10 ตามที่พนักงานคนนั้นบอก พนักงานที่ชั้น 10 ก็บอกว่าตรงนี้ไม่ใช่ที่ทำเรื่องตั้งเบิก นางก็บอกให้เราลงไปที่ชั้น 1 เดินผ่านศูนย์ซ่อมรถไปเดี๋ยวก็เจอ นี่ก็หอบร่างลงชั้น 1 และในที่สุด...ก็ได้คุยสักที เย้ๆๆ
แต่เดี๋ยวก่อน!!! เรื่องมันยังไม่จบง่ายๆ...
เมื่อเราบอกว่าจะมาเรียกร้องค่าเสียหาย แล้วบอกข้อมูลทะเบียนรถคันที่ชนเรา ซึ่งก็ทำพรบ.กับบริษัทนี้แหล่ะ
พนักงาน: ไม่พบข้อมูลเลย วันที่เกิดเรื่องได้มีตัวแทนไปคุย ณ ที่เกิดเหตุรึป่าว
เรา: ไม่มีค่ะ เพราะคนขับอ้างว่าประกันรถเค้าขาดยังไม่ได้ต่อ ( ซึ่งเค้าก็ทำประกันรถคนละบริษัทกับพรบ.อีก เลยไม่มีการโทรเรียกตัวแทนประกันหรือตัวแทนจากบริษัทที่ทำพรบ.จากฝ่ายนั้นแต่อย่างใด นอกจากเถ้าแก่เจ้าของรถ--")
พนักงาน: ถ้าไม่มีตัวแทนของเราไปคุย ก็ไม่มีข้อมูล เพราะเลขเรื่องเค้าจะบันทึก ณ วันเกิดเหตุ
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องไปเบิกกับทางพรบ.ของรถเราเองนะ
เรา: ค่ะ (เงิบ และเดินกลับจากสุรวงศ์มาแบบสวยๆ)
สุดท้ายก็เดินทางไปยังบริษัทประกันภัยที่เราทำพรบ.+ประกันรถไว้ ทางบริษัทประกันของเราก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่เราต้องการได้ (แล้วเดี๋ยวเค้าจะไปเบิกกับบริษัทฝ่ายนู้นอีกที) แล้วเค้าก็แนะนำมาว่าเราสามารถไปเบิกค่าสินไหมทดแทนจากการที่เราเสียประโยชน์จากการที่นำรถไปซ่อม หรือจากการที่เราเสียเวลา ไม่สามารถไปทำงานได้กับทางบริษัทประกันของอีกฝ่ายได้นะ
สรุปสิ่งที่ได้ในวันนี้...
1. เมื่อเกิดเหตุรถชนต์ใดๆ ให้เราไปติดต่อกับบริษัทประกันภัยที่เราทำได้เลย เดี๋ยวบริษัทเค้าก็ไปเคลียร์กันเอง
(ถ้าถามว่าทำไมไม่ไปติดต่อกับบริษัทประกันฝ่ายตัวเองตั้งแต่แรก...
ก็ขอตอบว่า รถที่เรานั่งมานั้นโดนชนยับจนสภาพแบบว่าไม่ควรจะเอามาใช้ต่อ ก็เลยขายให้กับเถ้าแก่เจ้าของรถคันที่ชนไปแล้ว เถ้าแก่ก็บอกให้ติดต่อเดินเรื่องกับบริษัทที่เค้าทำพรบ.แทน)
2. หากเราเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันของเราจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เราได้ ส่วนค่าสินไหมทดแทนเราต้องเป็นคนไปติดต่อกับบริษัทประกันของอีกฝ่ายเอง โดยเราก็ควรจะมีตัวเลขในใจที่จะเรียกร้องจากเค้า แต่เค้าจะให้ได้ตามที่ขอมั้ยอันนี้ก็อีกเรื่อง
3. ส่วนสินไหมที่ว่าจะเรียกเท่าไรนั้น พนักงานแนะนำวิธีคิดแบบคร่าวๆว่า เราสามารถคิดได้จากเงินเดือนของเรา*(วันที่เราจำเป็นต้องหยุด/วันทำงานในเดือนนั้น) แล้วทางบริษัทประกันฝ่ายผิดเค้าก็จะพิจารณาตามหลักฐานที่เรามี
4. ถ้าคู่กรณีทำพรบ.รถกับประกันคนละบริษัท แล้วประกันรถของคู่กรณีขาดพอดี ก็อย่าลืมบอกให้เค้าโทรหาบริษัทที่ทำพรบ. ด้วย เพราะอย่างน้อยๆ จะได้มีตัวแทนของเค้ามาทำเรื่อง เพื่อที่จะได้มีข้อมูลอ้างอิงต่อไป
5. ***ข้อนี้สำคัญมากๆๆๆๆๆ*** บริษัทประกันภัยที่ฝ่ายผิดทำพรบ.ห่วยมากที่มากที่สุด บริการไม่ดี สถานที่น่ากลัว มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลานว่าอย่าไปหลวมตัวทำประกันกับบริษัทนี้เชียวนะ
นอกจากนี้มีคำถามฝากมาถามขอคำแนะนำจากเพื่อนๆชาวพันทิพตามนี้
1. เพื่อนจขกท.ควรเรียกค่าสินไหมทดแทนเท่าไรดี แล้วนอกจากวิธีคิดจากเงินเดือนกับจำนวนวันที่หยุดงานแล้ว ยังมีวิธีคิดอื่นๆอีกหรือไม่คะ
2. ในวันเกิดเหตุ มีคนนั่งในรถเพื่อนจขกท. 4 คน (รวมคนขับ) ซึ่งเพื่อนจขกท.และพี่ของเขาได้รับบาดเจ็บและไปหาหมอแล้ว สำหรับตัวเพื่อนยังเก็บสำเนาใบเสร็จ และใบรับรองแพทย์ตัวจริงไว้ ส่วนพี่ของเพื่อนมีแต่ใบเสร็จอย่างเดียว ส่วนพ่อกับแม่เพื่อนซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้ามีอาการเจ็บหน้าอกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ไปหาหมอ เพราะคิดว่าตนไม่น่าจะเป็นอะไรมาก และคำถามก็คือ
2.1 ในเมื่อไม่มีใบเสร็จและใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐาน เราควรทำอย่างไร หากต้องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในส่วนของพ่อกับแม่ และในส่วนของพี่ ถ้ามีแค่ใบเสร็จจะเพียงพอหรือไม่ จำเป็นต้องขอใบรับรองแพทย์ย้อนหลังมั้ย
2.2 ในส่วนของค่าเสียเวลา ค่าเสียประโยชน์จากการที่เราไม่มีรถใช้ รวมถึงค่าเดินทางที่เราต้องไปหาหมอ บริษัทประกันของฝ่ายที่ชนเราจะพิจารณาจากอะไรคะ ในเมื่อเราไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรของค่าต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งไม่เหมือนกับค่ารักษาพยาบาลที่มีใบเสร็จค่ารักษารวมถึงใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐานประกอบ
3. หากบริษัทฝ่ายประกันไม่ยอมจ่าย เราควรทำอย่างไรดีคะ (แอบกลัว ยิ่งบริการไม่ดีอยู่)
ขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่านจนจบ ใครมีอะไรเพิ่มเติมก็แนะนำกันได้นะคะ
#พรบ. #ประกันภัย #รถยนต์ #ใครยังไม่ได้ทำบุญแก้ปีชงก็อย่าลืมไปแก้กันด้วยนะ #เพื่อความสบายใจ🙏🙏🙏
******ชื่อย่อ อคน ประกันภัย********
แชร์ประสบการณ์: การเบิกค่ารักษาพยาบาลจากพรบ.รถยนต์
เรื่องมีอยู่ว่า...เราจะไปเบิกค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง พอไปถึงสำนักงานใหญ่แถวๆ สีลม ก็เดินไปตรงศูนย์บริการลูกค้า พนักงานตรงนั้นก็ไล่ให้ไปทำเรื่องตั้งเบิกก่อน ซึ่งต้องเดินไปที่ตึกด้านหลัง เราก็เดินไปตามที่เค้าบอกจนถึงห้องนั้น พนักงานในห้องนั้นก็บอกว่าคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ไม่มา เค้าลาหยุด ถ้าจะทำเรื่องตั้งเบิกให้ไปสำนักงานที่สุรวงศ์ แล้วก็ให้เดินขึ้นไปติดต่อที่ชั้น10นะ โชคดีที่มีรถรับส่งพนักงานก็เลยติดรถไปกับเค้าด้วย พอไปถึงที่สุรวงศ์ก็ขึ้นไปชั้น 10 ตามที่พนักงานคนนั้นบอก พนักงานที่ชั้น 10 ก็บอกว่าตรงนี้ไม่ใช่ที่ทำเรื่องตั้งเบิก นางก็บอกให้เราลงไปที่ชั้น 1 เดินผ่านศูนย์ซ่อมรถไปเดี๋ยวก็เจอ นี่ก็หอบร่างลงชั้น 1 และในที่สุด...ก็ได้คุยสักที เย้ๆๆ
แต่เดี๋ยวก่อน!!! เรื่องมันยังไม่จบง่ายๆ...
เมื่อเราบอกว่าจะมาเรียกร้องค่าเสียหาย แล้วบอกข้อมูลทะเบียนรถคันที่ชนเรา ซึ่งก็ทำพรบ.กับบริษัทนี้แหล่ะ
พนักงาน: ไม่พบข้อมูลเลย วันที่เกิดเรื่องได้มีตัวแทนไปคุย ณ ที่เกิดเหตุรึป่าว
เรา: ไม่มีค่ะ เพราะคนขับอ้างว่าประกันรถเค้าขาดยังไม่ได้ต่อ ( ซึ่งเค้าก็ทำประกันรถคนละบริษัทกับพรบ.อีก เลยไม่มีการโทรเรียกตัวแทนประกันหรือตัวแทนจากบริษัทที่ทำพรบ.จากฝ่ายนั้นแต่อย่างใด นอกจากเถ้าแก่เจ้าของรถ--")
พนักงาน: ถ้าไม่มีตัวแทนของเราไปคุย ก็ไม่มีข้อมูล เพราะเลขเรื่องเค้าจะบันทึก ณ วันเกิดเหตุ
ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้องไปเบิกกับทางพรบ.ของรถเราเองนะ
เรา: ค่ะ (เงิบ และเดินกลับจากสุรวงศ์มาแบบสวยๆ)
สุดท้ายก็เดินทางไปยังบริษัทประกันภัยที่เราทำพรบ.+ประกันรถไว้ ทางบริษัทประกันของเราก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลตามที่เราต้องการได้ (แล้วเดี๋ยวเค้าจะไปเบิกกับบริษัทฝ่ายนู้นอีกที) แล้วเค้าก็แนะนำมาว่าเราสามารถไปเบิกค่าสินไหมทดแทนจากการที่เราเสียประโยชน์จากการที่นำรถไปซ่อม หรือจากการที่เราเสียเวลา ไม่สามารถไปทำงานได้กับทางบริษัทประกันของอีกฝ่ายได้นะ
สรุปสิ่งที่ได้ในวันนี้...
1. เมื่อเกิดเหตุรถชนต์ใดๆ ให้เราไปติดต่อกับบริษัทประกันภัยที่เราทำได้เลย เดี๋ยวบริษัทเค้าก็ไปเคลียร์กันเอง
(ถ้าถามว่าทำไมไม่ไปติดต่อกับบริษัทประกันฝ่ายตัวเองตั้งแต่แรก...
ก็ขอตอบว่า รถที่เรานั่งมานั้นโดนชนยับจนสภาพแบบว่าไม่ควรจะเอามาใช้ต่อ ก็เลยขายให้กับเถ้าแก่เจ้าของรถคันที่ชนไปแล้ว เถ้าแก่ก็บอกให้ติดต่อเดินเรื่องกับบริษัทที่เค้าทำพรบ.แทน)
2. หากเราเป็นฝ่ายถูก บริษัทประกันของเราจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เราได้ ส่วนค่าสินไหมทดแทนเราต้องเป็นคนไปติดต่อกับบริษัทประกันของอีกฝ่ายเอง โดยเราก็ควรจะมีตัวเลขในใจที่จะเรียกร้องจากเค้า แต่เค้าจะให้ได้ตามที่ขอมั้ยอันนี้ก็อีกเรื่อง
3. ส่วนสินไหมที่ว่าจะเรียกเท่าไรนั้น พนักงานแนะนำวิธีคิดแบบคร่าวๆว่า เราสามารถคิดได้จากเงินเดือนของเรา*(วันที่เราจำเป็นต้องหยุด/วันทำงานในเดือนนั้น) แล้วทางบริษัทประกันฝ่ายผิดเค้าก็จะพิจารณาตามหลักฐานที่เรามี
4. ถ้าคู่กรณีทำพรบ.รถกับประกันคนละบริษัท แล้วประกันรถของคู่กรณีขาดพอดี ก็อย่าลืมบอกให้เค้าโทรหาบริษัทที่ทำพรบ. ด้วย เพราะอย่างน้อยๆ จะได้มีตัวแทนของเค้ามาทำเรื่อง เพื่อที่จะได้มีข้อมูลอ้างอิงต่อไป
5. ***ข้อนี้สำคัญมากๆๆๆๆๆ*** บริษัทประกันภัยที่ฝ่ายผิดทำพรบ.ห่วยมากที่มากที่สุด บริการไม่ดี สถานที่น่ากลัว มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลานว่าอย่าไปหลวมตัวทำประกันกับบริษัทนี้เชียวนะ
นอกจากนี้มีคำถามฝากมาถามขอคำแนะนำจากเพื่อนๆชาวพันทิพตามนี้
1. เพื่อนจขกท.ควรเรียกค่าสินไหมทดแทนเท่าไรดี แล้วนอกจากวิธีคิดจากเงินเดือนกับจำนวนวันที่หยุดงานแล้ว ยังมีวิธีคิดอื่นๆอีกหรือไม่คะ
2. ในวันเกิดเหตุ มีคนนั่งในรถเพื่อนจขกท. 4 คน (รวมคนขับ) ซึ่งเพื่อนจขกท.และพี่ของเขาได้รับบาดเจ็บและไปหาหมอแล้ว สำหรับตัวเพื่อนยังเก็บสำเนาใบเสร็จ และใบรับรองแพทย์ตัวจริงไว้ ส่วนพี่ของเพื่อนมีแต่ใบเสร็จอย่างเดียว ส่วนพ่อกับแม่เพื่อนซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้ามีอาการเจ็บหน้าอกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ไปหาหมอ เพราะคิดว่าตนไม่น่าจะเป็นอะไรมาก และคำถามก็คือ
2.1 ในเมื่อไม่มีใบเสร็จและใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐาน เราควรทำอย่างไร หากต้องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในส่วนของพ่อกับแม่ และในส่วนของพี่ ถ้ามีแค่ใบเสร็จจะเพียงพอหรือไม่ จำเป็นต้องขอใบรับรองแพทย์ย้อนหลังมั้ย
2.2 ในส่วนของค่าเสียเวลา ค่าเสียประโยชน์จากการที่เราไม่มีรถใช้ รวมถึงค่าเดินทางที่เราต้องไปหาหมอ บริษัทประกันของฝ่ายที่ชนเราจะพิจารณาจากอะไรคะ ในเมื่อเราไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรของค่าต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งไม่เหมือนกับค่ารักษาพยาบาลที่มีใบเสร็จค่ารักษารวมถึงใบรับรองแพทย์เป็นหลักฐานประกอบ
3. หากบริษัทฝ่ายประกันไม่ยอมจ่าย เราควรทำอย่างไรดีคะ (แอบกลัว ยิ่งบริการไม่ดีอยู่)
ขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่านจนจบ ใครมีอะไรเพิ่มเติมก็แนะนำกันได้นะคะ
#พรบ. #ประกันภัย #รถยนต์ #ใครยังไม่ได้ทำบุญแก้ปีชงก็อย่าลืมไปแก้กันด้วยนะ #เพื่อความสบายใจ🙏🙏🙏
******ชื่อย่อ อคน ประกันภัย********