โน้ตบุ๊กสมัยนี้ทำอะไรมากมายหลากหลายกว่าโน้ตบุ๊กกว่าแต่ก่อนมากๆ เพราะด้วยชิปประมวลผลที่ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้เหมาะกับคนที่กำลังมองหาโน้ตบุ๊กซักเครื่องที่ไม่ใช่เพียงโน้ตบุ๊กธรรมดาทั่วไป ซึ่งในกระทู้นี้ผมได้มีโอกาสรีวิว HP Pavilion x360 ปี 2016 ที่ต้องบอกว่ามีความน่าสนใจมากๆ ทีเดียว ซึ่งตรงนี้เพื่อนๆ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากทางเว็บไซต์
https://www.hpstorethailand.com/ ได้เลย
ในส่วนของสเปก HP Pavilion x360 ทีหลากหลายรุ่นด้วยกัน โดยรุ่นที่ผมได้รับมารีวิวนั้นจะเป็นไฮบริดโน้ตบุ๊กบางเบาหน้าจอ LED ที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 13.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.58 กิโลกรัม ทำให้การพกพาทำได้โดยง่าย
HP Pavilion x360 ยังใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-6200u ที่เป็นการทำงานแบบ 2 Core 2 Thread ความเร็ว 2.30GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 2.80GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel HD Graphics 520 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความเร็วสูงที่ความจุ 128GB
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Pavilion x360 ได้มีการติดตั้ง USB 3.0 และ USB 2.0 อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ ในส่วนของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 26,990 บาท โดยมีรุ่นเริ่มต้นมีราคาเพียง 15,990 บาทเท่านั้น
ดีไซน์การออกแบบใหม่ HP Pavilion x360 เป็นการต่อยอดมาจากรุ่นก่อหน้า ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊คยุคปัจจุบันที่มาพร้อมสีสันที่สวยงามลงตัว อีกทั้งเชื่อได้ว่ายังโดนใจวัยรุ่นเพราะมีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ สำหรับ HP Pavilion x360 นั้นมีหน้าตาออกไปทางเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยการเล่นกับการออกแบบที่มีความโค้งเว้ามีมิติในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่าสาวๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบ เพราะตัวแอดมินโป้ง ก็ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นในรูปลักษณ์ที่ดูแล้วน่าจะดูมีค่าตัวที่แพงกว่านี้
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ในบริเวณฝาหลังของเครื่องจะเป็นพลาสติกเกรดสูงตัดด้วยโลโก้ของ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอเป็นกระจกทั้งบาน เล่นสีขอบจอด้านในเป็นสีดำพร้อมด้วยยางรองขอบรอบตัวจอ สำหรับตัวเครื่องด้านในบริเวณรอบๆ แป้นพิมพ์ ที่พักมือ ใช้วัสดุพลาสติกเกรดสูงเช่นกัน โดยเข้ากับแป้นคีย์บอร์ดสีดำ ให้อารมณ์เรียบง่ายแต่ดูดี
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับ Ultrabook รุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ จากการที่มันเป็น 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศานั่นเอง ส่วนความบางก็บางเพียง 20.8 มิลลิเมตรและเบาเพียง 1.58 กิโลกรัมเท่านั้น
HP Pavilion x360 สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ส่งผลให้มีรูปแบบการใช้งานถึง 4 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Notebook / Stand / Tent / Tablet ส่งผลให้เป็นได้มากกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป เรื่องของการระายความร้อนนั้นก็ออกแบบมาเป็นอย่างดีกับด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลมร้อนออกอยู่ ทำให้ไม่รบกวนเราเวลาที่ใช้งานเครื่อง ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นั้น ให้ความสวยงามลงตัวมากกว่าเดิมจากบางพับที่ดูแล้วกระชับกว่าเดิม อีกทั้งมิติตัวเครื่องก็ดูเล็กลงด้วยเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2015
สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP Pavilion x360 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการใช้งานในโน้ตบุ๊กทั่วไป ด้วยขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อว ด้วยคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี
หน้าจอของ HP Pavilion x360 นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพดีเหนือกว่า HP Pavilion รุ่นทั่วไป โดยในส่วนของการใช้งานต่างๆ ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกับความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล เมื่อใช้งานการสัมผัสหน้าจอก็มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมหรือทำงานก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้องสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอเป็นกระจกทำให้สะท้อนแสงพอสมควร
สำหรับระบบเสียงเป็น B&O Play และลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบแป้นคีย์บอร์ดด้านบนแบบสเตอริโอ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงที่ได้จากโน้ตบุ๊กเครื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่ามีความประทับใจในเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควรเลยทีเดียว จากการที่มี HP Audio Boost ช่วยยกระดับประสบการณ์ระบบเสียงกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวนสองพอร์ต และพอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอก ไว้ถ่ายโอนข้อมูล รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน นอกเหนือจากนี้ก็มีช่องเสียบหูฟังหรือการ์ดรีดเดอร์ก็มีครบครัน ส่วน LAN นั้นถ้าหากจำเป็นต้องใช้งานคงต้องอาศัยตัวแปลงจาก USB > LAN อีกทีหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับโน้ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาอยู่แล้ว
เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหา 2-in-i Notebook ซักตัวที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานจริงจังหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าเลือกสรรค์ได้ตามต้องการ แต่รับรองว่าถ้าเป็นรุ่น Core i5 + SSD ก็จะใช้งานได้อย่างลื่นไหลแน่นอน (แรม 4GB อาจจะน้อยไปหน่อย ควรอัพเกรดเป็น 8GB ได้ก็ดี) ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจากการทดสอบทำให้ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องได้นานประมาณเกือบ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม HP Pavilion x360 ที่แม้ว่าดูราคาแล้วอาจจะสูงซักหน่อยถ้าเทียบกับสเปกที่ได้ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่หลากหลายแบบในหนึ่งเดียว ที่เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊ก และเป็นแท็บเล็ตได้เต็มรูปแบบ พร้อมที่จะ Work, Play & Sharing ได้ในทุกที่ทุกเวลา สนนราคามีตั้งแต่ 15,990 บาท ไปจนถึง 26,990 บาท ตามแต่งบประมาณก็แล้วกันครับ
จุดเด่น :
เป็นโน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
สเปกภายในเป็น Intel Core i5 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
หน้าจอทัชกรีนขนาด 13.3″ Full HD ให้ภาพสวยงามสมจริง
ติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ช่วยสนับสนุนในการใช้งานมาให้
วัสดุและงานประกอบถืออว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน้ตบุ๊กระดับสูงจาก HP
มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สนับสนุนการใช้งานทัชกรีนอย่างเต็มที่
มาพร้อมระบบเสียงและลำโพง B&O Play
รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP
ข้อสังเกตุ :
กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้
แรมน้อยไปหน่อย ควรเพิ่มเป็น 8GB แต่ต้องถอด 4GB เดิมออก
[SR] HP Pavilion x360 ปี 2016 โน้ตบุ๊คหน้าจอ 11 - 13" ใช้งานได้หลายโหมด ในราคาเริ่มต้นเพียง 15,990 บาท ได้ Windows 10 แท้
ในส่วนของสเปก HP Pavilion x360 ทีหลากหลายรุ่นด้วยกัน โดยรุ่นที่ผมได้รับมารีวิวนั้นจะเป็นไฮบริดโน้ตบุ๊กบางเบาหน้าจอ LED ที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 13.3 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.58 กิโลกรัม ทำให้การพกพาทำได้โดยง่าย
HP Pavilion x360 ยังใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-6200u ที่เป็นการทำงานแบบ 2 Core 2 Thread ความเร็ว 2.30GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 2.80GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel HD Graphics 520 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDR4 และฮาร์ดดิสก์แบบ SSD ความเร็วสูงที่ความจุ 128GB
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Pavilion x360 ได้มีการติดตั้ง USB 3.0 และ USB 2.0 อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ ในส่วนของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 26,990 บาท โดยมีรุ่นเริ่มต้นมีราคาเพียง 15,990 บาทเท่านั้น
ดีไซน์การออกแบบใหม่ HP Pavilion x360 เป็นการต่อยอดมาจากรุ่นก่อหน้า ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊คยุคปัจจุบันที่มาพร้อมสีสันที่สวยงามลงตัว อีกทั้งเชื่อได้ว่ายังโดนใจวัยรุ่นเพราะมีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ สำหรับ HP Pavilion x360 นั้นมีหน้าตาออกไปทางเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยการเล่นกับการออกแบบที่มีความโค้งเว้ามีมิติในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่าสาวๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบ เพราะตัวแอดมินโป้ง ก็ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นในรูปลักษณ์ที่ดูแล้วน่าจะดูมีค่าตัวที่แพงกว่านี้
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ในบริเวณฝาหลังของเครื่องจะเป็นพลาสติกเกรดสูงตัดด้วยโลโก้ของ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอเป็นกระจกทั้งบาน เล่นสีขอบจอด้านในเป็นสีดำพร้อมด้วยยางรองขอบรอบตัวจอ สำหรับตัวเครื่องด้านในบริเวณรอบๆ แป้นพิมพ์ ที่พักมือ ใช้วัสดุพลาสติกเกรดสูงเช่นกัน โดยเข้ากับแป้นคีย์บอร์ดสีดำ ให้อารมณ์เรียบง่ายแต่ดูดี
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับ Ultrabook รุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ จากการที่มันเป็น 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศานั่นเอง ส่วนความบางก็บางเพียง 20.8 มิลลิเมตรและเบาเพียง 1.58 กิโลกรัมเท่านั้น
HP Pavilion x360 สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ส่งผลให้มีรูปแบบการใช้งานถึง 4 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Notebook / Stand / Tent / Tablet ส่งผลให้เป็นได้มากกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป เรื่องของการระายความร้อนนั้นก็ออกแบบมาเป็นอย่างดีกับด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลมร้อนออกอยู่ ทำให้ไม่รบกวนเราเวลาที่ใช้งานเครื่อง ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นั้น ให้ความสวยงามลงตัวมากกว่าเดิมจากบางพับที่ดูแล้วกระชับกว่าเดิม อีกทั้งมิติตัวเครื่องก็ดูเล็กลงด้วยเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2015
สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP Pavilion x360 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการใช้งานในโน้ตบุ๊กทั่วไป ด้วยขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อว ด้วยคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี
หน้าจอของ HP Pavilion x360 นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพดีเหนือกว่า HP Pavilion รุ่นทั่วไป โดยในส่วนของการใช้งานต่างๆ ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกับความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล เมื่อใช้งานการสัมผัสหน้าจอก็มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมหรือทำงานก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้องสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอเป็นกระจกทำให้สะท้อนแสงพอสมควร
สำหรับระบบเสียงเป็น B&O Play และลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบแป้นคีย์บอร์ดด้านบนแบบสเตอริโอ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงที่ได้จากโน้ตบุ๊กเครื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่ามีความประทับใจในเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควรเลยทีเดียว จากการที่มี HP Audio Boost ช่วยยกระดับประสบการณ์ระบบเสียงกว่าโน้ตบุ๊กทั่วไปได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวนสองพอร์ต และพอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอก ไว้ถ่ายโอนข้อมูล รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน นอกเหนือจากนี้ก็มีช่องเสียบหูฟังหรือการ์ดรีดเดอร์ก็มีครบครัน ส่วน LAN นั้นถ้าหากจำเป็นต้องใช้งานคงต้องอาศัยตัวแปลงจาก USB > LAN อีกทีหนึ่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับโน้ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาอยู่แล้ว
เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหา 2-in-i Notebook ซักตัวที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานจริงจังหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าเลือกสรรค์ได้ตามต้องการ แต่รับรองว่าถ้าเป็นรุ่น Core i5 + SSD ก็จะใช้งานได้อย่างลื่นไหลแน่นอน (แรม 4GB อาจจะน้อยไปหน่อย ควรอัพเกรดเป็น 8GB ได้ก็ดี) ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจากการทดสอบทำให้ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องได้นานประมาณเกือบ 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม HP Pavilion x360 ที่แม้ว่าดูราคาแล้วอาจจะสูงซักหน่อยถ้าเทียบกับสเปกที่ได้ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่หลากหลายแบบในหนึ่งเดียว ที่เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊ก และเป็นแท็บเล็ตได้เต็มรูปแบบ พร้อมที่จะ Work, Play & Sharing ได้ในทุกที่ทุกเวลา สนนราคามีตั้งแต่ 15,990 บาท ไปจนถึง 26,990 บาท ตามแต่งบประมาณก็แล้วกันครับ
จุดเด่น :
เป็นโน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
สเปกภายในเป็น Intel Core i5 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
หน้าจอทัชกรีนขนาด 13.3″ Full HD ให้ภาพสวยงามสมจริง
ติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ช่วยสนับสนุนในการใช้งานมาให้
วัสดุและงานประกอบถืออว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน้ตบุ๊กระดับสูงจาก HP
มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สนับสนุนการใช้งานทัชกรีนอย่างเต็มที่
มาพร้อมระบบเสียงและลำโพง B&O Play
รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP
ข้อสังเกตุ :
กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้
แรมน้อยไปหน่อย ควรเพิ่มเป็น 8GB แต่ต้องถอด 4GB เดิมออก