เป็นไฮบริดโน้ตบุ๊คที่น่าสนใจอีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ในส่วนของ HP Pavilion x360 รุ่นปี 2015 ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core m3 สถาปัตยกรรม Skylake รุ่นล่าสุดที่ได้รับการปรับเปลี่ยนมาจากรุ่นก่อนหน้า กับดีไซน์ที่ทันสมัยสวยงามดูล้ำกว่าโน้ตบุ๊คแบรนด์อื่น แน่นอนว่ามาพร้อมกับคุณสมบัติและการใช้งานเหนือกว่าโน้ตบุ๊คปกติ ด้วยความที่ว่าเป็นไฮบริดโน้ตบุ๊คที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย เพราะบานพับได้ออกแบบให้พับได้ 360 องศาตรงตามชื่อรุ่น สนนราคาอยู่ที่ 22,990 บาทเท่านั้น เหมาะแก่การนำมานั่งเล่นชิคๆ ที่ร้านกาแฟม๊ากมาก
ในส่วนของสเปก HP Pavilion x360 จะเป็นไฮบริดโน้ตบุ๊กบางเบาหน้าจอ LED ที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 11.6 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้เต็มรูปแบบ (ติดตั้งของแท้มาพร้อมใช้งานเลย) มาพร้อมกับระบบเสียง B&O Play ที่จัดได้ว่าให้อรรถรสของเสียงได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป
HP Pavilion x360 ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core m3-6Y30 สถาปัตยกรรม Skylake ที่เป็นชิปแบบ 2 Core 4 Thread ความเร็ว 0.90GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 2.2GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel HD Graphics 515 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDR3 และฮาร์ดดิสก์ความจุ 1000GB สเปกโดยรวมจัดว่าโอเคเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมาพร้อมกับบริการ iPass ที่จะทำให้เราสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เกือบทุกที่ทุกเวลาผ่านทาง Partner รายใหญ่อย่าง 3BB, AIS, True เป็นต้น พร้อมทั้งยังได้รับประกัน HP SmartFriend 1 ปี แบบ Onsite Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Pavilion x360 ได้มีการติดตั้ง USB 3.0 สองพอร์ต และ USB 2.0 หนึางพอร์ต อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ ในส่วนของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น เหมาะแก่การพกพาไปใช้งานนอกบ้าน หรือต่างสถานที่ทีเดียว
ความโดดเด่นของไฮบริดโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ก็คือสามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ส่งผลให้มีรูปแบบการใช้งานถึง 4 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Notebook / Stand / Tent / Tablet ส่งผลให้เป็นได้มากกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปที่เดี๋ยวเราจะไปชมกับการใช้งานจริงอีกทีว่าเป็นยังไงบ้าง โดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion x360 รุ่นปี 2015 นั้น ให้ความสวยงามลงตัวดูแล้วกระชับแน่นหนา ส่วนของบานพับสองชั้นก็ดูแล้วแข็งแรง
ดีไซน์การออกแบบใหม่ HP Pavilion x360 ยังเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าทุกประการ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊คยุคปัจจุบันที่มาพร้อมสีสันที่สวยงามลงตัว อีกทั้งเชื่อได้ว่ายังโดนใจวัยรุ่นเพราะมีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ สำหรับ HP Pavilion x360 นั้น มีหน้าตาออกไปทางเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยการเล่นกับการออกแบบที่มีความโค้งเว้ามีมิติในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่าใครๆ เห็นแล้วต้องชอบอย่างแน่นอน มีหลายสีให้เลือกด้วย โดยที่ผมได้รับมารีวิวนั้นเป็นส่วนของสีเทา ที่ดูแล้วแมนๆ ดุดันหน่อย
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ในบริเวณฝาหลังของเครื่องจะเป็นต็มพลาสติกเกรดสูงตัดด้วยโลโก้ของ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอเป็นกระจกทั้งบาน สีขอบจอด้านในเป็นสีดำพร้อมด้วยยางรองขอบรอบตัวจอ สำหรับตัวเครื่องด้านในบริเวณรอบๆ แป้นพิมพ์ ที่พักมือ ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ตัดกับแป้นคีย์บอร์ดสีดำ ให้อารมณ์แบบมืออาชีพสวยงามน่าสัมผัส นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ รองรับกับการทำงานหลายแบบ
อีกทั้ง HP Pavilion x360 รวมไปถึงโน้ตบุ๊ค HP รุ่นอื่นๆ ของปี 2015 ยังมาพร้อมกับบริการอินเตอร์เน็ตฟรีๆ เวลา 1 ปี อย่าง iPass ทำให้การใช้งานในลักษณะของงานอกสถานที่ยังง่ายได้อีกด้วย ผ่านทางซอฟต์แวร์ในตัวเครื่อง โดยสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต WiFi ได้กับแทบทุกเครือข่ายผ่านซอฟต์แวร์ iPass ไม่ว่าจะเป็น True Wi-Fi, Dtac Wi-Fi, AIS W-iFi, 3BB Wi-Fi ก็ทำได้ง่ายๆ เลย เรียกได้ว่าในส่วนนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์สำคัญ
สำหรับใครที่กำลังมองหาไฮบริดโน้ตบุ๊คซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าไม่แรงมากด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core m3 Skylake แต่ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก HP Pavilion x360 เป็นเครื่องคู่ใจได้เลย จากการทดสอบแล้วประทับใจกว่า Intel Core m รุ่นก่อนพอตัว
HP Pavilion x360 ปี 2015 เป็นไฮบริดโน้ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ เรียกว่าเป็นหนึ่งใน 2 in 1 Notebook ที่น่าสนใจจริงๆ ซึ่งเป็นผลจากการมาของระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ซึ่งรองรับระบบหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ผลิตต่างๆ ได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ซึ่ง HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นี้ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งสินค้าที่พิเศษกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป หรือจะกล่าวว่าเป็นโน้ตบุ๊กในวันนี้รวมไปถึงอนาคตก็คงไม่ผิดนัก สนนราคายังไม่แพงจนเกินไปด้วยเพียง 22,990 บาทเท่านั้น หาซื้อได้ตามห้างร้านไอทีทั่วไปเลยครับ
จุดเด่น :
- เป็นโน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติไฮบริดโน้ตบุ๊คใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- สเปกภายในเป็น Intel Core m3 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
- ไม่มีพัดลมระบายความร้อน ทำให้ไม่มีเสียงดังรบกวน
- หน้าจอทัชกรีนขนาด 11.6 นิ้ว พาเนล IPS ให้ภาพสวยงามระดับหนึ่ง
- วัสดุและงานประกอบถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน้ตบุ๊กระดับสูงจาก HP
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สนับสนุนการใช้งานหลายรูปแบบ
- เล่นอินเตอร์เน็ตได้ฟรีๆ ผ่านทาง iPass
- ประกัน HP SmartFriend มีบริการ Onsite Service
ข้อสังเกตุ :
- กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
- แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้ จากทดสอบได้ประมาณ 5 ชั่วโมง
- เมื่อชิปประมวลผลร้อนถึงจุดๆ หนึ่ง ประสิทธิภาพจะลดลง
[SR] รีวิว HP Pavilion x360 ไฮบริดโน้ตบุ๊คที่มาพร้อมชิป Intel Core m3 ราคาไม่แพง ฟรี Wi-Fi 1 ปี Windows 10 แท้
ในส่วนของสเปก HP Pavilion x360 จะเป็นไฮบริดโน้ตบุ๊กบางเบาหน้าจอ LED ที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 11.6 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้เต็มรูปแบบ (ติดตั้งของแท้มาพร้อมใช้งานเลย) มาพร้อมกับระบบเสียง B&O Play ที่จัดได้ว่าให้อรรถรสของเสียงได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป
HP Pavilion x360 ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core m3-6Y30 สถาปัตยกรรม Skylake ที่เป็นชิปแบบ 2 Core 4 Thread ความเร็ว 0.90GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 2.2GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel HD Graphics 515 ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDR3 และฮาร์ดดิสก์ความจุ 1000GB สเปกโดยรวมจัดว่าโอเคเลยทีเดียว ที่สำคัญยังมาพร้อมกับบริการ iPass ที่จะทำให้เราสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เกือบทุกที่ทุกเวลาผ่านทาง Partner รายใหญ่อย่าง 3BB, AIS, True เป็นต้น พร้อมทั้งยังได้รับประกัน HP SmartFriend 1 ปี แบบ Onsite Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Pavilion x360 ได้มีการติดตั้ง USB 3.0 สองพอร์ต และ USB 2.0 หนึางพอร์ต อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ ในส่วนของน้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น เหมาะแก่การพกพาไปใช้งานนอกบ้าน หรือต่างสถานที่ทีเดียว
ความโดดเด่นของไฮบริดโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ก็คือสามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ส่งผลให้มีรูปแบบการใช้งานถึง 4 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Notebook / Stand / Tent / Tablet ส่งผลให้เป็นได้มากกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปที่เดี๋ยวเราจะไปชมกับการใช้งานจริงอีกทีว่าเป็นยังไงบ้าง โดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion x360 รุ่นปี 2015 นั้น ให้ความสวยงามลงตัวดูแล้วกระชับแน่นหนา ส่วนของบานพับสองชั้นก็ดูแล้วแข็งแรง
ดีไซน์การออกแบบใหม่ HP Pavilion x360 ยังเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าทุกประการ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊คยุคปัจจุบันที่มาพร้อมสีสันที่สวยงามลงตัว อีกทั้งเชื่อได้ว่ายังโดนใจวัยรุ่นเพราะมีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ สำหรับ HP Pavilion x360 นั้น มีหน้าตาออกไปทางเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยการเล่นกับการออกแบบที่มีความโค้งเว้ามีมิติในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่าใครๆ เห็นแล้วต้องชอบอย่างแน่นอน มีหลายสีให้เลือกด้วย โดยที่ผมได้รับมารีวิวนั้นเป็นส่วนของสีเทา ที่ดูแล้วแมนๆ ดุดันหน่อย
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ในบริเวณฝาหลังของเครื่องจะเป็นต็มพลาสติกเกรดสูงตัดด้วยโลโก้ของ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอเป็นกระจกทั้งบาน สีขอบจอด้านในเป็นสีดำพร้อมด้วยยางรองขอบรอบตัวจอ สำหรับตัวเครื่องด้านในบริเวณรอบๆ แป้นพิมพ์ ที่พักมือ ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ตัดกับแป้นคีย์บอร์ดสีดำ ให้อารมณ์แบบมืออาชีพสวยงามน่าสัมผัส นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ รองรับกับการทำงานหลายแบบ
อีกทั้ง HP Pavilion x360 รวมไปถึงโน้ตบุ๊ค HP รุ่นอื่นๆ ของปี 2015 ยังมาพร้อมกับบริการอินเตอร์เน็ตฟรีๆ เวลา 1 ปี อย่าง iPass ทำให้การใช้งานในลักษณะของงานอกสถานที่ยังง่ายได้อีกด้วย ผ่านทางซอฟต์แวร์ในตัวเครื่อง โดยสามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต WiFi ได้กับแทบทุกเครือข่ายผ่านซอฟต์แวร์ iPass ไม่ว่าจะเป็น True Wi-Fi, Dtac Wi-Fi, AIS W-iFi, 3BB Wi-Fi ก็ทำได้ง่ายๆ เลย เรียกได้ว่าในส่วนนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์สำคัญ
สำหรับใครที่กำลังมองหาไฮบริดโน้ตบุ๊คซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าไม่แรงมากด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core m3 Skylake แต่ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก HP Pavilion x360 เป็นเครื่องคู่ใจได้เลย จากการทดสอบแล้วประทับใจกว่า Intel Core m รุ่นก่อนพอตัว
HP Pavilion x360 ปี 2015 เป็นไฮบริดโน้ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ เรียกว่าเป็นหนึ่งใน 2 in 1 Notebook ที่น่าสนใจจริงๆ ซึ่งเป็นผลจากการมาของระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ซึ่งรองรับระบบหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ผลิตต่างๆ ได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ซึ่ง HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นี้ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งสินค้าที่พิเศษกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไป หรือจะกล่าวว่าเป็นโน้ตบุ๊กในวันนี้รวมไปถึงอนาคตก็คงไม่ผิดนัก สนนราคายังไม่แพงจนเกินไปด้วยเพียง 22,990 บาทเท่านั้น หาซื้อได้ตามห้างร้านไอทีทั่วไปเลยครับ
จุดเด่น :
- เป็นโน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติไฮบริดโน้ตบุ๊คใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- สเปกภายในเป็น Intel Core m3 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
- ไม่มีพัดลมระบายความร้อน ทำให้ไม่มีเสียงดังรบกวน
- หน้าจอทัชกรีนขนาด 11.6 นิ้ว พาเนล IPS ให้ภาพสวยงามระดับหนึ่ง
- วัสดุและงานประกอบถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน้ตบุ๊กระดับสูงจาก HP
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สนับสนุนการใช้งานหลายรูปแบบ
- เล่นอินเตอร์เน็ตได้ฟรีๆ ผ่านทาง iPass
- ประกัน HP SmartFriend มีบริการ Onsite Service
ข้อสังเกตุ :
- กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
- แบตเตอรี่น่าจะใช้งานได้ยาวนานกว่านี้ จากทดสอบได้ประมาณ 5 ชั่วโมง
- เมื่อชิปประมวลผลร้อนถึงจุดๆ หนึ่ง ประสิทธิภาพจะลดลง