ประมาณปี 2490 ชาวไทยภูเขาเผ่าม้งได้ย้ายถิ่นฐานจากภาคเหนือมายังพื้นที่รอยต่อสามจังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก และเลย
กลุ่มแรก คือกลุ่มม้งที่เข้ามาบุกเบิกในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยแรกเริ่มเดิมทีได้เข้ามาทำกินและอยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว
ที่บ้านน้ำก้อเหนือ ตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มเก่า (ขณะนั้นยังไม่มีอำเภอหล่มสัก4) จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2465
ภายใต้การนำของ นายเย้ง แซ่สง มีประชากร 80 หลังคาเรือน 6505 คน อยู่ได้ประมาณ 2 ปี นายเย้ง แซ่สง ก็ถูกคนร้ายฆ่าตาย
ชาวบ้านทั้งหมดก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านน้ำหมัน ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย แต่อยู่ไม่นานก็ย้ายไปที่บ้านใต้ผา/ทับเพียง
มีผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นภริยาของนายป้ากี่ แซ่ท่อ ประมาณ ปี พ.ศ. 2475 เกิดเหตุการณ์หมู่บ้านถูกปล้น และผู้หญิงถูกข่มขืน
ชาวบ้านจึงพากันย้ายไปอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ ทำให้หมู่บ้านใต้ผา/ทับเพียงต้องสลายไปโดยปริยาย ในเวลาต่อมาก็มีการก่อตั้ง
หมู่บ้านต่างๆ ในเขตภูเขาขาด ภูทับเบิก และภูเขาย่า ตามลำดับ
ลำดับเหตุการณ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พ.ศ. 2485 หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เข้าสู่สงครามเย็น ระหว่างคอมมิวนิสต์กับประชาธิปไตย
พ.ศ. 2495 รัฐบาลไทยได้รับสนับสนุนจากสหรัฐในการการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์
(ตลอดทศวรรษ 1960 ความช่วยเหลือของสหรัฐสูงเกินกว่า 50% ของงบประมาณการป้องกันประเทศของไทย )
พ.ศ. 2500 - 2505 ชาวม้งในหมู่บ้านต่างๆ มีการแยกย้ายไปก่อตั้งหมู่บ้านใหม่ๆ กันหลายหมู่บ้านและมีผู้นำเป็นของตนเอง
สาเหตุการย้าย เพราะต้องการขยายพื้นที่ทำกิน
พ.ศ. 2502 มีมติ ครม. จัดตั้งนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขาในพื้นที่ที่มีชาวเขาอยู่อย่างหนาแน่น 4 แห่ง
ประมาณ 600,000 ไร่ ประกอบด้วย ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ดอยมูเซอ จังหวัดตาก ดอยภูลมโล เขตติดต่อ
จังหวัดเพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย และดอยม่อนแสนใจ จังหวัดเชียงราย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมชาวเขาที่อยู่
กระจัดกระจายซึ่งยากแก่การพัฒนา และสงเคราะห์ชาวเขาได้อย่างทั่วถึงให้มาตั้งหลักแหล่ง และประกอบอาชีพ
เป็นการถาวรในเขต “นิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา”
พ.ศ. 2506 มีการรณรงค์จากรัฐให้ชาวบ้านเลิกปลูกฝิ่น
พ.ศ. 2507 เริ่มมีการถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน ให้แก่ชาวม้งในพื้นที่
พ.ศ. 2508 วันเสียงปืนแตก ที่ จ.นครพนม พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยใช้อาวุธโจมตีกองกำลังของรัฐบาลไทย
เป็นครั้งแรก และเริ่มเข้าแทรกซึมในพื้นที่รอยต่อ เลย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เนื่องจากเขาค้อ-ภูหินร่องกล้า มีสภาพ
ภูมิประเทศที่เป็นป่ารกทึบสูงยากต่อการตรวจการณ์ทางอากาศและทางพื้นดิน
พ.ศ. 2509 มติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2509 ให้กรมป่าไม้มอบพื้นที่ป่าจำแนกผืนป่าภูทับเบิก ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่
ทับซ้อน 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เลย เพชรบูรณ์ เพื่อให้กรมประชา สงเคราะห์จัดตั้งนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา
พ.ศ. 2509 มีหน่วยปฏิบัติการของรัฐเข้ามาในพื้นที่เพื่อปฏิบัติภารกิจ แต่ก็ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบางหน่วยงานได้ข่มขู่คุกคาม
ประชาชนในพื้นที่จนประชาชนเกิดความหวาดกลัว และมีความหวาดระแวง (ซึ่งจะมีเหตุการณ์ตามมา)
พ.ศ. 2510 ขบวนการคอมมิวนิสต์เข้ามาปลุกระดมมวลชนในพื้นที่อย่างหนัก โดยอาศัยการหวาดระแวงจากรัฐ
พ.ศ. 2511 เกิดเหตุการณ์วันเสียงปืนแตก ในเขตรอยต่อ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เลย เพชรบูรณ์ โดยมีฝ่ายคอมมิวนิสต์เข้ามา
ปลุกระดมมวลชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นราษฎรชายไทยภูเขาเผ่าม้ง ทำให้ม้งแตกออกเป็นสองฝ่าย ระหว่างเข้าร่วมฝ่ายคอมมิวนิสต์
กับอีกฝ่ายเข้าร่วมกับรัฐบาลไทย ทำให้มีการสู้รบยาวนาน 12 ปี
พ.ศ. 2513 เปิดพื้นที่บ้านเข็กน้อย จ.เพชรบูรณ์ เป็นค่ายทหารต่อสู้เพื่อแย่งชิงพื้นที่คืนจากคอมมิวนิสต์ โดยกองทัพภาคที่ 3
ได้ชักชวนให้ชาวม้งเข้าร่วมเป็นชาวเขาอาสาสมัคร ช่วยเหลือทางราชการในการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ในพื้นที่เขตรอยต่อ
สามจังหวัด เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และเลย โดยให้คำมั่นว่า หากการสู้รบสิ้นสุดลงเมื่อใดจะให้มีสิทธิอาศัยและทำกินในที่ดิน
ในพื้นที่ตลอดไป
พ.ศ. 2515 ทหารขอใช้พื้นที่ 20,000 ไร่ เพื่อความมั่นคง (บริเวณ ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์) โดยประกาศของคณะปฏิวัติ
ในขณะนั้น กองทัพภาคที่ 3 ได้ขอกันพื้นที่ดังกล่าวเพื่อใช้ในกิจการเพื่อความมั่นคงทางทหาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 มีการตั้ง
กองร้อยปฏิบัติการและนำราษฎรชาวม้งที่อาสาสมัครช่วยรบ มาอยู่อาศัยและทำกินตามยุทธศาสตร์ทางทหารในปี พ.ศ. 2513
โดยพื้นที่ดังกล่าวก็เป็นพื้นที่ทำกินเดิมของชาวม้งเหล่านี้อยู่แล้ว
พ.ศ. 2516 มีการก่อสร้างถนนสายทุ่งสมอ – เขาค้อ โดยตัดแยกบริเวณถนนสายพิษณุโลก – หล่มสัก กม. 100 (แคมป์สน)
พ.ศ. 2520 – 2527 มีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก จุดมุ่งหมายคือ ลดอิทธิพล ผกค. เพิ่มอิทธิพลแก่ผ่ายรัฐบาลและเป็นพื้นที่
นำร่องสำหรับ พื้นที่อื่นในเขตภาคเหนือ และมีนโยบายตัดและโค่นต้นไม้ตลอดสองข้างถนนออกไปฝั่งละ 1 กิโลเมตร
เพื่อป้องกันการแอบซุ่มโจมตีของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
พ.ศ. 2522 ชาวม้งในป่าที่เป็นแนวร่วมคอมมิวนิสต์เริ่มทยอยออกมามอบตัวต่อทางการ โดยมาอาศัยอยู่ร่วมกันที่บ้านเข็กน้อย
เพราะว่ายังมีการสู้รบกันอยู่ ทุกคนจึงต้องอยู่รวมกันที่บ้านเข็กน้อยไปก่อน
พ.ศ. 2523-2526 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีการออก
กฎหมายนิรโทษกรรมทั่วประเทศ โดยอนุญาตให้ผู้แปรพักตร์มามอบตัวต่อทางการ ทำให้ชาวบ้านที่เป็นแนวร่วมคอมมิวนิสต์
อยุ่ขณะนั้นออกมามอบตัวต่อทางการ ประกอบกับการเสื่อมลงของการสนับสนุนจากต่างชาติ(จีน) นำไปสู่การเสื่อมลงของ
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย โดยชาวม้งบางส่วนจะถูกจัดให้อยู่ตามพื้นที่เดิม เช่น บ้านทับเบิก บ้านตูบค้อ บ้านน้ำคับ
บ้านน้ำจวง บ้านห้วยทราย บ้านน้ำไซ และบ้านเล่าลือ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่มีที่ไปก็มารวมตัวกันอยู่ที่บ้านเข็กน้อย
พ.ศ. 2528 มีการลงทะเบียนและจัดทำรายการสัญชาติไทยให้แก่ชาวเขาที่ตกหล่น และชาวเขาที่ออกจากป่ามามอบตัว
พ.ศ. 2545 เกิดเหตุการณ์น้ำป่าถล่มบ้านน้ำก้อ มีมติให้กรมประชาสงเคราะห์คืนพื้นที่นิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา
จังหวัดเพชรบูรณ์ให้กรมป่าไม้รับไปดำเนินการ 128000 ไร่ ให้กับกรมป่าไม้ ทำให้เหลือพื้นที่นิคมชาวเขาจำนวน 13300 ไร่
พ.ศ. 2552 มีการการก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวทับเบิก โดยกรมประชาสงเคราะห์อนุญาตให้มีการใช้พื่นที่ 56 ไร่
ในนิคมชาวเขาในการดำเนินการ
ภูทับเบิก รีสอร์ต และการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเขา
กลุ่มแรก คือกลุ่มม้งที่เข้ามาบุกเบิกในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยแรกเริ่มเดิมทีได้เข้ามาทำกินและอยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว
ที่บ้านน้ำก้อเหนือ ตำบลน้ำก้อ อำเภอหล่มเก่า (ขณะนั้นยังไม่มีอำเภอหล่มสัก4) จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2465
ภายใต้การนำของ นายเย้ง แซ่สง มีประชากร 80 หลังคาเรือน 6505 คน อยู่ได้ประมาณ 2 ปี นายเย้ง แซ่สง ก็ถูกคนร้ายฆ่าตาย
ชาวบ้านทั้งหมดก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านน้ำหมัน ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย แต่อยู่ไม่นานก็ย้ายไปที่บ้านใต้ผา/ทับเพียง
มีผู้ใหญ่บ้านที่เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นภริยาของนายป้ากี่ แซ่ท่อ ประมาณ ปี พ.ศ. 2475 เกิดเหตุการณ์หมู่บ้านถูกปล้น และผู้หญิงถูกข่มขืน
ชาวบ้านจึงพากันย้ายไปอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ ทำให้หมู่บ้านใต้ผา/ทับเพียงต้องสลายไปโดยปริยาย ในเวลาต่อมาก็มีการก่อตั้ง
หมู่บ้านต่างๆ ในเขตภูเขาขาด ภูทับเบิก และภูเขาย่า ตามลำดับ
ลำดับเหตุการณ์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้