สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เรื่องเล็กนิดเดียวเองค่ะ
1. หามุมให้พ่อสูบบุหรี่ใหม่ ที่ไม่ใช่ครัวและที่แม่อยู่บ่อยๆ หามุมที่ลมโกรกพัดควันบุหรี่ออกไปได้
2. พ่อโกธรแม่เพราะแม่ไม่ตอบว่าจะให้เขียนอะไร คราวหลังจะให้พ่อทำอะไร เขียนอะไร บอกให้ชัดในครั้งเดียว
3. เวลาพ่อโกธรอย่าเพิ่งเข้าไปคุย เวลาตัวคุณเองโกธรก็อย่าเพิ่งไปคุย มันมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง
4. อย่าไปตอบโต้กับคนโกธร มันไม่ช่วยอะไรนอกจากเป็นการชวนทะเลาะให้บานปลาย เลี่ยงไปก่อน อารมย์เย็นแล้วค่อยคุยกัน
เท่าทึ่อ่านพ่อคุณก็ไม่ได้แย่ ไม่ให้สูบบุหรี่ในบ้านก็ยอมไปสูบนอกบ้าน(แต่เลือกที่ผิดไปหน่อย) เรียกให้มาเขียนเอกสารก็มา(แต่อารมย์เสียเพราะแม่ไม่บอกว่าจะให้เขียนอะไร) พ่อโกธรเลยเดินเลี่ยงแต่คุณเดินตามไปบอกให้เพลาๆการสูบบุหรี่ลง(ไม่ควรที่จะพูดดตอนนี้)เลยทำให้พ่ออารมย์ขึ้นอีกรอบ พ่อเดินออกไปอีกรอบแต่ปิดประตู คุณขึ้นเสียงใส่พ่อ(ทำให้พ่ออารมย์เสียหนักขึ้นไปอีก!!!)
เห็นอะไรจากที่พี่สรุปไม๊คะ?
เรื่องวันนี้(ย้ำเฉพาะวันนี้ที่คุณเล่ามา)เกิดเพราะแม่ที่ไม่บอกว่าให้พ่อเขียนอะไร และเกิดเรื่องต่อมาเพราะคุณเองที่เดินตามไปคุยกับพ่อผิดเวลาถึงสองครั้งสองครา นึกภาพสิคะถ้าพ่อเดินหนีแม่ไปแล้ว คุณไม่เดินตามไปจะมีเรื่ิองจนพ่อบีบคอคุณไม๊??? ไม่มีค่ะ ปล่อยพ่อไปอยู่คนเดียว อีกเดี๋ยวก็สงบลงเอง
พี่รู้สึกว่าคุณเอาความผิดทั้งหมดไปลงที่พ่อคนเดียวตลอดเวลา โอเคพ่ออาจจะผิดที่สูบบุหรี่และทำให้แม่เป็นโรคทางเดินหายใจ แต่อย่าลืมว่าแม่ก็ทำสวน ขุดดิน ขนหินซึ่งก็มีฝุ่นเยอะ อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งด้วย เมื่อแม่ป่วยแล้วก็ต้องหาทางรักษากันไป หาทางเลี่ยงควันบุหรี่ ฝุ่นทั้งหลาย ซึ่งจุดนี้พ่อก็เลิกสูบในบ้านแล้ว ต้องค่อยๆพูดให้พ่อลดๆการสูบลง พูดในตอนท่านอารมย์ดีๆ
การอยู่ร่วมกัน ต้องเรียนรู้ด้วยค่ะว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนควรเงียบ อย่าเอาน้ำมันไปราดไฟ
1. หามุมให้พ่อสูบบุหรี่ใหม่ ที่ไม่ใช่ครัวและที่แม่อยู่บ่อยๆ หามุมที่ลมโกรกพัดควันบุหรี่ออกไปได้
2. พ่อโกธรแม่เพราะแม่ไม่ตอบว่าจะให้เขียนอะไร คราวหลังจะให้พ่อทำอะไร เขียนอะไร บอกให้ชัดในครั้งเดียว
3. เวลาพ่อโกธรอย่าเพิ่งเข้าไปคุย เวลาตัวคุณเองโกธรก็อย่าเพิ่งไปคุย มันมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง
4. อย่าไปตอบโต้กับคนโกธร มันไม่ช่วยอะไรนอกจากเป็นการชวนทะเลาะให้บานปลาย เลี่ยงไปก่อน อารมย์เย็นแล้วค่อยคุยกัน
เท่าทึ่อ่านพ่อคุณก็ไม่ได้แย่ ไม่ให้สูบบุหรี่ในบ้านก็ยอมไปสูบนอกบ้าน(แต่เลือกที่ผิดไปหน่อย) เรียกให้มาเขียนเอกสารก็มา(แต่อารมย์เสียเพราะแม่ไม่บอกว่าจะให้เขียนอะไร) พ่อโกธรเลยเดินเลี่ยงแต่คุณเดินตามไปบอกให้เพลาๆการสูบบุหรี่ลง(ไม่ควรที่จะพูดดตอนนี้)เลยทำให้พ่ออารมย์ขึ้นอีกรอบ พ่อเดินออกไปอีกรอบแต่ปิดประตู คุณขึ้นเสียงใส่พ่อ(ทำให้พ่ออารมย์เสียหนักขึ้นไปอีก!!!)
เห็นอะไรจากที่พี่สรุปไม๊คะ?
เรื่องวันนี้(ย้ำเฉพาะวันนี้ที่คุณเล่ามา)เกิดเพราะแม่ที่ไม่บอกว่าให้พ่อเขียนอะไร และเกิดเรื่องต่อมาเพราะคุณเองที่เดินตามไปคุยกับพ่อผิดเวลาถึงสองครั้งสองครา นึกภาพสิคะถ้าพ่อเดินหนีแม่ไปแล้ว คุณไม่เดินตามไปจะมีเรื่ิองจนพ่อบีบคอคุณไม๊??? ไม่มีค่ะ ปล่อยพ่อไปอยู่คนเดียว อีกเดี๋ยวก็สงบลงเอง
พี่รู้สึกว่าคุณเอาความผิดทั้งหมดไปลงที่พ่อคนเดียวตลอดเวลา โอเคพ่ออาจจะผิดที่สูบบุหรี่และทำให้แม่เป็นโรคทางเดินหายใจ แต่อย่าลืมว่าแม่ก็ทำสวน ขุดดิน ขนหินซึ่งก็มีฝุ่นเยอะ อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งด้วย เมื่อแม่ป่วยแล้วก็ต้องหาทางรักษากันไป หาทางเลี่ยงควันบุหรี่ ฝุ่นทั้งหลาย ซึ่งจุดนี้พ่อก็เลิกสูบในบ้านแล้ว ต้องค่อยๆพูดให้พ่อลดๆการสูบลง พูดในตอนท่านอารมย์ดีๆ
การอยู่ร่วมกัน ต้องเรียนรู้ด้วยค่ะว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนควรเงียบ อย่าเอาน้ำมันไปราดไฟ
แสดงความคิดเห็น
บ้านจะแตกเพราะผู้ชายคนเดียวที่เรียกว่า"พ่อ"
แม่ : ตอนนี้แม่เป็นโรคปอดสาเหตุมาจากพ่อสูบบุหรี่ในบ้าน ชอบทำงานบ้าน และงานใช้แรง อาทิ ขุดดินปลูกต้นไม้ ขนหินกลบหลุมหน้าบ้าน
พ่อ : เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เลยเป็นโรคประสาทรักษาไม่หายปัจจุบันยังรักษาและกินยาอยู่ตลอดเวลาโกรธจะแรงและไร้เหตุผล ชอบสูบบุหรี่ กินเหล้า ขี้โม้
*แม่ตกลงกับพ่อไม่ให้สูบในบ้านพ่อจึงไปสูบหลังบ้านแทนและตั้งมุมหลังบ้านเป็นของตัวเอง แต่หลังบ้านก็เป็นทั้งครัวและที่ซักผ้าประจำของแม่
ทำให้ถึงแม้ว่าพ่อจะสูบบุหรี่ที่หลังบ้านมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะแม่ก็ต้องทำอาหาร ซักผ้าอยู่ตลอด ก็กลายเป็นว่าก็ยังรับกลิ่นบุหรี่อยู่ทุกวัน
เรื่องมันเกิดเมื่อเช้านี้เองแม่เริ่มบ่นว่าพ่อสูบบุหรี่อีกแล้วเข้าไปหลังบ้านไม่ได้เลยให้ผมตามพ่อมาหน่อยเพราะแม่จะให้พ่อเขียนชื่อลงบนโต๊ะจะเอาไปถวายวัดแม่บอกพ่อหลายวันแล้วพ่อไม่มาเขียนสักที ผมก็ตามมาพ่อก็ถามว่าให้เขียนอะไรแม่ก็เดินหนีเพราะกลิ่นบุหรี่ยังอยู่ติดตัวพ่อพ่อถามแม่ก็เอาเสื้อปิดจมูกปิดปากไม่พูด
จนกระทั่งพ่ออารมณ์ขึ้นทุบโต๊ะขว้างปากกาและบอกว่า "เรียกให้มาเขียนพอถามว่าเขียนว่าไงก็ไม่พูด ประสาทหรอ" แม่เลยบอกกลับไปว่า "ก็พี่เคยเขียนใส่กระดาษไว้แล้วก็ไปเอามาดูสิว่าจะให้เขียนว่าอะไร" พ่อก็บอกว่า "ไม่รู้จำไม่ได้งันก็ไม่ต้องเขียนมัน" แล้วก็เตะโต๊ะแล้วเดินเข้าบ้าน ผมก็เข้าไปปลอบแม่ว่าพ่อก็แบบนี้แหละปล่อยพ่อไปเถอะ แม่ก็บ่นว่าเหม็นบุหรี่รอวันเป็นมะเร็งถ้าพ่อยังสูบบุหรี่แบบนี้ทุกๆวันแม่ไม่ได้อยู่นานแน่ๆ
ผมเลยเดินไปหลังบ้านเพื่อจะไปบอกพ่อว่าให้เพลาๆลงบ้าง แต่กลายเป็นว่าพ่อไม่เข้าใจแล้วมาบอกว่า "พ่อสูบมานานไม่เคยป่วยไม่เป็นโรคอะไรแข็งแรงดี ไอ้คนที่ไม่สูบนั่นแหละเห็นตายกันบ่อยลูกเอาแต่มาบอกพ่อให้หยุดไม่ไปบอกเพื่อนลูกบ้างล่ะว่าให้หยุด" ผมเลยตอบกลับเรียบๆว่า "สังคมเพื่อนของผม ไม่มีใครสูบบุหรี่ครับ" พ่อก็เหมือนเถียงไม่ออก ผมเลยบอกต่อไปว่า "ถ้าพ่อไม่สูบแม่ก็ไม่เป็นโรคทางเดินหายใจผมก็ไม่ต้องฟังแม่บ่นพ่อก้ได้สุขภาพทุกคนแฮปปี้"
คราวนี้พ่อเริ่มขึ้นเสียงบอกว่า เออ พ่อผิดหมดแหละ "แม่ตายHaไปก็ความผิดพ่ออีกแหละ" แล้วพ่อก็ปิดประตูใส่หน้าผมดังปั้ง จนแก้วน้ำบนตู้เย็นข้างๆประตูหล่น ผมก็เลยขึ้นเสียงกลับ "ต้องใส่อารมณ์ขนาดนี้เลยหรอ" พ่อก็เปิดประตูจ้องตาเขม็งเดินชี้หน้ามาหาผม "แล้วจะทำไมขึ้นเสียงใส่กูหาเรื่องกูรึไง" แล้วก็มาจับที่คอผม ตอนนี้ผมตื่นเต้นมากๆความรู้สึกคืออยากสวนหมัดใส่มากๆแต่พ่อก็ยังไม่ได้บีบแรงขึ้นผมเลยไม่ทำอะไรได้แต่มองแรงใส่แล้วบอก "ปล่อยมือออกจากคอผมเดียวนี้" เขาก็ยังจับคอผมค้างไว้อยู่สักพักจึงปล่อยและพูดมาว่า "เหี้yทั้งแม่ทั้งลูกดีแต่ปาก" ผมก็เริ่มขึ้นตอนนี้มือที่กำหมัดอยู่สั่นกึกๆจะต่อยออกไปจริงๆผมก็พูดเงียบๆออกไป "แล้วจะทำไมต้นเหตุให้บ้านมีปัญหามันมาจากใคร" เขาก็ปิดประตูใส่หน้าผมอีกครั้ง
ผมเดินออกมาเปิดคอมและนั่งเล่นคอมเพื่อปรับอารมณืตัวเองให้เย็นลง เขาก็เดินจ้ำอ้าวหยิบกุญแจขับรถออกจากบ้านไป แม่ก็เดินมาบอกว่าทะเลาะอะไรนั่นก็พ่อของลูกนะ เถียงพ่อว่าพ่อมันบาปนั่นคือพ่อถ้าไม่มีพ่อก็ไม่มีลูก ผมโคตรไม่ชอบประโยคนี้อะผมไม่ได้คลั่งศาสนาผมแค่นับถือและไม่เคยทำอะไรที่มันเสื่อมเสีย แต่คำว่า "พ่อก็คือพ่อไม่มีพ่อก้ไม่มีลูกว่าพ่อทำร้ายพ่อมันบาปนะ"
มันกลายเป็นว่าคนเป็นพ่อแม่จะทำอะไรลูกก็ได้ไม่ผิดทุบตีด่าทอสร้างความเกลียดชังยังไงพ่อก็คือพ่อนะมันบาป มันใช่หรอครับ ?
ซึ่งตามหลักศาสนาแล้วด่าว่า ทำร้ายบุพการี = เป็นลูกชั่ว
บางครั้งการที่เคร่งศาสนาเกินไป
ก็ทำให้ความยุติธรรมถูกบดบังลงไปหรือเปล่า?
ผมไม่สนใจเรื่องบาปบุญเราสนใจแค่ความยุติธรรม ถ้ารู้สึกถึงความรุนแรงเกินกว่าปกติผมจะจัดการตามวิธีของผมอย่างที่ทำวันนี้ไม่สนว่ามันจะถูกจะผิดตามหลักศาสนา เพราะผมไม่ชอบที่แม่ต้องมาทะเลาะกับคนอย่างพ่อ
ผมควรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมไม่ต้องไปยุ่ง หรือควรดูแลแค่แม่ปล่อยพ่อไปไม่ต้องสนใจ
และผมก็เพิ่งเรียนจบกำลังหางาน เวลามาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ก็ปวดหัวทวีคูณ เครียดเรื่องหางานแล้วยังเครียดเรื่องครอบครัวอีก
ทุกวันนี้คุยกับหมาที่เลี้ยงไว้ยังมีความสุขกับคนตัวเป็นๆอีกครับ เฮ้อ