กองทุนโดนสวดชยันโตเละเทะ หลังเป็นฝ่ายกระหน่ำขายหุ้นแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรกของเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่ขายจนทำให้ตลาดหุ้นเสียศูนย์ ในขณะที่ใครต่อใครฝากความหวังไว้ว่ากองทุนเป็นนักลงทุนมืออาชีพ แต่กลับซื้อขายแบบนักเก็งกำไรระยะสั้นขณะที่ปากก็บอกคนอื่นว่าให้ซื้อเพราะแนวโน้มตลาดยังเป็นขาขึ้น...แนะก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ควรตรวจสอบพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนในช่วงที่หุ้นตกระเนระนาด ให้เหมือนตรวจสอบนักลงทุนทั่วไปด้วย เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก
“กองทุนทำอะไรกัน? ทำไมจึงขายหุ้น แบบทุบเปรี้ยงๆ ทำเอานักลงทุนในตลาดขวัญผวา หุ้นแดงเถือกทั้งกระดาน”
นี่คือคำถาม คำสนทนาของบรรดานักลงทุน ในตลาดหุ้นในช่วงต้นเดือนกันยายน ที่ได้เห็นพฤติกรรมการขายหุ้นของกองทุนแบบทุบเอาๆ ทั้งที่กองทุนเป็นนักลงทุนสถาบันของไทย ที่ถูกยกให้เป็น “มืออาชีพ” แต่กลับมีพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นเหมือนไม่ใช่มืออาชีพ กลับกลายเป็นมาทำตัวเป็น “นักเก็งกำไร” เสียเอง ซึ่งเท่ากับยิ่งเป็นการ “ได้เปรียบ-เอาเปรียบ” นักลงทุนบุคคลทั่วไปและนักลงทุนรายย่อย ด้วยเพราะกองทุนมีพลังการซื้อขายที่มากกว่านักลงทุนทั่วไปอยู่แล้ว
“การทุบขายหุ้นไทยจนช้ำ ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นการขายที่ทุกคนงงกันมากๆว่า โลกจะแตก ประเทศไทยจะล่มสลายหรืออย่างไร ถึงโยนขายหุ้นออกมาอย่างมากมายก่ายกอง ทั้งที่กองทุนมีสถานะอีกด้านหนึ่งคือรักษาเสถียรภาพตลาด แต่กองทุนกลับทำตัวเป็นนักเก็งกำไรที่ไร้เหตุผล นึกอยากขายก็ขาย เป็นการขายที่เกินกว่าเหตุปัจจัย
หากจะกล่าวว่า มีการขายหุ้น เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นมาเยอะ จนระดับดัชนีขึ้นมาทดสอบ 1,550 จุดแล้ว ต้องมีขายออกมาก็พอเข้าใจ แต่การขายต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะวันที่ขายวันศุกร์ที่ 2 กันยายน ที่อ้างว่ารอการประกาศตัวเลขการจ้างงานของอเมริกา ก็ดูจะตกใจเกินเหตุเกินไป เพราะวันนั้นแม้แต่นักลงทุนต่างชาติยังเป็นฝ่ายที่ ซื้อสุทธิ”
และเมื่อถึงวันจันทร์ที่ 5 กันยายน ที่ตัวเลขการจ้างงานของอเมริกาประกาศออกมาชัดเจนเห็นกันไปทั่วแล้ว กลายเป็นว่ามีการเททิ้งหุ้นระเนระนาด พรวดเดียวใน 10 นาทีแรกถึงกว่า 40 จุด โดยมีการระบุกันว่า มีการยกเอาข่าวที่ไม่เป็นมงคลมาเป็นข้ออ้างในการขาย ซึ่งยิ่งทำให้คนตกอกตกใจกันหนักไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เอาไปเอามาเมื่อมีการขายหุ้นกันจนแดงเถือกทั้งกระดาน จนเมื่อสิ้นวันจึงเห็นว่า ที่ทุบขายหุ้นใช่ใครที่ไหน แต่เป็น กองทุน นั่นเอง แม้แต่นักลงทุนต่างชาติ ที่หวั่นกันว่า จะขายหนีไทยแล้วหรือ ก็ยังเป็นฝ่ายซื้อสุทธิอยู่ ...แล้วกองทุนขายทำไมนั่นคือคำถาม
“กองทุนกลายเป็นกองโจร ทุบหุ้นจนช้ำ ทั้งที่มันยังไปได้ดี ต่อให้มีข้ออ้างว่าหุ้นไทยขึ้นไปมากทดสอบ 1,550 จุด น่าจะมีปรับฐานบ้าง แต่ก็เป็นการขายที่ไร้เหตุผลสิ้นดีของกองทุน โดยในช่วง 3-4 วัน(1-5 กันยายน) มีการขายสุทธิจากกองทุนออกมากว่า 5,000 ล้านบาท (ซึ่งเชื่อว่ามีการเล่นหลายรอบ) หุ้นลงไป 60 จุด จาก 1,550 หลุด 1,500 ลงไป ขณะที่ต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 2,500 ล้านบาท เพราะปัจจัยเหตุผลที่ให้ขายมันไม่ได้มีอะไรมากมายเลย เรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยเฟด ก็ยังมีความเชื่อมั่นกันว่าไมใช่เดือนกันยายนนี้ แต่กองทุนก็ผสมโรงขายกันยกใหญ่ น่าเกลียดมาก จนน่าจะเรียกว่ากองโจรมากกว่ากองทุน”
ที่น่าเกลียดมากก็คือ ในขณะที่กองทุนขายกันเป็นบ้าเป็นหลัง บรรดาขาใหญ่ในธุรกิจกองทุนรวม ออกมาพูดเชียร์นักลงทุนคนอื่นๆ ให้มั่นใจว่านี่คือจังหวะที่น่าซื้อหุ้น บอกว่าแนวโน้มตลาดดีมาก มีอนาคตไปต่อได้ ราคา ดัชนีหุ้นจะปรับได้สูกงกว่าปัจจุบันแม้ว่าจะดูแพงแล้ว
ทั้งนี้ การขายที่มากมายนี้ เป็นการขายที่ทำให้ตลาดหุ้นไทย เสียศูนย์ อย่างน่าเสียดาย เพราะเท่ากับเป็นการ ขัดขาหุ้นที่กำลังวิ่งมา จนล้มลง และต้องออกแรงดันกันใหม่การจะเดินหน้าต่อไป
ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่กองทนีพฤติกรรมแบบนี้
มีรายงานข่าวที่ต้องฟังหูไว้หูแต่มีเหตุผล น่าคิดว่ามีความเป็นไปได้ไม่น้อยเช่นกันก็คือ การที่กองทุนออกมาทุบหุ้นกันโครมครามเมื่อต้นเดือนกันยายน เพราะ กองทุนหลายกอง บริหารจัดการหุ้นไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา จนผลงานไม่ประทับใจผู้ถือหน่วยลงทุน จึงต้องขายหุ้นออกมาก่อน และช่วงนี้ก็เป็นโค้งสำคัญ ถ้าหากหุ้นปรับลงมาอีกครั้งก็อาจกระตุ้นให้คนหันมาซื้อหน่วยลงทุน พวก LTF/ RMF ได้ก่อน
“พฤติกรรมการลงทุนแบบนี้ ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยตรวจสอบ หรือไม่ว่า กองทุนซึ่งเป็นขาใหญ่ รวมทั้งโบรกเกอร์บางรายที่มีความเชื่อมโยงกับกองทุน มีการซื้อขายจัดพอร์ทกันอย่างไร มีการโยนกันไปโยนกันมาหรือไม่ ทำแบบนี้คิดว่าเอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยหรือปล่าว แต่ถ้าบอกว่าตรวจสอบแล้วไม่มีก็แล้วไป”
เครดิต นสพ. ดอกเบี้ย ออนไลน์ 10 กันยายน 2559
อัดยับ “กองทุน-กองโจร”..กระหน่ำขายหุ้นไทยเสียศูนย์....... ทำเพื่อ?????
“กองทุนทำอะไรกัน? ทำไมจึงขายหุ้น แบบทุบเปรี้ยงๆ ทำเอานักลงทุนในตลาดขวัญผวา หุ้นแดงเถือกทั้งกระดาน”
นี่คือคำถาม คำสนทนาของบรรดานักลงทุน ในตลาดหุ้นในช่วงต้นเดือนกันยายน ที่ได้เห็นพฤติกรรมการขายหุ้นของกองทุนแบบทุบเอาๆ ทั้งที่กองทุนเป็นนักลงทุนสถาบันของไทย ที่ถูกยกให้เป็น “มืออาชีพ” แต่กลับมีพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นเหมือนไม่ใช่มืออาชีพ กลับกลายเป็นมาทำตัวเป็น “นักเก็งกำไร” เสียเอง ซึ่งเท่ากับยิ่งเป็นการ “ได้เปรียบ-เอาเปรียบ” นักลงทุนบุคคลทั่วไปและนักลงทุนรายย่อย ด้วยเพราะกองทุนมีพลังการซื้อขายที่มากกว่านักลงทุนทั่วไปอยู่แล้ว
“การทุบขายหุ้นไทยจนช้ำ ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นการขายที่ทุกคนงงกันมากๆว่า โลกจะแตก ประเทศไทยจะล่มสลายหรืออย่างไร ถึงโยนขายหุ้นออกมาอย่างมากมายก่ายกอง ทั้งที่กองทุนมีสถานะอีกด้านหนึ่งคือรักษาเสถียรภาพตลาด แต่กองทุนกลับทำตัวเป็นนักเก็งกำไรที่ไร้เหตุผล นึกอยากขายก็ขาย เป็นการขายที่เกินกว่าเหตุปัจจัย
หากจะกล่าวว่า มีการขายหุ้น เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นมาเยอะ จนระดับดัชนีขึ้นมาทดสอบ 1,550 จุดแล้ว ต้องมีขายออกมาก็พอเข้าใจ แต่การขายต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะวันที่ขายวันศุกร์ที่ 2 กันยายน ที่อ้างว่ารอการประกาศตัวเลขการจ้างงานของอเมริกา ก็ดูจะตกใจเกินเหตุเกินไป เพราะวันนั้นแม้แต่นักลงทุนต่างชาติยังเป็นฝ่ายที่ ซื้อสุทธิ”
และเมื่อถึงวันจันทร์ที่ 5 กันยายน ที่ตัวเลขการจ้างงานของอเมริกาประกาศออกมาชัดเจนเห็นกันไปทั่วแล้ว กลายเป็นว่ามีการเททิ้งหุ้นระเนระนาด พรวดเดียวใน 10 นาทีแรกถึงกว่า 40 จุด โดยมีการระบุกันว่า มีการยกเอาข่าวที่ไม่เป็นมงคลมาเป็นข้ออ้างในการขาย ซึ่งยิ่งทำให้คนตกอกตกใจกันหนักไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เอาไปเอามาเมื่อมีการขายหุ้นกันจนแดงเถือกทั้งกระดาน จนเมื่อสิ้นวันจึงเห็นว่า ที่ทุบขายหุ้นใช่ใครที่ไหน แต่เป็น กองทุน นั่นเอง แม้แต่นักลงทุนต่างชาติ ที่หวั่นกันว่า จะขายหนีไทยแล้วหรือ ก็ยังเป็นฝ่ายซื้อสุทธิอยู่ ...แล้วกองทุนขายทำไมนั่นคือคำถาม
“กองทุนกลายเป็นกองโจร ทุบหุ้นจนช้ำ ทั้งที่มันยังไปได้ดี ต่อให้มีข้ออ้างว่าหุ้นไทยขึ้นไปมากทดสอบ 1,550 จุด น่าจะมีปรับฐานบ้าง แต่ก็เป็นการขายที่ไร้เหตุผลสิ้นดีของกองทุน โดยในช่วง 3-4 วัน(1-5 กันยายน) มีการขายสุทธิจากกองทุนออกมากว่า 5,000 ล้านบาท (ซึ่งเชื่อว่ามีการเล่นหลายรอบ) หุ้นลงไป 60 จุด จาก 1,550 หลุด 1,500 ลงไป ขณะที่ต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า 2,500 ล้านบาท เพราะปัจจัยเหตุผลที่ให้ขายมันไม่ได้มีอะไรมากมายเลย เรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยเฟด ก็ยังมีความเชื่อมั่นกันว่าไมใช่เดือนกันยายนนี้ แต่กองทุนก็ผสมโรงขายกันยกใหญ่ น่าเกลียดมาก จนน่าจะเรียกว่ากองโจรมากกว่ากองทุน”
ที่น่าเกลียดมากก็คือ ในขณะที่กองทุนขายกันเป็นบ้าเป็นหลัง บรรดาขาใหญ่ในธุรกิจกองทุนรวม ออกมาพูดเชียร์นักลงทุนคนอื่นๆ ให้มั่นใจว่านี่คือจังหวะที่น่าซื้อหุ้น บอกว่าแนวโน้มตลาดดีมาก มีอนาคตไปต่อได้ ราคา ดัชนีหุ้นจะปรับได้สูกงกว่าปัจจุบันแม้ว่าจะดูแพงแล้ว
ทั้งนี้ การขายที่มากมายนี้ เป็นการขายที่ทำให้ตลาดหุ้นไทย เสียศูนย์ อย่างน่าเสียดาย เพราะเท่ากับเป็นการ ขัดขาหุ้นที่กำลังวิ่งมา จนล้มลง และต้องออกแรงดันกันใหม่การจะเดินหน้าต่อไป
ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่กองทนีพฤติกรรมแบบนี้
มีรายงานข่าวที่ต้องฟังหูไว้หูแต่มีเหตุผล น่าคิดว่ามีความเป็นไปได้ไม่น้อยเช่นกันก็คือ การที่กองทุนออกมาทุบหุ้นกันโครมครามเมื่อต้นเดือนกันยายน เพราะ กองทุนหลายกอง บริหารจัดการหุ้นไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา จนผลงานไม่ประทับใจผู้ถือหน่วยลงทุน จึงต้องขายหุ้นออกมาก่อน และช่วงนี้ก็เป็นโค้งสำคัญ ถ้าหากหุ้นปรับลงมาอีกครั้งก็อาจกระตุ้นให้คนหันมาซื้อหน่วยลงทุน พวก LTF/ RMF ได้ก่อน
“พฤติกรรมการลงทุนแบบนี้ ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยตรวจสอบ หรือไม่ว่า กองทุนซึ่งเป็นขาใหญ่ รวมทั้งโบรกเกอร์บางรายที่มีความเชื่อมโยงกับกองทุน มีการซื้อขายจัดพอร์ทกันอย่างไร มีการโยนกันไปโยนกันมาหรือไม่ ทำแบบนี้คิดว่าเอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยหรือปล่าว แต่ถ้าบอกว่าตรวจสอบแล้วไม่มีก็แล้วไป”
เครดิต นสพ. ดอกเบี้ย ออนไลน์ 10 กันยายน 2559