เอาตรงๆว่าไม่รู้จะตั้งหัวกระทู้ว่าอะไร เราอยากได้คำปรึกษาและแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างวิธีอยู่ร่วมกับแม่ในปัจจุบันมาเลยค่ะ
ย้อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรากลับจากกรุงเทพมาเพื่อช่วยธุรกิจที่บ้าน แม่คือคนที่ส่งเสริมเราให้ทำในสิ่งต่างๆ มีทัศนคติที่ดีต่อเกือบจะทุกเรื่อง
แม่เป็นคนคอยสอนเสมอว่าให้เรานอบน้อม
แต่แม่วันนี้
- แม่ต้องการฟังแต่คำพูดสนับสนุนของคนรอบข้าง แย้งไม่ได้เพราะแม่ไม่รับฟัง แม้มันเป็ทางออกที่ดี
*ยกตัวอย่าง เมื่อสองปีก่อน แม่เราได้ออกรถมาเพื่อประกอบธุรกิจซึ่งเป็นช่วงต้นปี (ใช้เงินหลายล้าน กู้แบงค์) พอมาปลายปีลูกน้องยุให้ซื้ออีก 3 คันเพราะเจ้าของคนเก่าจะขายยกชุด แม่ก็เชื่อลูกน้อง ทั้งๆที่พวกเราในครอบครัวไม่มีใครเห็นด้วยเพราะแม่ไม่ได้มีเงินขนาดนั้น สุดท้ายตอนนี้แม่มีปัญหาการเงิน (เรามีอีกธุรกิจนึง ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ แม่ติดหนี้เราอยู่เกือบ 10ล้าน)
- แม่ต้องการให้คนอื่นหยวนๆให้เสมอ
*ยกตัวอย่าง แม่ไปถึงสนามบินสาย แต่จะบอกให้เครื่องบินรอ พร้อมกับจะด่าแอร์
- แม่ใช้เงินเกินรายได้ที่ได้รับไปกับภาษีสังคม
*ยกตัวอย่าง ครอบครัวเราเป็นคนมีหน้าตาในอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่ง แม่ได้เข้าไปมีบทบาทในสมาคมต่างๆของจังหวัด ต้องมีการบริจาคเงิน ซึ่งบริจาคแต่ละครั้งจะเป็นหลักพัน จนหลักหลายๆหมื่น แม่ก็ยอมบริจาค แต่กับการที่พวกเราลูกๆจะไปกินอาหารดีๆที่มื้อนึงกินกันไม่ถึงสามพันแม่บ่น (แม่กะเราใช้เงินคนละกระเป๋ายังบ่นเลย)
- แม่ติดนิสัยพูดประชด แม่มักจะพูดประชดเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในด้านบวกหรือลบ
- แม่ชอบพูดยอตัวเองโดยการพูดว่าตัวเองก็ไม่ได้เก่งนะ แต่พอเล่าๆๆไปคือทำให้คนอื่นชมตัวเองว่าแม่เก่ง
- แม่คิดลบตลอดว่าลูกๆไม่รัก ประเด็นนี้มาจากหลายข้อด้านบน ทั้งเรื่องพูดประชดใส่พวกเราใครจะไปชอบ พวกเราไม่อยากให้แม่เสียเงินไปกับเรื่องภาษีสังคมเยอะ บางงานจ่ายหลายหมื่น สิ่งที่ได้คือ ไปยืนถ่ายรูปในงาน ได้เดินแบบ ได้มีตัวตนพอให้คนได้เห็น แต่ในจังหวัดก็มีคนที่รวยจริงๆเยอะแยะ แม่เราเวลาโพสเฟสบุ๊กต้องคิดคำพูดเวลาโพสเยอะเพราะกลัวไม่ถูกใจคนอ่าน เวลาไปงานต้องมีกล้องส่วนตัวเพื่อไว้บริการคนทั้งงานซึ่งไม่เราก็น้องของเราที่เป็นคนถ่ายให้ ซึ่งช่างกล้องก็มีประจำงานอยู่แล้ว เวลาที่แม่พูด แม่จะชอบพูดอ้อมๆไม่ชอบพูดตรง แม้มันจะไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไร มีคนสรรเสริญแม่เต็มเฟสบุ๊กว่าแม่ดีอย่างงั้นแม่ดีอย่างงี้ แต่ลูกที่บ้านพูดความจริงในหลายๆเรื่องแม่รับไม่ได้
เราไม่รู้จะแก้ปัญหาแม่ยังไงดี เพราะตอนนี้แม่เกินเยียวยาแล้ว แม่รับฟังแต่สิ่งที่แม่อยากฟัง คนรอบข้างแม่มีแต่บอกว่าแม่เก่ง แม่สุดยอด
เรายอมรับนะว่าแม่เราเก่ง แต่ตอนนี้สิ่งที่แม่ทำต่อวันคือ เล่นไลน์คุยกับคนรวยๆคอยเป็นเบ๊เค้า ทำเรื่องเพื่อสังคมแต่งานตัวเองไม่เดินทั้งที่ตัวเองเป็นหนี้เยอะ แม่จะทำบ้านใหม่ทั้งที่ยังมีหนี้อยู่ และเงินที่จะทำบ้านใหม่คือยืมจากเรา ถ้ายืมอีกคงเกิน 10 ล้าน เราบอกว่ารอก่อน ให้แม่หมุนเงินให้คล่องกว่านี้ค่อยปรับปรุง แม่บอกว่าแม่รอไม่ไหว แล้วแม่ก็บอกว่าเราไม่เข้าใจแม่ คือเราก็มีเงินที่ต้องไปใช้หมุนในธุรกิจของเราเหมือนกัน แม่ก็ยังคงไม่พอใจที่เราพูดแบบนี้ แม่บอกว่ามันเหมือนตัดความฝันแม่
เราพยายามให้แม่ฟังครูอ้อย ครูเงาะ แต่แม่ไม่ฟัง(แม่เรียนจิตวิทยามา) แม่ไปวัด ไปฝึกสมาธิ(อันนี้แม่ไปเอง) แม่ก็ไม่ได้ใจเย็นลง
เราบอกแม่ว่าคนรอบข้างแม่มีแต่คนพูดหวานๆและเออออตามแม่ไป ส่วนคนในครอบครัวเป็นห่วงแม่ เลยขัดแม่ทุกอย่าง เพราะทุกคนเห็นพร้องกันว่าแม่ทำไม่ถูกหลายอย่าง พอเตือนก็ไม่ฟัง จนต้องยอมทำตามที่สั่ง แล้วแม่ชอบกลับคำ จากที่จะให้ไปทะเลาะกับคนอื่น กลับจะไปดีกะเค้าเหมือนเดิม เลยปล่อยให้ลูกๆเสียคำพูดกับคนบ่อยๆ จนตอนนี้ไม่มีใครอยากอยู่กับแม่แล้ว
ใครก็ได้เราขอคำแนะนำหน่อย พวกเราไม่ไหวแล้วจริงๆ พูดแรงๆได้นะคะเราเข้าใจ
ปล.พ่อเราแยกทางกับแม่ได้หลายปีแล้ว แต่ก็ยังช่วยเหลือกันอยู่
เรากับแม่อยู่บ้านคนละหลังกัน
เราและแม่ทำธุรกิจคนละแบบกัน
พ่อกะแม่เรามีลูกหลายคน แต่ละคนไม่เห็นด้วยกับการกระทำแม่
เมื่อแม่เปลี่ยนไป แลกเปลี่ยน-พูดคุยกันนะคะ (มนุษย์ป้า)
ย้อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรากลับจากกรุงเทพมาเพื่อช่วยธุรกิจที่บ้าน แม่คือคนที่ส่งเสริมเราให้ทำในสิ่งต่างๆ มีทัศนคติที่ดีต่อเกือบจะทุกเรื่อง
แม่เป็นคนคอยสอนเสมอว่าให้เรานอบน้อม
แต่แม่วันนี้
- แม่ต้องการฟังแต่คำพูดสนับสนุนของคนรอบข้าง แย้งไม่ได้เพราะแม่ไม่รับฟัง แม้มันเป็ทางออกที่ดี
*ยกตัวอย่าง เมื่อสองปีก่อน แม่เราได้ออกรถมาเพื่อประกอบธุรกิจซึ่งเป็นช่วงต้นปี (ใช้เงินหลายล้าน กู้แบงค์) พอมาปลายปีลูกน้องยุให้ซื้ออีก 3 คันเพราะเจ้าของคนเก่าจะขายยกชุด แม่ก็เชื่อลูกน้อง ทั้งๆที่พวกเราในครอบครัวไม่มีใครเห็นด้วยเพราะแม่ไม่ได้มีเงินขนาดนั้น สุดท้ายตอนนี้แม่มีปัญหาการเงิน (เรามีอีกธุรกิจนึง ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ แม่ติดหนี้เราอยู่เกือบ 10ล้าน)
- แม่ต้องการให้คนอื่นหยวนๆให้เสมอ
*ยกตัวอย่าง แม่ไปถึงสนามบินสาย แต่จะบอกให้เครื่องบินรอ พร้อมกับจะด่าแอร์
- แม่ใช้เงินเกินรายได้ที่ได้รับไปกับภาษีสังคม
*ยกตัวอย่าง ครอบครัวเราเป็นคนมีหน้าตาในอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่ง แม่ได้เข้าไปมีบทบาทในสมาคมต่างๆของจังหวัด ต้องมีการบริจาคเงิน ซึ่งบริจาคแต่ละครั้งจะเป็นหลักพัน จนหลักหลายๆหมื่น แม่ก็ยอมบริจาค แต่กับการที่พวกเราลูกๆจะไปกินอาหารดีๆที่มื้อนึงกินกันไม่ถึงสามพันแม่บ่น (แม่กะเราใช้เงินคนละกระเป๋ายังบ่นเลย)
- แม่ติดนิสัยพูดประชด แม่มักจะพูดประชดเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในด้านบวกหรือลบ
- แม่ชอบพูดยอตัวเองโดยการพูดว่าตัวเองก็ไม่ได้เก่งนะ แต่พอเล่าๆๆไปคือทำให้คนอื่นชมตัวเองว่าแม่เก่ง
- แม่คิดลบตลอดว่าลูกๆไม่รัก ประเด็นนี้มาจากหลายข้อด้านบน ทั้งเรื่องพูดประชดใส่พวกเราใครจะไปชอบ พวกเราไม่อยากให้แม่เสียเงินไปกับเรื่องภาษีสังคมเยอะ บางงานจ่ายหลายหมื่น สิ่งที่ได้คือ ไปยืนถ่ายรูปในงาน ได้เดินแบบ ได้มีตัวตนพอให้คนได้เห็น แต่ในจังหวัดก็มีคนที่รวยจริงๆเยอะแยะ แม่เราเวลาโพสเฟสบุ๊กต้องคิดคำพูดเวลาโพสเยอะเพราะกลัวไม่ถูกใจคนอ่าน เวลาไปงานต้องมีกล้องส่วนตัวเพื่อไว้บริการคนทั้งงานซึ่งไม่เราก็น้องของเราที่เป็นคนถ่ายให้ ซึ่งช่างกล้องก็มีประจำงานอยู่แล้ว เวลาที่แม่พูด แม่จะชอบพูดอ้อมๆไม่ชอบพูดตรง แม้มันจะไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไร มีคนสรรเสริญแม่เต็มเฟสบุ๊กว่าแม่ดีอย่างงั้นแม่ดีอย่างงี้ แต่ลูกที่บ้านพูดความจริงในหลายๆเรื่องแม่รับไม่ได้
เราไม่รู้จะแก้ปัญหาแม่ยังไงดี เพราะตอนนี้แม่เกินเยียวยาแล้ว แม่รับฟังแต่สิ่งที่แม่อยากฟัง คนรอบข้างแม่มีแต่บอกว่าแม่เก่ง แม่สุดยอด
เรายอมรับนะว่าแม่เราเก่ง แต่ตอนนี้สิ่งที่แม่ทำต่อวันคือ เล่นไลน์คุยกับคนรวยๆคอยเป็นเบ๊เค้า ทำเรื่องเพื่อสังคมแต่งานตัวเองไม่เดินทั้งที่ตัวเองเป็นหนี้เยอะ แม่จะทำบ้านใหม่ทั้งที่ยังมีหนี้อยู่ และเงินที่จะทำบ้านใหม่คือยืมจากเรา ถ้ายืมอีกคงเกิน 10 ล้าน เราบอกว่ารอก่อน ให้แม่หมุนเงินให้คล่องกว่านี้ค่อยปรับปรุง แม่บอกว่าแม่รอไม่ไหว แล้วแม่ก็บอกว่าเราไม่เข้าใจแม่ คือเราก็มีเงินที่ต้องไปใช้หมุนในธุรกิจของเราเหมือนกัน แม่ก็ยังคงไม่พอใจที่เราพูดแบบนี้ แม่บอกว่ามันเหมือนตัดความฝันแม่
เราพยายามให้แม่ฟังครูอ้อย ครูเงาะ แต่แม่ไม่ฟัง(แม่เรียนจิตวิทยามา) แม่ไปวัด ไปฝึกสมาธิ(อันนี้แม่ไปเอง) แม่ก็ไม่ได้ใจเย็นลง
เราบอกแม่ว่าคนรอบข้างแม่มีแต่คนพูดหวานๆและเออออตามแม่ไป ส่วนคนในครอบครัวเป็นห่วงแม่ เลยขัดแม่ทุกอย่าง เพราะทุกคนเห็นพร้องกันว่าแม่ทำไม่ถูกหลายอย่าง พอเตือนก็ไม่ฟัง จนต้องยอมทำตามที่สั่ง แล้วแม่ชอบกลับคำ จากที่จะให้ไปทะเลาะกับคนอื่น กลับจะไปดีกะเค้าเหมือนเดิม เลยปล่อยให้ลูกๆเสียคำพูดกับคนบ่อยๆ จนตอนนี้ไม่มีใครอยากอยู่กับแม่แล้ว
ใครก็ได้เราขอคำแนะนำหน่อย พวกเราไม่ไหวแล้วจริงๆ พูดแรงๆได้นะคะเราเข้าใจ
ปล.พ่อเราแยกทางกับแม่ได้หลายปีแล้ว แต่ก็ยังช่วยเหลือกันอยู่
เรากับแม่อยู่บ้านคนละหลังกัน
เราและแม่ทำธุรกิจคนละแบบกัน
พ่อกะแม่เรามีลูกหลายคน แต่ละคนไม่เห็นด้วยกับการกระทำแม่