วิธีแก้รถติดสำหรับชาวกรุงเทพฯ คือรถใครทำผิดกฎจารจรโดนยึดรถ 7 วัน
กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) เก็บสถิติการฝ่าฝืนกฎและผิดวินัยจราจรในกรุงเทพฯ ปี 2556 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงปัจจุบัน มีตัวเลขที่น่าตกตะลึง
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร. เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จับกุมคดีความผิดฐานจอดรถในที่ห้ามจอดมากที่สุด 217,967 ราย รองลงมาเป็นขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย 64,528 ราย ใช้รถส่วนประกอบไม่ครบถ้วนอันอาจเกิดอุบัติเหตุและอันตรายแก่ผู้อื่น 60,714 ราย ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่สามารถแสดงได้ทันที 44,697 ราย
"ฝ่าฝืนสัญญาณหรือเครื่องหมายจราจร 43,939 ราย รถประจำทางเดินรถไม่ใช้ช่องทางด้านซ้าย/จอดกีดขวางจราจร 37,728 ราย จอดรถกีดขวางจราจร 34,891 ราย เลี้ยวหรือกลับรถในที่ห้าม 33,863 ราย ขี่รถจักรยานยนต์คนซ้อนไม่สวมหมวกเพื่อป้องกันอันตราย 33,775 ราย เดินรถในเวลาห้าม 24,390 ราย จอดรถบนทางเท้า 23,514 ราย ขับรถย้อนศร 22,477 ราย ฝ่าไฟแดง 19,066 ราย ขับรถเร็วกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด 14,827 ราย และแซงในที่คับขัน 14,549 ราย" ผบก.จร.เผยสถิติใบสั่งจราจร
รวมยอดจับกุมฝ่าฝืนกฎจราจรสูงถึง 690,925 ครั้ง
จากสถิติข้างบน จากต้นปี 56 ถึงเดือนสิงหาคม 56 เป็นเวลา 8 เดือน จะสมมุติได้ง่าย ว่าครึ่งปีจะมีคนทำผิดพรบ.
ประมาณ ครึ่งล้าน หรือเดือนละ 83,333 ราย หรือ อาทิละ 20,833 ราย ..... เท่ากับว่าจะมีรถหายไปจากถนนกรุงเทพไปอาทิละ 20,000 คัน
เอาใหม่บางคนอาจจะบอกว่าผิดบางอย่างอาจถึงขั้นยึดรถเลยเหรอ งั้นเอาที่เป็นปัญหาของรถติดละกัน เอาเช่น 5 จอม กับ จอดในที่ห้ามจอดแล้วโดนยกรถ ผิดฐานจอดรถในที่ห้ามจอดมากที่สุด 217,967 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณหรือเครื่องหมายจราจร 43,939 ราย รถประจำทางเดินรถไม่ใช้ช่องทางด้านซ้าย/จอดกีดขวางจราจร 37,728 ราย จอดรถกีดขวางจราจร 34,891 ราย เลี้ยวหรือกลับรถในที่ห้าม 33,863 ราย รวม 368,388 ราย
ครึ่งเดือน ประมาณ 300,000 ราย เดือนละ 50,000 ราย หรืออาทิละ 12,500 คัน
ในทางปฏิบัติ คือ ทางตำรวจไม่ต้องกลัวว่ากำลังพลไม่พอ คือเจอใครกระทำผิดให้ยึดใบขับขี่ไว้แล้วออกใบสั่งแทน มีอายุ 7 วัน หรือใจดีหน่อย 14วัน
ก็ได้เพื่อติดธุระ อิอิ จอดรถในที่ห้ามจอดก็ล็อคล้อไว้ คนขับก็เอาใบขับขี่ไปให้ตำรวจปลดล็อค แล้วเอาใบสั่งไปแทน โดยใบสั่งต้องจดทะเบียนกันยี่ฮ้อรถด้วย (คนรวยกับคนจนจะได้เสมอภาพกัน รวยโดนยึดรถแพงๆจนโดนยึดรถถูกๆ)
ส่วนคนที่ได้ใบสั่งต้องเอารถที่กระทำผิดตามใบสั่ง ไปส่งตามสถานที่จอดรถที่กำหนดไว้ให้ภายใน ระยะเวลาที่กำหนด ถ้าเลยกำหนด
ให้ไปสอบใบขับขี่ใหม่ (ส่วนใบขับขี่ปัจุบันควรเป็นแบบตลอดชีพทุกคน เพราะคนที่ไปต่อหรือคนที่สอบใหม่ควรเป็นคนที่ทำผิดพรบ. มากกว่า จะได้ไป
อบรมมารยาทในการขับรถใหม่ คนทำถูกกฎหมายจะไปต่อใบขับขี่ อบรมให้เสียเวลาทำไม) พอครบระยะเวลาไปรับรถพร้อมใบรับรถเพื่อไปเอาใบขับขี่คืน
ส่วนโทษของคนไม่มีใบขับขี่ ก็เพื่มโทษให้สมชื่อใบขับขี่หน่อย เช่น ไม่มีใบขับขี่ห้ามขับรถ ประกันไม่จ่าย เจอโดนปรับ
แค่นี้ก็ช่วยลดรถบนท้องถนนได้แล้ว แถมยังช่วยให้ทุกคนได้เคารพกฎกันอีกด้วย ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน
ไม่ต้องเอารถเก่า ทะเบียนคู่ทะเบียนคี่ห้ามวิ่ง เอาเป็นคนดีได้ใช้ถนน คนทำผิดไม่ได้ใช้ถนนดีกว่าครับ
วิธีแก้รถติด (ถ้าแก้รถติดได้ผมขอโนเบลนะครับ *)
กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) เก็บสถิติการฝ่าฝืนกฎและผิดวินัยจราจรในกรุงเทพฯ ปี 2556 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงปัจจุบัน มีตัวเลขที่น่าตกตะลึง
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร. เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จับกุมคดีความผิดฐานจอดรถในที่ห้ามจอดมากที่สุด 217,967 ราย รองลงมาเป็นขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย 64,528 ราย ใช้รถส่วนประกอบไม่ครบถ้วนอันอาจเกิดอุบัติเหตุและอันตรายแก่ผู้อื่น 60,714 ราย ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่สามารถแสดงได้ทันที 44,697 ราย
"ฝ่าฝืนสัญญาณหรือเครื่องหมายจราจร 43,939 ราย รถประจำทางเดินรถไม่ใช้ช่องทางด้านซ้าย/จอดกีดขวางจราจร 37,728 ราย จอดรถกีดขวางจราจร 34,891 ราย เลี้ยวหรือกลับรถในที่ห้าม 33,863 ราย ขี่รถจักรยานยนต์คนซ้อนไม่สวมหมวกเพื่อป้องกันอันตราย 33,775 ราย เดินรถในเวลาห้าม 24,390 ราย จอดรถบนทางเท้า 23,514 ราย ขับรถย้อนศร 22,477 ราย ฝ่าไฟแดง 19,066 ราย ขับรถเร็วกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด 14,827 ราย และแซงในที่คับขัน 14,549 ราย" ผบก.จร.เผยสถิติใบสั่งจราจร
รวมยอดจับกุมฝ่าฝืนกฎจราจรสูงถึง 690,925 ครั้ง
จากสถิติข้างบน จากต้นปี 56 ถึงเดือนสิงหาคม 56 เป็นเวลา 8 เดือน จะสมมุติได้ง่าย ว่าครึ่งปีจะมีคนทำผิดพรบ.
ประมาณ ครึ่งล้าน หรือเดือนละ 83,333 ราย หรือ อาทิละ 20,833 ราย ..... เท่ากับว่าจะมีรถหายไปจากถนนกรุงเทพไปอาทิละ 20,000 คัน
เอาใหม่บางคนอาจจะบอกว่าผิดบางอย่างอาจถึงขั้นยึดรถเลยเหรอ งั้นเอาที่เป็นปัญหาของรถติดละกัน เอาเช่น 5 จอม กับ จอดในที่ห้ามจอดแล้วโดนยกรถ ผิดฐานจอดรถในที่ห้ามจอดมากที่สุด 217,967 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณหรือเครื่องหมายจราจร 43,939 ราย รถประจำทางเดินรถไม่ใช้ช่องทางด้านซ้าย/จอดกีดขวางจราจร 37,728 ราย จอดรถกีดขวางจราจร 34,891 ราย เลี้ยวหรือกลับรถในที่ห้าม 33,863 ราย รวม 368,388 ราย
ครึ่งเดือน ประมาณ 300,000 ราย เดือนละ 50,000 ราย หรืออาทิละ 12,500 คัน
ในทางปฏิบัติ คือ ทางตำรวจไม่ต้องกลัวว่ากำลังพลไม่พอ คือเจอใครกระทำผิดให้ยึดใบขับขี่ไว้แล้วออกใบสั่งแทน มีอายุ 7 วัน หรือใจดีหน่อย 14วัน
ก็ได้เพื่อติดธุระ อิอิ จอดรถในที่ห้ามจอดก็ล็อคล้อไว้ คนขับก็เอาใบขับขี่ไปให้ตำรวจปลดล็อค แล้วเอาใบสั่งไปแทน โดยใบสั่งต้องจดทะเบียนกันยี่ฮ้อรถด้วย (คนรวยกับคนจนจะได้เสมอภาพกัน รวยโดนยึดรถแพงๆจนโดนยึดรถถูกๆ)
ส่วนคนที่ได้ใบสั่งต้องเอารถที่กระทำผิดตามใบสั่ง ไปส่งตามสถานที่จอดรถที่กำหนดไว้ให้ภายใน ระยะเวลาที่กำหนด ถ้าเลยกำหนด
ให้ไปสอบใบขับขี่ใหม่ (ส่วนใบขับขี่ปัจุบันควรเป็นแบบตลอดชีพทุกคน เพราะคนที่ไปต่อหรือคนที่สอบใหม่ควรเป็นคนที่ทำผิดพรบ. มากกว่า จะได้ไป
อบรมมารยาทในการขับรถใหม่ คนทำถูกกฎหมายจะไปต่อใบขับขี่ อบรมให้เสียเวลาทำไม) พอครบระยะเวลาไปรับรถพร้อมใบรับรถเพื่อไปเอาใบขับขี่คืน
ส่วนโทษของคนไม่มีใบขับขี่ ก็เพื่มโทษให้สมชื่อใบขับขี่หน่อย เช่น ไม่มีใบขับขี่ห้ามขับรถ ประกันไม่จ่าย เจอโดนปรับ
แค่นี้ก็ช่วยลดรถบนท้องถนนได้แล้ว แถมยังช่วยให้ทุกคนได้เคารพกฎกันอีกด้วย ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน
ไม่ต้องเอารถเก่า ทะเบียนคู่ทะเบียนคี่ห้ามวิ่ง เอาเป็นคนดีได้ใช้ถนน คนทำผิดไม่ได้ใช้ถนนดีกว่าครับ