สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กระทู้ Eurovision Magazine กลับมาอีกครั้งเพื่อมาบอกทุกๆคนว่าตอนนี้ยูเครนได้เมืองเจ้าภาพสำหรับปีหน้าแล้วค่ะ

หลังจากที่เลื่อนประกาศไปสองครั้ง ทั้งวันที่ 1 และ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ในที่สุดเมื่อวานนี้ (วันที่ 9 กันยายน) อีบียูและช่อง NTU ของยูเครนในฐานะเจ้าภาพปีหน้าได้มาประกาศเมืองเจ้าภาพโดยไม่เลื่อนแล้ว ผลปรากฏว่า...กรุงเคียฟได้ทำหน้าที่นี้อีกครั้งหลังเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วในปี 2005 ซึ่งทันทีที่ประกาศ เพจยูโรวิชั่นได้เปลี่ยนรูปโลโก้ยูโรวิชั่นปีหน้าพร้อมภาพหลังที่เราสงสัยว่านี่อาจจะเป็นธีมของยูเครนในปีหน้า (สามารถดูจากภาพข้างบนได้) แต่ตอนนี้รอดูท่าทีของยูเครนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่


ในขณะที่วันจัดการแข่งขันคือวันที่ 9, 11 และ 13 พฤษภาคมปีหน้าตามที่ได้ประกาศเอาไว้แต่แรกค่ะ หลังเลื่อนวันแข่งจากเดิมคือวันที่ วันที่ 16, 18 และ 20 พฤษภาคมตามที่ประชุมอีบียูเมื่อต้นปี เพื่อหลีกทางให้กับวันรำลึกเหตุการณ์ไครเมียซึ่งตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคมที่จัดทุกปี
สังเกตภาพพื้นหลังที่อาจจะเป็นธีมของเจ้าภาพปีหน้าที่มาแนวทางช้างเผือกเลยทีเดียว





ขณะที่สถานที่จัดสำหรับปีหน้าอยู่ที่ International Exhibition Centre เป็นศูนย์การประชุมและงานแสดงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อารมณ์เหมือนอิมแพคของบ้านเราประมาณนั้น สามารถจุประมาณ 11,000 คน ในสำหรับยูโรวิชั่นครั้งนี้ โดยสถานที่แห่งนี้ไม่เคยจัดการแข่งขันยูโรวิชั่นมาก่อน เมื่อปี 2005 เมื่อครั้งที่ยูเครนเป็นเจ้าภาพครั้งแรก จัดอยู่ที่ Palace of Sports  ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มที่มีขนาดเล็กกว่า





ที่ตั้งของศูนย์การประชุมแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงเคียฟซึ่งเป็นเขตชานเมือง ใกล้ริมแม่น้ำดนีโปรซึ่งเป็นแม่น้ำที่ผ่านกลางเมือง
โปรดสังเกตตรงแผนที่ที่มีสีเขียวๆรอบสถานที่จัดนะคะ ตรงนั้นเป็นป่าค่ะ เดี๋ยวจะมีภาพให้ดูว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร



ทีนี้มาดูแผนที่นี้แบบใกล้ๆ บริเวณรอบๆศูนย์จะมีศูนย์การค้า โรงแรม และย่านที่อยู่อาศัยย่านใหม่ของเมืองนี้
การเดินทางมาที่แห่งนี้ก็ง่ายมาก ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีแดงแล้วมาลงที่สถานี Livoberezhna (เลโบบีซียานา) แล้วเดินไปทางทิศตะวันตกไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแล้ว




มาดูภาพข้างนอกจากศูนย์แห่งนี้กันต่อค่ะ หน้าตาจะประมาณนี้ เป็นเมืองย่อมๆท่ามกลางป่าที่ถูกกำหนดไว้เป็นพื้นที่สีเขียวของเมือง





เนื่องจากที่ตรงนี้เป็นศูนย์ประชุมที่สามารถใช้งานแบบอเนกประสงค์ ดังนั้นข้างในจะเป็นฮอลล์กว้างๆ ไว้สำหรับใช้สอยได้ทั้งจัดประชุม จัดงานแสดง มีคอนเสิร์ต แข่งกีฬา บลาๆ เท่าที่ดูมาก็กว้างนะ แต่ต้องขึ้นอยู่กับว่ายูเครนจะเนรมิตให้มันใหญ่อลังการหรือเปล่า




ถ้าหน้าตาในยูโรวิชั่นปีหน้าเป็นยังไง ก็คงประมาณนี้ที่ช่วงที่จัดคอนเสิร์ตในศูนย์แห่งนี้ ที่สามารถทำให้กว้างได้ จุคนเยอะก็ได้ และขอเดาว่าจะมีอัฒจรรย์เคลื่อนที่ได้ติดตั้งไว้ส่วนด้านข้าง มีพื้นที่ส่วนหนึ่งทำห้องกรีนรูม เวที และที่เหลือเป็นบัตรยืนทั้งหมด




ส่วนสำหรับหมู่บ้านยูโรวิชั่นซึ่งตอนนี้ทางยูเครนยังไม่ประกาศ แต่เราขอเดาไว้ก่อนว่าจะเป็นจัตุรัสเสรีภาพกลางเมือง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง
ถ้าใครติดตามข่าวช่วงเหตุการณ์ประท้วงต้านรัสเซีย ที่แห่งนี้เละตุ้มเป๊ะจากการสลายการชุมนุมจนเสียหายอย่างหนัก แต่ตอนนี้ได้รับการฟื้นฟูแล้ว ซึ่งเราเชื่อว่าแลนด์มาร์กที่สำคัญของประเทศแห่งนี้ ยูเครนต้องเลือกที่แห่งนี้อย่างแน่นอน ส่วนยูโรคลับและยูโรคาเฟ่ยังนึกไม่ออกว่าจะไปตั้งตรงไหนของเมืองดี







ทีนี้มาคาดเดาพิธีกรกันดีกว่าว่าน่าจะเป็นใครบ้าง
แว๊บๆในหัวตอนนี้น่าจะเป็น Zlata Ognevich ตัวแทนปี 2013 ในเพลง Gravity และ Timur Miroshnychenko พิธีกรและดีเจ เคยเป็นพิธีกรจูเนียร์ยูโรวิชั่นปี 2009 และ 2013  โดยทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วในการเป็นพิธีกรจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2013 ซึ่งก็ทำได้ดี ทั้งคู่นี้เราหมายหัวเลย เพราะทั้งสองคนนี้มีประสบการณ์มาก่อนแล้ว





คนต่อไป...น่าจะเป็นจามาล่า เพราะนางพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก แต่เธอจะตอบรับหรือเปล่านั่นอีกเรื่อง
ถ้านางตอบตกลง อาจจะเป็นพิธีกรหลักคู่กับอีกคน ไม่ก็ทำในช่วงห้องกรีนรูมเหมือนคอนชิต้าในปี 2015





หรือไม่ก็ Ruslana แชมป์ปี 2004 หรือเจ๊เวอร์ก้า รองแชมป์ปี 2007 (ในเวอร์ชั่นแอนดริว มิคายโลวิก)
แค่คิดก็สนุกแล้วสำหรับเจ๊เวอร์ก้าถ้าได้เป็นพิธีกรจริงๆ เผลอๆมีช่วงแต่งบอยและแต่งหญิงสลับไปมาก็ได้
แต่สำหรับลุชลาน่า เท่าที่ไปค้นประวัติมา นางเบี้ยวการเป็นพิธีกรยูโรวิชั่น 2005 มาแล้ว เพราะแต่เดิมจะเป็นนาง แต่นางไปเอาดีในการชุมชุมในช่วงปฏิวัติสีส้มจนเสียการเสียงานมาแล้ว นางเลยมาแค่โชว์ของแชมป์เก่าแทน ไม่ใช่แค่นั่น ตอนที่ได้รับเลือกเป็นพิธีกรจูเนียร์ยูโรวิชั่น 2013 ก็มาเบี้ยวเพราะไม่สบายอีก เลยให้ซลาต้าทำแทน ถ้านางได้เป็นจริงนี่จะเจอโรคเบี้ยวอีกหรือเปล่าเนี่ย






หวังว่าจะไม่ใช่ Maria Efrosinina และ Pavlo Shylko พิธีกรในปี 2005 นะ เพราะทั้งภาษาอังกฤษห่วยแล้ว ยังพูดจาตะคอกฮกฮากจนน่ารำคาญมาก จนได้รับเลือกอยู่ในลิสต์พิธีกรยูโรวิชั่นที่ห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์





เราเลยเอาหลักฐานในปี 2005 มาให้ดู นางจะ #เสียงสูง ไปไหนคะ ดูไม่น่าฟังเอาเสียเลย





สิ่งที่เราเป็นห่วงมากๆอีกเรื่องหนึ่งคือยูเครนมีคะแนนความเสมอภาพของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศในยุโรปอยู่เกือบรั้งท้าย และเป็นประเทศที่มีการเหยียดเพศทางเลือกสูงมากพอๆกับรัสเซีย ซึ่งเป็นการบ้านสุดหินของยูเครนที่ต้องแก้ไข เพราะผู้ชมยูโรวิชั่นส่วนหนึ่งมาจากคนกลุ่มนี้ และต้องการเห็นความเชื่อมั่นของยูเครนด้วยว่าจะรับประกันความปลอดภัยให้กับพวกเขา

ภาพนี้เป็นคะแนนของปีที่แล้วนะคะ ยูเครนได้ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ปีนี้เพิ่มมานิดหนึ่งเพียงแค่ 13 เปอร์เซ็นต์ซึ่งยังน้อยมากๆ แต่ปีหน้าหลังได้เป็นเจ้าภาพจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://rainbow-europe.org/






แต่ยูเครนเขาพยายามที่บอกชาวโลกว่าพวกเขาพยายามสร้างความเสมอภาพและยอมรับเพศทางเลือกอยู่ อย่างงาน Pride ที่จัดในกรุงเคียฟทุกปี แต่เป็นงานที่ต้องเสี่ยงการปะทะจากผู้ที่ต่อต้านอย่างมาก เพราะพวกโฮโมโฟเบียไปโห่และประท้วงการจัดงานนี้ด้วย แต่ยังดีที่รัฐบาลบ้านเขาออกมาสนับสนุน และมีจัดกำลังตำรวจคุ้มครองผู้เข้าร่วมงานด้วย ผลก็คือตลอดทั้งงานดำเนินไปอย่างราบรื่นค่ะ ที่เป็นแบบนี้คงเป็นเพราะปีหน้าบ้านเขาเตรียมเป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่นซึ่งฐานผู้ชมหลักก็มาจากพวกเขา เลยพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประชาคมโลก (ตอนแรกจะใช้คำว่าสร้างภาพมันก็แรงไป)



ภาพจากทวิตเตอร์ Christopher Miller คนนี้เป็นผู้สื่อข่าว จาก RFE/RL ประจำที่ยูเครน


และนี่คลิปงานบ้านเขา ซึ่งมันจะมีบางช่วงมีการประท้วงของพวกโฮโมโฟเบียด้วย แต่ท้ายที่สุดก็เสร็จตำรวจไปดำเนินคดีค่ะ



และมีข่าวว่าเมื่อปีที่แล้วที่บ้านเขาผ่านร่างกฏหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติทุกรูปแบบซึ่งร่วมถึงเรื่องของเพศทางเลือกด้วย ซึ่งพอจะเป็นความหวังในการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ในประเทศแห่งนี้ ซึ่งเราหวังว่ายูโรวิชั่นปีหน้าจะมีการปะทะกันระหว่างเพศทางเลือกกับผู้ต่อต้านเพศทางเลือกนะ



ทีนี้มาดูจอน โอลา ซาน ผู้แทนแห่งอีบียูให้เหตุผลที่เลือกเมืองเคียฟเป็นเมืองเจ้าภาพปีหน้าค่ะ



มีเรื่องค่ะหมวด

สองครั้งที่จะประกาศแต่ถูกเลื่อนไปนั้น มีข่าวให้แซดว่า เดิมที่โอเดสซ่าจะได้เป็นเจ้าภาพ แต่ทางการกรุงเคียฟพยายามล๊อบบี้ไว้ เพราะเหตุผลทางการเมืองท้องถิ่นบ้านเขา พอหลังจากประกาศไปเมื่อวานมีเสียงคัดค้านอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่เขาเชียร์โอเดสซ่าและลวีฟกันมากกว่า




ปิดท้ายสกู๊ปนี้ด้วยคลิปรีวิวเมื่อ 11 ปีที่แล้วที่ยูเครนเป็นเจ้าภาพว่ามีอะไรบ้าง และช่วงต่อไปจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับยูโรวิชั่นที่น่าสนใจมาบอกกันค่ะ