สำหรับเพื่อนคนนี้ เราชอบเขามาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วคะ
ซึ่งตัวเขาเองก็รับรู้นะคะ ว่าเราชอบ เราคุยกันตลอด
ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเขามักจะปรึกษาและขอความเห็นจากเราเสมอ
ไม่ว่าเขาจะไม่สบาย วันนี้จะกินอะไรดี ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ข้าวของเครื่องใช้
รวมถึงทุกๆเรื่อง ทุกๆปัญหาของเขา (ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวคือ เรื่องผู้หญิง)
จากที่พูดมาทั้งหมดดูเหมือนเราจะสนิทกันมาก มันก็ใช่นะคะแต่เราสนิทกันในแบบที่รู้กันอยู่สองคน
ต่อหน้าเพื่อนๆของเขา เราก็ได้แค่ทักทาย แต่ไม่มีใครรู้ จนบางครั้งเราก็คิดไปว่าเขาคงแอบเกลียดหรือจริงๆแล้วเขารำคาญที่เราชอบเขารึป่าว
บางครั้งเดินผ่านเขากับกลุ่มเพื่อนๆ เขาก็จะทำเป็นไม่สนใจ มองไม่เห็น แต่หลังจากนั้นเขาก็ทักไลน์มาคุยปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เท่าที่อ่านช่วงเริ่มต้นก็อาจจะดูเหมือนๆเพื่อนทั่วไปไม่มีอะไร แต่ช่วงหลังๆมานี้
มันมีอะไรที่พิเศษกว่านั้น คือก่อนหน้านี่ช่วงแรกๆเราจะได้แค่คุยกับเขาโดยที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขาเลย
จนวันหนึ่งวันที่เขาย้ายคอนโดมาอยู่ย่านเดียวกันกับเรา เราก็ได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้น
ชวนเราไปนั่งเล่นที่ห้อง ชวนกินข้าว มีกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่ทำให้อยู่ด้วยกันมากขึ้น
จากที่เขาไม่ให้เราเข้าไปยุ่งในชีวิตส่วนตัว จนตอนนี้เรารู้สึกว่า เหมือนเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาที่จะต้องมีเราอยู่ในนั้น
ในเวลาที่อยู่ด้วยกัน ได้อยู่ใกล้ๆเราก็รู้สึกแปลกๆ
เหมือนเขาไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกว่าเขาเกร็งๆ พูดจาก็เสียงสั่นๆเหมือนคนกำลังตื่นเต้น
บางครั้งอยู่ดีดีเขาก็ยิ้มขึ้นมา โดยไม่ทราบสาเหตุ
แววตาที่เขามองเราเปรียบเหมือนกับแววตาของแมว ที่กำลังจดจ้องอะไรสักอย่างแล้วม่านตาค่อยๆขยายขึ้น
บางสถานการณ์มันก็ทำให้เรามั่นใจเหลือเกินว่าเขาต้องคิดอะไรแน่ๆ แต่บางครั้งเขาก็เหมือนมีเส้นบางๆ
ที่คอยบอกว่า นี่คือพื้นที่ในชีวิตของเขา เขาดูเป็นคนมีโลกส่วนตัว เหมือนคนสองบุคลิก
เขาอยากให้เรารู้เรื่องไหนเขาก็จะบอกเองโดยที่เราไม่ต้องถาม แต่ถ้าเรื่องไหนที่เขาไม่ต้องการให้เรารู้เขาก็จะไม่พูดถึงเรื่องนั้นเลย
แถมเขายังคอยปิดบังเราเรื่องของผู้หญิงที่เข้ามา ไม่ให้เรารับรู้
เขาเริ่มไว้ใจให้เราเข้าออกห้องของเขาได้ ให้เราช่วยซักเสื้อผ้า ช่วยดูแลเขาในทุกๆเรื่อง
ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไร ก็ต้องมาขอความคิดเห็นของเราว่าเราคิดยังไง
โดยเขาก็เคารพในการตัดสินใจและเชื่อในสิ่งที่เราเห็นว่าดี
ในขณะที่เราสำคัญตัวเองไปแล้ว จนบางครั้งเราเผลอล้ำเส้นไปบ้าง
วันหนึ่งเราถือวิสาสะ เข้าไปในห้องเขาไปเอาของ แล้วค่อยมาบอกทีหลัง ทำให้เขาโกรธ
ต่อว่าเราจนเราเสียใจ (แต่เราก็คงผิดจริงๆแหละ) จากนั้นเขาก็มาง้อโดยการพยายามคุยด้วย
แต่เขาไม่เคยพูดคำว่าขอโทษ ไม่ว่าจะเรื่องที่เราทำถูกหรือผิดก็ตาม การง้อของเขาก็มีฟอมอยู่มากเหมือนกัน
ในฐานะที่เรามีความรู้สึกกับเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้เรารู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ
พอได้อยู่ใกล้ๆ ได้ทำอะไรให้เขา เราก็รู้สึกมีความสุข
แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีคำถามมากมาย ว่าเขาคิดยังไง เราจะต้องผิดหวังอีกรึป่าว ?
เขาไม่เคยพูดความรู้สึกที่เขามีต่อเราให้รับรู้เลยว่าเขาคิดยังไง
แต่ตอนนี้ที่รู้คือเรามีความรู้สึกให้กับเขามากๆ มากจนเราปิดกั้นตัวเอง
ไม่ว่าใครที่เข้ามา เราก็พร้อมที่จะบอกคนใหม่คนนั้น ว่าเรามีอีกคนที่เรายังอยากดูแลเขาอยู่
กลัวว่าถ้าวันนึงเราไปมีใคร เราจะไม่มีโอกาสได้ดูแลเขาแบบนี้อีก
ถึงแม้ในใจจะมีคำถามมากมาย แต่ก็สู้ความรู้สึกที่เราขาดเขาไม่ได้ที่มากกว่าคำถามพวกนั้น
ไม่ว่าตอนนี้เราจะเป็นอะไรในสายตาเขา แต่เราก็จะอยู่ตรงนี้จนกว่าจะถึงวันที่เขาไม่ต้องการเราอีกแล้ว
แค่เพื่อนจริงหรอ ?
ซึ่งตัวเขาเองก็รับรู้นะคะ ว่าเราชอบ เราคุยกันตลอด
ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเขามักจะปรึกษาและขอความเห็นจากเราเสมอ
ไม่ว่าเขาจะไม่สบาย วันนี้จะกินอะไรดี ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า ข้าวของเครื่องใช้
รวมถึงทุกๆเรื่อง ทุกๆปัญหาของเขา (ยกเว้นอยู่เรื่องเดียวคือ เรื่องผู้หญิง)
จากที่พูดมาทั้งหมดดูเหมือนเราจะสนิทกันมาก มันก็ใช่นะคะแต่เราสนิทกันในแบบที่รู้กันอยู่สองคน
ต่อหน้าเพื่อนๆของเขา เราก็ได้แค่ทักทาย แต่ไม่มีใครรู้ จนบางครั้งเราก็คิดไปว่าเขาคงแอบเกลียดหรือจริงๆแล้วเขารำคาญที่เราชอบเขารึป่าว
บางครั้งเดินผ่านเขากับกลุ่มเพื่อนๆ เขาก็จะทำเป็นไม่สนใจ มองไม่เห็น แต่หลังจากนั้นเขาก็ทักไลน์มาคุยปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เท่าที่อ่านช่วงเริ่มต้นก็อาจจะดูเหมือนๆเพื่อนทั่วไปไม่มีอะไร แต่ช่วงหลังๆมานี้
มันมีอะไรที่พิเศษกว่านั้น คือก่อนหน้านี่ช่วงแรกๆเราจะได้แค่คุยกับเขาโดยที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขาเลย
จนวันหนึ่งวันที่เขาย้ายคอนโดมาอยู่ย่านเดียวกันกับเรา เราก็ได้ใกล้ชิดกับเขามากขึ้น
ชวนเราไปนั่งเล่นที่ห้อง ชวนกินข้าว มีกิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่ทำให้อยู่ด้วยกันมากขึ้น
จากที่เขาไม่ให้เราเข้าไปยุ่งในชีวิตส่วนตัว จนตอนนี้เรารู้สึกว่า เหมือนเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาที่จะต้องมีเราอยู่ในนั้น
ในเวลาที่อยู่ด้วยกัน ได้อยู่ใกล้ๆเราก็รู้สึกแปลกๆ
เหมือนเขาไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกว่าเขาเกร็งๆ พูดจาก็เสียงสั่นๆเหมือนคนกำลังตื่นเต้น
บางครั้งอยู่ดีดีเขาก็ยิ้มขึ้นมา โดยไม่ทราบสาเหตุ
แววตาที่เขามองเราเปรียบเหมือนกับแววตาของแมว ที่กำลังจดจ้องอะไรสักอย่างแล้วม่านตาค่อยๆขยายขึ้น
บางสถานการณ์มันก็ทำให้เรามั่นใจเหลือเกินว่าเขาต้องคิดอะไรแน่ๆ แต่บางครั้งเขาก็เหมือนมีเส้นบางๆ
ที่คอยบอกว่า นี่คือพื้นที่ในชีวิตของเขา เขาดูเป็นคนมีโลกส่วนตัว เหมือนคนสองบุคลิก
เขาอยากให้เรารู้เรื่องไหนเขาก็จะบอกเองโดยที่เราไม่ต้องถาม แต่ถ้าเรื่องไหนที่เขาไม่ต้องการให้เรารู้เขาก็จะไม่พูดถึงเรื่องนั้นเลย
แถมเขายังคอยปิดบังเราเรื่องของผู้หญิงที่เข้ามา ไม่ให้เรารับรู้
เขาเริ่มไว้ใจให้เราเข้าออกห้องของเขาได้ ให้เราช่วยซักเสื้อผ้า ช่วยดูแลเขาในทุกๆเรื่อง
ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไร ก็ต้องมาขอความคิดเห็นของเราว่าเราคิดยังไง
โดยเขาก็เคารพในการตัดสินใจและเชื่อในสิ่งที่เราเห็นว่าดี
ในขณะที่เราสำคัญตัวเองไปแล้ว จนบางครั้งเราเผลอล้ำเส้นไปบ้าง
วันหนึ่งเราถือวิสาสะ เข้าไปในห้องเขาไปเอาของ แล้วค่อยมาบอกทีหลัง ทำให้เขาโกรธ
ต่อว่าเราจนเราเสียใจ (แต่เราก็คงผิดจริงๆแหละ) จากนั้นเขาก็มาง้อโดยการพยายามคุยด้วย
แต่เขาไม่เคยพูดคำว่าขอโทษ ไม่ว่าจะเรื่องที่เราทำถูกหรือผิดก็ตาม การง้อของเขาก็มีฟอมอยู่มากเหมือนกัน
ในฐานะที่เรามีความรู้สึกกับเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้เรารู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ
พอได้อยู่ใกล้ๆ ได้ทำอะไรให้เขา เราก็รู้สึกมีความสุข
แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีคำถามมากมาย ว่าเขาคิดยังไง เราจะต้องผิดหวังอีกรึป่าว ?
เขาไม่เคยพูดความรู้สึกที่เขามีต่อเราให้รับรู้เลยว่าเขาคิดยังไง
แต่ตอนนี้ที่รู้คือเรามีความรู้สึกให้กับเขามากๆ มากจนเราปิดกั้นตัวเอง
ไม่ว่าใครที่เข้ามา เราก็พร้อมที่จะบอกคนใหม่คนนั้น ว่าเรามีอีกคนที่เรายังอยากดูแลเขาอยู่
กลัวว่าถ้าวันนึงเราไปมีใคร เราจะไม่มีโอกาสได้ดูแลเขาแบบนี้อีก
ถึงแม้ในใจจะมีคำถามมากมาย แต่ก็สู้ความรู้สึกที่เราขาดเขาไม่ได้ที่มากกว่าคำถามพวกนั้น
ไม่ว่าตอนนี้เราจะเป็นอะไรในสายตาเขา แต่เราก็จะอยู่ตรงนี้จนกว่าจะถึงวันที่เขาไม่ต้องการเราอีกแล้ว