เฉลิม กับ สนธิ  เป็นเพื่อนรักกัน  
สนิทสนมกันตั้งแต่เฉลิมอยู่ ปชป. (เพราะสนธิสนิทสนมกับคนใน ปชป. มาก  รู้ไส้รู้พุงดี)

ปี 2529  เฉลิมออกจาก ปชป.  มาตั้งพรรคมวลชน
ช่วงนั้น  สนธิอยู่ในช่วงเรืองรองสุดขีด  ก็ให้การสนับสนุนเฉลิมเป็นอย่างดี

ทั้งเชียร์ผ่านสื่อ  ใช้ความกว้างขวางสนับสนุน  ควักเงินช่วยในการดำเนินงานทางการเมือง

เฉลิม-สนธิ   สนิทสนมกันแค่ไหน   ก็ขนาดสนธิซื้อปอร์เช่ให้ลูกชายเฉลิมนั่นแหละครับ

มีเลือกตั้ง   สนธิก็ควักช่วยพรรคมวลชนของเฉลิมคราวละหลักสิบล้าน


ปี 2531-2533   เฉลิมเป็น รมต.สำนักนายกฯ ในรัฐบาลชาติชาย  กำกับดูแล อสมท.
ช่วงนั้นสนธิก็กำลังรวยอยู่กับ IEC  ขายมือถือโนเกียระบบเซลลูลาร์ 900


ปี 2534   รัฐประหาร  รสช.     เฉลิมหอบลูกเมียหนีไปอยู่เดนมาร์ค
สนธิยังให้คนเอาเงินไปให้ 5 แสนบาท   ช่วยเหลือเพื่อนยามตกทุกข์



เฉลิมกลับเมืองไทย   สัมพันธ์กับสนธิก็ยังแนบแน่น

แต่แล้วหลังการเลือกตั้งปี 2539    เฉลิมกับสนธิก็แตกคอกัน   ชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ
จขกท. ก็ไม่รู้ว่า  ทะเลาะกันเรื่องอะไร

ตอนนั้น  เฉลิมเข้าร่วมรัฐบาลชวลิต   เป็น รมช.มหาดไทย


ปี 2541   เฉลิมกลายเป็นฝ่ายค้าน    สนธิก็เล่นเฉลิม  เปิดคอลัมน์ "แค้นสั่งฟ้า" ในหนังสือพิมพ์ตัวเอง
เล่นทั้งเรื่องการเมือง เล่นทั้งเรื่องลูกเฉลิม   ในนามปากกาพายัพ  วนาสุวรรณ  

ได้เรื่องสิครับ

อยู่ ๆ ก็มีโฆษณาลงในหนังสือพิมพ์มติชนและไทยรัฐ  

เป็นโฆษณางานฌาปนกิจศพนายโกตั๊บ  แซ่ลิ้ม  ณ เมรุวัดป่าบ้านเหนือ  จ.อุดรธานี  ในวันที่ 20 กันยายน 2541
เวลา 15.00 น. เทศนาธรรมโดยหลวงตาเหลิม
เวลา 16.30 น. สวดพระอภิธรรมถวายผ้าบังสุกุล
เวลา 17.00 น. ประชุมเพลิง

พร้อมกับระบุในตอนท้ายว่า
“ผู้วายชนม์ขออโหสิกรรมสิ่งที่ได้กระทำต่อเจ้าหนี้ทั้งหลายได้โปรดอโหสิกรรมต่อผู้วายชนม์ด้วย”


ว่ากันว่า   งานนี้เป็นฝีมือเฉลิมให้คนไปจ้างลงโฆษณา   โดยที่หนังสือพิมพ์ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
เมื่อมีคนมาจ้างลงโฆษณา  ก็เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ




วันนี้  ยังไม่มีคำพูดออกจากปากเฉลิม   ว่ารู้สึกอย่างไรที่สนธิเข้าไปอยู่เรือนจำ

หวังว่าคงไม่มีโฆษณา   "ขอแสดงความยินดีที่หลวงพี่ตั๊บได้สถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งใหม่"