เส้นเลือดสมองตีบทั้ง 2 ข้างทำให้เป็นเจ้าหญิงนิทรา

เดิมแม่เป็นเส้นเลือดสมองตีบซีกขวา http://ppantip.com/topic/35492255  พึ่งเป็นได้ 2 เดือน
เมื่อสัปดาห์ก่อนขณะทำกายภาพ ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง อยู่ๆก็นิ่งไป นักกายภาพบอกว่าเหมือนจะเป็นลม ก็เลิกทำและให้นอนพัก พักไปได้ 15 นาที สักพักแม่เราตื่นมาลิ้นแข็งพูดไม่ชัด แขนข้างขวาที่ปกติมีแรงเริ่มอ่อนแรง เลยรีบส่งรพ. นับจากมีอาการถึงรพ. รัฐ ที่เดิมที่มีประวัติรักษาอยู่ตรวจทุกอย่าง
หมอจบใหม่คนที่ 1 บอกว่าผล CT Scan ไม่มีการตีบเพิ่ม แต่ความดันสูงมากจนนึกว่าเป็นโรคความดัน จึงให้ขึ้นไปนอนดูอาการที่ห้องรวม คืนนั้นหมอจ่ายยาต้านเกร็ดเลือดที่แม่เรากินประจำ แต่แม่เรากินไม่ได้เพราะลิ้นแข็ง พยาบาลจึงใส่สายอาหาร เลือดออกเยอะมาก ทำให้คืนนั้นไม่สามารถกินยาต้านเกร็ดเลือดที่กินประจำได้  ได้แต่ปล่อยให้นอนดูอาการ คืนนั้นถึงเช้า แม่เรายังคงหลับอยู่  แขนขาไม่มีแรง เรียกไม่มีการตอบสนองใด ๆ เช้ามา

วันที่ 2  หมอคนที่ 1 บอกว่ามีการติดเชื้อทางเดินปัสสวะ ทำให้มีไข้สูง 40  ให้ยาฆ่าเชื้อ
บ่ายวันนั้น มีอาจารย์หมอหนุ่ม คนที่ 2 เข้ามาแล้วส่งไปทำ MRI แถวเซ็นทรัลบางนา   ก่อนเดินทางหมอถามว่าจะใส่ท่อช่วยหายใจ >> เจาะคอมั้ย เพราะแม่เราเริ่มหายใจแรงและลิ้นจุกปาก  เรากับพี่ตัดสินใจว่าไม่ใส่ เพราะไม่อยากให้แม่ทรมาน พยาบาลก็ให้เซ็นเอกสารยอมรับว่าไม่ใส่ หากเกิดช็อคกลางเราต้องยอมรับมัน  โชคดีที่แม่เรากลับมาอย่างปลอดภัย

วันที่ 3 บ่ายๆ หมอคนที่ 1 และอาจารย์หมอผู้ชายวัยกลางคน คนที่ 3 มาแจ้งผล MRI ว่ามีการตีบเพิ่มที่เส้นเลือดใหญ่ด้านซ้าย ทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมอง มีสมองตายทำให้แม่เราไม่ตืน หลับตลอดเวลา หมอบอกให้ทำใจแม่จะเป้นเจ้าหญิงนิทราแบบนี้ตลอด การรักษาได้แค่ประคับประคอง ทางยื้อคือใส่ท่อ เจาะคอ เราบอกหมอว่าแม่เคยพูดว่าถ้าแม่เป็นแบบนี้ แม่ยอมตายดีกว่า  เราเลยตัดสินใจไม่ใส่ ถ้าแม่ไม่ไหวก็ให้ไปแบบไม่ทรมานดีกว่า
เราถามหมอว่าตอนมายังดีๆ ทำไมไม่ให้ยา หมอบอกว่าต้องดูหลายอย่างประกอบ ยาอันตรายอาจทำให้มีเลือดออกที่สมองได้ง่ายขึ้น (ในใจเราคิดว่าหรือหมอจบใหม่คนที่รับเคส ไม่กล้าให้เพราะกลัวเป็นอะไรไป)  เย็นวันนั้น หมอให้ลองกินอาหารเหลว 200 CC ก็กินได้ไม่สำลัก แต่ยังไงไม่ตื่น ถึงตื่นก็ลืมตาแบบปรือ แทบมองไม่เห็น หรือบางที่ขยับตัวแม่ตื่นตาก็จะเหลือกขึ้นไป น่ากลัวมาก

วันที่ 5  มีหมอคนที่ 4 มาตรวจเราถามหมอว่าไม่ให้ยาต้านเกร็ดเลือดกินหรอ หมอบอกว่าไม่ให้ เพราะไม่ช่วยให้ดีขึ้น อาจทำให้มีเลือดออกได้
แล้วมีแนวโน้มกลับบ้านหรือขึ้นห้องพิเศษได้มั้ย  หมอบอกว่ายังกลับไม่ได้ แต่ย้ายได้ก็ไปอยู่กันสนตัวเป็นครอบครัวจนวินาทีสุดท้าย
!!! แบบเห้ย งั้นไม่เอาดีกว่า หมอพูดเหมือนจะไม่รักษาแล้วไปนอนรอความตายที่ห้องพิเศษ ไรงี้  เราเลยไม่ย้าย เพราะอยู่รวมหมอมาบ่อย ใกล้ชิดพยาบาลมากกว่า  
บ่ายวันนั้น  หมอคนที่ 2 กลับมาตรวจ เราถามคำถามเดียวกัน หมอบอกว่าในอนาคตถ้าดีขึ้นอาจให้ได้ แต่ตอนนี้ยังอันตรายอยู่

วันที่ 6 เราโทรปรึกษา รพ.เอกชนดังๆ หลายที่เพื่อปรึกษาการทำลากก้อนเลือด บอลลูนเส้นเลือด ทุกที่บอกว่าช้าไปต้องทำภายใน 6 ชม ทำตอนนี้ก็ไม่คุ้น
เพราะคนไข้อาจจะกลับมาเป็นอีกได้ และการทำอาจเสี่ยงทำให้เส้นเลือดแตก

วันที่ 7 หมอคนที่ 4 มาตรวจ เราขอประวัติแม่ เพื่อไปปรึกษาที่อื่น เพราะที่นี่ไม่มีหมอเฉพาะทางเลย

วันที่ 8  เรานำประวัติไปปรึกษาหมอที่ สถาบันประสาทวิทยา  คุณหมอบอกว่า ก็ทำได้แค่นั้น เพราะสมองที่ตายแล้วไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ แต่ต้องหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ไขมัน ความดัน โรคประจำตัว เส้นเลือดฉีกขาด เราบอกหมอว่างั้นจะพาแม่มารักษาที่นี่  หมอบอกว่าอันตราย เพราะแม่เราไม่ใส่ท่อ อาจะช็อคกลางทางได้ หมอเลยเขียนบันทึกข้อความตอบกลับมา

วันที่ 9  เราเอาเอกสารมายื่นคุยกับหมอคนที่ 2 ที่มาตรวจ หมอบอกว่าถึงหาสาเหตุก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น  เราก็บอกหมอคือรู้ว่ากลับมาปกติไม่ได้ แต่เราไม่อยากให้มีการตีบตันเพิ่มในส่วนอื่น จนทำให้สมองตายทั้งหมด

วันที่ 10 หมอเอาน้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อออกทั้งหมด และไม่วัดปริมาณน้ำและอาหารแล้ว
อาการของแม่เราปัจจุบัน มีไข้เกือบตลอดเวลาโดยเฉพาะกลางคืน  99% หลับไม่ลืมตา  หายใจแรง ความดันขึ้นๆ ลงๆ มีแผลกดทับตั้งแต่วันที่ 3 เพราะไม่ได้นอนที่นอนลม+ อากาศร้อน ติดเชื่อทางเดินปัสสาวะ และปอด ไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ ใส่เพียงหน้ากากออกซิเจน 10 ลิตรตลอดเวลา
ตอนนี้เครียดมาก แม่เหมือนหลับแต่จะลืมตาตอนถูกกระตุ้นด้วยความเจ็บปวด และตอนขยับตัวทุก 2 ชม. ปรือตามานิดหน่อยแล้วหลับต่อ  ลิ้นยังจุกปากแต่ไม่มากเท่าวันแรกๆ ไอจาม เสียงน่าจะมีเสมหะ

   ใครมีประสบการณ์ชี้แนะหน่อยค่ะ เราความทำอย่างไร บ่อยและประคับประคอง หรือย้ายรพ. หรือทำอย่างไรดีคะ  TT_____TT
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่