วันนี้มาแนะนำวิธีปิดบัตรเครดิต ตามแบบฉบับของเรากันค่ะ
ขอท้าวความย้อนหลังนิดนึง 555 ก่อนเริ่มเป็นหนี้เป็นเด็กจบใหม่ ทำงานได้เงินมาต้นเดือนนี่บุฟเฟ่เลยค่ะ
พอทำงานสักพักสมัครบัตรได้ก็เอาเลยค่ะ คิดแค่ว่าถ้าเราไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรเผื่อฉุกเฉิน ไปๆมาๆคุมตัวเองไม่ได้ค่ะ
ซื้อนั่น ผ่อนนี่รัวๆ ก่อนหน้านนี้เรามีแฟนค่ะ ช่วยกันผ่อนก็ยังพอรอดตัวไป ก็หนี้สร้างด้วยกันนี่เนอะ
ตอนหลังแฟนเลิกไปโอยยย นรกมาแล้วค่ะ บัตรชื่อชั้น!!!
ก่อนหน้านี้เราทำงานได้เงินเดือน 12000 ค่ะ มีหนี้ 2 เจ้าค่ะ
หนี้บัตร อิออน 40,000 (ไม่รวมดอกเบี้ย)
หนี้บัตร First Choice 18,000 (ไม่รวมดอกเบี้ย)
หลังจากเราถูกแฟนทิ้ง พร้อมกับนางเอาบัตรเราไปรูดอย่างสนุกสนาน นั่นคือที่มาของบัตรเต็มวงเงิน 555
ถ้าจำไม่ผิด อิออน เราผ่อนเดือนละ 6,xxx เฟิร์สช้อย ผ่อนเดือนประมาณ 2,xxx ยอดผ่อนอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อยนะคะ เพราะนานแล้ว หลังจากนั้นงานเข้าเราอย่างแรงค่ะ !! ผ่อนบัตร 8 พัน เงินเดือน 12,000! เราผิดนัดจ่าย2เดือนค่ะ แบบไม่รับโทรศัพท์ใดๆทั้งสินเพราะตอนนั้นคิดไม่ออกจริงๆค่ะ แถมเดือนนั้นบริษัทที่เราทำประสบปัญหาจ่ายเงินเดือนเราเพียง 2 พันบาท (ผ่อนจ่าย) ตอนนี้แหละค่ะหัวแทบระเบิด เกิดมาไม่เคยเจออะไรที่เครียดขนาดนี้
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่โทรมาเราเลยตัดสินใจรับค่ะ รวบรวมความกล้าผสมความหน้าด้าน555คุยกับเค้า เป็นเจ้าหน้าที่บัตรที่เราติดวงเงินเยอะค่ะ พี่อิออนนั่นเอง555 เราบอกเค้าว่าตอนนี้เราผ่อนไม่ได้เพราะอะไร เราพยายามคุยกับเค้าค่ะ โดยเค้าเสนอให้เราผ่อนน้อยลง โดยผ่อนเดือนละ 1,8xx เป็นเวลา 36 งวด ตอนแรกเราก็รีบตกลงค่ะ เพราะอย่างน้อยก็จ่ายน้อยกว่าที่ต้องจ่าย หลังจากนั้นเรามาคำนวนดอกเบี้ย หูยยยย!!! กว่าจะหมด เราต้องเสียดอกเบี้ยถึง 2x,xxx รวมๆแล้ว6x,xxx ตายๆๆ เราย่อมผ่อนแบบนี้ประมาณ3เดือนค่ะ ระหว่างนั้นก็หาทางออกของปัญหาไปเรื่อยๆ ส่วนบัตรอีกใบยอด 18,000 เดี๋ยวเราจะมาเล่าต่อจากนี้ค่ะ แต่ระหว่างนั้นก็ผ่อนไปตามปกติ ให้ดอกมันงอกเงยเล่นไปก่อน T^T
อย่างแรกที่เราทำ มาตรการที่1. เราหางานใหม่ค่ะ นี่คือทางออกแรกที่เราคิดได้ เราต้องทำให้รายได้เราเพิ่มขึ้น
จะขายของก็กลัวสู้ไม่ไหว เงินทำทุนก็ไม่มี การหางานใหม่อัพเงินเดือนคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราค่ะ
เราได้งานใหม่หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยเงินเดือน 18,000 บาท
มาตรการที่ 2. เราแจกแจงหนี้สินใส่กระดาษเลยค่ะ ขอยกตัวอย่างคร่าวๆนะคะ
เงินเดือน 18,000 หักประกันสังคม นั่นนี่นู่น ตีเลขกลมๆเลยค่ะ 17,000
จ่ายบัตรเครดิต อิออน 1,8xx
บัตรเฟิร์สช้อย 1,xxx
ให้แม่ 5,000
ค่าโทรศัพท์ 1,200
ค่ารถไป-กลับเดือนละ 700
ค่ากินไปทำงาน 3,000 (ข้าว,ขนม ,กาแฟ กินอะไรก็ได้แต่ต้องอยู่จนถึงสิ้นเดือน)
*ยกตัวอย่าง 1 วันของเรา มื้อเช้ากิน นม+ขนมปัง 25บาท + มื้อกลางวัน 30 บาท + เย็น 30 บาท เหลือ 15 บาท หยอดใส่โหลที่ทำงาน เผื่อวันไหนอยากกินกาแฟ ก็เอาจากโหลที่สะสมนี่แหละค่ะออกมา 5555555555555
วันไหนกินขนมแพง แน่นอนค่ะข้าวเหลือ 1 มื้อ (ลดน้ำหนักไปในตัว) 5555
สรุปเราเหลือ 4,300 บาท
มาตรการที่ 3. เปิดบัญชีฝากประจำ 1 (สำหรับอนาคต) ออมทรัพย์ 1 (แบบไม่มีATM)
เราฝากประจำ เดือนละ 1,000 บาท (อันนี้เผื่ออนาคตล้วนๆ)
เราฝากออมทรัพย์ เดือนละ 3,000 บาท
(3 ร้อยที่เหลือเราเล่นหวย 555 เราเป็นคนชอบเล่นหวยค่ะ หวังโชคเผื่อฟลุ๊กแบบขำๆ อย่าด่าเรานะ ^^)
มาตรการที่ 4. สร้างวินัยให้ตนเอง เราทำแบบที่กล่าวมาทุกเดือนค่ะ คือไม่เที่ยว ไม่กินแพง วันหยุดไม่ออกไปไหน และจ่ายหนี้สินตามที่ต่อรองไว้ค่ะ แต่!ทุก 3 เดือน เงินในบัญชีออมทรัพย์เราจะมี 9 พันบาท (เพราะเราฝากเดือนละ 3 พัน)
เราจะถอนตรงนี้ออกมาเพื่อโปะหนี้ค่ะ เลือกบัตรที่วงเงินน้อยก่อน นั่นคือ พี่เฟิสช้อยค่ะ
เราโทรขอปิดบัตร พี่เฟิสช้อยลดให้เราเต็มที่แบบต้องจ่ายครั้งเดียวตู้มมมม! 12,000 บาท เราก็ตกลงเลยค่ะ
เรามีเงินฝากเดิม 9 พัน เงินของเดือนใหม่อีก 3 พัน โปะไปเลยบัตรแรกสวยๆ เชิ่ดๆ
บัตรอิอนนเราก็ทำเช่นเดียวกันค่ะ แต่เหมือนเค้าไม่มีนโยบายส่วนลด เพราะเราลองขอแล้ว เราเลยใช้วิธีเดียวกันค่ะ
ผ่อนยอด 1,8xx ทุกเดือน ระหว่างนั้นก็ฝาก เดือนละ 3 พันไปเรื่อยๆค่ะ เท่ากับว่า ทุก3เดือน เราจะโปะเค้าเดือนละ 9 พัน (ไม่รวมกับเงินที่เราผ่อนทุกเดือน) วิธีการคือเดือนไหนเราจ่ายมาก เราจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ค่ะ ว่าเดือนนี้เราขอจ่ายเยอะ เดือนถัดไปขอผ่อนจ่ายเท่าเดิม
กว่าเราปิดได้ประมาณ ปีครึ่งค่ะ ตอนนี้หมดหนี้หมดสินแล้วค่ะ เข็ดแล้วจริงๆกับบัตรเครดิต ลาก่อนนนนนนนนนนนนนน
ตอนนี้มีคนโทรมาให้สมัคร บอกลาไปหมดค่ะ หลังจากหนี้หมด เราก็เก็บเงินมากขึ้นค่ะ
อยากได้อะไรเก็บเงินซื้อเงินสดเอาค่ะ พอกันทีไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน
วิธีของเราต้องใช้วินัยนะคะ คุณต้องตั้งใจจริงๆ อย่าไปคิดว่าค่อยๆผ่อนก็หมด
มาลองคำนวนดอกเบี้ยดูเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเราเอาไปทำอะไรได้หลายอย่างเลยค่ะ
ขั้นตอนอาจรวบรัดไปนิดนะคะ เพราะเราเองจำไม่ได้แล้วจริงๆค่ะ
พอดีวันนี้มีคนมาเสนอให้ทำบัตรอีก เราเลยนึกขึ้นได้ อยากแชร์ประสบการณ์เป็นอุทาหรณ์ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ^^
มาแลกเปลี่ยนวิธีชำระบัตรเครดิตกันค่ะ แบบฉบับคนหนี้ท่วมหัวกันค่ะ
ขอท้าวความย้อนหลังนิดนึง 555 ก่อนเริ่มเป็นหนี้เป็นเด็กจบใหม่ ทำงานได้เงินมาต้นเดือนนี่บุฟเฟ่เลยค่ะ
พอทำงานสักพักสมัครบัตรได้ก็เอาเลยค่ะ คิดแค่ว่าถ้าเราไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรเผื่อฉุกเฉิน ไปๆมาๆคุมตัวเองไม่ได้ค่ะ
ซื้อนั่น ผ่อนนี่รัวๆ ก่อนหน้านนี้เรามีแฟนค่ะ ช่วยกันผ่อนก็ยังพอรอดตัวไป ก็หนี้สร้างด้วยกันนี่เนอะ
ตอนหลังแฟนเลิกไปโอยยย นรกมาแล้วค่ะ บัตรชื่อชั้น!!!
ก่อนหน้านี้เราทำงานได้เงินเดือน 12000 ค่ะ มีหนี้ 2 เจ้าค่ะ
หนี้บัตร อิออน 40,000 (ไม่รวมดอกเบี้ย)
หนี้บัตร First Choice 18,000 (ไม่รวมดอกเบี้ย)
หลังจากเราถูกแฟนทิ้ง พร้อมกับนางเอาบัตรเราไปรูดอย่างสนุกสนาน นั่นคือที่มาของบัตรเต็มวงเงิน 555
ถ้าจำไม่ผิด อิออน เราผ่อนเดือนละ 6,xxx เฟิร์สช้อย ผ่อนเดือนประมาณ 2,xxx ยอดผ่อนอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อยนะคะ เพราะนานแล้ว หลังจากนั้นงานเข้าเราอย่างแรงค่ะ !! ผ่อนบัตร 8 พัน เงินเดือน 12,000! เราผิดนัดจ่าย2เดือนค่ะ แบบไม่รับโทรศัพท์ใดๆทั้งสินเพราะตอนนั้นคิดไม่ออกจริงๆค่ะ แถมเดือนนั้นบริษัทที่เราทำประสบปัญหาจ่ายเงินเดือนเราเพียง 2 พันบาท (ผ่อนจ่าย) ตอนนี้แหละค่ะหัวแทบระเบิด เกิดมาไม่เคยเจออะไรที่เครียดขนาดนี้
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่โทรมาเราเลยตัดสินใจรับค่ะ รวบรวมความกล้าผสมความหน้าด้าน555คุยกับเค้า เป็นเจ้าหน้าที่บัตรที่เราติดวงเงินเยอะค่ะ พี่อิออนนั่นเอง555 เราบอกเค้าว่าตอนนี้เราผ่อนไม่ได้เพราะอะไร เราพยายามคุยกับเค้าค่ะ โดยเค้าเสนอให้เราผ่อนน้อยลง โดยผ่อนเดือนละ 1,8xx เป็นเวลา 36 งวด ตอนแรกเราก็รีบตกลงค่ะ เพราะอย่างน้อยก็จ่ายน้อยกว่าที่ต้องจ่าย หลังจากนั้นเรามาคำนวนดอกเบี้ย หูยยยย!!! กว่าจะหมด เราต้องเสียดอกเบี้ยถึง 2x,xxx รวมๆแล้ว6x,xxx ตายๆๆ เราย่อมผ่อนแบบนี้ประมาณ3เดือนค่ะ ระหว่างนั้นก็หาทางออกของปัญหาไปเรื่อยๆ ส่วนบัตรอีกใบยอด 18,000 เดี๋ยวเราจะมาเล่าต่อจากนี้ค่ะ แต่ระหว่างนั้นก็ผ่อนไปตามปกติ ให้ดอกมันงอกเงยเล่นไปก่อน T^T
อย่างแรกที่เราทำ มาตรการที่1. เราหางานใหม่ค่ะ นี่คือทางออกแรกที่เราคิดได้ เราต้องทำให้รายได้เราเพิ่มขึ้น
จะขายของก็กลัวสู้ไม่ไหว เงินทำทุนก็ไม่มี การหางานใหม่อัพเงินเดือนคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเราค่ะ
เราได้งานใหม่หลังจากนั้นไม่นาน ด้วยเงินเดือน 18,000 บาท
มาตรการที่ 2. เราแจกแจงหนี้สินใส่กระดาษเลยค่ะ ขอยกตัวอย่างคร่าวๆนะคะ
เงินเดือน 18,000 หักประกันสังคม นั่นนี่นู่น ตีเลขกลมๆเลยค่ะ 17,000
จ่ายบัตรเครดิต อิออน 1,8xx
บัตรเฟิร์สช้อย 1,xxx
ให้แม่ 5,000
ค่าโทรศัพท์ 1,200
ค่ารถไป-กลับเดือนละ 700
ค่ากินไปทำงาน 3,000 (ข้าว,ขนม ,กาแฟ กินอะไรก็ได้แต่ต้องอยู่จนถึงสิ้นเดือน)
*ยกตัวอย่าง 1 วันของเรา มื้อเช้ากิน นม+ขนมปัง 25บาท + มื้อกลางวัน 30 บาท + เย็น 30 บาท เหลือ 15 บาท หยอดใส่โหลที่ทำงาน เผื่อวันไหนอยากกินกาแฟ ก็เอาจากโหลที่สะสมนี่แหละค่ะออกมา 5555555555555
วันไหนกินขนมแพง แน่นอนค่ะข้าวเหลือ 1 มื้อ (ลดน้ำหนักไปในตัว) 5555
สรุปเราเหลือ 4,300 บาท
มาตรการที่ 3. เปิดบัญชีฝากประจำ 1 (สำหรับอนาคต) ออมทรัพย์ 1 (แบบไม่มีATM)
เราฝากประจำ เดือนละ 1,000 บาท (อันนี้เผื่ออนาคตล้วนๆ)
เราฝากออมทรัพย์ เดือนละ 3,000 บาท
(3 ร้อยที่เหลือเราเล่นหวย 555 เราเป็นคนชอบเล่นหวยค่ะ หวังโชคเผื่อฟลุ๊กแบบขำๆ อย่าด่าเรานะ ^^)
มาตรการที่ 4. สร้างวินัยให้ตนเอง เราทำแบบที่กล่าวมาทุกเดือนค่ะ คือไม่เที่ยว ไม่กินแพง วันหยุดไม่ออกไปไหน และจ่ายหนี้สินตามที่ต่อรองไว้ค่ะ แต่!ทุก 3 เดือน เงินในบัญชีออมทรัพย์เราจะมี 9 พันบาท (เพราะเราฝากเดือนละ 3 พัน)
เราจะถอนตรงนี้ออกมาเพื่อโปะหนี้ค่ะ เลือกบัตรที่วงเงินน้อยก่อน นั่นคือ พี่เฟิสช้อยค่ะ
เราโทรขอปิดบัตร พี่เฟิสช้อยลดให้เราเต็มที่แบบต้องจ่ายครั้งเดียวตู้มมมม! 12,000 บาท เราก็ตกลงเลยค่ะ
เรามีเงินฝากเดิม 9 พัน เงินของเดือนใหม่อีก 3 พัน โปะไปเลยบัตรแรกสวยๆ เชิ่ดๆ
บัตรอิอนนเราก็ทำเช่นเดียวกันค่ะ แต่เหมือนเค้าไม่มีนโยบายส่วนลด เพราะเราลองขอแล้ว เราเลยใช้วิธีเดียวกันค่ะ
ผ่อนยอด 1,8xx ทุกเดือน ระหว่างนั้นก็ฝาก เดือนละ 3 พันไปเรื่อยๆค่ะ เท่ากับว่า ทุก3เดือน เราจะโปะเค้าเดือนละ 9 พัน (ไม่รวมกับเงินที่เราผ่อนทุกเดือน) วิธีการคือเดือนไหนเราจ่ายมาก เราจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ค่ะ ว่าเดือนนี้เราขอจ่ายเยอะ เดือนถัดไปขอผ่อนจ่ายเท่าเดิม
กว่าเราปิดได้ประมาณ ปีครึ่งค่ะ ตอนนี้หมดหนี้หมดสินแล้วค่ะ เข็ดแล้วจริงๆกับบัตรเครดิต ลาก่อนนนนนนนนนนนนนน
ตอนนี้มีคนโทรมาให้สมัคร บอกลาไปหมดค่ะ หลังจากหนี้หมด เราก็เก็บเงินมากขึ้นค่ะ
อยากได้อะไรเก็บเงินซื้อเงินสดเอาค่ะ พอกันทีไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน
วิธีของเราต้องใช้วินัยนะคะ คุณต้องตั้งใจจริงๆ อย่าไปคิดว่าค่อยๆผ่อนก็หมด
มาลองคำนวนดอกเบี้ยดูเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเราเอาไปทำอะไรได้หลายอย่างเลยค่ะ
ขั้นตอนอาจรวบรัดไปนิดนะคะ เพราะเราเองจำไม่ได้แล้วจริงๆค่ะ
พอดีวันนี้มีคนมาเสนอให้ทำบัตรอีก เราเลยนึกขึ้นได้ อยากแชร์ประสบการณ์เป็นอุทาหรณ์ค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ^^