ทวงเงินแฟนเก่าจะมีโอกาสได้คืนไหมค่ะ?

เรื่องนี้เป็นเรื่องทวงเงินแฟนเก่าค่ะ คือเรื่องมีอยู่ว่า เรากับฝ่ายชายนั้นเคยคบกันเมื่อก่อน และก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เรากับเขาต้องเลิกกัน   เพราะฝ่ายชายเขามีคนอื่นค่ะ ตอนนั้นเราแค้นเขามากจนเอาคืนเขาแรงพอสมควร    จึงทำให้ฝ่ายชายเขาถึงขั้นกินยาฆ่าตัวตาย  ตอนนั้นเรารู้สึกผิดมากเพราะทุกคนตราหน้าว่าเราผิด    เพราะเราจึงต้องทนอยู่ทั้งๆที่หมดรักไปนานแล้ว   หลังจากเขากินยาฆ่าตัวตายแต่ไม่ตาย เราก็เป็นคนดูแล ส่งเงินให้ใช้1พันบ้าง เอาโอนไปให้ใช้อีกอาทิตย์ 1500 และเขาสัญญาว่าจะคืนเมื่อมีเงินจะใช้คืนให้ทุกบาท    เงินที่เราให้เขาไว้ใช้เขาเอาไปเลี้ยงคนคนอื่นเอาไปเลี้ยงผู้หญิงอื่นจนหมด  เราจึงทะเลาะกันรุนแรง เขาต่อยเราจนเราเขียวช้ำไปหมดจนเป็นเหตุให้เลิกลากันไปแบบจบไม่สวย   
            จนหลังจากการเลิกลาเราก็ไปทวงถามเรื่องเงินที่เขาติดเราไว้  ผ่านทางเพื่อนสนิทของเขาเอง    เพราะเราร้อนเงินมาก  เขาก็โพสเฟสบุ๊กด่า พูดในทำนองว่าเขารวยกว่าบ้านเราจนกว่า เขาเป็นฝ่ายเปย์มากกว่า (เราเป็นแฟนในตอนนั้นเขาใช้เงินเลี้ยงเพื่อนจนหมด มีเงินเดือนไม่ถึงหมื่นทำตัวรวยล้นฟ้า ส่วนค่ากินค่าอยู่เราเป็นคนออกมาตลอด นี้หรือคนรวย55555+ ) อีกทั้งเพื่อนๆเขาก็แอดมาในเฟสบุ๊กมาด่า โดนรุ่มด่าจนหมดความอดทน    หลังจากที่เราโทรไปคุยกับเขาโดยตรงว่าจะเครียแค่เรื่องเงินเท่านั้นถ้าเงินที่ให้ยืมไปจะหักลบกับอะไรก็ขอให้พูดกับเราโดยตรง   ไม่ต้องให้เพื่อนมาด่าเราเสียๆหายๆอีก  จึงได้ข้อสรุปว่า
            1.   เขาเรียกให้เราคืนของขวัญที่เขาให้คืนเพื่อหักลบกับเงินที่ยืมเราไป (แบบนี้ก็ได้หรอ ขอขวัญให้เองไม่เคยร้องขอ ยังมีหน้ามาเก็บตัง55555+)
            2.   เขาเรียกค่าเสียหายจากที่เราคบกับเขาเดือนละ1000 บาททั้งหมด14เดือน 14000บาท  (เอ้านี้เราเป็นผู้หญิงนะต้องให้ค่าใช้เสียหายผู้ชายด้วยหรอ55555+)
            พอเห็นขอตกลงที่เขายื่นข้อเสนอมานี้เราควรจะเรียกเงินคืนอีกไหม? เขาติดเงินเราประมาน6500++
            หรือว่าเราควรจะไปบอกพ่อเขาว่าลูกชายติดเงินอยู่จำนวนเท่าไร อีกทั้งให้ช่วยลบโพสข้อความ ดูถูกด่าเราว่าหน้าด้าน กระ_ อีกทั้งกระทู้พันทิปซึ่งโพสข้อความจริง40% เท่านั้น
             ปล.เราพยายามจบเรื่องนี้ด้วยตัวเองแล้ว แต่ฝ่ายชายเขามีแต่คำด่า และเอาแต่โพสให้เพื่อนรุมด่าลูกเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่