สวัสดีค่ะ นี่เป็นรีวิวแรกของเรานะคะ และเป็นการเที่ยวครั้งที่สองของเรากับแฟนค่ะ ครั้งแรกไปเที่ยวเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน แต่ไม่ได้เขียนรีวิวไว้ เลยรู้สึกเสียดาย มาครั้งนี้ก็เลยอยากถ่ายทอดความรู้สึก ความทรงจำดีๆไว้คะ

เราเริ่มเดินทางกันวันที่ 4 ก.ย. 59 จากขอนแก่นโดยรถทัวร์ เวลา 19.45 ค่ะ



กว่าจะมาถึงตราดก็สว่างแล้ว รถทัวร์มาส่งเราที่ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติค่ะ เพราะเราต้องมาซื้อตั๋วรถขากลับที่นี่

หลังจากซื้อตั๋วขากลับ และจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบ เราก็นั่งรถสองแถวต่อไปลงที่ท่าเรือกรมหลวงชุมพร ซึ่งห่างจากท่าเรืออ่าวเฟอร์รี่ประมาณ 10 กม.คะ (เจ้าหน้าที่บอกไว้)



เรามาถึงท่าเรือกรมหลวงชุมพร ประมาณ 09.30 น. เพื่อนั่งเรือต่อไปเกาะหมาก เราจองเรือผ่านเว็บ ilovekohmak.com คะ ไป-กลับคนละ 900 บาท เป็นเรือสปีดโบ๊ท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที รอบเรือที่นี่มีหลายรอบนะคะ (ขอยืมรูปจากเว็บ ilovekohmak นะคะ)



เราจองเรือรอบ 11.30 เรือของบ.สวนสุข ใจจริงอยากจองเรือรอบแรกเลยแต่กลัวมาไม่ทันค่ะ

ตอนมาถึงท่าเรือกรมหลวงฯ ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ ลมค่อนข้างแรงค่ะ และมีฝนตกลงมารินๆ มีเสียงว่าร้องอยู่ไกลๆ พี่คนขายตั๋วบอกว่าเพิ่งตกวันนี้วันแรก เมื่อวานยังแดดออกอยู่เลย ไอ้เราใจแป้วววเลย กลัวว่าพอไปถึงเกาะเดี๋ยวจะถ่ายรูปออกมาไม่สวย ถ้ามีพายุก็กลัวจะไม่ได้ข้ามไปเกาะขามอีก

สภาพฝนฟ้าอากาศที่ท่าเรือกรมหลวงฯค่ะ




เรือมาแล้วค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ มัวแต่ตื่นเต้นกลัวไม่ได้ไปค่ะ อิอิ)

อันนี้ถ่ายจากในเรือนะคะ ที่เห็นอยู่ไกลๆ เป็นเกาะช้างคะ


เรามาถึงเกาะหมากประมาณ 12.30 เรือมาจอดให้ลงที่ท่าเรืออ่าวนิดค่ะ จากนั้นจะมีรถของรีสอร์ตมารอรับที่ท่าเรือเลยค่ะ ดีมากๆๆ
เราจองที่พักของ cococape resort ผ่านทางเว็บ Agoda ไว้ค่ะ ราคาไม่แพง เนื่องจากเรามาช่วงกรีนซีซั่น ราคาห้องพักลงลดเกือบครึ่งเลย

เช็คอินกันก่อนค่ะ นี่เป็นล็อบบี้ของรีสอร์ต มี welcome drink เย็นๆให้ดื่มด้วยนะคะ (ไม่ได้ถ่ายรูปอีกเช่นเคย กระดกหมดก่อน แฮะๆๆ) และก็จะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบายเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้ทราบนะคะ


จากนั้นก็จะพามาที่ห้องพักคะ เราจองห้องแบบลากูน่าคอทเทจคะ ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันคะ ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น กาน้ำร้อนไฟฟ้า ไดร์เป่าผม พัดลมตั้งพื้น ห้องพักหน้าอยู่มากๆ






หน้าห้องพักค่ะ




เดี๋ยวมาต่อนะคะ

หลังจากเข้าที่พัก เก็บของ อาบน้ำเรียบร้อย ท้องก็เริ่มร้องแล้ว ราคาอาหารของที่นี่เริ่มต้นที่ 90 บาทคะ ก็ถึงว่าแพงอยู่นะคะ สำหรับแบ็คแพ็คอย่างเรา แต่รสชาตอาหารเราว่าก็โอเคอยู่นะคะ

ร้านอาหารจะอยู่ตรงล็อบบี้ของรีสอร์ตเลยค่ะ






ทานข้าวเสร็จก็เดินเล่น สำรวจรีสอร์ตกันค่ะ ท้องฟ้าวันนี้ไม่ค่อยสดใสค่ะ เมฆเยอะมาก














ข้างๆรีสอร์ตมีหาดให้เดินกินลมชมวิวได้ค่ะ แต่โขดหินจะเยอะหน่อย ทรายละเอียด นุ่มเท้าดีค่ะ










ค่ำแล้ว ไปนั่งเล่นชิวๆที่สะพานไม้ blue pearl ซิกเนเจอร์ของที่นี่ค่ะ








ที่บาร์ blue pearl มีทั้งค๊อกเทล เบียร์ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ให้บริการ ส่วนพี่บาร์เทนเดอร์ใจดีมากๆ อัธยาศัยดี ชวนคุยตลอด ออกแนวกวนๆหน่อย อิอิ



วันที่ 2
คือวันนี้ว่างแผนกันไว้ว่าจะข้ามไปเกาะขาม แล้วกลับมาขี่รถเล่นอ้อมเกาะหมากกันค่ะ
วันนี้ตื่นสายหน่อยเกือบเก้าโมงเช้า ซึ่งฟ้าฝนเป็นใจมาก แดดเปรี้ยงเลย หลังจากที่อาบน้ำทานข้าวเสร็จ เราก็มาซื้อตั๋วข้ามไปเกาะหมากที่ล๊อบบี้ของรีสอร์ต ไป-กลับคนละ 250 บาท ซึ่งตั๋วก็สามารถเอาไปแลกเอาเครื่องดื่มบนเกาะขามได้ค่ะ

ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว ก็ไปรอลงเรือที่สะพานไม้คะ เรือออก 10.30

ระหว่างที่รอเวลา


ได้เวลาลงเรือแล้ววววว ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากรีสอร์ตมาเกาะข้ามนะคะ


ถึงเกาะข้ามแล้วคร่าาาาา บอกเลยว่าทั้งเกาะมีแค่เราสองคนค่ะ ส่วนตัวมากๆๆๆ เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น มันดีตรงนี่แหละ อิอิ ส่วนคนขับเรือก็จะกลับไปรีสอร์ตคะ


เที่ยวเล่นอยู่เกาะขามจนหนำใจ ก็ได้เวลาโทรเรียกพี่คนขับเรือมารับ จริงๆรอบเรือที่จะข้ามมาเกาะขามจะมาอีกทีตอนบ่ายโมงครึ่ง แต่ช่วงนี้เป็นช่วงโลว์เลยไม่มีนักท่องเที่ยวข้ามมา พี่เขาเลยให้เราอยู่เล่นที่เกาะขาม อยากกลับตอนไหนค่อยโทรมาคะ พวกเรากลับตอนประมาณเที่ยงๆค่ะ  รอสักบ่าย 3-4 แดดร่มๆ ค่อยไปขี่รถเล่น เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ สามารถเช่ามอร์ไซต์ที่รีสอร์ตได้เลยวันละ 300 บาทค่ะ
บนเกาะมีร้านค้าสะดวกซื้อหลายร้านคะ ราคาตามปกติ ไม่มีชาร์ตเหมือนที่รีสอร์ตคะ ส่วนใครที่ไม่อยากทานข้าวที่รีสอร์ต ที่เกาะมีร้านอาหารราคาไม่แพงเยอะแยะเลยคะ