ไปเกาะใครว่าต้องไปหลายวัน แค่เวลาสั้นๆ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ไปได้นะเออ (แต่ตอนกลับก็จะเสียดายหน่อยๆ เวลามันน้อยเหลือเกิน)
ทริปนี้เราไปกันเมื่อวันที่ 5-6 พ.ค. 61 นี้เอง เป็นทริปที่ใช้เวลาน้อย แต่ที่กิน ที่เที่ยว ไม่น้อยเลย ขอเล่ารายละเอียดไว้ในช่วงต้นเลยละกัน เผื่อใครเข้ามาเก็บข้อมูลแต่ไม่อยากดูรูป จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนหา แต่ถ้าพอมีเวลาก็อ่านเป็นกำลังใจให้กันจนจบกระทู้นะคะ

การเดินทาง : รถยนต์ส่วนตัว ขึ้นเรือที่แหลมงอบ (ท่าเรือกรมหลวงชุมพรฯ) ขอย้ำว่าไม่ใช่บริเวณที่มีประภาคารนะคะ จากประภาคารต้องตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอย สังเกตุป้าย "ท่าขึ้นเรือ" ขับตามป้ายไป จะเจอกับท่าเรือ ขึ้นเรือจากตรงนั้นไปเกาะหมาก ใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที
ค่าเรือไปเกาะหมาก 450 บาท/คน/เที่ยว (รวมไป-กลับ 900 บาท/คน)
เราจองเรือผ่านเว็บ iLoveKhoMak ไว้ก่อนการเดินทาง เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ไปรอบเช้าสุด แต่ถ้าใครไม่รีบก็ไปซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือ
**กรณีเดินทางด้วยรถส่วนตัว  จุดรับฝากรถมีหลายจุด คืนละ 60 บาท ที่รับฝากรถไกลจากจุดขึ้นเรือ แนะนำว่าให้ขับไปส่งผู้ร่วมเดินทางและสัมภาระไปลงที่ท่าเรือก่อน แล้วค่อยขับรถไปที่จุดรับฝาก ตอนกลับมาท่าเรือมีมอเตอร์ไซรับจ้างให้บริการ เสียค่าบริการ 10 บาท
***วันหยุด และช่วงเทศกาล คนเยอะ เรือเต็มแล้วออกเลย ถ้าจองเรือแล้วคิดว่าจะไปช้า ให้โทรไปแจ้งเบอร์ที่เราจองเรือไว้ก่อนนะคะ


ที่พัก : ทริปนี้เราเลือกพักที่ Naivacha Tent Koh Mak เป็นรีสอร์ทตกแต่งสไตล์เต้นท์ในสวนมะพร้าว ใกล้ร้านอาหาร, ร้านขายของ, ท่าเรืออ่าวนิด

ค่าใช้จ่าย : ประมาณ 3,500 บาท/คน (มีตัวหารร่วมทริปนี้ 4 คน)
> ค่าข้ามเรือไป-กลับ 900 บาท
> ค่าที่พัก 1,600 บาท/ห้อง/คืน พักห้องละ 2 คน = คนละ 800 บาท
> ค่าน้ำมันรถ 500 บาท/คน
> ค่าท่องเที่ยวบนเกาะ 500 บาท/คน (ค่ารถชมวิวรอบเกาะ 200 บาท/คน ประมาณ 2 ชั่วโมง, ค่าเรือข้ามไปเกาะขาม 300 บาท/คน)
> ค่าอาหารทั้งทริป และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประมาณ 800 บาท/คน  

พร้อมแล้ว ตามมา...

ก่อนขึ้นเรือ เราแวะเติมพลังที่ "ร้านจันทราก๋วยเตี๋ยวทะเล" เป็นร้านเล็กๆ อยู่ในซอยใกล้กับกับประภาคาร รสชาติดีเหมือนหน้าตา ใครไปถึงก่อนเวลาลงเรือ แนะนำให้จัด


หลังจากนี้ขอวาร์ปไปที่เกาะหมากกันเลย... เรือรอบ 10.30 น. จอดส่งเราที่หน้ามากะธานีรีสอร์ต สิ่งแรกที่เราเจอคือ น้ำใสมากกก ฟ้าสวยมากกก
จากจุดนี้ขอให้ภาพบรรยายแทน




รอที่ท่าขึ้นเรือไม่นาน รถจากรีสอร์ทเราก็มารับ เตรียมแบกสัมภารก เอ๊ย สัมภาระ เข้าที่พัก เราพักกันที่ Naivacha Tent Koh Mak
เป็นรีสอร์ตที่ห้องพักเป็นเต๊นท์ติดเครื่องปรับอากาศ วิวโดยรอบเป็นสวนมะพร้าว ส่วนด้านหน้าเป็นวิวทะเล ภายในห้องกว้างขวาง
เตียงนุ่ม กว้าง นอนสบาย ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งตู้เย็น, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะ, เก้าอี้, โคมไฟอ่านหนังสือ, ชุดชากาแฟก็มีให้บริการ
ห้องน้ำกว้าง แยกชักโครก และที่อาบน้ำคนละฝั่ง เราชอบมาก... มากจนลืมถ่ายรูป
ที่นี่ยังมีบริการ wifi ฟรีด้วยนะ ขาดแค่อย่างเดียว คือทีวี! แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไร เพราะเรามีอะไรให้ดูมากกว่าน๊าน
แถมด้วยระเบียงหน้าห้อง พร้อมชุดโต๊ะนั่งเล่นชมวิวทะเลหน้าบ้าน So Good มาก








หาดบริเวณหน้าที่พัก ตอนเราไปน้ำลงช่วงเช้า เลยเห็นโขดหินเต็มไปหมด



ที่พักมีอาหารเช้าให้บริการนะคะ เครื่องดื่ม พวก ชา, กาแฟ บริการตัวเอง ส่วนขนมปังปิ้ง แฮม ไข่ดาว มีคนทำมาเสริฟให้ถึงโต๊ะค่า




แนะนำที่พักไปแล้ว ก็มาเที่ยวกันต่อ แต่ก่อนจะไปเที่ยวก็หาอะไรกินกันก่อน มื้อแรกบนเกาะหมาก เราปั่นจักรยานไปกัน ร้านอยู่ไม่ไกลจากที่พัก
อาหารบนเกาะ จากร้านตามสั่งที่เราแวะไป ราคาอาหารจานเดียวอยู่ที่ 35-40 บาท ราคาถูกกว่าบนฝั่งอีก แต่ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง ปลาหมึก สดมาก เนื้อเด้งมาก



อิ่มแล้วก็ได้เวลาข้ามเรือไปชมความงามของเกาะขามกัน รถจากรีสอร์ทพาเราไปส่งที่ท่าข้ามเรือตรงเกาะหมากรีสอร์ท
ค่าข้ามเรือคนละ 300 บาท ตั๋วข้ามเรือเอาไปแลกเครื่องดื่มได้ 1 อย่าง
***ขอแนะนำเลยว่า ใครที่ไปครั้งแรก แล้วจะข้ามเรือไปที่เกาะขาม ให้พกพาอาหาร ขนม เครื่องดื่มไปกินกันหิวด้วยนะคะ เสื่อผืนหมอนใบพกไปให้พร้อมเพราะที่เกาะขามน้ำทะเลสวยมากๆ ตอนแรกคิดว่าจะข้ามไปแป๊บเดียว แต่ที่ไหนได้ ดำน้ำ นั่งเล่น นอนเล่น กลับเรือรอบสุดท้ายเลยจ้า









จุดแลกเครื่องดื่ม มีให้บริการเช่าหน้ากากดำน้ำ อันละ 50 บาท


เราเป็นคนที่ไม่เคยดำน้ำเลย ไม่ว่าจะน้ำลึก น้ำตื้น ไม่เคยรู้เลยว่าใต้ทะเลของจริงเป็นยังไง พอเห็นน้ำใสๆ เลยลองเป็นครั้งแรก ติดใจเลย
ใต้น้ำที่เกาะขาม ถึงจะไม่ได้ใสแจ๋ว มีปะการัง หรือปลามากมาย แต่ก็ทำให้คนที่ดำน้ำครั้งแรกได้ตื่นตาตื่นใจ ตื่นเต้นเวลาที่ได้เห็นปลาตัวโตๆ สีสวยๆ ถึงจะไม่รู้ว่ามันคือปลาอะไรก็เถอะ 55555 #ดำน้ำครั้งหนึ่งคิดถึงตลอดไป

อยู่จนเรือรอบสุดท้าย ได้เวลากลับขึ้นฝั่ง อาบน้ำอาบท่า แล้วก็พาจักรยานคู่ใจ (รู้จักกันไม่ถึงวัน ปั่นไม่ถึง 10 นาที เป็นเพื่อนกันไปแระ อิๆ) ปั่นไปท่าเรืออ่าวนิด เพราะเค้าบอกว่าที่นี่ตกปลาหมึกได้ เราจะไปตกปลาหมึกมาเป็นมื้อเย็นกัน เอาไม่มากไม่มาย ซัก 5 กิโล 10 กิโลก็พอ




ตวัดคันเบ็ดกันจนเมื่อยแขน พระอาทิตย์ก็ลับฟ้าไปแล้ว วี่แววคุณปลาหมึกก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมาติดกับดัก ความหิวก็เริ่มมาเยือน
เราเลยเปลี่ยนแผน ไปกินมื้อเย็น กันที่ "เกาะหมากซีฟู๊ด" แทน (จริงๆ แล้วก็วางแผนว่าจะไปร้านนี้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ทำเป็นเท่กันไปอย่างนั้นเอง เหอะๆ)

ที่ "เกาะหมากซีฟู๊ด" ความเห็นส่วนตัวเราว่าที่นี่ใช้วัตถุดิบสด รสชาติดี โดยเฉพาะฮอทพอท (ต้มยำทะเลน้ำข้น) อร่อยจนขูดหม้อกันเลยทีเดียว
เมนูกุ้ง, ปู, ปลาหมึก ราคาบางจานเท่ากันกับบนฝั่ง บางจานถูกกว่า แต่เมนูปลากลับมีราคาสูง (เริ่มต้นที่จานละประมาณ 450 บาทขึ้นไป)
อาหารคาว 4 อย่าง ข้าวเปล่า น้ำเปล่า พ่วงโรตี เป็นของหวานตบท้าย ค่าเสียหาย 1,050 บาท อิ่มท้องแตกกลับที่พัก







***ตอนกลับมีแค่ไฟฉายติดหน้าผากดวงเล็กๆ ดวงเดียว จักรยานก็ไม่มีไฟหน้า บวกกับทางกลับที่พักไม่มีไฟทาง
แล้วทั้งสี่ชีวิตต้องปั่นผ่านสวนมะพร้าว ท่ามกลางแสงไฟที่ริบหรี่ งานนี้ขึ้นอยู่กับจินตนาการสร้างสรรค์ของแต่ละคน 5555
ใครคิดว่าจะใช้จักรยานเป็นยานพาหนะบนเกาะ แนะนำว่าให้พกพาไฟฉายคาดหน้าผากกันไปให้ครบคน ไม่งั้นคนที่หมดไฟ ก็จะหลอนๆ หน่อย

แล้วคืนนั้นเราก็ผ่านพ้นไปด้วยดี หลับสนิท รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ด้วยเวลาที่มีน้อย พวกเราเลยตัดสินใจ เช่ารถไปชมรอบเกาะก่อนกลับ
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าเสียหาย 800 บาท เป็นรถกะบะ คล้ายสองแถว กั้นคอก มีที่นั่งด้านหลัง ไม่มีหลังคา พี่คนขับรถพาไปแวะหลายที่
ทั้งรีสอร์ท และตามจุดชมวิวยอดนิยมบนเกาะหมาก



















ต่อในความคิดเห็นนะคะ