ร้องทุกข์ ปัญหาการส่งตัวรักษาต่อโดยใช้สิทธิบัตรทอง

วันนี้มีคำถามและข้อสงสัยหลายอย่างอยากถามเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ หรือมีข้อมูลในการส่งตัวรักษาต่อโดยใช้สิทธิบัตรทองนะคะ
ซึ่งตอนนี้เรากับแม่ทำเรื่องส่งตัวรักษาต่อ มาทั้งหมด 4 สัปดาห์แล้วค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า..

แม่เราเป็นโรค สตีเว่น จอห์นสัน ที่มีอาการผิดปกติทางสายตา โดยเกิดมาจากอาการแพ้ยาขั้นรุนแรง
ซึ่งแม่เราเป็นโรคนี้มาได้ 30 ปีแล้ว และได้มีการเข้ารักษาตัวมาโดยตลอด
โดยล่าสุดแม่เราได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก ซึ่งแม่เราเข้ารักษาตัวที่นี่มาประมาณ 4 ปีแล้ว
และได้ทำการรักษาทุกวิถีทาง ตั้งแต่ฉีดยา จนถึงการผ่าตัด
ซึ่งไม่นานมานี้ หมอที่รักษาแม่อยู่ แนะนำให้แม่รักษาด้วยวิธีการปลูกถ่ายเซลล์ แต่หมอแจ้งว่าถ้ารักษาที่โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก ค่าใช้จ่ายจะสูง
และหมอยังไม่สามารถรับรองผลได้ว่า แม่เราจะมีอาการทางสายตาดีขึ้นในระดับไหน
ทั้งนี้หมอเลยแนะนำแม่เราว่า ให้แม่เราลองเช็คสิทธิบัตรทองว่าอยู่ที่ไหน
แล้วหมอจะออกใบรับแพทย์ เพื่อให้แม่เราไปทำเรื่องดำเนินการขอส่งตัวการรักษาต่อมายังโรงพยาบาลรามา (ซึ่งหมอที่รักษาแม่เราประจำอยู่ที่นั่น)

หลังจากได้คำแนะนำดังนี้ เราจึงได้ทำการเช็คสิทธิบัตรทองของแม่
พบว่า แม่เราได้สิทธิบัตรทองอยู่ โรงพยาบาลตากสิน

เราจะขอเล่าโดยเรียงลำดับเป็นรายสัปดาห์ที่เราเจอเหตุการณ์นี้ ทั้งหมด 4 สัปดาห์นะคะ

สัปดาห์ที่ 1
เมื่อประมาณกลางเดือนที่แล้วเราก็พาแม่เราไปโรงพยาบาลตากสิน เพื่อไปดำเนินการเรื่องนี้

ก็ตามขั้นตอนค่ะ
ทำบัตร >> ยื่นสิทธิ >> เข้าตรวจที่ห้องตา

พอแม่เราเข้าตรวจปุ๊ป แม่เราก็นำไปรับรองแพทย์จากหมอที่โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก
ให้หมอทางด้านจักษุของโรงพยาบาลตากสินพิจารณา

เหตุการณ์แรกที่ได้รับเลย
หมอทางด้านจักษุคนแรกของโรงพยาบาลตากสิน บอกว่า ไม่สามารถส่งตัวได้ ให้แม่เราทำการรักษาที่นี่
เพราะที่นี่ก็มีหมอทางด้านจักษุเหมือนกัน โดยหมอบอกว่า หมอจะแนะนำโดยการผ่าตัด
พอเราฟัง เราก็เริ่มไม่โอเคแล้ว เพราะแม่เราทำมาทุกวิธี ผ่าตัดก็พึ่งทำไป แล้วอีกอย่าง
หมอก็ไม่รับฟังอาการที่แม่เราบอก ได้แต่ตรวจตามเครื่องมือแพทย์ และใช้การวิเคราะห์จากสิ่งที่หมอคิด

ทีนี้ เรากับแม่ก็ยืนยันว่าจะย้าย เพราะว่าเราอยากรักษาต่อเนื่อง
หมอคนแรกจึงพูดว่า "หมอไม่ใช่หมอด้านกระจกตา ให้คนไข้รอพบหมอด้านกระจกตาแล้วกัน"
คือความรู้สึกแรก อ้าว ไม่ใช่หมอเฉพาะทางด้านกระจกตา แล้วทำไมสรุปให้แม่เราผ่าตัด

โอเคเราก็ออกจากห้องตรวจของหมอคนแรก เพื่อรอพบหมอคนที่สอง
พอเรากับแม่ได้เข้าพบหมอคนที่สอง ก็เหมือนจะเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น
หมอเริ่มเข้าใจในโรค และพร้อมที่จะทำการส่งตัวให้แม่เรา
แต่!! ปัญหาก็เกิดขึ้น หมอคนที่สองแจ้งว่า "หมอส่งตัวคนไข้ไปได้แค่ วชิระพยาบาล เท่านั้นนะคะ เพราะโรงพยาบาลมีนโยบายและข้อบังคับให้ส่งตัวคนไข้ได้แค่วชิระพยาบาล หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับทาง วชิระพยาบาล ว่าจะส่งคนไข้ไปที่ไหน"

เรากับแม่ก็โอเค ยังไงก็ได้ เอาแค่ให้ส่งได้ก็พอ
เพราะพอจะเข้าใจว่า เราจะใช้สิทธิบัตรทอง เป็นการรักษาที่แทบไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องยุ่งยาก

เราก็ตอบตกลงหมอคนที่สองไป หมอก็ทำการออกเอกสารใบส่งตัวให้
โดยให้เราไปยื่นที่โต๊ะพยาบาลหน้าห้องตรวจจักษุ
พอเราไปยื่น พยาบาลกลับแย้งว่า เรามีหมอด้านกระจกตาโดยเฉพาะนะ (อ้าว แล้วหมอคนที่สองไม่ใช่หมอกระจกตาหรอไง เราเริ่มคิด)
พยาบาลบอกเราว่า "เนี่ยหมอกระจกตามาจาก โรงพยาบาลรามาเลยนะ แต่คนไข้ต้องมาตรวจตอนช่วงคลินิคพิเศษ (คือช่วงเย็น)
แล้วเดี่ยวให้หมอกระจกตา สรุปดีกว่า ว่าจะส่งได้ไหม"

เรากับแม่พอได้ยินว่า หมอมาจากโรงพยาบลรามา ก็นึกดีใจว่า จะได้ย้ายง่ายๆ
ทีนี้พยาบาลก็ทำใบนัด ให้เรามาในสัปดาห์ถัดไป

สัปดาห์ที่สอง ...
เราก็พาแม่ไปอีก ไปยื่นสิทธิตั้งแต่บ่าย 3 (ตามคำแนะนำของพี่พยาบาล)
ก็ตามเดิมค่ะ
ยื่นสิทธิ >> รอตรวจ

แล้วก็เจอหมอค่ะ สัปดาห์นี้ ดูไม่ค่อยมีอะไรให้เราเคืองใจ
เพราะหมอที่เราเจอ ตามพี่พยาบาลแนะนำ ก็ดูโอเค ดูเข้าใจ
และทำการเขียนใบส่งตัวให้แม่เราไปโรงพยาบาลรามา

เราก็ทำตามวิธีเดิม หมอออกใบส่งตัวให้
เรานำไปยื่นที่โต๊ะพยาบาลหน้าห้องจักษุ แต่คราวนี้
พยาบาลหน้าห้องจักษุ แย้งว่า
เราต้องส่งไปวชิระพยาบาลนะ เราส่งไปรามาไม่ได้
(โอเคเราก็ไม่ได้หงุดหงิดไรนะ เพราะสัปดาห์แรกที่มา หมอคนที่สองก็แบบนี้ เลยคิดว่า อาจจะเป็นไปได้ว่าหมอคนนี้เพิ่งมาใหม่ เลยไม่รู้)
เราก็ไม่มีปัญหา พยาบาลบอกเราว่า ให้วันพรุ่งนี้มาใหม่นะ
เอาบัตรประชาชนแม่มาก็ได้ มาเอาใบส่งตัวที่หัวหน้าพยาบาลในห้องจักษุ
เพื่อลงไปยื่น ศูนย์ประสานงานรับ-ส่ง ต่อผู้ป่วย ด้านล่าง

โอเค เราก็ทำตามนั้น
วันรุ่งขึ้น เราก็มา มารับใบเอกสารส่งตัวตามที่พยาบาลบอก
แล้วเอาไปยื่นที่ศูนย์ประสานงานดังกล่าว
ที่ศูนย์ประสานงาน ก็นัดเราให้มารับเอกสารส่งตัวในสัปดาห์ ถัดไป (สัปดาห์ที่ 3)
มาถึงตอนนี้ เราคิดแล้ว สงสัยย้ายได้แน่ๆ เลย ถึงขั้นตอนจะดูยุ่งๆ ไปหน่อย

สัปดาห์ที่ 3 ...
เราก็มารับเอกสารส่งตัว ตามที่เจ้าหน้าศูนย์ประสานงานฯ ได้แจ้งไว้
แล้วก็กลับบ้าน.... เพื่อรอไปวชิระพยาบาล (สัปดาห์ที่ 4)

สัปดาห์ที่ 4 ..... ก็คือวันนี้แหละ วันที่เราโพสกระทู้นี้
เมื่อเช้าเราก็พาแม่ไปวชิระพยาบาลแต่เช้าเลย
แล้วก็ทำตามขั้นตอนเหมือนตากสินเลยค่ะ

ทำบัตร >> ยื่นสิทธิ ยื่นเอกสารส่งตัว >> ไปที่ห้องตรวจจักษุ >> รอพบแพทย์

ซึ่งตามขั้นตอน เราใช้เวลาในการรอพบแพทย์ ตั้งแต่ 7.25 ถึง 12.00 ถึงได้พบแพทย์
(แต่อันนี้เข้าใจนะ เพราะโรงพยาบาลรัฐบาล รอนานทุกที่อยู่แล้ว)

พอพบแพทย์ บังเอิญว่า แพทย์ที่แม่เราพบวันนี้
เป็นแพทย์อีก 1 ท่านที่เคยรักษาแม่ที่โรงพยาบาล หู ตา คอ จมูก
แต่แพทย์คนนี้ไปเมืองนอก แม่เราได้หมอคนใหม่ ที่เป็นคนแนะนำให้มาดำเนินการ

พอเจอหมอ โอเค ก็ตามอาการค่ะ
หมอตรวจ แต่หมอพอจะเข้าใจโรคของแม่อยู่แล้ว
จึงทำเรื่องส่งตัวให้แม่....

ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละ
หมอทำเรื่องส่งตัวให้แม่ไปที่โรงพยาบาลรามา เซ็นเอกสารเรียบร้อย ทุกอย่างเรียบร้อย
แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ที่ศูนย์ประสานงานรับ - ส่ง ตัวผู้ป่วยรักษาต่อ
กลับพูดว่า
"ทางวชิระย้ายให้ไม่ได้นะครับ คุณต้องกลับไปที่โรงพยาบาลตากสิน
เพื่อให้ทางโรงพยาบาลตากสิน ส่งตัวครับ"

นั่นไงค่ะ คำถามเราคือว่า ตกลงยังไงกันแน่
แม่เราก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า
คือตกลงยังไงกันแน่ค่ะ ไปตากสินมา 4 รอบ บอกเหมือนกัน 4 รอบว่า
วชิระพยาบาล เป็นศูนย์ใหญ่ เหมือนเป็นโรงพยาบาลแม่ ต้องให้วชิระพยาบาลทำการส่งต่อเท่านั้น

เจ้าหน้าที่ตอบว่า : ไม่ใช่ครับ คุณต้องกลับไปที่โรงพยาบาลตากสิน แล้วถ้าทางโรงพยาบาลตากสินไม่ย้ายให้
ให้โทรหาผม ผมให้เบอร์ส่วนตัวผมเลย ให้ทางนู้นโทรหาผมได้เลย

แม่เราก็เงียบไป
รับเรื่องมาแบบโมโหมาก

ที่โมโหนะค่ะ เพราะว่า
1. บริการแย่มาก เราเข้าใจนะ เราใช้สิทธิบัตรทอง คุณงานเยอะ คนไข้เยอะ คุณอาจจะเหนื่อย
แต่คุณควรจะพูดกับเราดี ๆ ถ้าเรารู้เรื่อง เราเข้าใจในขั้นตอน ทำไมเราจะต้องมาถามคุณ
พอเราแย้งในสิ่งที่ทางโรงพยาบาลตากสินแจ้งมา คุณกลับมาใส่อารมณ์กับเรา

2. คือแม่เราเป็นคนไข้นะ ไม่ใช่ผัก ไม่ใช่ปลา ที่ ทางนู้นโยนมา ทางนี้โยนกลับไป
แล้วสรุป ไปทางไหนถึงจะได้ย้าย

3. แล้วโรงพยาบาลของคุณทั้ง 2 แห่ง ไม่มีเครื่องมือที่จะรักษาได้เพียงพอ อย่างแรกเลย
    - แม่เราต้องเจาะเลือก ไปสกัดเป็นเซรั่ม เพื่อหยอดตาทุกวัน ซึ่ง ทังตากสิน และวชิระพยาบาล ทำไม่ได้ ที่ทำได้มีแค่ รามา กับศิริราช แล้วก็เอกชน (ตามที่เรารู้มานะ)
   - เรามีใบรับรองแพทย์จากหมอมา ยืนยันการเป็นโรคจึง และมีความจำเป็นต้องรักษา คุณรักษาไม่ได้ด้วยเครื่องมือที่ไม่พร้อม ทำไมคุณไม่ส่งตัว
หรือ ทำไมคุณไม่แจ้งขั้นตอนที่ชัดเจน

เหตุการณ์ที่เราเล่ามา เราไม่เข้าใจว่า ทำไม 2 โรงพยาบาล ซึ่งเป็นรัฐบาลเหมือนกัน
เราใช้สิทธิบัตรทอง ซึ่งข้อบังคับการใช้สิทธิบัตรทอง ก็มีอยู่แล้ว แต่ทำไมทั้ง 2 โรงพยาบาลให้ข้อมูลต่างกัน
คือ มันคนละระบบ หรือพวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่

แล้วอีกอย่าง ในเมื่อตากสินส่งมาวชิระ วชิระรักษาไม่ได้ ทำไมไม่ส่งต่อ แต่กลับเลือกส่งกลับไปที่เดิม ให้เราไปทำเรื่องที่เดิม
เพื่ออะไร?? ในเมื่อคำตอบก็มีอยู่แล้วว่า รักษาไม่ได้ทั้ง  2 ที่

เราเลยอยากจะถามเพื่อน ๆ หรือคนที่เคยมีประสบการณ์ ว่าเราควรจะทำยังไงกับเหตุการณ์นี้
หรือถ้าใครที่พอจะรู้เรื่องการส่งตัวผู้ป่วย ช่วยอธิบายให้เราเข้าใจหน่อย

เรากำลังคิดว่า นี่เราไม่เข้าใจ หรือเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลไม่เข้าใจ

และอีกสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกนะ
... ถ้าเป็นพ่อแม่ พี่น้อง ญาติคุณ พวกคุณก็คงจะเส้นสาย หรือความที่เป็นพนักงาน เจ้าหน้าที่ หมอ ของโรงพยาบาล
ในการส่งตัวเลยใช่ไหม คงไม่ต้องโยนคนไข้ไปทางนู้นที มาทางนี้ที แบบที่ทำกับแม่เรารึเปล่า

แล้วสรุป เราต้องทำเช่นไร แม่เราถึงจะได้รักษาต่อเนื่อง
บอกตรง ๆ ถ้าเรารวย มีเงิน เราตัดสินใจละว่า เราให้แม่เรารักษาที่เอกชน
คือถ้า รักษาปกติ ผ่าตัด เอกชนเราพอเก็บเงินได้นะ
แต่คำว่าปลูกถ่ายเซลล์ แล้วยิ่งเป็นที่ตาแล้ว มันแพงมาก..

เราขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ หน่อยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่