สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
กระทู้ที่แล้วตั้งเมื่อพฤษภาว่า ตกงาน เป็นหนี้ 3 แสน รู้ทั้งรู้ว่ามีหนี้สินแล้วแฟนก็ดูเป็นคนไม่เอาไหน ทั้งเจ้าชู้ ติดยา ติดพนันบอล (คบไปได้ไง) ยังทนคบ แล้วก็น่าจะรู้ว่าชีวิตของตัวเองก็น่าจะยังไม่พร้อมสำหรับการเป็นแม่คน ก็แล้วทำไมถึงไม่คุมกำเนิดให้มันดี (เพราะเรากินยาคุมไม่ต่อเนื่อง) ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไม จขกท. ถึงใช้ชีวิตเสี่ยงๆ แบบนี้ และยังทนอยู่กับผู้ชายแบบนี้ได้อีก ถามจริง ผู้ชายมันมีอะไรดีค่ะ ทั้งๆ ที่ดูทรงแล้วคุณทั้งคู่น่าจะยังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ
ก็ดูเอาค่ะ คำนวณให้ดี ผัวก็เฮงซวย แม่ก็ไม่ช่วย ถ้าหนีออกมาคนเดียว จะยังไงเงินเดือน 15,000 ตีว่าถ้าบริษัททำประกันสังคมให้ ก็หักเดือนละ 750 เหลือตกเดือนละ 14,250 จะเก็บไว้ให้ลูกเดือนละ 8,000 เหลือเดือนละ 6,250 ค่าเช่าห้อง น้ำ+ไฟ ตีว่าเอาดีๆ แบบปลอดภัยหน่อย ไม่ใช่แค่เอาคุ้มกะลาหัว ก็เดือนละประมาณ 3,000 - 3,500 เหลือกินใช้ทั้งเดือน 3,250 - 2,750 นี่ยังไม่ได้เอาหนี้บัตร 3 แสนมาคิดเลยน่ะเนี่ย แล้วก็คิดให้เฉพาะตอนทียังไม่ได้คลอดลูกน่ะเนี่ย ถ้าคลอดใครจะเลี้ยงดู ถ้าแม่เห็นคุณ เห็นหลานแล้วสงสาร ใจอ่อน มาช่วยเลี้ยงหลานก็ดีไป แต่ถ้าไม่ช่วยคุณก็ต้องจ้างคนเลี้ยง ค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายของคุณ+ลูกอีกเท่าไหร่ นี่ยังไม่รวมกรณีฉุกเฉิน สมมติลูกป่วยหรือคุณป่วยกะทันหัน มีเงินสำรองตรงนี้แล้วไหม ซัก 2,000 - 3,000 ก็ยังดี แล้วบอกเลยถึงหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้ทางแพ่งไม่ติดคุกก็จริง แต่ถ้าคุณไม่คิดจะเคลียร์หนี้สินบ้าง อนาคตลำบากกว่านี้นะคะ ยิ่งถ้าขึ้นศาลแล้วโดนอายัดเงินเดือน
แนะนำว่าถ้าจะเก็บเด็กไว้จริงๆ น่ะ แล้วไม่เอาแฟนด้วยแล้วน่ะ
1. เดินทางไปธนาคาร ติดต่อขอประนอมหนี้สินอย่างด่วนเลยค่ะ ถ้านานไปดอกเบี้ยยิ่งบาน ยิ่งคุยยาก ต้องรอขึ้นศาลอย่างเดียว คุณถึงจะได้จ่ายน้อยลงมาหน่อย แล้วอีกอย่างตอนนี้คุณกลับมาทำงานแล้วด้วย ธนาคารตามคุณเจอจากประวัติการส่งประกันสังคมแน่นอนค่ะ จะหนีไม่รับโทรศัพท์อย่างเดิมไม่ได้แล้ว เพราะถ้าคุณเลือกจะไม่รับโทรศัพท์ ธนาคารจะโทรเข้าเบอร์บริษัทต่อสายไปที่ HR แทน แล้วน้องจะอยู่ยากในบริษัทค่ะ
2. หาอาชีพเสริมค่ะ จะขายของออนไลน์แบบพรีออเดอร์ หรือรับของมาขาย หรือหางานพาร์ทไทม์ทำเสาร์ - อาทิตย์เพิ่มเติมก็ต้องทำค่ะ ซึ่งถามว่าเหนื่อยไหม ตอบแทนได้เลยว่าเหนื่อยแน่นอนแต่คุณก็ต้องทำให้ได้
เพราะลูกคือหน้าที่โดยตรงของพ่อแม่ และเมื่อลูกคลอดมา ขออย่างหนึ่งนะคะ เมื่อวันไหนที่รู้สึกเหนื่อย ท้อ หรือล้ากายใจ อย่าไปพูดใส่หน้าลูกว่าเป็นเพราะลูก ชีวิตคุณถึงต้องมาเหนื่อยแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของลูก ลูกไม่ได้ขอคุณมาเกิด แต่คุณกับแฟนเป็นคนทำให้เขาเกิดมาค่ะ
ก็ดูเอาค่ะ คำนวณให้ดี ผัวก็เฮงซวย แม่ก็ไม่ช่วย ถ้าหนีออกมาคนเดียว จะยังไงเงินเดือน 15,000 ตีว่าถ้าบริษัททำประกันสังคมให้ ก็หักเดือนละ 750 เหลือตกเดือนละ 14,250 จะเก็บไว้ให้ลูกเดือนละ 8,000 เหลือเดือนละ 6,250 ค่าเช่าห้อง น้ำ+ไฟ ตีว่าเอาดีๆ แบบปลอดภัยหน่อย ไม่ใช่แค่เอาคุ้มกะลาหัว ก็เดือนละประมาณ 3,000 - 3,500 เหลือกินใช้ทั้งเดือน 3,250 - 2,750 นี่ยังไม่ได้เอาหนี้บัตร 3 แสนมาคิดเลยน่ะเนี่ย แล้วก็คิดให้เฉพาะตอนทียังไม่ได้คลอดลูกน่ะเนี่ย ถ้าคลอดใครจะเลี้ยงดู ถ้าแม่เห็นคุณ เห็นหลานแล้วสงสาร ใจอ่อน มาช่วยเลี้ยงหลานก็ดีไป แต่ถ้าไม่ช่วยคุณก็ต้องจ้างคนเลี้ยง ค่ากินอยู่ ค่าใช้จ่ายของคุณ+ลูกอีกเท่าไหร่ นี่ยังไม่รวมกรณีฉุกเฉิน สมมติลูกป่วยหรือคุณป่วยกะทันหัน มีเงินสำรองตรงนี้แล้วไหม ซัก 2,000 - 3,000 ก็ยังดี แล้วบอกเลยถึงหนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้ทางแพ่งไม่ติดคุกก็จริง แต่ถ้าคุณไม่คิดจะเคลียร์หนี้สินบ้าง อนาคตลำบากกว่านี้นะคะ ยิ่งถ้าขึ้นศาลแล้วโดนอายัดเงินเดือน
แนะนำว่าถ้าจะเก็บเด็กไว้จริงๆ น่ะ แล้วไม่เอาแฟนด้วยแล้วน่ะ
1. เดินทางไปธนาคาร ติดต่อขอประนอมหนี้สินอย่างด่วนเลยค่ะ ถ้านานไปดอกเบี้ยยิ่งบาน ยิ่งคุยยาก ต้องรอขึ้นศาลอย่างเดียว คุณถึงจะได้จ่ายน้อยลงมาหน่อย แล้วอีกอย่างตอนนี้คุณกลับมาทำงานแล้วด้วย ธนาคารตามคุณเจอจากประวัติการส่งประกันสังคมแน่นอนค่ะ จะหนีไม่รับโทรศัพท์อย่างเดิมไม่ได้แล้ว เพราะถ้าคุณเลือกจะไม่รับโทรศัพท์ ธนาคารจะโทรเข้าเบอร์บริษัทต่อสายไปที่ HR แทน แล้วน้องจะอยู่ยากในบริษัทค่ะ
2. หาอาชีพเสริมค่ะ จะขายของออนไลน์แบบพรีออเดอร์ หรือรับของมาขาย หรือหางานพาร์ทไทม์ทำเสาร์ - อาทิตย์เพิ่มเติมก็ต้องทำค่ะ ซึ่งถามว่าเหนื่อยไหม ตอบแทนได้เลยว่าเหนื่อยแน่นอนแต่คุณก็ต้องทำให้ได้
เพราะลูกคือหน้าที่โดยตรงของพ่อแม่ และเมื่อลูกคลอดมา ขออย่างหนึ่งนะคะ เมื่อวันไหนที่รู้สึกเหนื่อย ท้อ หรือล้ากายใจ อย่าไปพูดใส่หน้าลูกว่าเป็นเพราะลูก ชีวิตคุณถึงต้องมาเหนื่อยแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่ความผิดของลูก ลูกไม่ได้ขอคุณมาเกิด แต่คุณกับแฟนเป็นคนทำให้เขาเกิดมาค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ท้องอ่อนๆแฟนรู้เลยซ้อม และให้ไปทำแท้ง