แนวท้องฟ้ามองเห็นเมฆเป็นกลุ่มก้อน
ก่อนแว่วเสียงสะท้อนของท้องฟ้า
เพียงไม่นานหยาดน้ำหยดร่วงลงมา
ทอดสายตามองท้องฟ้าที่ร้องไห้
แล้วสายลมพลันเริ่มพัดกระหน่ำ
สายฝนพรำถูกพาพัดให้เคลื่อนไหว
หยาดเม็ดน้ำหนาขึ้นในทันใด
น้ำห่าใหญ่เทลงมาจากท้องฟ้า
เมื่อสายลมถ่ายเทร้อนให้สายน้ำ
ลมเย็นฉ่ำกลายเป็นหนาวร้าวโหยหา
ใจข้างในราวถูกกรีดซ้ำอุรา
เจ็บในอกยิ่งกว่ากระจกร้าว
อาจเป็นเพราะสายลมพัดโบก
ก่อนกรรโชกสู่ในอกให้เหน็บหนาว
อาจเป็นเพราะฝนหล่นฟ้าที่พร่างพราว
ก่อนถล่มซ้ำความร้าวที่ข้างใน
แล้วใครเล่าจะรับรู้ความรู้สึก
ที่ลึกลึกเหลือเพียงความอ่อนไหว
ที่แบกรับน้ำหนักในหัวใจ
ที่เก็บซ่อนไว้ภายในเพียงผู้เดียว
แล้วสุดท้ายจึงล้มลงในความเงียบ
ความเย็นเฉียบข้างในใครเล่าเหลียว
จากเข้มแข็งกลับอ่อนแอเพียงครู่เดียว
ความเปล่าเปลี่ยวเข้าซ้ำเติมในดวงตา
ฟ้าเบื้องบนร้องไห้จนเมฆจาง
คนเบื้องล่างร้องไห้ดังกว่าฟ้า
ฟ้าปลดเปลื้องภาระที่แบกมา
คนปลดปล่อยความหนักหนาภายในใจ
ท้ายที่สุดเมฆหมอกจางฟ้าหยุดร้อง
ท่วงทำนองในหัวใจกลับมาใหม่
ใครคนหนึ่งเช็ดน้ำตาทิ้งไป
ใครคนนั้นสูดหายใจแล้วก้าวเดิน
........ฟ้า ร้อง ไห้.......
ก่อนแว่วเสียงสะท้อนของท้องฟ้า
เพียงไม่นานหยาดน้ำหยดร่วงลงมา
ทอดสายตามองท้องฟ้าที่ร้องไห้
แล้วสายลมพลันเริ่มพัดกระหน่ำ
สายฝนพรำถูกพาพัดให้เคลื่อนไหว
หยาดเม็ดน้ำหนาขึ้นในทันใด
น้ำห่าใหญ่เทลงมาจากท้องฟ้า
เมื่อสายลมถ่ายเทร้อนให้สายน้ำ
ลมเย็นฉ่ำกลายเป็นหนาวร้าวโหยหา
ใจข้างในราวถูกกรีดซ้ำอุรา
เจ็บในอกยิ่งกว่ากระจกร้าว
อาจเป็นเพราะสายลมพัดโบก
ก่อนกรรโชกสู่ในอกให้เหน็บหนาว
อาจเป็นเพราะฝนหล่นฟ้าที่พร่างพราว
ก่อนถล่มซ้ำความร้าวที่ข้างใน
แล้วใครเล่าจะรับรู้ความรู้สึก
ที่ลึกลึกเหลือเพียงความอ่อนไหว
ที่แบกรับน้ำหนักในหัวใจ
ที่เก็บซ่อนไว้ภายในเพียงผู้เดียว
แล้วสุดท้ายจึงล้มลงในความเงียบ
ความเย็นเฉียบข้างในใครเล่าเหลียว
จากเข้มแข็งกลับอ่อนแอเพียงครู่เดียว
ความเปล่าเปลี่ยวเข้าซ้ำเติมในดวงตา
ฟ้าเบื้องบนร้องไห้จนเมฆจาง
คนเบื้องล่างร้องไห้ดังกว่าฟ้า
ฟ้าปลดเปลื้องภาระที่แบกมา
คนปลดปล่อยความหนักหนาภายในใจ
ท้ายที่สุดเมฆหมอกจางฟ้าหยุดร้อง
ท่วงทำนองในหัวใจกลับมาใหม่
ใครคนหนึ่งเช็ดน้ำตาทิ้งไป
ใครคนนั้นสูดหายใจแล้วก้าวเดิน