"ในชีวิตจริงผู้ป่วยโรคซึมเศร้าไม่สามารถเดินไปบอกทุกคนบนโลกนี้ได้ว่าฉันคือกระดาษ ฉันอยู่ในสภาวะอ่อนแอ หลายครั้งที่เราถูกปฏิบัติเหมือนก้อนหินและคิดว่าเราจะทนลมพัดได้ เพราะเขามองไม่เห็นความบอบช้ำในจิตใจของเรา"
บทความคัดลอกมาจาก เพจ Depression is not just a Windblow
บทความเต็มตามลิ้งค์ด้านล่าง
https://www.facebook.com/546572842199631/photos/a.546601522196763.1073741828.546572842199631/546601502196765/?type=3&theater
ในปัจจุบันเราคิดว่ามีอีกหลายคนนะที่เป็นโรคซึมเศร้า แต่ยังไม่รู้ตัว เหมือนกับตัวเจ้าของกระทู้ก็ไม่รู้ตัวนะว่าเป็นโรคซึมเศร้า
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นคนที่ทำงานออฟฟิศแล้วพอเจอภาวะกดดันหรือไม่พอใจอะไรจะเหวี่ยงทันที คือควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มีความคิดที่อยากจะพบจิตแพทย์เพราะรู้สึกอารมณ์ไม่ปกติ แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงโรคซึมเศร้า
จนมาเมื่อประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมารู้สึกว่าตัวเองเครียด คิดมาก คิดเยอะ คิดอะไรๆวนๆซ้ำๆ จนนอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิทำงาน อยากจะร้องไห้ ไม่อยากพูดจากับใคร รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่มีใครสนใจ ไม่เหมาะที่จะคบกับแฟน จนมันทำให้ทุกสิ่งรอบข้างทุกอย่างเป็นลบไปหมด คิดถึงขนาดไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว
เราโชคดีที่มีเพื่อนคนนึงที่เห็นเราโพสท์เฟสแล้วรู้สึกแปลกๆ เขาเลยโทรมาหาจนรู้ว่าเราคิดอะไร เป็นอะไร พยายามโทรมาคุยตลอด จนเรารู้สึกคลายกังวลลง แต่มันก็ไม่ได้หายซะทีเดียว พอถึงขนาดที่อยากฆ่าตัวตาย เลยกลัวที่จะทำจริงๆ เพราะเรายังมีลูกเราอีกคนที่เราต้องดูแล ถ้าเค้าขาดเราไปใครจะดูเค้า เพราะเค้าเหลือแค่เราคนเดียว
เราจึงตัดสินใจพบจิตแพทย์ ตอนแรกก็กลัวที่จะพบจิตแพทย์ กลัวคนอื่นมองว่าเราบ้า แต่ด้วยความที่เรากลัวตายเราถึงไปพบจิตแพทย์ สรุปว่าหลังจากที่เราได้พบแพทย์ เราตกอยู่ในภาวะวึมเศร้า หมอเลยให้ยามารักษา พร้อมกับนัดติดตามอาการทุกๆ1เดือน
ทุกวันนี้เราก็ยังพบจิตแพทย์นะ เพราะเรายังไม่หายขาด อาการตอนนี้ก็มีขึ้นๆลงๆ แต่เราไม่ได้บอกใคร เพราะบอกใครไปก็มองว่าเราคิดมากไปเอง ไม่มีใครเข้าใจคนเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆนะ
ที่มาเล่าวันนี้แค่อยากให้เข้าใจว่าคนเป็นโรคซึมเศร้ามันเกิดจากภาวะหลายๆอย่าง อย่ามองว่าเค้าคิดมากคิดเยอะบางทีเค้าไมท่ได้อยากคิดอะไรเลยก้ได้ แค่ลองเปิดใจรับฟังเวลาที่เค้าทุกข์ใจหรือดุซึมๆ ถามไถ่เค้าหรือแค่รับฟังเค้าเวลาที่เค้าเล่า อย่าเบื่อเค้าเลย อย่าว่าเค้าไร้สาระ
จากใจคนเป็นโรควึมเศร้าที่อยากให้คนอื่นๆเข้าใจ
สุดท้ายขออภัยถ้ามีคำสะกดผิดหรือตกหล่น
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านจนจบนะคะ
เมื่อฉันเป็นโรคซึมเศร้า.....ฉันต้องเข้าพบจิตแพทย์ (อย่ามองว่าเป็นคนบ้าแต่อยากให้ทำความเข้าใจ)
บทความคัดลอกมาจาก เพจ Depression is not just a Windblow
บทความเต็มตามลิ้งค์ด้านล่าง
https://www.facebook.com/546572842199631/photos/a.546601522196763.1073741828.546572842199631/546601502196765/?type=3&theater
ในปัจจุบันเราคิดว่ามีอีกหลายคนนะที่เป็นโรคซึมเศร้า แต่ยังไม่รู้ตัว เหมือนกับตัวเจ้าของกระทู้ก็ไม่รู้ตัวนะว่าเป็นโรคซึมเศร้า
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน เป็นคนที่ทำงานออฟฟิศแล้วพอเจอภาวะกดดันหรือไม่พอใจอะไรจะเหวี่ยงทันที คือควบคุมอารมณ์ไม่ได้ มีความคิดที่อยากจะพบจิตแพทย์เพราะรู้สึกอารมณ์ไม่ปกติ แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงโรคซึมเศร้า
จนมาเมื่อประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมารู้สึกว่าตัวเองเครียด คิดมาก คิดเยอะ คิดอะไรๆวนๆซ้ำๆ จนนอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิทำงาน อยากจะร้องไห้ ไม่อยากพูดจากับใคร รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่มีใครสนใจ ไม่เหมาะที่จะคบกับแฟน จนมันทำให้ทุกสิ่งรอบข้างทุกอย่างเป็นลบไปหมด คิดถึงขนาดไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว
เราโชคดีที่มีเพื่อนคนนึงที่เห็นเราโพสท์เฟสแล้วรู้สึกแปลกๆ เขาเลยโทรมาหาจนรู้ว่าเราคิดอะไร เป็นอะไร พยายามโทรมาคุยตลอด จนเรารู้สึกคลายกังวลลง แต่มันก็ไม่ได้หายซะทีเดียว พอถึงขนาดที่อยากฆ่าตัวตาย เลยกลัวที่จะทำจริงๆ เพราะเรายังมีลูกเราอีกคนที่เราต้องดูแล ถ้าเค้าขาดเราไปใครจะดูเค้า เพราะเค้าเหลือแค่เราคนเดียว
เราจึงตัดสินใจพบจิตแพทย์ ตอนแรกก็กลัวที่จะพบจิตแพทย์ กลัวคนอื่นมองว่าเราบ้า แต่ด้วยความที่เรากลัวตายเราถึงไปพบจิตแพทย์ สรุปว่าหลังจากที่เราได้พบแพทย์ เราตกอยู่ในภาวะวึมเศร้า หมอเลยให้ยามารักษา พร้อมกับนัดติดตามอาการทุกๆ1เดือน
ทุกวันนี้เราก็ยังพบจิตแพทย์นะ เพราะเรายังไม่หายขาด อาการตอนนี้ก็มีขึ้นๆลงๆ แต่เราไม่ได้บอกใคร เพราะบอกใครไปก็มองว่าเราคิดมากไปเอง ไม่มีใครเข้าใจคนเป็นโรคซึมเศร้าจริงๆนะ
ที่มาเล่าวันนี้แค่อยากให้เข้าใจว่าคนเป็นโรคซึมเศร้ามันเกิดจากภาวะหลายๆอย่าง อย่ามองว่าเค้าคิดมากคิดเยอะบางทีเค้าไมท่ได้อยากคิดอะไรเลยก้ได้ แค่ลองเปิดใจรับฟังเวลาที่เค้าทุกข์ใจหรือดุซึมๆ ถามไถ่เค้าหรือแค่รับฟังเค้าเวลาที่เค้าเล่า อย่าเบื่อเค้าเลย อย่าว่าเค้าไร้สาระ
จากใจคนเป็นโรควึมเศร้าที่อยากให้คนอื่นๆเข้าใจ
สุดท้ายขออภัยถ้ามีคำสะกดผิดหรือตกหล่น
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านจนจบนะคะ