สวัสดีครับ พอดีผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างทนายอ่ะครับ
คือเรื่องของเรื่อง น้าผม(น้องชายแม่) ดันไปมีปัญหากับเงินกู้นอกระบบเข้าให้ จนเป็นเรื่องถูกนายทุนเขาฟ้องร้อง ฟ้องศาล เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ทางโน้นเขาตั้งทนายความมา หมายสู้กันเต็มที่
ทางน้าผมก็หาทนายมาสู้เช่นกัน ซึ่งทนายก็มีเยอะมาก แต่ละคนก็ล้วนน่าเชื่อถือในความสามารถทั้งสิ้น กว่าน้าจะเลือกได้ ก็ใช้เวลาหาทนายนานพอควรครับ
ทีนี้ประเด็นมันอยู่ที่ว่า น้าผมถูกฟ้องเรื่องผิดนัดชำระหนี้ครับ วงเงิน 1,500,000 บาท น้าเขายืนยันว่า ไม่ได้เป็นหนี้ถึงขนาดนั้น จึงต้องการนำทนายมาสู้คดี เพราะน้าจะขอจ่ายเท่าที่เป็นหนี้จริงๆเท่านั้น (1,000,000บาท) และจะขอทยอยจ่าย เพราะน้าไม่มีสมบัติอะไร มีแต่เงินเดือนที่เป็นรายได้เพียงอย่างเดียว (น้าเป็นข้าราชการ) และน้าก็เป็นโสดด้วย
ทนายความที่น้าหามาได้ ก็เป็นทนายในพื้นที่ ก็นัดเจอกัน เพื่อพูดคุยเรื่องคดีความว่าจะเตรียมการรับมืออย่างไรดี แต่ในวันที่นัดเจอกัน ทนายก็มาพร้อมกับสัญญาว่าจ้างและใบแต่งทนาย โดยเรียกค่าจ้างทั้งหมด 50,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 งวด งวดแรก คือในวันนั้นเลย (วันที่เจอกัน) และอีก งวด คือ ใน 1 สัปดาห์ต่อมา น้าผมถึงกับพูดไม่ออกเลย เพราะทีแรกกะว่าจะนัดพูดคุยกันก่อน แล้วค่อยว่ากันว่าจะเอายังไงดี แต่ทนายที่มาในวันนั้น ออกแนวรวบรัดตัดตอนพอสมควร และทางน้าผมเองก็ไม่รู้จักใครมาก อีกอย่าง ใกล้จะถึงวันที่ศาลนัดแล้วด้วย จึงตอบตกลงไป แต่ปัญหาคือ น้ายังไม่มีตังค์ที่จะจ่ายได้ในวันนั้น ทนายก็ผ่อนผันให้ เวลาหา อีก 3 วัน และอีกครึ่งที่ เหลือ ก็อีก 1 อาทิตย์หลังจากครึ่งแรก
น้าก็บอกกับทนายไปตรงๆว่า ณ เวลานี้ เรื่องการเงิน ขัดสนอย่างมาก จะให้หาเงินมากขนาดนี้ ในเวลาอันสั้น คงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่ง
ทางฝั่งทนายก็บอกว่า นั่นเป็นเรื่องของน้าผมที่ต้องไปจัดการ ถ้าจะจ้างเขา ก็ต้องทำตามเงื่อนไขที่เขาบอก
ผ่านมาได้ 3 วัน น้าผมก็หาเงินมาได้ 25,000 บาท (ครึ่งแรก) ก็จ่ายทนายไป ในวันที่ศาลนัด น้าได้แต่งตั้งให้ทนายไปให้การแทน ศาลแจ้งว่าคำให้การของสองฝ่ายยังแย้งกันอยู่ ศาลจึงนัดมาใหม่รอบหน้า (อีก 3 เดือนนับจากนั้น) เรื่องก็ผ่านไป ทนายก็ไม่ได้ติดต่ออะไรน้าผมมาอีกเลย เงียบไปเฉยๆ
จนพอใกล้จะครบกำหนดจ่ายเงินในส่วนที่เหลือ ทนายก็เริ่มติดต่อมา เพื่อทวงเงิน จนพอถึงวันที่ต้องจ่าย น้าผมหาเงินไม่ได้ จริงๆแม่ผมก็หาช่วยอยู่ แต่ยังไม่ได้ ทางทนายก็ไม่รับฟัง ทั้งทวง ทั้งด่า พูดจาดูถูกดูแคลนน้าผมมาก น้าผมแกเป็นคนเงียบๆ ขี้เกรงใจคน และไม่ชอบมีปัญหากะใคร แต่พอมาเล่าให้แม่ผมฟัง แม่ผมก็ของขึ้น ปรี๊ดแตกเลย เพราะทนายก็น่าจะเห็นใจกันบ้าง มิหนำซ้ำทนายยังบอกอีกว่า จะให้เวลาอีก 3 วัน ให้ไปหาเงินมาจ่ายค่าจ้างให้ครบ ไม่เช่นนั้น ทนายจะบอกเลิกสัญญาจ้างทนาย รวมถึงจะไปถอนคำให้การออกด้วย
ทีนี้น้าผมก็เครียด อยู่ไม่เป็นสุขเลย ผมเห็นแล้วไม่รู้จะช่วยน้ายังไง เลยมาลองหาข้อมูลในเน็ตดู อยากจะรู้ว่า เวลาเขาจ้างทนายนี่เขาจ่ายกันยังไง
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อจะขอเรียนถามสิ่งต่อไปนี้ครับ
1. เมื่อดูจากวงเงินที่ถูกฟ้องแล้ว (1,500,000บาท) กับค่าจ้างทนาย (50,000บาท) ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ครับ อ้อลืมบอกไปว่าค่าจ้างนี้แค่ศาลชั้นต้นเท่านั้นนะครับ ถ้าเรื่องไม่จบ ก็คงต้องจ้างอีก
2. การจ่ายค่าจ้างทนาย เขาจ่ายกันอะไรยังไงครับ โดยปกติ
3. พฤติกรรมการพูดจา ดูถูกดูแคลน พูดในทำนองที่ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นคนกันเลยนี่ ถือว่าเขาทำถูกมั้ยครับ
4. จากเรื่องทั้งหมดที่ผมเล่ามา มีใคร มีความคิดเห็น หรือคำแนะนำเพิ่มเติมอะไรมั้ยครับ
หากกระทู้นี้ ผิดพลาด หรือไม่เหมาะสมประการใด ต้องกราบขอโทษทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
และขอขอบคุณท่านที่มาตอบกระทู้นะครับ
ทนายและการจ่ายค่าจ้าง
คือเรื่องของเรื่อง น้าผม(น้องชายแม่) ดันไปมีปัญหากับเงินกู้นอกระบบเข้าให้ จนเป็นเรื่องถูกนายทุนเขาฟ้องร้อง ฟ้องศาล เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ทางโน้นเขาตั้งทนายความมา หมายสู้กันเต็มที่
ทางน้าผมก็หาทนายมาสู้เช่นกัน ซึ่งทนายก็มีเยอะมาก แต่ละคนก็ล้วนน่าเชื่อถือในความสามารถทั้งสิ้น กว่าน้าจะเลือกได้ ก็ใช้เวลาหาทนายนานพอควรครับ
ทีนี้ประเด็นมันอยู่ที่ว่า น้าผมถูกฟ้องเรื่องผิดนัดชำระหนี้ครับ วงเงิน 1,500,000 บาท น้าเขายืนยันว่า ไม่ได้เป็นหนี้ถึงขนาดนั้น จึงต้องการนำทนายมาสู้คดี เพราะน้าจะขอจ่ายเท่าที่เป็นหนี้จริงๆเท่านั้น (1,000,000บาท) และจะขอทยอยจ่าย เพราะน้าไม่มีสมบัติอะไร มีแต่เงินเดือนที่เป็นรายได้เพียงอย่างเดียว (น้าเป็นข้าราชการ) และน้าก็เป็นโสดด้วย
ทนายความที่น้าหามาได้ ก็เป็นทนายในพื้นที่ ก็นัดเจอกัน เพื่อพูดคุยเรื่องคดีความว่าจะเตรียมการรับมืออย่างไรดี แต่ในวันที่นัดเจอกัน ทนายก็มาพร้อมกับสัญญาว่าจ้างและใบแต่งทนาย โดยเรียกค่าจ้างทั้งหมด 50,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 งวด งวดแรก คือในวันนั้นเลย (วันที่เจอกัน) และอีก งวด คือ ใน 1 สัปดาห์ต่อมา น้าผมถึงกับพูดไม่ออกเลย เพราะทีแรกกะว่าจะนัดพูดคุยกันก่อน แล้วค่อยว่ากันว่าจะเอายังไงดี แต่ทนายที่มาในวันนั้น ออกแนวรวบรัดตัดตอนพอสมควร และทางน้าผมเองก็ไม่รู้จักใครมาก อีกอย่าง ใกล้จะถึงวันที่ศาลนัดแล้วด้วย จึงตอบตกลงไป แต่ปัญหาคือ น้ายังไม่มีตังค์ที่จะจ่ายได้ในวันนั้น ทนายก็ผ่อนผันให้ เวลาหา อีก 3 วัน และอีกครึ่งที่ เหลือ ก็อีก 1 อาทิตย์หลังจากครึ่งแรก
น้าก็บอกกับทนายไปตรงๆว่า ณ เวลานี้ เรื่องการเงิน ขัดสนอย่างมาก จะให้หาเงินมากขนาดนี้ ในเวลาอันสั้น คงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากยิ่ง
ทางฝั่งทนายก็บอกว่า นั่นเป็นเรื่องของน้าผมที่ต้องไปจัดการ ถ้าจะจ้างเขา ก็ต้องทำตามเงื่อนไขที่เขาบอก
ผ่านมาได้ 3 วัน น้าผมก็หาเงินมาได้ 25,000 บาท (ครึ่งแรก) ก็จ่ายทนายไป ในวันที่ศาลนัด น้าได้แต่งตั้งให้ทนายไปให้การแทน ศาลแจ้งว่าคำให้การของสองฝ่ายยังแย้งกันอยู่ ศาลจึงนัดมาใหม่รอบหน้า (อีก 3 เดือนนับจากนั้น) เรื่องก็ผ่านไป ทนายก็ไม่ได้ติดต่ออะไรน้าผมมาอีกเลย เงียบไปเฉยๆ
จนพอใกล้จะครบกำหนดจ่ายเงินในส่วนที่เหลือ ทนายก็เริ่มติดต่อมา เพื่อทวงเงิน จนพอถึงวันที่ต้องจ่าย น้าผมหาเงินไม่ได้ จริงๆแม่ผมก็หาช่วยอยู่ แต่ยังไม่ได้ ทางทนายก็ไม่รับฟัง ทั้งทวง ทั้งด่า พูดจาดูถูกดูแคลนน้าผมมาก น้าผมแกเป็นคนเงียบๆ ขี้เกรงใจคน และไม่ชอบมีปัญหากะใคร แต่พอมาเล่าให้แม่ผมฟัง แม่ผมก็ของขึ้น ปรี๊ดแตกเลย เพราะทนายก็น่าจะเห็นใจกันบ้าง มิหนำซ้ำทนายยังบอกอีกว่า จะให้เวลาอีก 3 วัน ให้ไปหาเงินมาจ่ายค่าจ้างให้ครบ ไม่เช่นนั้น ทนายจะบอกเลิกสัญญาจ้างทนาย รวมถึงจะไปถอนคำให้การออกด้วย
ทีนี้น้าผมก็เครียด อยู่ไม่เป็นสุขเลย ผมเห็นแล้วไม่รู้จะช่วยน้ายังไง เลยมาลองหาข้อมูลในเน็ตดู อยากจะรู้ว่า เวลาเขาจ้างทนายนี่เขาจ่ายกันยังไง
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อจะขอเรียนถามสิ่งต่อไปนี้ครับ
1. เมื่อดูจากวงเงินที่ถูกฟ้องแล้ว (1,500,000บาท) กับค่าจ้างทนาย (50,000บาท) ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ครับ อ้อลืมบอกไปว่าค่าจ้างนี้แค่ศาลชั้นต้นเท่านั้นนะครับ ถ้าเรื่องไม่จบ ก็คงต้องจ้างอีก
2. การจ่ายค่าจ้างทนาย เขาจ่ายกันอะไรยังไงครับ โดยปกติ
3. พฤติกรรมการพูดจา ดูถูกดูแคลน พูดในทำนองที่ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นคนกันเลยนี่ ถือว่าเขาทำถูกมั้ยครับ
4. จากเรื่องทั้งหมดที่ผมเล่ามา มีใคร มีความคิดเห็น หรือคำแนะนำเพิ่มเติมอะไรมั้ยครับ
หากกระทู้นี้ ผิดพลาด หรือไม่เหมาะสมประการใด ต้องกราบขอโทษทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
และขอขอบคุณท่านที่มาตอบกระทู้นะครับ