อย่าหลงระเริงไปกับคนคุยแค่ไม่กี่วัน !

กระทู้คำถาม
อยากพูดให้ใครหลายๆคนคิด .
ชีวิตคู่อะ แรกๆอะไรก็ดีทั้งนั้น ลองคิดดูนะ เราคบกับแฟนมากี่เดือนกี่ปี กว่าที่เราจะรู้ว่าแฟนเราชอบอะไร เกลียดอะไร กว่าจะรู้นิสัยของกันและกัน กว่าที่เราจะอดทนกับนิสัยแย่ๆของอีกฝ่ายได้ กว่าเราจะเข้าใจแล้วคบกันได้ขนาดนี้ เราต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง เชื่อสิ ทุกคนก็เป็น แรกๆดีไปหมด เข้าใจกันทุกอย่าง หวานกันจนเลียน ลงรูปคู่ แท้กหากัน จนโลกอิจฉา แต่เมื่อเวลามันนานขึ้น อารมและความรู้สึกพวกนี้มันก็เริ่มหายไป เริ่มเบื่อกับสิ่งที่เป็นอยู่ แล้วต่างคนก็ต่างมองหาสิ่งใหม่ๆ คนใหม่ เพราะคำที่ว่าเบื่อ เราเริ่มไม่เข้าใจกัน เบื่อคนเดิมๆนิสัยเดิมๆ แต่ลองคิดดูนะ ต่อให้เราไปเจอกับคนใหม่  คุยกับคนใหม่ นอกใจมีคนอื่น เขามาทำดีด้วยหน่อย ก็รู้สึกว่า *เฮ้ยทำไมเขาไม่เหมือนแฟนเราวะ เขาทำให้เรามีความสุข แต่กับแฟนเรายิ้มวันๆชวนแต่ทะเลาะ จ่นทำให้หลงเลย ลืมตัว*  แล้วหันมองแฟนตัวเองว่า งี่เง่า น่าเบื่อ เอาแต่ใจ เข้ากันไม่ได้ แล้วทำไมไม่ย้อนคิดว่า ก่อนที่เราจะมาทะเลาะกันแบบนี้ เราก็เคยผ่านจุดที่ดี ที่เข้าใจกันทุกอย่างมาเหมือนกัน แต่เมื่อเวลามันนานเข้า แน่นอนอยู่แล้วคนเรามันก็ต้องมีความรู้สึกเปลี่ยนกันบ้าง ตอนนี้มันอยู่ที่เราสองคนแล้วละว่า เราจะทำความเข้าใจกับปันหา แล้วจับมือกันเดินต่อไปด้วยกันต่อ หรือจบความสัมพันธ์ .
# ที่แน่ๆ ต่อให้ใครจะดีแค่ไหน จะเข้าใจกูแค่ไหน ถึงเขาจะมาทำให้กูหัวเราะ หรือยิ้มได้  กูจะไม่ทิ้งคนที่คบกันมาเป็นปี คนที่ผ่านความลำบาก ผ่านอะไรหลายๆอย่างมาด้วยกันไปแน่นอน ถ้าเราตัดสินใจเลิกกับคนเก่า แล้วไปเอาคนใหม่ มันเป็นคำตอบที่ผิดนะ เราจะเลือกจับมือกับคนเก่าแล้วเริ่มใหม่ สู้ไปด้วยกันอีก หรือจะยอมเสียทุกอย่างที่เคยสร้างมา แล้วไปจับมือคนใหม่ เรียนรู้กับคนใหม่ เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด จะเลือกแบบไหน เป็นหมิว หมิวจะเลือกอยู่กับคนเก่า เพราะต่อให้เราเลือกคนใหม่ พอเวลามันนานเข้า มันก็จะเป็นเดิมจบแบบเดิมอยู่ดี อย่าหลงไปเลือกคนที่เข้ามาไม่กี่วัน เวลาแค่ไม่กี่วัน มันไม่สามารถบอกได้หรอกว่าคนนั้นเขาดีจริง เขาเข้าใจเราจริงหรือป่าว
# ของเก่า ถึงมันจะเก่า แต่มันก็มีค่า ของเก่าถึงมันจะพัง แต่เราสามารถซ่อมมันขึ้นมาใหม่ได้ ใครที่มีแฟนอยู่แล้วจับมือแฟนให้แน่นๆ อย่าให้คนอื่นที่พึ่งรู้จักกันไม่กี่วัน เข้ามาทำลายชีวิตรักของเราที่ผ่าน ..
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ปรบมือ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
เราว่ามันไม่เสมอไปนะ บางทีคนมันไม่ใช่ ต่อให้คบกันมาเป็นสิบๆปี มันก็ไม่ใช่อ่ะ...

ความรักมันไม่ใช่เรื่องของอดีต หรือ อนาคต... อันนี้เจอมากับตัว เราเข้าใจข้อนี้ดี วันนี้เรารักกัน พรุ่งนี้อาจมีบางอย่างที่ทำให้เราเลิกรักกันก็ได้ ความรู้สึกของคนเปลี่ยนได้ทุกๆนาที มันก็เหมือนสัจธรรมข้อหนึ่ง บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา เราควรที่จะรู้จักปล่อยวาง อย่ายึดมั่น ถือมั่น ไม่งั้นชีวิตเราเองนี่เหลพจะเป็นทุกข์

ตัวเราเองก็เคยอกหัก รักเค้าจนปิดหูปิดตาตัวเอง จนเค้าทิ้งไปแล้วตื่นขึ้นมาวันนึง คิดได้ว่าเราจะนั่งอมทุกข์ร้องให้อยู่เพื่ออะไร คนที่เรารักเค้าไม่เดินกลับมา แถมตอนนี้เค้าอาจจะกำลังมีความสุขมากด้วยก็ได้ คนเรามันต้องอยู่กับปัจจุบันและเดินไปข้างหน้า พอคิดได้เราก็เลยพยามก้าวต่อไป และหวังว่าสักวันเราจะเจอคนที่เค้ารักเราจริง

ความรัก มันคือ ความรัก มันเกิดขึ้นได้ มันก็จบลงได้เช่นกัน สิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรจะทำคือดูแลกันให้ดีที่สุดในวันที่ยังรักกันอยู่ ถึงแม้ว่าวันหนึ่งมันจะจบลง ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นหรือเราไม่เคยรักกัน เพียงแค่ตอนนี้ความรู้สึกของเรามันไม่เหมือนเดิมแค่นั้นเอง

ตัวเราเองคิดอยู่เสมอเมื่อมีคนเข้ามาว่า เราจะอยู่ด้วยกันตราบเท่าที่เราสองคนยังมีความสุขที่จะได้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าวันนึงใครสักคนเริ่มไม่มีความสุข หรือ มันอาจจะเกิดขึ้นกับเราทั้งสองคนก็ได้ เราก็จะจากลากันด้วยดี แล้วเดินหน้าต่อไปกับคนที่เค้าจะเข้ามา แล้วมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน...

ถ้าคิดได้แบบนี้ เราจะไม่เป็นทุกข์กับความรัก จงก้าวเดินต่อไปอย่างสตรองส์ คนเก่าทิ้งไปช่างมัน หาคนใหม่ก็ได้อย่าไปแคร์ เพราะต่อให้เราตายลงไปตรงหน้าเค้าก็ไม่กลับมาหรอก เพราะฉะนั้นเราต้องเข้มแข็งและก้าวเดินต่อไป ใครจะไปรู้คนใหม่อาจจะแซ่บกว่าคนเก่าหลายเท่าก็ได้ ( วันนั้นเราจะหัวเราะได้ดังมาก สาแก่ใจอีช้อยนักแล 555 )
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่ใช่ทุกคนที่เค้าจะคิดแบบนี้สิครับ
สำหรับเค้าที่เบื่อเราก็มักจะหาอะไรมาเปรียบ
เพื่อลดทอนคุณค่า เพื่อให้เรารู้สึกด้อยค่าลง
สรรหาจะหยิบคำเปรียบเทียมมาซะจริงนะเอ่อ
เช่น หนังสือเล่มเก่าจะกลับไปอ่านกี่ครั้งมันก็เหมือนเดิม
แหม่ช่างดูถูกกันซะจริงทั้งๆที่ตัวท่านยังเปิดอ่านไม่หมดทุกบททุกหน้า ก็กล้ามาตัดสิน
เหอะ!
ส่วนตัวแล้วคิดว่าคนเหล่านี้เค้าชอบที่จะวนเวียนอยู่ในห้วงรักๆเลิกๆ ใจบอดนะผมคิดแบบนี้ เทียบกับความเป็นจริง หนังสือที่อ่านจบเล่มไปแล้ว เมื่อกลับมาอ่านอีกมันเหมือนเดิมในแง่ไหนล่ะ?
แน่นอนว่าเนื้อหามันคงเดิม ซึ่งก็เล่มเดิมเนื้อหาจะเปลี่ยนไปได้ยังไง

ฉนั้นประเด็นจึงตกอยู่ที่ผู้อ่านว่าได้อะไรจากการอ่านซ้ำ คนที่มีสมองปรกติถ้าอ่านซ้ำย่อมมีความเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น ยิ่งอ่านยิ่งเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น

แต่คนเหล่านั้นไม่อยากอ่านหนังสือเล่มเดิม
ครั้นจะยอมรับว่าตัวเองขี้เบื่อก็กะไรอยู่
เลยโทษหนังสือมันซะเลยว่าอ่านไปก็เหมือนเดิม เปลี่ยนเล่มดีกว่า

แล้วก็เลือกที่จะทิ้งหนังสือเล่มนั้นไปโดยที่เข้าใจเนื้อหาได้แค่งูๆปลาๆ ก็ผยองว่าตนหยั่งรู้ คนเหล่านี้มีใจที่ยากจะหยั่งถึงครับ

เปรียบได้ว่าเป็นคนมองไม่เห็นค่าคนอื่น ทิ้งขว้างดั่งหนังสือที่ไม่คิดจะอ่านซ้ำ

นี่คือมุมนึงที่เค้าเปรียบคนที่เค้าเบื่อแล้ว พร้อมสร้างแนวคิดว่าเค้าคือผู้เลือก เราเป็นเพียงหนึ่งในทางเลือกของเค้า

สำหรับผมเอง มองว่าคนรักคือคนรัก ถ้าได้เลือกแล้วก็ไม่อยากเล่นๆเผื่อทิ้ง ก่อนที่จะเลือกมันก็ต้องมีดูตวามเข้ากันได้ก่อน ผ่านเรื่องจุกจิกพวกนั้นได้ถึงเปลี่ยนเป็นการศึกษาดูใจ ปรับเข้าหากันเพราะมันคงเข้ากันได้ไม่พอดีเป๊ะตั้งแต่แรก ต้องผ่านอุปสรรค์,ทุกข์,สุข หลากหลาย ก็แค่บททดสอบความรักว่ามั่นคงหนักแน่นพอมี่จะฝ่าไปได้มั้ย

ถ้าหากยังมีทางไปต่อได้ ก็จะไปด้วยกันโดยจะให้ฝืนลากอีกคนก็คงไม่ไหว มั้นต้องพร้อมเดินไปด้วยกัน เหนื่อยก็พัก ทางมันไกลอยู่แล้วเมื่อมองจากจุดเริ่มต้น

ถ้าจะมีการถอดใจก็คงเป็นเพราะความคาดหวัง
หวังว่ามันคงจะต้องเดินไปเท่านั้นเท่านี้ หรือไม่ก็ปล่อยมือกันกลางทาง ถ้าคิดว่าไม่อยากเสียเวลาแล้วจริงๆ ทำไมไม่มองให้ลึกซึ้งหน่อยล่ะ

ถ้าต้องการคู่ชีวิตจริงๆ ก็น่าจะมีความมานะอดทนหน่อย ลิขิตฟ้ายังมิอาจสู้มานะตน

แต่กับสิ่งที่ท่านทำนั้นเหมือนกับท่านแค่อยากลองเที่ยวตามใจไปเรื่อยๆ เผื่อว่าจะฟลุ๊คเจอทางสั้นๆสบายๆ แน่นอนทางแบบนั้นมีอยู่จริง
แต่ท่านกล้าเอาเวลาที่หดน้อยถอยลงไปทุกทีของท่านไปหวังกับสิ่งที่ท่านยังมองไม่เห็นเลยหรอ

หวังว่าท่านคงจะมีโชคในด้านนี้นะครับ
ขอให้เส้นทางนั้นแสวงหาจนมาพบท่านนะ
ฮ่ะๆๆ

ขอยืนยันว่าผมไม่ใช่หนังสือเล่มเก่าของท่าน
แต่เป็นเพียงผู้ชายคนนึงที่บันทึกเรื่องราวของเราลงในสมุดบันทึกความทรงจำของตัวผมเอง

เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อนึกถึงท่านผมจะเปิดย้อนมาอ่าน เมื่ออ่านจนพอใจผมก็จะกลับไปเขียนมันต่อด้วยแรงบรรดาลใจในอดีต ดั่งหน้าอื่นๆก่อนหน้าที่ผลักดันให้ได้มาเจอและบันทึกเรื่องราวที่มีท่านเป็นส่วนนึงในนั้น.

ปล.ขอพื้นที่เจ้าของกระทู้เพื่อใช้ระบายความรู้สึกส่วนตัวบ้างนะครับ เพราะคนที่ผมจะสื่อเค้าไม่อยากรับรู้มุมต่างจากมุมมองเค้า เห็นว่าเรื่องต้นของ จขกท. มีความคล้ายคลึงกันและก็สื่อออกมาได้ดีมาก ผมเลยอยากมาแบ่งปันมุมมองของคนที่หลงระเริงอีกมุมนึงที่เค้าเปรียบคนที่เค้าเบื่อไว้แบบนี้ เพิ่มอีกซักตัวอย่าง อาจจะยาวไปหน่อย แต่เป็นเพียงความเห็นกับประสบการณ์ส่วนตัวของผมนะ
หวังว่าคนที่เจอเรื่องราวคล้ายๆก้นคงพอเข้าใจ

นิทราสวัสดิ์ครับ.


*แก้ไขคำผิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่