เพิ่มเติม Timeline
- 29 กันยายน 2558 :: จัดงานแต่งงาน  http://news.sanook.com/1873582/
- 25 มีนาคม 2559 :: คลอดลูกคนที่ 2 http://baby.kapook.com/แม่-ลูกดารา-145378.html
- เมษายน 2559 :: เริ่มเปลี่ยนไปหลังพี่ตุ่นคลอดน้องได้ 1 เดือน
- 31 สิงหาคม 2559 แถลงบอกหมดรักภรรยาให้คนทั้งประเทศทราบซึ่งตรงกับวันเกิดพี่ตุ่น



“ตุ๊กตุ่น รจเลข” เมีย “ตั้ม เดอะสตาร์” น้ำตาไหลพราก หลังอดีตสามีแถลงข่าวหมดรัก รับไม่แค้นแต่สงสารลูก กลายเป็นเด็กบ้านแตก แฉอีกฝ่ายส่งไลน์มาบอกรักจืดจาง แต่เราประคับประคองครอบครัว กร้าวอดีตผัวอย่าคิดพรากลูก เชื่อตนจะทำหน้าที่แม่ได้ดี เสียดายลูกจะไม่มีโอกาสได้นอนกับพ่ออีก วอนสังคมให้โอกาสตั้มได้มีที่ยืนและมีงานทำ

  หลังจากที่ “ตั้ม เดอะสตาร์” หรือ “สุธน บู่สามสาย” ได้ออกมายอมรับว่า นอกใจภรรยา “ตุ๊กตุ่น รจเลข” โดยแอบหนีไปกิ๊กพริตตี้ พร้อมยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว อ้างรักจืดจาง และมีปัญหาครอบครัวมานานแล้ว ปัดตอบเรื่องมือที่สาม เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ยืนยันเอาลูกแต่ไม่เอาแม่ และจะขอเป็นพ่อที่ดีให้ได้ ให้คำมั่นจะไม่ทอดทิ้งเมีย - ลูก แม้สถานะไม่เหมือนเดิม
      
       ล่าสุด ภายหลังจากที่ “ตั้ม เดอะสตาร์” ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเสร็จ ทางด้านภรรยาสาว “ตุ๊กตุ่น รจเลข” ก็ได้ออกมาเปิดใจทันที โดยเจ้าตัวยอมรับในเหตุผลของอีกฝ่าย เสียดายจับมือกันไม่แน่นพอ!
      
       “ตุ่นเข้าใจในสิ่งที่เขาตอบ คนแต่ละคนย่อมมีเหตุผลของตัวเรา คงไม่สามารถจะไปบังคับจิตใจของใครได้ ถ้าวันหนึ่งเขาจะเปลี่ยน เพราะตุ่นเชื่อว่าครอบครัวทุกครอบครัวมันมีเรื่องราวของการทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่บ้าง แต่ถ้าตราบใดที่มีมือสองมือจับกันแน่นพอ โดยที่มันไม่มีมือของใครแทรกมามันก็สามารถประคับประคอง ก็สามารถร่วมกันแก้ไขผ่านไปได้ แน่นอนคนเรามันมาจากครอบครัวที่พื้นฐานต่างกัน คู่ทุกคู่มันต้องมีปัญหาอยู่แล้ว ในช่วงที่เราท้องมาติน ฮอร์โมนผู้หญิงมันก็วี้ดไปวี้ดมา แต่เราก็เห็นว่าเราปรับกันมาได้ดี เราก็รักกันดีนะ ตอนนั้นเราอยากกินอะไรตั้มก็ยังดูแลหาให้”
      
       บอกผู้หญิงคนนั้นไม่มีส่วนทำให้ความรักเปลี่ยนไป
       “จริง ๆ ที่เปลี่ยนอาจจะ 4 เดือนที่แล้ว ช่วงที่เราเพิ่งคลอดมาติน อย่างเราเพิ่งคลอดลูกมาคนที่ 2 เราก็ต้องมีอะไรหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปในการใช้ชีวิตอยู่แล้ว เราก็ไปโฟกัสลูกซะเป็นส่วนใหญ่ เราอาจบกพร่องหน้าที่ดูแลสามี ส่วนปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามา เราเคยบอกกับตั้มเหมือนกันว่าให้คิดดี ๆ ว่ามันมีมั้ยปัญหาระหว่างเรา 2 คน ซึ่งมันน้อยมากเลยนะ เพราะส่วนใหญ่จะมาจากคนรอบข้างมากกว่า”
      
       “คนเราถ้ามันเปลี่ยน ถ้ารักมันจางลง มันก็เติมได้ใช่มั้ย แต่ถ้าคนมันยังรักกันดีอยู่ แต่ถ้ารักมันเปลี่ยนไปในอีกทางหนึ่ง มันจะเหลืออีกทางหนึ่งได้ยังไง เข้าใจที่พูดใช่มั้ย เราไม่โทษใคร เราไม่อยากพาดพิงถึงพ่อของลูก ยังไงเขาก็เป็นพ่อของลูก เกิดวันหนึ่งลูกโตขึ้นมาได้ฟังมันจะไม่ดี คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ เราก็เข้าใจ เขาก็คงเปลี่ยนแปลงไปตามเวลามั้งคะ”
      
       น้อมรับหากรักจืดจาง บอกขอเป็นเสาหลักในการเลี้ยงดูลูกทั้งสองคน วอนสังคมให้โอกาศ “ตั้ม เดอะสตาร์” ได้มีที่ยืนในสังคม
       “เขาบอกเรามาตั้งหลายวันแล้วว่ารักมันจืดจางลง เขาไลน์มาบอกว่าตุ่นก็ต้องยอมรับว่ารักเรามันจืดจางลง ตอนนั้นเขาก็มาคุยกับเราอีกครั้ง เขาไปเอง ถ้ารักเรามันจะจืดจางลงมันคงเป็นรักของตั้มคนเดียว เพราะเราเหมือนเดิมมาตลอด เราประคับประคองความเป็นครอบครัวมาตลอด พูดกันมาตลอดตั้งแต่ลูกคนแรกยังไม่เกิดว่า”
      
       “เรา 2 คน เกิดมาในครอบครัวที่แตกแยก เราจะไม่ทำให้ครอบครัวของเราต้องเป็นแบบนั้น เราก็พยายามที่จะประคองที่จะแก้ไข พยายามที่จะทำทุกอย่าง แต่มันก็ต้องได้รับความร่วมมือจากอีกฝ่ายด้วย แต่ก็ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ เราก็ต้องเข้มแข็งเพื่อลูก เพราะเขาต้องมีแม่ในการเป็นเสาหลัก เพราะจากที่พี่ฟังตั้มตอบคำถาม เอาจริงเรายังอยากให้สังคมให้โอกาสเขานะ ให้โอกาสได้ทำงาน ให้โอกาสได้มีที่ยืน แต่ฟังคำตอบเขาเราก็งงมากว่าตั้มคิดอะไรอยู่กับการตอบคำถามออกไป ฟังแล้วดูน่าเป็นห่วงกับหน้าที่การงานมาก”
      
       บอกหลังจากนี้ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป ลั่นอย่าเพิ่งให้รับเปลี่ยนสถานะเป็นแม่ของลูกหรือที่ปรึกษา
       “ชัดมากขนาดนี้ คนเรากลับมาแบบไม่ได้รักกัน มันกลับมาแบบไม่ใช่ มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับเราใช่มั้ย กับที่จะอยู่กับที่คนที่ไม่ได้รักเรา แต่เรางงกับตั้ม เราว่าตั้มกลับไปกลับมากับความรู้สึก ตั้มยังงสับสนกับอะไรหรือเปล่า แต่ก็โอเค ที่เขาพูดว่าเขายังรักเราในฐานะที่เป็นแม่ของลูก เราคิดว่าทุกอย่างมันคงต้องใช้เวลา เพราะว่าบอกตามตรงว่าใจพัง เพราะฉะนั้นการที่ตั้มจะเปลี่ยนสถานะของคนอื่น คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมา อยู่ ๆ ตั้มจะปรับมาให้เป็นแม่ของลูก หรือเพื่อนคู่คิดคู่ปรึกษาอย่างที่ตั้มพูด เราไม่สามารถเปลี่ยนได้ในเร็ววัน”
      
       “คือ ไม่ได้หมายความว่า ในอนาคตจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ หรือเกลียดกัน เราคงไม่เกลียดพ่อของลูก ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลา เราต้องใช้เวลาในการเยียวยาหัวใจ อย่าเพิ่งมาบังคับ อย่างเพิ่งมาให้เราต้องเปลี่ยนตัวเองไปเป็นใครแบบไหน หรือให้รีบเปลี่ยนเป็นแม่ของลูกหรือที่ปรึกษา ต้องให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นมาก่อน เพราะลูก 2 คน เราคงต้องรับหน้าที่ดูแล งานก็ต้องหันมาทำมากขึ้น ทุก ๆ อย่างเพื่อเป็นเสาหลักของครอบครัว”
      
       ให้อภัยในสิ่งที่ “ตั้ม เดอะสตาร์” ทำผิด บอกไม่คิดกีดกันให้มาเจอลูก แต่อย่าคิดมาพรากลูก
       “ให้อภัยได้ค่ะ จริง ๆ แล้วตั้มรู้อยู่แล้ว ตั้มเคยได้รับ พอตั้มทำพัง ไม่ได้แค้นอะไร แต่เจ็บรู้สึกเจ็บที่ทำไม คน 2 คนนั้น ต้องมาทำให้ลูกเราต้องกลายเป็นเด็กบ้านแตก (ร้องไห้หนักมาก) เราสงสารลูกเขาไม่ควรต้องมาเป็นแบบนี้ วันข้างหน้ามันจะดีขึ้น แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
      
       “จริง ๆ แล้วเขาก็มา เขารักลูกเรารู้ ก่อนหน้านี้ เคยปัญหากันเขาถามเราว่าวันหนึ่งต้องเลิกกัน ลูกจะยังไงเราก็บอกว่าลูกก็ต้องเป็นของเรา เขาก็ถามว่าไม่ได้แบ่งกันเหรอ คือเราก็บอกว่าไม่ใช่นะ ไม่กีดกันให้เขาเจอลูก แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่าคิดจะพรากลูกไปจากเราทั้ง 2 คน สู้ขาดใจ เรื่องตั้มก็ส่วนเรื่องตั้ม ตั้มไม่ใช่สามีแล้วก็คือไม่ใช่ ถ้าคิดจะพรากลูกไปจากเรา เราไม่ยอม เราอาจจะดูอ่อนแอในเรื่องของความรักที่มีต่อสามี แต่เราเข้มแข็งในเรื่องความรักที่มีต่อลูกทั้งสองคน อย่าคิดเด็ดขาด บ้านเขาก็อย่าคิด เรื่องลูกเราสู้ขาดใจ ในอนาคตถ้าคิด เพราะเราไม่ปิดกั้นให้เขาเจอลูกอยู่แล้ว มั่นใจดูแลลูกได้ดีพอ”
      
       “ยังไงก็ตามเราไม่ได้ว่าต้องมาเหยียบย่ำ หรือใส่ร้ายให้คนที่เป็นพ่อของลูกต้องแย่ เราหวังเล็ก ๆ ว่า เขาจะสามารถตอบคำถามได้ดี มีงานดี ๆ ได้ทำ ยังหวัง ส่วนงานร้องเพลงกับโตโน่ (ภาคิน) หวังเรื่องงานทางโตโน่จะให้ตั้มร่วมร้องเพลง ได้ทำงานที่เขารักต่อไป เพราะตอนแรกที่โตโน่เอาตั้มไปร้องเพลงด้วย เพราะอยากให้ช่วยค่านม ค่าแพมเพิร์สลูก บอกทุกครั้งที่ขึ้นคอนเสิร์ตส่วนเราก็ต้องพึ่งตัวเองให้ได้ ส่วนตัวเองต้องตั้งสติ ค่อยประคองสติ ดูแลลูก เป็นเสาหลัก ทำงานให้ได้มากที่สุด หาเงินให้ได้มากที่ เพื่ออนาคตของลูก เราไม่แน่ใจว่าจะหวังพึ่งรายได้ของตั้มได้มากแค่ไหน”
      
       เสียใจใช้หัวใจตัดสินเลือกคู่ชีวิตมากกว่าใช้สมอง แต่ยังยิ้มได้
       “จริง ๆ ผู้ใหญ่เคยเตือนก่อนหน้านี้แล้ว เราพูดมาตลอดกับตั้ม เราเป็นคนที่ใช้ความรักและหัวใจในการตัดสิน เราไม่ค่อยใช้สมอง ซึ่งอันนี้มันก็แย่ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อเสียคือถ้าเราใช้สมองมันคงจะคิดถึงองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง พื้นฐานทางครอบครัว อายุ ว่ามันเหมาะสมกันมั้ย คนเราสร้างครอบครัวกัน มันเหมาะสมกันมั้ย ไม่ใช่ว่าก่อนที่เราจะมาเจอตั้ม เราไม่เคยเจอคนที่เข้ามาในชีวิตเราก็เคยเจอ ซึ่งเราก็ตอบคนอื่นที่เข้ามาถามเหมือนกันนะ”
      
       “เราใช้หลักในการตัดสินใจ เราอยากมีลูกกับคนที่เรารัก เพราะเรามั่นใจว่า เรามีลูกกับคนที่เรารัก วันหนึ่งถึงต่อให้มันเกิดอะไรขึ้นก็ตามยังโชคดีที่มีลูก เพราะเขาเป็นลูกที่เกิดจากความรัก แต่ถ้าเกิดเราใช้สมองในการเลือกคนที่จะมาเป็นพ่อของลูก ความรักก็จะเป็นอีกแบบ ซึ่งตอนนั้นเราพูดว่าเราจะไม่เสียใจ แต่วันนี้เราเสียใจ แต่เราก็ยังยิ้มได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่เราเลือกเองตั้งแต่แรก และวันนี้สิ่งที่เราได้รับคือมีลูกที่น่ารักสองคน มันคือความสุขสูงสุดของเราแล้ว และยอมรับการตัดสินใจในอดีตที่ผ่านมา ว่าฉันเลือกเอง มุมมองความรักของเราก็ต้องเปลี่ยนไป เราก็ดูแลลูกทั้งสองคนให้ดีที่สุด”
      
       ขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจมาให้ในทุกช่องทาง เล็งติดต่อจิตแพทย์-ห่วงความรู้สึกลูกที่ไม่ได้มีโอกาสได้นอนกับพ่ออีก
       “ขอบคุณทุกกำลังใจในอินสตาแกรม อาจจะตอบบ้าง ไม่ได้ตอบบ้าง ตุ่นยกมือไหว้จริง ๆ จากคนที่ไม่เคยรู้จักกันเลย จากใคร ๆ ต่างส่งกำลังมาให้เข้มแข็ง ให้ผ่านพ้นไป ตุ่นขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ เพราะมันเยอะมากจริง ๆ”
      
       “อันนี้เป็นสิ่งที่กังวลมากที่สุด ซึ่งเราคุยกับรุ่นพี่ที่เป็นจิตแพทย์ว่าจะมีวิธีการยังไง เพราะหลังจากที่มีปัญหากัน เราก็เตรียมพร้อมรับมืออะไรหลาย ๆ อย่าง เราห่วงความรู้สึกลูก คิดไว้คร่าว ๆ คือ ต้องบอกลูกว่าพ่อแม่เรารักกันนะ ในวันที่หนูเกิดมา ถึงวันนี้พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่า พ่อกับแม่ไม่รักหนู อย่างที่เราบอกหลาย ๆ ต้องให้เวลา อย่างลูกคนแรกเขาติดพ่อมาก คนที่ 2 อายุ 5 เดือน น่าเสียดายที่โตแล้วไม่ได้มีโอกาสได้นอนกับพ่อ”

ขอเป็นกำลังใจให้พี่ตุ่นเข้มแข็งได้ในเร็ววันนะคะ

ส่วนตั้ม นอกจากจะมีงานละคร เกมมายา แล้วมีงานอะไรอีกมั้ยคะ?
ดูในไอจีเบอร์ติดต่องานก็เป็นคุณเม ผจก.โตโน่ ส่วนเบอร์exact ไม่มี เค้าไม่ได้เซ็นกับค่ายแล้วหรอคะ?