รีวิว ++Review++ ศรีลังกา..ไปมาไม่นาน Part 2
http://ppantip.com/topic/35552779
เราเพิ่งไป
ศรีลังกา มาค่ะ... เลยอยากมารีวิวให้อ่านกันดู สนุกมั้ยไม่รู้ ..รู้แต่ "อ่านนะ..อยากให้อ่าน ๕๕๕๕"
ว่างมั้ย..ไปศรีลังกาแทนหน่อย??
อยู่ๆประโยคนี้เด้งขึ้นมาในไลน์ เอาล่ะสิ...ใจนึงก็อยากไป อีกใจนึงก็รู้สึกกลัวกับความลำบาก (ที่คิดไปเอง) สารพัด
เช่นว่า จะอากาศร้อนมากมั้ย....จะกินอะไรได้บ้างรึเปล่า... ผีจะดุ.. ยุงจะกัด.. ห้องน้ำจะไม่มี โอ๊ยย..คิดไปโน่น
แต่ระหว่างที่สมองคิด.. มือดันพิมพ์ตอบไปแล้วด้วยความออโต้ว่า...”ไปค่ะ”...5555
นี่ล่ะค่ะ ต้นกำเนิดของการเดินทาง ไปในประเทศที่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะไปมาก่อน ในครั้งนี้
ศรีลังกา.....
อยากจะบอกว่าการไปศรีลังกาครั้งนี้ เราไปกับทัวร์นะคะ และก่อนไปเรารู้เรื่องศรีลังกาน้อยมาก แต่ทำการบ้านไปบ้างพอสมควรเลย
แต่พอรู้ว่าไปกับทัวร์ เราก็อุ่นใจขึ้นบ้างค่ะเพราะคิดว่ายังไงซะก็ไม่ลำบาก(มาก) แน่นอน ฮ่าๆ
สำหรับของที่เตรียมไปที่แน่ๆก็คือ ร่ม เสื้อกันฝน เพราะเช็คมาแล้วว่าช่วงที่ไปฝนตกกระหน่ำ ซัมเมอร์มากๆ
สเปรย์กันยุง Adapter และสำคัญที่สุดคือ..อาหารค่ะ 555 เพราะเราไม่เคยไปประเทศแถบนี้มาก่อนเลยค่ะ เลยกลัวว่าจะกินม่ายล่ายย...
เพราะฉะนั้น อีกครึ่งกระเป๋าไซส์ 24 ของเรา คืออาหารล้วนๆเลยค่า
เอาล่ะค่ะ หลังจากผ่านศึกจากการเคลียร์งาน กดวันลาพักร้อน(แบบเต็มแม็กซ์) และจัดกระเป๋าอย่างฉุกละหุกในคืนวันก่อนไปเรียบร้อย
ก็ถึงวันเดินทางแล้วค่า
ไฟลท์ที่เราไปเป็นของ ศรีลังกาแอร์ไลน์ค่ะ ออกเดินทางจากประเทศไทย ตอน 9.00 ถึงศรีลังกา ก็ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.นิดๆนะคะ
เวลาของที่นั่นจะช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม.ค่ะ แรกๆก็สับสนนะคะ เพราะไอ้เศษครึ่งชั่วโมงนี่แหละค่ะ ที่พาเรางง
ศรีลังกาแอร์ไลน์ คุณแอร์สวย ใส่ชุดสีเขียว โชว์พุงหน่อยๆ เห็นแล้วคิดถึงนกยูงมากจริงๆค่ะ
พอขึ้นเครื่องได้สักพัก พี่นกยูงก็เอาผ้าเย็นมาเสริฟ ก่อนจะด้วยเมนูอาหาร และสุดท้ายจบที่อาหารค่ะ
หน้าตา และรสชาตินี่โอเคเลยนะคะ พอกินอิ่มแล้วขอนอนตุนเอาไว้ก่อนเลยค่ะ
พอกำลังจะเคลิ้มหลับ เพราะมัวแต่ดูหนังบนเครื่องอยู่เลยไม่ได้นอนนะคะ
ก็ได้ยินเสียงประกาศ ว่าเรากำลังจะแลนด์ดิ้งแล้ว
เย้....ถึงซะที ตื่นเต้นเหมือนกันนะคะเนี่ย
ถึงละค่า.....ประเทศศรีลังกา สนามบินแห่งชาติของเขาอยู่ที่เมืองหลวง โคลอมโบ ค่ะ
พอลงเครื่องก็ต้องนั่งรถโค้ชต่อเพื่อไปยังอาคารผู้โดยสารนะคะ
อยากจะบอกว่า เปิดประตูเครื่องออกมา ได้สัมผัสอากาศแรกของศรีลังกา บอกได้คำเดียวเลยว่า แดดแรงม๊ากค่ะ
แต่อากาศชุ่มชื้นนะคะ บอกไม่ถูกอ่ะค่ะ คงจะเป็นเพราะว่าบ้านเมืองเขาต้นไม้เยอะกว่าบ้านเรามากค่ะ มองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้ไซส์ใหญ่ยักษ์เต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ
ผ่านตม.สังเกตได้ว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเพียบเลยนะคะ จะขนกลับกันยังไงนะเนี่ย
รับกระเป๋า ซึ่งมาเร็วมากมายค่ะ เดินออกมาจากด้านใน ก็เตรียมแลกตังค์กันค่ะ
ที่นี่รับแลกเงินไทยด้วยนะคะ แต่ต้องเป็นแบงค์พันเท่านั้นค่ะ เพราะฉะนั้นทางที่ปลอดภัยที่สุด แลกเป็นเงิน USD ไปก่อนเลย
แล้วไปแลกเป็นเงิน รูปี ศรีลังกา ที่นั่น จะดีที่สุดค่ะ
สำหรับเคานเตอร์แลกเงิน พอเดินออกมา ก็ตั้งเรียงกันเป็นแผงเลยค่ะ สะดวกใจเจ้าไหนก็เลือกเอาได้เลยนะคะ เรทไม่หนีกันเลยค่ะ
พอแลกเงินเสร็จ ก็ได้เวลาใช้เงินไปกับอย่างแรก นั่นก็คือ ซิมการ์ดค่ะ
ถัดออกมาจากที่แลกเงิน ก็จะมีร้านซิมการ์ด เรียงให้เลือกอยู่อีกเต็มไปหมดเลยเช่นกันค่ะ
สำหรับเราเลือกอันนี้ค่ะ เพราะพี่ไกด์บอกว่า เจ้านี้สัญญาณดีที่สุดในศรีลังกา
แหม่...คนติดโซเชียลอย่างเรา ยอมได้ที่ไหน จัดแพคเกจสำหรับ 7 วัน ราคาก็ 2,000 รูปี
เวลาคิดเรทเป็นเงินไทยง่ายๆ เราใช้ 4 หารเอาเลยค่ะ อาจจะไม่เป๊ะมาก แต่คำนวณง่ายดีค่ะ
ซิมอันนี้ราคาก็ตกอยู่ที่ประมาณ 500 บาท สำหรับทริป 6คืน 7 วัน ที่เราจะอยู่ที่นี่ค่ะ
ใช้โทรเบอร์ภายในประเทศได้ และใช้ดาต้าได้ 6 GB ยื่นโทรศัพท์ให้พนง.จัดการให้ไปเลยค่ะ
พอเปลี่ยนซิมเสร็จเรียบร้อย ก็ไปขึ้นรถเข้าเมืองหลวงกันเลยค่ะ
ก้าวแรกที่มาถึงที่นี่ ก็เจอเซอร์ไพรส์เลยค่ะ เพราะไม่คิดว่าถนนที่นี่จะสะดวกแบบนี้ ฮ่าๆ
เราจินตนาการไว้ว่าจะต้องเป็นแบบ 2 เลนสวน น่าจะลำบากๆหน่อย แต่ผิดคาด เป็นไฮเวย์สร้างใหม่ ยิงยาวถึงโคลอมโบ
ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชม.ค่ะ
คืนนี้เราจะพักกันที่ โคลอมโบ กัน 2 คืนค่ะ
เอาของไปเก็บโรงแรมเรียบร้อยแล้ว พักผ่อนนิดหน่อย เราก็ไปเที่ยวที่แรกกันเลยค่ะ
ที่แรกที่เราได้ไปนั่นก็คือ วัดเกลานิยา (วัดกัลยาณี)
เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองโคลอมโบ เลยนะคะ และวัดที่นี่ก่อนจะเดินเข้าไปต้องถอดรองเท้านะคะ
เพราะฉะนั้นเตรียมตัวกันให้ดีค่ะ จะใส่ถุงเท้า หรือเท้าเปล่าก็ได้หมด ตามสบายค่ะ
อยากจะบอกว่า... ความรู้สึกแรกที่ก้าวเข้าไปในวัด เราสัมผัสได้ถึงความเชื่อและความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ของชาวศรีลังกาอย่างเหลือเชื่อมากๆเลยค่ะ ในวัดเต็มไปด้วยคนทุกวัย วัยรุ่น หนุ่ม สาว คนสูงอายุ ทุกคนใส่ชุดสีขาว นั่งลงที่พื้นทราย รอบๆวัด ตั้งใจสวดมนต์ กันแบบสงบมากกกจริงๆค่ะ เขาว่ากันว่า การเข้าวัดสวดมนต์คือวัฒนธรรมอันจริงจังของคนศรีลังกา ทำงานเสร็จ พอเลิกงานก็จะมาที่วัด นั่งสวดมนต์กันแบบจริงๆจังๆเลยค่ะ
ต่อให้ไม่อิน มารับพลังความศรัทธาของคนที่นี่ ที่มีต่อพระพุทธศาสนา รับรองเลยว่า คุณจะอินนนนนน ฟินนน ไปด้วยแบบออโต้
คนที่นี่เขามีความเชื่อ และศรัทธาต่อต้นโพธิ์ มากๆเลยนะคะ
และที่วัดนี้เขามีความเชื่อเรื่องการฝากสิ่งที่ไม่ดีเอาไว้กับต้นโพธิ์ ด้วยการอธิษฐานขอพร พร้อมถือน้ำเดินวนรอบต้นโพธิ์ สามรอบ ตั้งจิตอธิษฐานกันให้ดีๆ พอครบสามรอบ ก็นำน้ำขึ้นไปรดที่ฐานต้นโพธิ์ จะช่วยปัดเป่า คลายเรื่องร้ายให้หมดไปได้ค่ะ บางคนก็มาเขียนชื่อลูกที่ป่วย ฝากไว้กับต้นโพธิ์ บริเวณรอบๆเลยจะเห็นมีชื่อติดอยู่รอบๆแบบนี้เต็มไปหมดเลยค่ะ
ภายในวิหารก็จะมีภาพเขียน งานแกะสลักรูปแบบลังกา อยู่เต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ คนที่นี่จะไหว้พระกันด้วยดอกไม้นะคะ ส่วนธูป หรือกำยาน จะอนุญาตให้จุดบูชาได้เฉพาะที่ด้านนอกเท่านั้นค่ะ
เช้าอีกวันนึง เราก็ไปเที่ยวกันต่อที่วัดที่ 2 กันค่ะ วัดทีปทุตตมาราม มหาวิหาร
วัดนี้ เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมา เชื่อมโยงกับคนไทยมากมายเลยนะคะ
ที่นี่มีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ คือ วิหารพระพุทธไสยาสน์ หอประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรัตนเจดีย์
ซึ่งเจดีย์นี้พระชินวรวงศ์เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2451 โดยเป็นศิลปะผสมผสานระหว่างอินเดีย ศรีลังกาและไทย
โดยยอดฉัตรรัตนเจดีย์ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญสำหรับประวัติศาสตร์ระหว่างสยามกับศรีลังกา
ที่วัดนี้เราได้ทำบุญกันด้วยค่ะ แอบฟังบทสวดมนต์ ตอนที่พระให้พร ก็เหมือนบ้านเราเลยค่ะ แต่แค่ว่าสำเนียงอาจะฟังแปลกๆไปสักหน่อย คงเป็นเพราะภาษาที่ต่างกัน สำเนียงเลยไม่คุ้นหูพวกเราค่ะ
วัดที่ 3 วัดสีมามาลากา (วัดกลางน้ำ)
วันนี้เป็นวัดเล็กๆนะคะ ตั้งอยู่กลางน้ำเลยค่ะ รอบๆจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เต็มไปหมด สังเกตดีๆที่ใต้ฐาน ชื่อคนไทยทั้งนั้นเลยนะคะ สวย แต่ร้อนเท้าไปหน่อย เพราะต้องถอดรองเท้าเดินค่ะ
วัดที่ 4 วัดคงคาราม
วัดคงคารามซึ่งเป็นวัดของนิกายสยามวงศ์ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ และรอบๆก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามดูเพลินๆนะคะ นอกจากนั้น ที่วัดนี้ยังมีอาคารที่เก็บรักษาโบราณวัตถุและสิ่งมีค่าต่างๆมากมายทางศาสนา เอาไว้มากมายเลยล่ะค่ะ
++++ ดึกมากแล้ว ขอไปนอนก่อนนะคะ ยังเหลืออีกเพียบเลยค่ะ+++
[CR] ++Review++ ศรีลังกา..ไปมาไม่นาน
รีวิว ++Review++ ศรีลังกา..ไปมาไม่นาน Part 2
http://ppantip.com/topic/35552779
เราเพิ่งไป ศรีลังกา มาค่ะ... เลยอยากมารีวิวให้อ่านกันดู สนุกมั้ยไม่รู้ ..รู้แต่ "อ่านนะ..อยากให้อ่าน ๕๕๕๕"
ว่างมั้ย..ไปศรีลังกาแทนหน่อย??
อยู่ๆประโยคนี้เด้งขึ้นมาในไลน์ เอาล่ะสิ...ใจนึงก็อยากไป อีกใจนึงก็รู้สึกกลัวกับความลำบาก (ที่คิดไปเอง) สารพัด
เช่นว่า จะอากาศร้อนมากมั้ย....จะกินอะไรได้บ้างรึเปล่า... ผีจะดุ.. ยุงจะกัด.. ห้องน้ำจะไม่มี โอ๊ยย..คิดไปโน่น
แต่ระหว่างที่สมองคิด.. มือดันพิมพ์ตอบไปแล้วด้วยความออโต้ว่า...”ไปค่ะ”...5555
นี่ล่ะค่ะ ต้นกำเนิดของการเดินทาง ไปในประเทศที่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะไปมาก่อน ในครั้งนี้
ศรีลังกา.....
อยากจะบอกว่าการไปศรีลังกาครั้งนี้ เราไปกับทัวร์นะคะ และก่อนไปเรารู้เรื่องศรีลังกาน้อยมาก แต่ทำการบ้านไปบ้างพอสมควรเลย
แต่พอรู้ว่าไปกับทัวร์ เราก็อุ่นใจขึ้นบ้างค่ะเพราะคิดว่ายังไงซะก็ไม่ลำบาก(มาก) แน่นอน ฮ่าๆ
สำหรับของที่เตรียมไปที่แน่ๆก็คือ ร่ม เสื้อกันฝน เพราะเช็คมาแล้วว่าช่วงที่ไปฝนตกกระหน่ำ ซัมเมอร์มากๆ
สเปรย์กันยุง Adapter และสำคัญที่สุดคือ..อาหารค่ะ 555 เพราะเราไม่เคยไปประเทศแถบนี้มาก่อนเลยค่ะ เลยกลัวว่าจะกินม่ายล่ายย...
เพราะฉะนั้น อีกครึ่งกระเป๋าไซส์ 24 ของเรา คืออาหารล้วนๆเลยค่า
เอาล่ะค่ะ หลังจากผ่านศึกจากการเคลียร์งาน กดวันลาพักร้อน(แบบเต็มแม็กซ์) และจัดกระเป๋าอย่างฉุกละหุกในคืนวันก่อนไปเรียบร้อย
ก็ถึงวันเดินทางแล้วค่า
ไฟลท์ที่เราไปเป็นของ ศรีลังกาแอร์ไลน์ค่ะ ออกเดินทางจากประเทศไทย ตอน 9.00 ถึงศรีลังกา ก็ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.นิดๆนะคะ
เวลาของที่นั่นจะช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชม.ค่ะ แรกๆก็สับสนนะคะ เพราะไอ้เศษครึ่งชั่วโมงนี่แหละค่ะ ที่พาเรางง
ศรีลังกาแอร์ไลน์ คุณแอร์สวย ใส่ชุดสีเขียว โชว์พุงหน่อยๆ เห็นแล้วคิดถึงนกยูงมากจริงๆค่ะ
พอขึ้นเครื่องได้สักพัก พี่นกยูงก็เอาผ้าเย็นมาเสริฟ ก่อนจะด้วยเมนูอาหาร และสุดท้ายจบที่อาหารค่ะ
หน้าตา และรสชาตินี่โอเคเลยนะคะ พอกินอิ่มแล้วขอนอนตุนเอาไว้ก่อนเลยค่ะ
พอกำลังจะเคลิ้มหลับ เพราะมัวแต่ดูหนังบนเครื่องอยู่เลยไม่ได้นอนนะคะ
ก็ได้ยินเสียงประกาศ ว่าเรากำลังจะแลนด์ดิ้งแล้ว
เย้....ถึงซะที ตื่นเต้นเหมือนกันนะคะเนี่ย
ถึงละค่า.....ประเทศศรีลังกา สนามบินแห่งชาติของเขาอยู่ที่เมืองหลวง โคลอมโบ ค่ะ
พอลงเครื่องก็ต้องนั่งรถโค้ชต่อเพื่อไปยังอาคารผู้โดยสารนะคะ
อยากจะบอกว่า เปิดประตูเครื่องออกมา ได้สัมผัสอากาศแรกของศรีลังกา บอกได้คำเดียวเลยว่า แดดแรงม๊ากค่ะ
แต่อากาศชุ่มชื้นนะคะ บอกไม่ถูกอ่ะค่ะ คงจะเป็นเพราะว่าบ้านเมืองเขาต้นไม้เยอะกว่าบ้านเรามากค่ะ มองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้ไซส์ใหญ่ยักษ์เต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ
ผ่านตม.สังเกตได้ว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเพียบเลยนะคะ จะขนกลับกันยังไงนะเนี่ย
รับกระเป๋า ซึ่งมาเร็วมากมายค่ะ เดินออกมาจากด้านใน ก็เตรียมแลกตังค์กันค่ะ
ที่นี่รับแลกเงินไทยด้วยนะคะ แต่ต้องเป็นแบงค์พันเท่านั้นค่ะ เพราะฉะนั้นทางที่ปลอดภัยที่สุด แลกเป็นเงิน USD ไปก่อนเลย
แล้วไปแลกเป็นเงิน รูปี ศรีลังกา ที่นั่น จะดีที่สุดค่ะ
สำหรับเคานเตอร์แลกเงิน พอเดินออกมา ก็ตั้งเรียงกันเป็นแผงเลยค่ะ สะดวกใจเจ้าไหนก็เลือกเอาได้เลยนะคะ เรทไม่หนีกันเลยค่ะ
พอแลกเงินเสร็จ ก็ได้เวลาใช้เงินไปกับอย่างแรก นั่นก็คือ ซิมการ์ดค่ะ
ถัดออกมาจากที่แลกเงิน ก็จะมีร้านซิมการ์ด เรียงให้เลือกอยู่อีกเต็มไปหมดเลยเช่นกันค่ะ
สำหรับเราเลือกอันนี้ค่ะ เพราะพี่ไกด์บอกว่า เจ้านี้สัญญาณดีที่สุดในศรีลังกา
แหม่...คนติดโซเชียลอย่างเรา ยอมได้ที่ไหน จัดแพคเกจสำหรับ 7 วัน ราคาก็ 2,000 รูปี
เวลาคิดเรทเป็นเงินไทยง่ายๆ เราใช้ 4 หารเอาเลยค่ะ อาจจะไม่เป๊ะมาก แต่คำนวณง่ายดีค่ะ
ซิมอันนี้ราคาก็ตกอยู่ที่ประมาณ 500 บาท สำหรับทริป 6คืน 7 วัน ที่เราจะอยู่ที่นี่ค่ะ
ใช้โทรเบอร์ภายในประเทศได้ และใช้ดาต้าได้ 6 GB ยื่นโทรศัพท์ให้พนง.จัดการให้ไปเลยค่ะ
พอเปลี่ยนซิมเสร็จเรียบร้อย ก็ไปขึ้นรถเข้าเมืองหลวงกันเลยค่ะ
ก้าวแรกที่มาถึงที่นี่ ก็เจอเซอร์ไพรส์เลยค่ะ เพราะไม่คิดว่าถนนที่นี่จะสะดวกแบบนี้ ฮ่าๆ
เราจินตนาการไว้ว่าจะต้องเป็นแบบ 2 เลนสวน น่าจะลำบากๆหน่อย แต่ผิดคาด เป็นไฮเวย์สร้างใหม่ ยิงยาวถึงโคลอมโบ
ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชม.ค่ะ
คืนนี้เราจะพักกันที่ โคลอมโบ กัน 2 คืนค่ะ
เอาของไปเก็บโรงแรมเรียบร้อยแล้ว พักผ่อนนิดหน่อย เราก็ไปเที่ยวที่แรกกันเลยค่ะ
ที่แรกที่เราได้ไปนั่นก็คือ วัดเกลานิยา (วัดกัลยาณี)
เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองโคลอมโบ เลยนะคะ และวัดที่นี่ก่อนจะเดินเข้าไปต้องถอดรองเท้านะคะ
เพราะฉะนั้นเตรียมตัวกันให้ดีค่ะ จะใส่ถุงเท้า หรือเท้าเปล่าก็ได้หมด ตามสบายค่ะ
อยากจะบอกว่า... ความรู้สึกแรกที่ก้าวเข้าไปในวัด เราสัมผัสได้ถึงความเชื่อและความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ของชาวศรีลังกาอย่างเหลือเชื่อมากๆเลยค่ะ ในวัดเต็มไปด้วยคนทุกวัย วัยรุ่น หนุ่ม สาว คนสูงอายุ ทุกคนใส่ชุดสีขาว นั่งลงที่พื้นทราย รอบๆวัด ตั้งใจสวดมนต์ กันแบบสงบมากกกจริงๆค่ะ เขาว่ากันว่า การเข้าวัดสวดมนต์คือวัฒนธรรมอันจริงจังของคนศรีลังกา ทำงานเสร็จ พอเลิกงานก็จะมาที่วัด นั่งสวดมนต์กันแบบจริงๆจังๆเลยค่ะ
ต่อให้ไม่อิน มารับพลังความศรัทธาของคนที่นี่ ที่มีต่อพระพุทธศาสนา รับรองเลยว่า คุณจะอินนนนนน ฟินนน ไปด้วยแบบออโต้
คนที่นี่เขามีความเชื่อ และศรัทธาต่อต้นโพธิ์ มากๆเลยนะคะ
และที่วัดนี้เขามีความเชื่อเรื่องการฝากสิ่งที่ไม่ดีเอาไว้กับต้นโพธิ์ ด้วยการอธิษฐานขอพร พร้อมถือน้ำเดินวนรอบต้นโพธิ์ สามรอบ ตั้งจิตอธิษฐานกันให้ดีๆ พอครบสามรอบ ก็นำน้ำขึ้นไปรดที่ฐานต้นโพธิ์ จะช่วยปัดเป่า คลายเรื่องร้ายให้หมดไปได้ค่ะ บางคนก็มาเขียนชื่อลูกที่ป่วย ฝากไว้กับต้นโพธิ์ บริเวณรอบๆเลยจะเห็นมีชื่อติดอยู่รอบๆแบบนี้เต็มไปหมดเลยค่ะ
ภายในวิหารก็จะมีภาพเขียน งานแกะสลักรูปแบบลังกา อยู่เต็มไปหมดเลยล่ะค่ะ คนที่นี่จะไหว้พระกันด้วยดอกไม้นะคะ ส่วนธูป หรือกำยาน จะอนุญาตให้จุดบูชาได้เฉพาะที่ด้านนอกเท่านั้นค่ะ
เช้าอีกวันนึง เราก็ไปเที่ยวกันต่อที่วัดที่ 2 กันค่ะ วัดทีปทุตตมาราม มหาวิหาร
วัดนี้ เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมา เชื่อมโยงกับคนไทยมากมายเลยนะคะ
ที่นี่มีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ คือ วิหารพระพุทธไสยาสน์ หอประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และรัตนเจดีย์
ซึ่งเจดีย์นี้พระชินวรวงศ์เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2451 โดยเป็นศิลปะผสมผสานระหว่างอินเดีย ศรีลังกาและไทย
โดยยอดฉัตรรัตนเจดีย์ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญสำหรับประวัติศาสตร์ระหว่างสยามกับศรีลังกา
ที่วัดนี้เราได้ทำบุญกันด้วยค่ะ แอบฟังบทสวดมนต์ ตอนที่พระให้พร ก็เหมือนบ้านเราเลยค่ะ แต่แค่ว่าสำเนียงอาจะฟังแปลกๆไปสักหน่อย คงเป็นเพราะภาษาที่ต่างกัน สำเนียงเลยไม่คุ้นหูพวกเราค่ะ
วัดที่ 3 วัดสีมามาลากา (วัดกลางน้ำ)
วันนี้เป็นวัดเล็กๆนะคะ ตั้งอยู่กลางน้ำเลยค่ะ รอบๆจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เต็มไปหมด สังเกตดีๆที่ใต้ฐาน ชื่อคนไทยทั้งนั้นเลยนะคะ สวย แต่ร้อนเท้าไปหน่อย เพราะต้องถอดรองเท้าเดินค่ะ
วัดที่ 4 วัดคงคาราม
วัดคงคารามซึ่งเป็นวัดของนิกายสยามวงศ์ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ และรอบๆก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามดูเพลินๆนะคะ นอกจากนั้น ที่วัดนี้ยังมีอาคารที่เก็บรักษาโบราณวัตถุและสิ่งมีค่าต่างๆมากมายทางศาสนา เอาไว้มากมายเลยล่ะค่ะ
++++ ดึกมากแล้ว ขอไปนอนก่อนนะคะ ยังเหลืออีกเพียบเลยค่ะ+++