หนังดีมาก เชียร์ให้ไปดู อารมณ์หลักจะเป็นซึ้ง ดราม่า หักมุม ลุ้นระทึก เป็นเรื่องแรกในชีวิตที่ผมดูแล้วต่อมน้ำตาแตก หนังลุ้นระทึกขนาดซื้อป๊อปคอร์นมาแล้วลืมกินกัน 2 คน ดูจบเพิ่งนึกได้
หนังมีข้อเสียอยู่บ้างคือ 1. มีฉากเวอร์ แบบไม่ค่อยเรียล 2. หลายฉากพยายามหักมุม แต่บางฉากเดาง่าย 3. ฉากซอมบี้กัดดูซอฟๆ ไปนิด แต่โดยรวมแล้วข้อเสียไม่ทำให้เสียอรรถรสในการรับชม 4. หนังไม่มีฉากใช้ปืนเลย ใครชอบหนังส่องหัวซอมบี้ อาจไม่ชอบ
***ข้างล่างนี้มีสปอยบางส่วน ใครดูแล้ว หรือขี้เกียจไปดูก็อ่านโลดด***
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. สำหรับคนบางคน "โลกทั้งใบ" อาจไม่ใช่ "โลกของเรา" >> คือ โลกของคนบางคนจริงๆ อาจไม่ใช่ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ อาจไม่ใช่ประเทศไทย หรือไม่ใช่แม้แต่กรุงเทพด้วยซ้ำ แต่โลกของเขาอาจเป็นแค่ คนที่เขารัก เพื่อน และคนในครอบครัว บางคนอาจมีโลกที่ประกอบด้วยคนแค่ 20-30 คน แต่สำหรับบางคน โลกทั้งใบของเขาอาจเป็นแค่คน 2-3 คน
ในหนังฉากที่คุณป้าเสียเพื่อนไป บางทีโลกสำหรับคุณป้าเกิน 50% อาจเป็นเพื่อนป้าด้วยกัน ลองคิดสภาพหญิงชรา ที่อาจไม่ได้แต่งงาน แล้วก็อาจไม่มีครอบครัวเหลือแล้ว อยู่กับเพื่อนสนิท 2 คน เพื่อนของแกอาจเป็นโลกทั้งใบของแกก็ได้ พอแกเสียเพื่อนไปแล้ว เหมือนโลกมันพังทลายลงต่อหน้าต่อตา แกเลยไม่รู้จะอยู่ไปทำไม กลับเป็นเคียดแค้น เลยเลือกที่จะแก้แค้นคนที่มาทำลายโลกของแก
2. เด็กก็สอนผู้ใหญ่ได้ >> เป็นฉากที่สะท้อนสังคมอยู่ไม่น้อย หนังฉลาดเลือกที่ให้พระเอกหนังซอมบี้กลายเป็นคนไม่ดี มีความเห็นแก่ตัว แต่สุดท้ายมาคิดได้เพราะได้ลูกสอน+ได้คนอื่นๆ ช่วยเหลือชีวิตพระเอกเอาไว้ หลายครั้งเราเป็นผู้ใหญ่ ทำทีอาบน้ำร้อนมาก่อน จะสอนเด็ก แต่เรื่องบางเรื่อง เราถูกสังคมหล่อหลอมจนความเป็นเด็กในตัวเราหายไป กลายเป็นคนในแบบที่เราไม่ได้อยากจะเป็นตั้งแต่แรก
ในขณะที่เด็กเหมือนผ้าขาว เริ่มด้วยความขาว หากสังคมไม่ทำให้มันหม่นหมอง เด็กก็จะคงความขาวต่อไป และความขาวนั้นเองบางทีก็เป็นสิ่งที่สะท้อนให้ความหม่นในจิตใจของผู้ใหญ่มันเด่นชัดออกมา ให้เราได้ไหวตัวว่าสังคมได้ย้อมเราจนเปลี่ยนไปมากแค่ไหน
3. ความตายไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือความรู้สึกก่อนที่จะตาย >> มนุษย์ทุกคนเกิดมาต้องตาย ถ้าแก่ตายคือดีสุด แก่ตายไม่น่ากลัว งานศพของคนที่แก่จนเสียชีวตไปเองจะไม่เศร้ามาก แต่งานศพของคนหนุ่ม สาว จะเศร้ามากๆ เพราะคนร่วมงานจะรู้สึกว่ายังไม่สมควร ยังไม่ถึงเวลา บางคนในหนังซอมบี้ถึงเลือกจะฆ่าตัวตาย เพราะมันอาจจะรู้สึกดีกว่าที่จะตายไปโดยที่กำลังถูกซอมบี้กำลังเขมือบอวัยวะภายในของเรา
หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีฉากฆ่าตัวตาย แบบเอาปืนจ่อหัว่ แต่หลายฉากมีฉาก ฆ่าตัวตายแบบ "เสียสละชีวิต" ให้คนอื่นรอด แต่ฉากที่พีคที่สุดคือฉากที่พระเอกเสียสละชีวิต ตอนท้ายเรื่อง ดูแล้วความตายไม่ได้น่ากลัวสำหรับพระเอกที่ยอมเสี่ยงช่วยลูก หรือช่วยหลายๆ คนตลอดเรื่อง แต่ที่น่ากลัวคือเมื่อพระเอกเห็นหน้าลูก แล้วคิดต่อ ลูกจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีเรา? ตอนตัดสินใจตายคงไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร แต่พอเห็นหน้าลูกแล้ว ก็คงกลัวที่จะไม่ได้เห็นใบหน้าของคนที่สำคัญที่สุดของเราอีกแล้ว
4. ต่อให้เป็นคนฉลาด หรือใช้โลจิกแค่ไหน สุดท้ายก็แพ้อารมณ์ได้อยู่ดี >> อันนี้ต่อจากข้อบนเลยคือ ฉากเดียวกันที่พระเอกตัดสินใจยอมสละชีวิต คือฉากนี้เดาไม่ยากมาก มีเดธแฟล็กปักพระเอกอยู่แล้วตอนที่กลับมาเป็นคนดี สัญญาจะอยู่กับลูกตลอดเวลา แล้วยิ่งปักมิดด้ามตอนโดนกัด คือลองคิดว่าถ้าเราเป็นพระเอกที่เป็นคนโลจิกสูงมาก คิดด้วยสมองมันจะง่ายมาก โดนกัด = ตาย (ในอีก 2-3 นาที) เพราะงั้นโดนกัดแล้วก็เตรียมฆ่าตัวตาย ใช้เวลาที่เหลือทำให้คนอื่นรอดให้ได้มากสุด
แต่คิดด้วยสมองมันง่ายมาก ฉากที่พระเอกตัดสินใจจะตาย พระเอกไม่ได้ออกอาการเศร้า หรือกลัวเลย แต่พอลูกสาวกุมมือไว้ ร้องไห้ ตะโกนขอร้องไม่ให้พระเอกฆ่าตัวตาย อารมณ์ของพระเอกจะมาทันที จากที่ไม่เศร้า ไม่กลัว กลายเป็นบ่อน้ำตาแตก ความกลัว ความเศร้ามาหมด
ถ้าเป็นเราล่ะ? ถึงเรายินยอมพร้อมใจจะตายแค่ไหน แต่ถ้าเราต้องตายโดยฝืนใจคนที่เรารักล่ะ? แล้วยิ่งมีคนที่เรารักมายืนร้องไห้อ้อนวอนไม่ให้เราทำล่ะ? ฉากในหนังนี้มันชัดเจนว่า มีแต่การสละชีวิตเท่านั้นที่จะทำให้ลูกสาวรอด แต่ถ้ามันไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น หรือถ้าอารมณ์มันบีบคั้นมากกว่านั้น พระเอกอาจพลาด โดย 1. ไม่เลือกที่จะฆ่าตัวตายหรือ 2. ทำใจฆ่าตัวตายไม่ทัน กลายเป็นซอมบี้ไปก่อนก็ได้ (อย่าลืมว่าในสถานการณ์จริงไม่มีนาฬิกาจับเวลา และไม่มีข้อมูลชัดเจนด้วยว่าโดนกัดนานแค่ไหนจะเป็นซอมบี้) หรือ 3. ลังเลจนทำพลาด (พระเอกตกรถไฟตายหลังกลายเป็นซอมบี้แล้ว แต่ถ้าเกิดพลาด คือตั้งใจจะตกลงไป แต่ดันกลายเป็นซอมบี้ก่อนเลยไม่ตกล่ะ?)
5. สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดกับเราจริงๆ ก็คือคนที่เรารัก เพื่อน หรือครอบครัวของเราเอง >> พอสุดท้ายถ้าเกิดเหตุการณ์เหมือนในหนังจริง เราจะห่วงอะไรอย่างอื่นอีก คงไม่มีแล้ว คงห่วงแค่ชีวิตของเรา คนที่เรารัก แล้วก็ครอบครัวเรา จะงาน เงิน รถ บ้าน หรือแม้แต่โลกทั้งใบ คงไม่มีอะไรให้ห่วงแล้ว
คิดกลับกันจากข้อบน มันคงง่ายกว่าถ้าเราเป็นคนที่ถูกกัดแล้วต้องตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ถ้าเราเป็นลูกสาวพระเอกล่ะ? โลกทั้งใบของเด็กน้อยอาจมีแค่ พ่อ แม่ ก็ได้ ในห้วงที่สำคัญที่สุดนั้นเราจะเลือกอะไร? เลือกเอาชีวิตรอด(ปล่อยให้พ่อฆ่าตัวตาย) หรือเลือกที่จะอยู่กับพ่อ และตายไปพร้อมกัน ถ้าใช้สมองคิดคงง่าย พ่อตายไป ก็ยังมีแม่อยู่ แต่ ณ วินาทีนั้นเด็กน้อยคงไม่ทันได้คิด รู้แต่ว่าคนที่สำคัญที่สุดของเรากำลังจะตายไปต่อหน้าต่อตา ส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดในโลกของเรากำลังจะหายไป
ดูจากมุมมองภายนอก เหมือนคนดูอย่างเราๆ อาจง่าย แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่คนที่เรารักที่สุดในโลกอยู่ตรงนั้น ถูกกัด เราอยากจะตายไปพร้อมกับวาระสุดท้ายของเค้า หรือเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่.... ชีวิตแสนสำคัญที่คนที่เรารักยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อให้เราได้อยู่ต่อไป ใช้สมองคิดคงไม่ยาก แต่ถ้าอยู่ในอารมณ์ ณ ตอนนั้น มันคงเลือกไม่ได้ง่ายๆ เลย
Train to Busan รีวิวสั้นๆ กับข้อคิดไม่สั้นที่ได้จากหนัง
หนังมีข้อเสียอยู่บ้างคือ 1. มีฉากเวอร์ แบบไม่ค่อยเรียล 2. หลายฉากพยายามหักมุม แต่บางฉากเดาง่าย 3. ฉากซอมบี้กัดดูซอฟๆ ไปนิด แต่โดยรวมแล้วข้อเสียไม่ทำให้เสียอรรถรสในการรับชม 4. หนังไม่มีฉากใช้ปืนเลย ใครชอบหนังส่องหัวซอมบี้ อาจไม่ชอบ
***ข้างล่างนี้มีสปอยบางส่วน ใครดูแล้ว หรือขี้เกียจไปดูก็อ่านโลดด***
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้