คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
จริง ๆ เนื้อหาของจขกท.ก็มีคำตอบอยู่แล้ว
ที่ทุกครั้งร้านไม่มีปัญหา เพราะจขกท.สั่งอาหารและเครื่องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะพอสม
ทีนี้พอมาสั่งแค่น้ำเปล่าอย่างเดียว มันก็อาจจะขัดกับนโยบายของร้าน หรืออะไรซักอย่างที่เค้าตั้งธงไว้
จะมาอ้างว่าอิ่มแล้วเลยไม่สั่ง ทุกครั้งเคยสั่งมาเยอะแล้ว ครั้งนี้ไม่สั่งไม่ได้หรือไง คงไม่ได้
ที่ทุกครั้งร้านไม่มีปัญหา เพราะจขกท.สั่งอาหารและเครื่องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะพอสม
ทีนี้พอมาสั่งแค่น้ำเปล่าอย่างเดียว มันก็อาจจะขัดกับนโยบายของร้าน หรืออะไรซักอย่างที่เค้าตั้งธงไว้
จะมาอ้างว่าอิ่มแล้วเลยไม่สั่ง ทุกครั้งเคยสั่งมาเยอะแล้ว ครั้งนี้ไม่สั่งไม่ได้หรือไง คงไม่ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 40
อันนี้ขอมาตอบแบบพี่สอนน้องนะ อย่าโกรธล่ะ
คืออยากะบอกว่าถ้า จขกท ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำไม่ถูก แต่มองว่าร้านผิดมารยาท ก็ให้รู้ตัวว่า ณ ตอนนี้ จขกท ได้กลายเป็นคนที่อยู่ในสถานะที่บกพร่องในสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานไปแล้ว ต้องปรับมุมมองและทัศนคติใหม่ด่วนๆเลย
เพราะโดยปกติแล้วคนที่ยังพอมีสามัญสำนึกจะมีหลักๆ สามแบบคือ
1.รู้แต่แรกแล้วว่าไม่ควรทำและเลือกที่จะไม่ทำ
2.รู้ว่าไม่ควรทำแต่เลือกที่จะทำด้วยเหตุผลร้อยแปดแต่เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้จะรู้สึกละอายต่อสิ่งที่ทำ
3.ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกระทำเป็นเรื่องที่ผิด แต่เมื่อถูกท้วงติงและตำหนิก็ยอมรับและละอายต่อสิ่งที่ตนกระทำ
แต่ปัญหาของ จขกท คือ เหมือนจะไม่รู้ว่าไม่ควรทำ และที่สำคัญคือ เมื่อมีคนมาท้วงติงว่ามันผิด ก็เหมือนจะไม่รู้สึกละอายต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำเสียด้วยซ้ำ ซึ่งนี่แหล่ะคือปัญหาที่ต้องแก้ไข ไม่งั้นจะกลายเป็นปัญหาต่อทัศนคติของตัวเองในอนาคตแน่ๆ
คืออยากะบอกว่าถ้า จขกท ไม่รู้สึกว่าตัวเองทำไม่ถูก แต่มองว่าร้านผิดมารยาท ก็ให้รู้ตัวว่า ณ ตอนนี้ จขกท ได้กลายเป็นคนที่อยู่ในสถานะที่บกพร่องในสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานไปแล้ว ต้องปรับมุมมองและทัศนคติใหม่ด่วนๆเลย
เพราะโดยปกติแล้วคนที่ยังพอมีสามัญสำนึกจะมีหลักๆ สามแบบคือ
1.รู้แต่แรกแล้วว่าไม่ควรทำและเลือกที่จะไม่ทำ
2.รู้ว่าไม่ควรทำแต่เลือกที่จะทำด้วยเหตุผลร้อยแปดแต่เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้จะรู้สึกละอายต่อสิ่งที่ทำ
3.ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกระทำเป็นเรื่องที่ผิด แต่เมื่อถูกท้วงติงและตำหนิก็ยอมรับและละอายต่อสิ่งที่ตนกระทำ
แต่ปัญหาของ จขกท คือ เหมือนจะไม่รู้ว่าไม่ควรทำ และที่สำคัญคือ เมื่อมีคนมาท้วงติงว่ามันผิด ก็เหมือนจะไม่รู้สึกละอายต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำเสียด้วยซ้ำ ซึ่งนี่แหล่ะคือปัญหาที่ต้องแก้ไข ไม่งั้นจะกลายเป็นปัญหาต่อทัศนคติของตัวเองในอนาคตแน่ๆ
แสดงความคิดเห็น
(สอบถาม) การซื้อของในร้านแล้วนั่งติวในร้านนานๆที่ไม่มีลูกค้า เจอเจ้าของร้านกดดดันใส่ครับ คาเฟ่แถว 101/2
คือตัวผมเองจ้างติวเตอร์มาสอนโดยนัดนอกสถานที่ โดยได้สถานที่คือคาเฟ่ซอยหน้าบ้าน แถวลาดพร้าว 101/2 (เป็นคาเฟ่ที่มี co-working space ให้เช่าด้วย แต่ผมนั่งแต่ในโซนร้านอาหาร) โดยผมเองซื้อของในร้านเช่น นมสด ข้าวแกงกะหรี่ บลาๆ ต่อมื้อ ก็สั่ง 1-2 อย่าง โดยนั่งครั้งละ 2 ชม โดยประมาณ (ติวเตอร์ปกติสั่งน้ำเปล่าตลอด) คือไม่ได้นั่งฟรี ไม่เคยส่งเสียงดัง ไม่ได้เสียบชารต์อะไรทั้งสิ้น และทุกครั้งที่ไปก็จะไม่ค่อยมีคน (ไปนั่ง 10 ครั้ง ส่วนใหญ่จะไม่มีลูกค้าหรือมีขาจรประมาณ 1 โต้ะ จาก 6-7 โต้ะทุกครั้ง)
แล้ววันนี้ 31/8/59 คือผมทานข้าวมาแล้ว ก็นัดที่ร้านปกติ แล้วผมก็สั่งน้ำเปล่ามา 2 ขวด
จู่ผู้ชายในร้านก็เดินมาที่โต้ะ ก็ถามว่า ไม่สั่งอาหารหรือน้ำเพิ่มเหรอ (ร้อยวันพันปีไม่เคยถาม แปลกแฮะ) เราก็บอกทานอาหารมาแล้ว วันนี้ขอน้ำเปล่า(ปกติสั่งนม กาแฟ ไรว่าไป) ซักพักเขาก็ถามว่าติวใช่ไหม เราบอกใช่ ซักพักเอา co-working space มากางใส่ บลาๆ เนี่ยเช่าห้องติวได้นะ บอกราคาเส็ดสรรพ (ไปนั่งประมาณ 10 ครั้ง ไม่เคยเห็นใครใช้บริการ) คือเราก็รู้ละว่า ไล่ลูกค้านี่หว่า เราก็เหวอพอควร เพราะไม่มีลูกค้าเลยซักคน ดันมาไล่ เราก็เลยเดินไปจ่ายแล้วก็ออก ก่อนออก ผู้ชายเขามาบอกว่า ตอนนี้มีโปรโมชั่น เช่าห้อง 1 ชม ฟรีชา 1 แก้ว(ไล่ลูกค้ายังไม่รู้ตัวอีก)
คือเราไม่รู้ว่า เราทำผิดข้อไหน ในแง่สังคม หรือ เพราะเราไม่ยอมเช่า เลยโดนไล่ออกจากร้านแบบนี้ อยากสอบถามเพื่อนๆว่าเหตุการณ์นี้ มีมุมมองไงบ้างครับ ขอบคุณครับ