(ภาพด้านหน้าที่พักจากเว็บ Booking.com)
Chic Capsule Otel เป็นโฮสเทลแห่งหนึ่งในย่านไชน่าทาวน์ของสิงคโปร์ อาจจะไม่ใช่โฮสเทลที่ราคาถูกที่สุด สำหรับคนที่เน้นราคาประหยัด เราเชื่อว่าโฮสเทลอื่นๆ สามารถให้ราคาที่ดีกว่านี้ ถูกกว่านี้แน่นอน แต่ที่เราเลือกที่นี่ มีเหตุผลดังต่อไปนี้ค่ะ
1 เนื่องจากเราเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว การจะพักโรงแรมที่เป็นห้องส่วนตัวโดนไม่มีคนช่วยหารค่าห้องนั้นค่อนข้างจะลำบากอยู่เหมือนกัน เพราะต้องใช้งบค่อนข้างสูง ถ้าโรงแรมแบบที่ราคาไม่แพง ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในย่านเกลัง ซึ่งสำหรับเราไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ แม้ว่าจะมีหลายท่านยืนยันว่าปลอดภัยก็ตาม
2 หวยก็เลยมาออกที่โฮสเทลแบบห้องหญิงล้วน โดยเราตั้งใจว่าจะพักย่านไชน่าทาวน์ ซึ่งเดินทางค่อนข้างสะดวก มีของกินเยอะ
3 โฮสเทลย่านไชน่าทาวน์เท่าที่ดูรีวิว ดูรูปภาพแล้ว เราซึ่งชอบความเป็นส่วนตัวก็เลยมาถูกใจที่ Chic Capsule Otel นี่แหละค่ะ
(*เพิ่มข้อมูลการจอง ราคานี้สำหรับหนึ่งคน จำนวนสองคืน โดยเราเลือกไปจ่ายเงินกับที่พักโดยตรงค่ะ)
ก่อนไปเราพอจะหารีวิวดูคร่าวๆ แล้ว รีวิวภาษาไทยที่มีก็ดูจะโอเค ส่วนรีวิวใน Trip advisor ก็ดีเหมือนกัน เลยค่อนข้างวางใจ แม้ว่ารูปที่เห็นอาจจะยังไม่เห็นภาพชัดเจนเท่าไหร่ (สำหรับรูปเป็นทางการของที่พักเองเราคิดว่าเขาน่าจะถ่ายให้ดูดีเป็นพิเศษอยู่แล้ว เลยไม่แน่ใจว่าของจริงกับในรูปจะต่างกันมากแค่ไหน)
แม้จะมีความกังวลใจเล็กๆ แต่พอไปถึงแล้วก็พบว่าดีกว่าที่คาดไว้เยอะมากเลยล่ะค่ะ...
First Impression
วันที่เดินทางไปถึงสิงคโปร์เป็นไฟล์ทดึก เราเลยต้องนอนที่สนามบินไปพลางๆ ก่อน จริงๆ ก็นอนไม่ค่อยหลับหรอกค่ะ งีบได้แค่แป๊บเดียวสักชั่วโมงหนึ่งน่าจะได้ เลยลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน กว่าจะเตรียมตัวพร้อมแล้วไปที่รถไฟฟ้าก็น่าจะประมาณหกโมงเช้าเกือบเจ็ดโมง ตอนรถไฟฟ้าออกจากสนามบิน ท้องฟ้าก็ยังมืดสลัว แต่พอไปถึงโฮสเทลที่ไชน่าทาวน์ก็สว่างแล้ว แต่ว่ายังไม่ถึงเวลาเช็ค เราเลยจะไปฝากกระเป๋าแล้วเดินเที่ยวย่านไชน่าทาวน์ตามแผน ช่วงบ่ายก็ค่อยกลับมาอีกที
พอถึงโฮสเทลก็เจอกับหนักงานที่เป็นผู้ชายวัยรุ่นก่อน ต่อมาถึงเจอคุณลุงอีกคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะพบเจอกับทั้งสอง ทุกๆ วันที่พักอยู่ที่นี่ (นอกจากสองคนนี้ก็จะมีพี่ผู้หญิงที่ทำหน้าที่แม่บ้าน กับผู้ชายอีกคนซึ่งเราเห็นแว่บๆ เป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น ที่รู้ว่าเป็น Staff เพราะสวมเสื้อสีดำ พิมพ์ชื่อโฮสเทลเหมือนกันค่ะ)
ทั้งสองให้การต้อนรับแบบดีมาก มีเวลคัมดริ้งเป็นวานิลาไซรัป หรืออะไรสักอย่าง ประมาณแก้วเล็กๆ น่ะค่ะ ดื่มไปอึกสองอึกก็หมด แต่แค่นี้ก็สดชื่นขึ้นมามากเลย แล้วยังถามว่าเราจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม พอเราตกลงก็เอาผ้าขนหนูมาให้ ณ จุดนี้คือปลื้มมากกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) แล้วใช่ไม่ว่าเรากลิ่นตุๆ จนเขาต้องบอกให้อาบน้ำแต่อย่างใดนะ 5555 เพราะคนอื่นเขาก็ถามค่ะ มีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เดินทางมาถึงก่อน เขาก็ขึ้นไปอาบน้ำเช่นกัน
อาบน้ำสบายตัวสบายใจแล้ว ก็ฝากกระเป๋าไว้ก่อนจะไปเดินเที่ยวย่านไชน่าทาวน์ เดินจนขาลาก กลับมาอีกทีตอนเวลาเช็คอิน ที่นอนของเราในช่วงระยะเวลาสองคืนสามวันที่สิงคโปร์นี้ก็พร้อมแล้วค่ะ
ห้องพัก
ตอนขึ้นมาใหม่ๆ พนักงานก็จะแนะนำเรื่องต่างๆ ให้ฟัง มีสายรัดข้อมือที่ฝังชิพไว้ ตัวนี้จะใช้สแกนผ่านประตูห้อง และตู้เซฟเก็บของสำคัญใต้เตียงด้วยค่ะ ตรงที่นอนมีม่านเลื่อนขึ้น-ลง เพื่อความเป็นส่วนตัว มีทีวีส่วนตัว ต้องใช้หูฟังเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนคนอื่น ซึ่งทีวีเนี่ยดีงามมาก เราใช้เปิดยูทูปดูละครไทยได้ด้วย ช่วงนั้นเจ้าบ้านเจ้าเรือนออนแอร์ ก็เปิดดูที่มันเป็นคลิปย้อนหลัง เห็นหน้าพี่ติ๊กแล้วก็รู้สึกอุ่นใจ เหมือนไม่ได้อยู่ต่างประเทศเลยค่ะ 555
ว่าด้วยเรื่องของที่นอน เห็นรีวิวแบบผ่านๆ ตาว่าที่นอนมันยุบ พอไปก็เป็นจริงๆ อย่างเขาว่าค่ะ คือมันจะเป็นแอ่งนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเรามาก แค่อยากบอกเผื่อไว้ก่อนนะคะ อันนี้เป็นข้อเสียอย่างเดียว ท่ามกลางข้อดีนับสิบๆ ข้อ
แม้แคปซูลนอนมันจะเป็นแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วค่อนข้างกว้าง ไม่อึดอัดคับแคบแต่อย่างใด นอนหลับสบายมากเลยค่ะ และคงเพราะเป็นห้องผู้หญิงด้วย เลยไม่ค่อยมีเสียงรบกวน ทุกคนอยู่กันอย่างสงบ ยกเว้นตอนเช้าที่แต่ละคนจะเริ่มตื่น มีเสียงเก็บกระเป๋าอะไรบ้าง
ภายในห้องจะเปิดแอร์เอาไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แม้ว่าจะไม่มีคนอยู่ก็ตาม เรางี้แอบเสียดายค่าไฟแทนเลยค่ะ แต่ก็นั่นแหละ พอตอนบ่ายอากาศร้อนจัดเราก็เลยกลับมาสูดแอร์ในห้องให้สดชื่นสักพักหนึ่ง แล้วค่อยออกไปเที่ยวต่อก็ช่วยได้เยอะเลย เพราะช่วงนั้นอากาศร้อนมากจริงๆ
ห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ
ทางโฮสเทลจะมีผ้าขนหนูให้ใช้ฟรีนะคะ ชั้นสองจะเป็นห้องพักหญิง ซึ่งตรงส่วนนี้จะมีห้องน้ำให้หนึ่งห้องค่ะ มีประตูกั้นไว้คนอื่นจะเข้ามาใช้ไม่ได้ ส่วนด้านนอกจะเป็นห้องน้ำรวมชายหญิง ห้องอาบน้ำมีไม่มาก ในเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องรอนิดหนึ่ง แต่สำหรับเราไม่ลำบากเลยค่ะ เพราะถ้าห้องน้ำผู้หญิงไม่ว่างเราก็จะมาอาบข้างนอก สลับกันไปมาแล้วแต่โอกาส ไม่เคยต้องรอนานสักครั้ง (จริงๆ คือตื่นสายด้วยแหละ คงจะผ่านพ้นช่วงที่มันชุลมุนๆ ไปแล้ว แหะๆ)
(ในรูปถ่ายจากห้องน้ำของห้องพักหญิงล้วน อีกฝั่งของห้องจะเป็นฝักบัวอาบน้ำ และอ่างล้างหน้า รวมอยู่ในห้องเดียว ส่วนห้องน้ำรวมด้านนอกไม่ได้ถ่ายมานะคะ พอดีตอนนั้นมีคนใช้อยู่ ก็ไม่ต่างกันมาก)
อาหารเช้า
สำหรับตอนเช้าที่นี่มีอาหารรวมอยู่ในค่าห้องพักแล้วนะ ซึ่งก็เป็นแซนวิชที่ค่อนข้างดูดี ตอนเราไปก็จะมีแซนวิชทูน่า ส่วนอีกวันเป็นแซนวิชแฮมชีส แต่ละวันก็จะมีผลไม้ พร้อมกับชาหรือกาแฟตามแต่เราจะเลือกค่ะ สำหรับสิงคโปร์ดินแดนที่อะไรก็ค่อนข้างแพงแล้ว อาหารเช้าของที่นี่ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่พักเลยค่ะ แถมแซนวิชยังอร่อยมากๆ ด้วย ดูใส่ใจ เพราะปกติแล้วโฮสเทลมักจะมีแค่ขนมปังปิ้ง ทาแยมหรือเนย กับกาแฟเท่านั้นเอง
ระหว่างที่อยู่สิงคโปร์เราเลยแทบไม่ต้องจ่ายค่าอาหารมื้อเช้าเลย นอกจากวันแรกที่ไปถึงเท่านั้นเองค่ะ
ความรู้สึกโดยรวมต่อโฮสเทล
ที่พักดีงาม ทำเลที่ตั้งเหมาะสม แต่อีกอย่างหนึ่งที่เราประทับใจก็คือ Staff ของโฮสเทล...
เอาจริงๆ อยู่ที่นี่เหมือนพักอยู่บ้านญาติเลยค่ะ
นอกจากพวกเขาจะคอยให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ และยินดี เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ หรือร้องขออะไรแล้ว ที่เราชอบคือทุกเช้าเวลาเจอหน้ากันก็จะพูด Good morning เจอตอนค่ำก่อนนอนก็ Good night ทุกครั้งที่เรากลับมาจากการเดินทางท่องเที่ยว พวกเขาก็จะกล่าว Welcome back อะไรประมาณนี้ ซึ่งตอนแรกเราก็ยังไม่ค่อยชินนะ แต่พอตอนหลัง กลับมาพักโฮสเทลที่กรุงเทพก็ยังลืมตัว เกือบจะมอนิ่งก็หลายทีหลายหน
ชอบคุณลุงที่คอยช่วยอย่างกระตือรือร้น ทุกเช้าจะช่วยกรอกน้ำใส่ขวดน้ำดื่มสำหรับพกติดตัว ตามคำร้องขอของเราอย่างเต็มใจให้ เราเอาไว้ดื่มระหว่างวันทำให้ประหยัดค่าน้ำไปได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ ที่ประทับใจสุดๆ ก็คงจะเป็นวันกลับ หลังจากกลับมารับกระเป๋าแล้วจะเดินทางไปสนามบิน ช่วงนั้นฝนตกปรอยๆ ถึงแม้จะมีร่มอยู่ในกระเป๋าแต่มันก็อยู่ลึกและขี้เกียจค้น เราเลยจะเดินฝ่าฝนไปทั้งอย่างนั้น เพราะคิดว่าทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าก็อยู่ไม่ไกลนี่เอง เดินข้ามถนนแล้วก็ลัดเลาะไปตามทางเดินซึ่งมีหลังคากันฝนแบบนี้ สบายมาก แต่ลุงก็ยังเป็นห่วง นึกว่าเราไม่มีร่มเลยจะเอาร่มมาให้ บอกเราว่าไม่ต้องคืนหรอก เอาไปเถอะ ฯลฯ จนเราต้องค้นร่มคันเล็กในกระเป๋าออกมากางแกถึงจะวางใจ
Staff ของที่นี่เลยกลายเป็นเรื่องประทับใจอีกอย่างของทริปนี้เลยทีเดียวค่ะ
อ้อ นอกจากนี้ยังมีบริการรถส่งสนามบินฟรีด้วยนะคะ แต่มีเฉพาะขากลับ วันละเที่ยว เวลาน่าจะประมาณสามหรือสี่โมงเย็นนี่แหละค่ะ ลองเช็คดูอีกที ถ้าต้องการใช้บริการต้องจองวันที่จะเดินทางกลับ เพราะมีจำนวนที่นั่งจำกัดค่ะ พอดีเวลาไม่ตรงกับที่เราจะกลับเลยไม่ได้ลอง
สุดท้ายนี้...สำหรับคนที่กำลังมองหาโฮสเทลในสิงคโปร์ ย่านไชน่าทาวน์ที่แสนคึกคัก เต็มไปด้วยร้านอาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยว และร้านขายของฝาก ต้องการพี่พักราคาไม่แพง แต่ให้ความเป็นส่วนตัว คุ้มค่าคุ้มราคา เราว่า Chic Capsule Otel ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างหนึ่งนะคะ
ปล.รีวิวนี้เกิดขึ้นจากการไปพักด้วยเงินของเราเอง ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางที่พักแต่อย่างใด
รูปไม่ค่อยมี สาระก็ยิ่งไม่มีใหญ่เลย มีแต่น้ำๆ ไม่มีเนื้อสักเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณที่รับชมค่ะ
.........................................................
หากใครรู้สึกชอบและอยากติดตาม หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โตแล้วจะเที่ยวยังไงก็ได้
https://www.facebook.com/woman.can.go.anywhere
'กระทู้เกี่ยวกับสิงคโปร์ที่ผ่านมา...'
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(Singapore) 7 ร้าน 15 เมนู ร้านไหนฟิน ร้านไหนเฟล มาดูกัน
http://ppantip.com/topic/35481633
กระทู้อื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้HK 2 Time รีวิวของกินราคาประหยัดในฮ่องกง 14 ร้าน (+ของกินเล่น) ร้านไหนฟินร้านไหนเฟล มาดูกัน
http://ppantip.com/topic/34698258
With Metta: Tsz Shan Monastery เที่ยววัดเจ้าแม่กวนอิมแห่งใหม่ แล้วคุณจะหลงรักแถบชานเมืองฮ่องกง
http://ppantip.com/topic/34191093
รีวิว Ah Shan hostel @ Sincere House Building, Mongkok, Hongkong
http://ppantip.com/topic/35052091
ชวนไปไหว้พระ 7 วัดที่ฮ่องกง เอาให้อิ่มบุญหนักๆ กันไปเลย
http://ppantip.com/topic/35089767
[CR] รีวิวโฮสเทลในสิงคโปร์ Chic Capsule Otel
(ภาพด้านหน้าที่พักจากเว็บ Booking.com)
Chic Capsule Otel เป็นโฮสเทลแห่งหนึ่งในย่านไชน่าทาวน์ของสิงคโปร์ อาจจะไม่ใช่โฮสเทลที่ราคาถูกที่สุด สำหรับคนที่เน้นราคาประหยัด เราเชื่อว่าโฮสเทลอื่นๆ สามารถให้ราคาที่ดีกว่านี้ ถูกกว่านี้แน่นอน แต่ที่เราเลือกที่นี่ มีเหตุผลดังต่อไปนี้ค่ะ
1 เนื่องจากเราเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว การจะพักโรงแรมที่เป็นห้องส่วนตัวโดนไม่มีคนช่วยหารค่าห้องนั้นค่อนข้างจะลำบากอยู่เหมือนกัน เพราะต้องใช้งบค่อนข้างสูง ถ้าโรงแรมแบบที่ราคาไม่แพง ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในย่านเกลัง ซึ่งสำหรับเราไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ แม้ว่าจะมีหลายท่านยืนยันว่าปลอดภัยก็ตาม
2 หวยก็เลยมาออกที่โฮสเทลแบบห้องหญิงล้วน โดยเราตั้งใจว่าจะพักย่านไชน่าทาวน์ ซึ่งเดินทางค่อนข้างสะดวก มีของกินเยอะ
3 โฮสเทลย่านไชน่าทาวน์เท่าที่ดูรีวิว ดูรูปภาพแล้ว เราซึ่งชอบความเป็นส่วนตัวก็เลยมาถูกใจที่ Chic Capsule Otel นี่แหละค่ะ
(*เพิ่มข้อมูลการจอง ราคานี้สำหรับหนึ่งคน จำนวนสองคืน โดยเราเลือกไปจ่ายเงินกับที่พักโดยตรงค่ะ)
ก่อนไปเราพอจะหารีวิวดูคร่าวๆ แล้ว รีวิวภาษาไทยที่มีก็ดูจะโอเค ส่วนรีวิวใน Trip advisor ก็ดีเหมือนกัน เลยค่อนข้างวางใจ แม้ว่ารูปที่เห็นอาจจะยังไม่เห็นภาพชัดเจนเท่าไหร่ (สำหรับรูปเป็นทางการของที่พักเองเราคิดว่าเขาน่าจะถ่ายให้ดูดีเป็นพิเศษอยู่แล้ว เลยไม่แน่ใจว่าของจริงกับในรูปจะต่างกันมากแค่ไหน)
แม้จะมีความกังวลใจเล็กๆ แต่พอไปถึงแล้วก็พบว่าดีกว่าที่คาดไว้เยอะมากเลยล่ะค่ะ...
First Impression
วันที่เดินทางไปถึงสิงคโปร์เป็นไฟล์ทดึก เราเลยต้องนอนที่สนามบินไปพลางๆ ก่อน จริงๆ ก็นอนไม่ค่อยหลับหรอกค่ะ งีบได้แค่แป๊บเดียวสักชั่วโมงหนึ่งน่าจะได้ เลยลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน กว่าจะเตรียมตัวพร้อมแล้วไปที่รถไฟฟ้าก็น่าจะประมาณหกโมงเช้าเกือบเจ็ดโมง ตอนรถไฟฟ้าออกจากสนามบิน ท้องฟ้าก็ยังมืดสลัว แต่พอไปถึงโฮสเทลที่ไชน่าทาวน์ก็สว่างแล้ว แต่ว่ายังไม่ถึงเวลาเช็ค เราเลยจะไปฝากกระเป๋าแล้วเดินเที่ยวย่านไชน่าทาวน์ตามแผน ช่วงบ่ายก็ค่อยกลับมาอีกที
พอถึงโฮสเทลก็เจอกับหนักงานที่เป็นผู้ชายวัยรุ่นก่อน ต่อมาถึงเจอคุณลุงอีกคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้เราก็จะพบเจอกับทั้งสอง ทุกๆ วันที่พักอยู่ที่นี่ (นอกจากสองคนนี้ก็จะมีพี่ผู้หญิงที่ทำหน้าที่แม่บ้าน กับผู้ชายอีกคนซึ่งเราเห็นแว่บๆ เป็นบางครั้งบางคราวเท่านั้น ที่รู้ว่าเป็น Staff เพราะสวมเสื้อสีดำ พิมพ์ชื่อโฮสเทลเหมือนกันค่ะ)
ทั้งสองให้การต้อนรับแบบดีมาก มีเวลคัมดริ้งเป็นวานิลาไซรัป หรืออะไรสักอย่าง ประมาณแก้วเล็กๆ น่ะค่ะ ดื่มไปอึกสองอึกก็หมด แต่แค่นี้ก็สดชื่นขึ้นมามากเลย แล้วยังถามว่าเราจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม พอเราตกลงก็เอาผ้าขนหนูมาให้ ณ จุดนี้คือปลื้มมากกกกก (ก.ไก่ล้านตัว) แล้วใช่ไม่ว่าเรากลิ่นตุๆ จนเขาต้องบอกให้อาบน้ำแต่อย่างใดนะ 5555 เพราะคนอื่นเขาก็ถามค่ะ มีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เดินทางมาถึงก่อน เขาก็ขึ้นไปอาบน้ำเช่นกัน
อาบน้ำสบายตัวสบายใจแล้ว ก็ฝากกระเป๋าไว้ก่อนจะไปเดินเที่ยวย่านไชน่าทาวน์ เดินจนขาลาก กลับมาอีกทีตอนเวลาเช็คอิน ที่นอนของเราในช่วงระยะเวลาสองคืนสามวันที่สิงคโปร์นี้ก็พร้อมแล้วค่ะ
ห้องพัก
ตอนขึ้นมาใหม่ๆ พนักงานก็จะแนะนำเรื่องต่างๆ ให้ฟัง มีสายรัดข้อมือที่ฝังชิพไว้ ตัวนี้จะใช้สแกนผ่านประตูห้อง และตู้เซฟเก็บของสำคัญใต้เตียงด้วยค่ะ ตรงที่นอนมีม่านเลื่อนขึ้น-ลง เพื่อความเป็นส่วนตัว มีทีวีส่วนตัว ต้องใช้หูฟังเพื่อไม่ให้เสียงรบกวนคนอื่น ซึ่งทีวีเนี่ยดีงามมาก เราใช้เปิดยูทูปดูละครไทยได้ด้วย ช่วงนั้นเจ้าบ้านเจ้าเรือนออนแอร์ ก็เปิดดูที่มันเป็นคลิปย้อนหลัง เห็นหน้าพี่ติ๊กแล้วก็รู้สึกอุ่นใจ เหมือนไม่ได้อยู่ต่างประเทศเลยค่ะ 555
ว่าด้วยเรื่องของที่นอน เห็นรีวิวแบบผ่านๆ ตาว่าที่นอนมันยุบ พอไปก็เป็นจริงๆ อย่างเขาว่าค่ะ คือมันจะเป็นแอ่งนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเรามาก แค่อยากบอกเผื่อไว้ก่อนนะคะ อันนี้เป็นข้อเสียอย่างเดียว ท่ามกลางข้อดีนับสิบๆ ข้อ
แม้แคปซูลนอนมันจะเป็นแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วค่อนข้างกว้าง ไม่อึดอัดคับแคบแต่อย่างใด นอนหลับสบายมากเลยค่ะ และคงเพราะเป็นห้องผู้หญิงด้วย เลยไม่ค่อยมีเสียงรบกวน ทุกคนอยู่กันอย่างสงบ ยกเว้นตอนเช้าที่แต่ละคนจะเริ่มตื่น มีเสียงเก็บกระเป๋าอะไรบ้าง
ภายในห้องจะเปิดแอร์เอาไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แม้ว่าจะไม่มีคนอยู่ก็ตาม เรางี้แอบเสียดายค่าไฟแทนเลยค่ะ แต่ก็นั่นแหละ พอตอนบ่ายอากาศร้อนจัดเราก็เลยกลับมาสูดแอร์ในห้องให้สดชื่นสักพักหนึ่ง แล้วค่อยออกไปเที่ยวต่อก็ช่วยได้เยอะเลย เพราะช่วงนั้นอากาศร้อนมากจริงๆ
ห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำ
ทางโฮสเทลจะมีผ้าขนหนูให้ใช้ฟรีนะคะ ชั้นสองจะเป็นห้องพักหญิง ซึ่งตรงส่วนนี้จะมีห้องน้ำให้หนึ่งห้องค่ะ มีประตูกั้นไว้คนอื่นจะเข้ามาใช้ไม่ได้ ส่วนด้านนอกจะเป็นห้องน้ำรวมชายหญิง ห้องอาบน้ำมีไม่มาก ในเวลาเร่งด่วนอาจจะต้องรอนิดหนึ่ง แต่สำหรับเราไม่ลำบากเลยค่ะ เพราะถ้าห้องน้ำผู้หญิงไม่ว่างเราก็จะมาอาบข้างนอก สลับกันไปมาแล้วแต่โอกาส ไม่เคยต้องรอนานสักครั้ง (จริงๆ คือตื่นสายด้วยแหละ คงจะผ่านพ้นช่วงที่มันชุลมุนๆ ไปแล้ว แหะๆ)
(ในรูปถ่ายจากห้องน้ำของห้องพักหญิงล้วน อีกฝั่งของห้องจะเป็นฝักบัวอาบน้ำ และอ่างล้างหน้า รวมอยู่ในห้องเดียว ส่วนห้องน้ำรวมด้านนอกไม่ได้ถ่ายมานะคะ พอดีตอนนั้นมีคนใช้อยู่ ก็ไม่ต่างกันมาก)
อาหารเช้า
สำหรับตอนเช้าที่นี่มีอาหารรวมอยู่ในค่าห้องพักแล้วนะ ซึ่งก็เป็นแซนวิชที่ค่อนข้างดูดี ตอนเราไปก็จะมีแซนวิชทูน่า ส่วนอีกวันเป็นแซนวิชแฮมชีส แต่ละวันก็จะมีผลไม้ พร้อมกับชาหรือกาแฟตามแต่เราจะเลือกค่ะ สำหรับสิงคโปร์ดินแดนที่อะไรก็ค่อนข้างแพงแล้ว อาหารเช้าของที่นี่ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่พักเลยค่ะ แถมแซนวิชยังอร่อยมากๆ ด้วย ดูใส่ใจ เพราะปกติแล้วโฮสเทลมักจะมีแค่ขนมปังปิ้ง ทาแยมหรือเนย กับกาแฟเท่านั้นเอง
ระหว่างที่อยู่สิงคโปร์เราเลยแทบไม่ต้องจ่ายค่าอาหารมื้อเช้าเลย นอกจากวันแรกที่ไปถึงเท่านั้นเองค่ะ
ความรู้สึกโดยรวมต่อโฮสเทล
ที่พักดีงาม ทำเลที่ตั้งเหมาะสม แต่อีกอย่างหนึ่งที่เราประทับใจก็คือ Staff ของโฮสเทล...
เอาจริงๆ อยู่ที่นี่เหมือนพักอยู่บ้านญาติเลยค่ะ
นอกจากพวกเขาจะคอยให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ และยินดี เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ หรือร้องขออะไรแล้ว ที่เราชอบคือทุกเช้าเวลาเจอหน้ากันก็จะพูด Good morning เจอตอนค่ำก่อนนอนก็ Good night ทุกครั้งที่เรากลับมาจากการเดินทางท่องเที่ยว พวกเขาก็จะกล่าว Welcome back อะไรประมาณนี้ ซึ่งตอนแรกเราก็ยังไม่ค่อยชินนะ แต่พอตอนหลัง กลับมาพักโฮสเทลที่กรุงเทพก็ยังลืมตัว เกือบจะมอนิ่งก็หลายทีหลายหน
ชอบคุณลุงที่คอยช่วยอย่างกระตือรือร้น ทุกเช้าจะช่วยกรอกน้ำใส่ขวดน้ำดื่มสำหรับพกติดตัว ตามคำร้องขอของเราอย่างเต็มใจให้ เราเอาไว้ดื่มระหว่างวันทำให้ประหยัดค่าน้ำไปได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ ที่ประทับใจสุดๆ ก็คงจะเป็นวันกลับ หลังจากกลับมารับกระเป๋าแล้วจะเดินทางไปสนามบิน ช่วงนั้นฝนตกปรอยๆ ถึงแม้จะมีร่มอยู่ในกระเป๋าแต่มันก็อยู่ลึกและขี้เกียจค้น เราเลยจะเดินฝ่าฝนไปทั้งอย่างนั้น เพราะคิดว่าทางเข้าสถานีรถไฟฟ้าก็อยู่ไม่ไกลนี่เอง เดินข้ามถนนแล้วก็ลัดเลาะไปตามทางเดินซึ่งมีหลังคากันฝนแบบนี้ สบายมาก แต่ลุงก็ยังเป็นห่วง นึกว่าเราไม่มีร่มเลยจะเอาร่มมาให้ บอกเราว่าไม่ต้องคืนหรอก เอาไปเถอะ ฯลฯ จนเราต้องค้นร่มคันเล็กในกระเป๋าออกมากางแกถึงจะวางใจ
Staff ของที่นี่เลยกลายเป็นเรื่องประทับใจอีกอย่างของทริปนี้เลยทีเดียวค่ะ
อ้อ นอกจากนี้ยังมีบริการรถส่งสนามบินฟรีด้วยนะคะ แต่มีเฉพาะขากลับ วันละเที่ยว เวลาน่าจะประมาณสามหรือสี่โมงเย็นนี่แหละค่ะ ลองเช็คดูอีกที ถ้าต้องการใช้บริการต้องจองวันที่จะเดินทางกลับ เพราะมีจำนวนที่นั่งจำกัดค่ะ พอดีเวลาไม่ตรงกับที่เราจะกลับเลยไม่ได้ลอง
สุดท้ายนี้...สำหรับคนที่กำลังมองหาโฮสเทลในสิงคโปร์ ย่านไชน่าทาวน์ที่แสนคึกคัก เต็มไปด้วยร้านอาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยว และร้านขายของฝาก ต้องการพี่พักราคาไม่แพง แต่ให้ความเป็นส่วนตัว คุ้มค่าคุ้มราคา เราว่า Chic Capsule Otel ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างหนึ่งนะคะ
ปล.รีวิวนี้เกิดขึ้นจากการไปพักด้วยเงินของเราเอง ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางที่พักแต่อย่างใด
รูปไม่ค่อยมี สาระก็ยิ่งไม่มีใหญ่เลย มีแต่น้ำๆ ไม่มีเนื้อสักเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณที่รับชมค่ะ
.........................................................
หากใครรู้สึกชอบและอยากติดตาม หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
'กระทู้เกี่ยวกับสิงคโปร์ที่ผ่านมา...'
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระทู้อื่นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้