สวัสดีครับ วันนี้จะมาพูดถึงประสบการณ์ และตั้งปัญหาให้ตอบกันว่า การเรียนสายอาชีพกับสายสามัญอันไหนดีกว่า เข้าเรื่องเลยละกันนะครับ สำหรับผมอยู่ รร. ชายล้วยพอหลังจบ ม.3 ก็เลือกลงต่อ รร. เดิม ม.ปลาย ก็เริ่มเรียนมา ม.4 ก็เรียนไปปกติ พอขึ้น ม.5 ซึ่ง รร. ผมต้องการคณะกรรมการนักเรียน ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่ค่อยจะมีคนลงสมัคร แนะนำก่อนคณะกรรมการนักเรียนรวมตั้งแต่ ประธานนักเรียน รองประธาน 3 ฝ่าย และประธานคณะสี ก็เขาจะเลือกไว้ตั้งแต่ ม.4 เพื่อขึ้นทำงาน ม.5 อาจารย์บอกมาต้องได้ 5 คน ลุกไป 2 คน นานมาก ผมเลยเอาก็เอาวะลุกไป ได้คะแนนอันดับ 2 ของสี หลังจากนั้น รร. ก็มีกิจกรรมมากมาย ซึ่งพวกนี้หล่ะต้องคอยทำซึ่งเทอม 2 ทุกปีจะมีกิจกรรมแข่งขันกระชับมิตร 6 รร. ก็ในเมื่อมาทางนี้ก็ต้องทำให้สุด ตอนช่วงแรกกิจกรรมนั้นผมก็นั่งทาสี ปาดสีป้าย แล้ววันนึงมีคนวิ่งมาบอกต้องการ 1 คนไปเป็นหลีด เพราะหลีดที่เต้นอยู่ เข่าผลิก ข้อหลุดรึป่าวไม่แน่ใจ ผมก็คิดละมันคงไม่มีใครไปแน่ ผมเลยไปเอง ต้องตามท่าให้ทันคนอื่นต้องฝึกหนักกว่า พอถึงวันแข่งที่ รร. ย่านอุดมสุข ผมนี่ปิดท้ายได้สูงมาก 5555 (ปีนไปบนเสา 2.5 เมตรได้มั่ง) ก็จบไปด้วยดี พอมา ม.6 เราก็มัวแต่ทำกิจกรรม ไม่นึกถึงเรื่องเรียนทำให้เรียนไม่รู้เรื่อง ยกเว้นอังกฤษ (พ่อเคร่งครัด) ละก็มากิจกรรมอีกครั้งแต่ ครั้งนี้เราไม่ต้องทำ ม.5 ต้องทำ ซึ่งก็แน่นอนกลับไปช่วยน้อง เพราะน้องทำไม่กี่คน และไม่ได้เรื่อง ก็ต้องไปทำเพื่อ รร. แหละ
แต่ครั้งนี้ไม่ได้เป็นหลีด ผมมาตีกลองแทน ก่อนวันแข่ง เราต้องไปติดป้ายจัดแสตน ผมก็ไปกับเพื่อนๆ และต้องตอกนู้น ตอกนี้ แต่ป้ายดันหลุมต้องมีคนขึ้นไปตอกติดกับต้นไม้ มองหน้ากันแล้วไม่มีใครกล้า ผมเลยขึ้นเอง ระหว่างนั้นกิ่งไม้หัก ทำให้ผมหล่นดิ่ง หัวกระแทกพื้น เข้า รพ. ต้องผ่าตัด เลือดคลั่งสมอง พอผ่าเสร็จก็ทำอะไรไม่ได้แบบเดิม ไม่สมดุลและหยุดเรียนยาว 3 เดือนแข่ง ธ.ค. ไปเรียน ก.พ. ไปเรียนไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างมีแต่อังกฤษที่นึกออก ระหว่างนั้นก็เริ่มคิดและ ว่าเราคงเข้ามหาลัยไม่ได้แน่ เพราะเกรดต่ำ เดินผ่านห้องแนะแนวไปเห็นป้ายแสดงว่านักเรียนเก่าติดที่ไหน ละมองไปเห็น รุ่นพี่คนนึงต่อ mercedes benz เราก็หาเขาในเฟส และสอบถาม พี่ก็บอกเป็น ปวส. ช่างยนต์ เราก็ชื่นชอบรถในระดับนึงเลยจะไปมั่ง พ่อพาไปถึงวิทยาลัยบอก ช่างยนต์เต็มแล้ว ที่คิดมามันหายไปหมด คิดเต็มหัวไปไหนดีๆ ละสักพักมีพี่คนนึงมาติดต่อรับใบจบ เห็นเราถือใบเลือกแผนก เขาแนะว่าช่างเขียนแบบก็ดีนะ เรียนง่าย ผมหันไปมองหน้าพ่อ พ่อบอกเอาเลย (พ่อจบ ป.ตรี วิศวกรโยธา) ไหนๆ ละเอาอันนี้แหละ พอได้เริ่มเรียน ได้รู้อย่างแรกทุกแผนก ทั้งช่างยนต์ ช่างก่อสร้าง งานเกี่ยวข้องกันหมด อย่างช่างยนต์ ประกอบอะไหล่รถ ก็แผนกผมต้องเขียนแบบไป ละส่งแบบไปให้เขาทำ เป็นต้น
เท่าที่เริ่มเรียนมา อาชีวะเรียนปฏิบัติ แทบทุกวัน แล้ววิชาทุกวิชาต้องใช้ในการเขียนแบบหมด วัดขนาดอะไหล่ก็ยังต้องใช้แคลคูลัส มีวิชาเครื่องกลัด แล้วมีอาจารย์คนนึงบอกถ้าเรียนได้เข้าใจ และทำเป็น ชาตินี้ไม่มีวันอดตาย ซึ่งก็คงจริง อะเล่าจบละถ้าถามตัวเองว่าสายไหนดีกว่า มันก็ดีทั้งคู่แต่คนละด้าน อย่างอาชีวะวิชาอังกฤษที่เจอมา เพื่อนแต่ละคนทำไม่ค่อยได้ เราก็รู้ได้ว่า พวกนี้เขาไม่ค่อยเก่ง แต่เขาเน้นทำงาน ละเป็นจริงๆ จัง ส่วนสามัญ ก็แน่นเรื่องวิชาและยัดๆ ทุกอย่างเข้าหัวเด็กบางคนรับได้ ก็ดี แต่บางคนไม่ไหว ลาออกก็มี นี่แหละข้อเสียของสามัญส่วนอาขีวะก็กล่าวไปข้างต้น นั่นแหละครับ ที่ผมได้เจอและประสบมา ส่วนผมถ้าจบ ปวส. ก็ไปต่อ ป.ตรี ครับ ใครจะคิดอย่างไหนมาแชร์ความเห็นกันได้นะครับ ขอบคุณครับ
สายสามัญ และสายอาชีพ
แต่ครั้งนี้ไม่ได้เป็นหลีด ผมมาตีกลองแทน ก่อนวันแข่ง เราต้องไปติดป้ายจัดแสตน ผมก็ไปกับเพื่อนๆ และต้องตอกนู้น ตอกนี้ แต่ป้ายดันหลุมต้องมีคนขึ้นไปตอกติดกับต้นไม้ มองหน้ากันแล้วไม่มีใครกล้า ผมเลยขึ้นเอง ระหว่างนั้นกิ่งไม้หัก ทำให้ผมหล่นดิ่ง หัวกระแทกพื้น เข้า รพ. ต้องผ่าตัด เลือดคลั่งสมอง พอผ่าเสร็จก็ทำอะไรไม่ได้แบบเดิม ไม่สมดุลและหยุดเรียนยาว 3 เดือนแข่ง ธ.ค. ไปเรียน ก.พ. ไปเรียนไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างมีแต่อังกฤษที่นึกออก ระหว่างนั้นก็เริ่มคิดและ ว่าเราคงเข้ามหาลัยไม่ได้แน่ เพราะเกรดต่ำ เดินผ่านห้องแนะแนวไปเห็นป้ายแสดงว่านักเรียนเก่าติดที่ไหน ละมองไปเห็น รุ่นพี่คนนึงต่อ mercedes benz เราก็หาเขาในเฟส และสอบถาม พี่ก็บอกเป็น ปวส. ช่างยนต์ เราก็ชื่นชอบรถในระดับนึงเลยจะไปมั่ง พ่อพาไปถึงวิทยาลัยบอก ช่างยนต์เต็มแล้ว ที่คิดมามันหายไปหมด คิดเต็มหัวไปไหนดีๆ ละสักพักมีพี่คนนึงมาติดต่อรับใบจบ เห็นเราถือใบเลือกแผนก เขาแนะว่าช่างเขียนแบบก็ดีนะ เรียนง่าย ผมหันไปมองหน้าพ่อ พ่อบอกเอาเลย (พ่อจบ ป.ตรี วิศวกรโยธา) ไหนๆ ละเอาอันนี้แหละ พอได้เริ่มเรียน ได้รู้อย่างแรกทุกแผนก ทั้งช่างยนต์ ช่างก่อสร้าง งานเกี่ยวข้องกันหมด อย่างช่างยนต์ ประกอบอะไหล่รถ ก็แผนกผมต้องเขียนแบบไป ละส่งแบบไปให้เขาทำ เป็นต้น
เท่าที่เริ่มเรียนมา อาชีวะเรียนปฏิบัติ แทบทุกวัน แล้ววิชาทุกวิชาต้องใช้ในการเขียนแบบหมด วัดขนาดอะไหล่ก็ยังต้องใช้แคลคูลัส มีวิชาเครื่องกลัด แล้วมีอาจารย์คนนึงบอกถ้าเรียนได้เข้าใจ และทำเป็น ชาตินี้ไม่มีวันอดตาย ซึ่งก็คงจริง อะเล่าจบละถ้าถามตัวเองว่าสายไหนดีกว่า มันก็ดีทั้งคู่แต่คนละด้าน อย่างอาชีวะวิชาอังกฤษที่เจอมา เพื่อนแต่ละคนทำไม่ค่อยได้ เราก็รู้ได้ว่า พวกนี้เขาไม่ค่อยเก่ง แต่เขาเน้นทำงาน ละเป็นจริงๆ จัง ส่วนสามัญ ก็แน่นเรื่องวิชาและยัดๆ ทุกอย่างเข้าหัวเด็กบางคนรับได้ ก็ดี แต่บางคนไม่ไหว ลาออกก็มี นี่แหละข้อเสียของสามัญส่วนอาขีวะก็กล่าวไปข้างต้น นั่นแหละครับ ที่ผมได้เจอและประสบมา ส่วนผมถ้าจบ ปวส. ก็ไปต่อ ป.ตรี ครับ ใครจะคิดอย่างไหนมาแชร์ความเห็นกันได้นะครับ ขอบคุณครับ