สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวร้านอาหารเกาหลี มาตามหา "อปป้า"กันค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่ชอบเกาหลี แต่ก็ไม่ได้ถึงกับคลั่งไคล้มากนะคะ คือชอบในวัฒนธรรม ชอบอาหาร ชอบรายการทีวี ซีรี่ย์ เพลง เอ๊ะ!!! หรือถึงขั้นคลั่งไคล้ 55555 ไม่แน่ใจ
ตัวเรากับเพื่อนจะชอบหาร้านอาหารเกาหลีทานกันอยู่บ่อยๆ กินไปทั่วเลยค่ะ ตั้งแต่ที่ korean town ไปจนถึงร้านอาหารเกาหลีรอบนอก หรือ แม้แต่ช่วงที่ไปเกาหลีเองเราก็ตระเวนชิม กิน ตามร้านต่างๆ ใครที่ไหนบอก อร่อย เด็ด ไปหมด (ใจจริงคือ ไปแอบเหล่ อปป้า ต่างหาก อิอิ)
ต้องบอกก่อนว่า พอดีเรามีเพื่อนที่เป็นเกาหลีแท้ๆเลยอยู่ 3 คน นางก็จะพาตระเวนไปกิน ทั้งในไทย และในเกาหลี เพื่อนที่ว่านี้ทำงานอยู่ที่ไทยค่ะ ด้วยความที่คลุกคลีกับนาง ไปกินกับนางบ่อยๆ นางก็จะสนิทกับเจ้าของร้านเกาหลีค่อนข้างเยอะ เราก็เลยพอรู้จักไปกับนางด้วย
นางก็จะเป็นคนบอกว่า อันนี้อร่อย อันนี้เกาหลีแท้ อันนี้ไม่ใช่
เคยคิดไว้ในใจว่าทำไม ที่ไทยไม่มีร้านสไตล์ Pojangmacha (โพจังมะฉะ) เป็นสไตล์ สตรีทฟู๊ด ที่เราเห็นตามซีรี่ย์เกาหลี ที่เป็นเต๊นท์ผ้าใบและมีผ้าใบกั้นมีโซจูขาย มีหนุ่มๆสาวๆเกาหลี ไปนั่งเดทกัน ปรับทุกข์กัน สังสรรค์เฮฮา ปาจิงโกะ คือคนเกาหลีส่วนใหญ่ที่มาเปิดร้านอาหารที่เมืองไทย ก็จะเปิดในห้าง หรือ ในห้องแอร์ ตามตึกราม บ้านช่องต่างๆ ไม่มีใครมากางเต๊นท์เลย
เพราะร้านเต๊นท์ผ้าใบแบบนี้ที่เกาหลีนิยมมาก ในเกาหลี เปิดถึงเช้า อยากกินอะไรก็ทำให้ได้ ดื่มก็ได้ เมาก็ได้ หรือจะแบบ รีบกินรีบไป
ซึ่งมีเยอะมากกกกกก ในถนนเส้นหนึ่งนี่ มีติดๆกันเป็นสิบๆร้าน
แล้วเราก็เห็นจากกระทู้ในพันทิพย์นี่แหละค่ะ ว่ามีร้านแนวนี้มาเปิด เป็นร้านสไตล์ Pojangmacha (โพจังมะฉะ) ร้าน ติ่งเกาหลี เลยไปลองทานดู แต่วันนี้เราไม่ได้มารีวิว ร้านติ่งเกาหลี นะคะ เพราะคิดว่าตอนนี้ ร้านน่าจะมีคนรู้จักมากแล้ว แล้วส่วนตัวเราเคยไปแค่ครั้งเดียว แล้วไม่ได้ไปอีกเลย แต่บรรยากาศร้านก็คล้ายๆในเกาหลีค่ะ แต่ยังไม่โดนใจเราเท่าไหร่
เหมือน อปป้า จะได้เสียงจากหัวใจเรา วันหนึ่งเราไปเดินเล่นกับเพื่อน ที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา ค่ะ พอดีมีเพื่อนของเพื่อนเกาหลีเค้ามาเที่ยวที่เมืองไทย แล้วเค้าอยากมาที่นี่ เราก็ งง ว่าทำไมอยากมาที่นี่? นางบอกว่า ตลาดนัดรถไฟรัชดา ที่เกาหลีดังมากๆ คือคนเกาหลีที่มาเที่ยวเมืองไทย ต้องมาที่นี่อย่างน้อยหนึ่งครั้ง เสมือนเป็นที่ ที่ต้องไปเมื่อมาเมืองไทย เราพึ่งรู้จากเพื่อนว่า ที่เกาหลีเค้าไม่มี night market แบบนี้ค่ะ เค้าเลยตื่นเต้น อยากมา จัดไปค่ะ
เดินเล่นจนหิว เพื่อนเราเลยพาไปกินร้านอาหารเกาหลี เพื่อนเราบอกว่าที่นี่มีร้าน สไตล์ Pojangmacha (โพจังมะฉะ) อยู่ด้วยไปลองกัน
แวบแรกที่เห็นคือแบบ เฮ้ยยย!!!! นี่แหละ ใช่เลย ที่รอ มีโอเด้ง ขายด้วย ปรี่เข้าไปถ่ายรูปก่อนเลยจ้าาาาา
โอเด้ง ถ้าพูดง่ายๆ คือ ลูกชิ้นปลาแผ่น นั่นแหละค่ะ แต่ที่ไทยไม่มีขาย ต้องนำเข้ามา คือร้านอาหารเกาหลีที่เราเคยไปกิน บางร้านมีค่ะ แต่เค้าไม่ได้ตั้งโชว์แบบนี้เราจะเห็นแค่ในเมนู แต่ที่นี่ ทำเหมือนร้าน Pojangmacha ที่เกาหลีเลยค่ะ ไม่รอช้ารีบนั่ง เอาเมนูมาดู
เมนูเองมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่หลักๆก็มีครบค่ะ ไม่รอช้าสั่งโอเด้งก่อนเลย ที่นี่เค้าจะมี 2 สูตรค่ะ คือ แบบ ออริจินัล กับ แบบ เผ็ด เลยสั่งมาลองทั้ง 2 อย่างเลยละกัน
ส่วนตัวเราชอบกิน โอเด้ง อยู่แล้ว รสชาติก็ไม่แตกต่างจากที่เกาหลีค่ะ แต่ที่เด็ดคือน้ำซุปที่นี่ อร่อยมาก แบบเข้มข้น ทั้งแบบเผ็ดและแบบต้นตำรับเลยค่ะ แต่ที่เกาหลีที่เราเคยกิน จะจืดนิดๆ บางคนอาจจะชอบแบบเกาหลี แต่เราคิดว่า รสชาตินี้คนไทยน่าจะชอบค่ะ ให้ 3 ผ่าน 9/10 เลยค่ะ ส่วนราคา แบบธรรมดา 40 บาท แบบเผ็ด 45 บาท แบบเผ็ดจะมีซอสราดด้านบนโอเด้งด้วย น้ำซุปเติมได้ตลอด
ราคาอาจจะสูงไปนิด ถ้าเทียบกับลูกชิ้นปลาธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับเราคิดว่า คุ้มค่าค่ะ เพราะเหมือนได้กินที่เกาหลีเลยจริงๆอันนี้คอนเฟิร์ม
แต่รสชาติของโอเด้งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ ไม่ได้เหมือนลูกชิ้นปลาบ้านเราซะทีเดียว มีความเหนียว นุ่ม กว่า
วันที่เรามาเป็นวันศุกร์ ที่ร้านคนเยอะมากค่ะ แต่เมื่อมานั่งร้านแบบนี้ บวกกับพรุ่งนี้หยุดงาน แน่นอนว่า งานโซจู ต้องมาสิคะ ฮรี่ๆๆ
ที่นี่มีโซจูหลายรสชาติมากเลย แต่ที่เห็นในเมนู จะมีแค่ 2 รส คือ ออรินัล กับ ส้ม พี่พนักงานบอกว่า เมนูยังไม่ได้อัพเดท สรุปวันนั้นไปกับเพื่อน 4 คนรวมตัวเรากินไป 6 ขวด มีรส พีช องุ่น บลูเบอรี่ เกรปฟรุ๊ต และออริจินัล ส่วนตัวเราชอบ พีช ค่ะ เบาๆ หวานๆ เหมาะกับเรา อิอิอิ
แต่คนเกาหลี เค้าชอบดื่มแบบออริจินอลมากกว่า รสผลไม้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
นั่งกิน นั่งดื่ม สายตาสอดส่าย หาอปป้า แต่ไม่เจอ แต่สายตาเราดันไป สะดุดกับเจ้า กาสีทอง อันนั้นค่ะ ตอนแรกนึกว่าเอาไว้ใส่น้ำชา เหมือนตามร้าน ข้าวต้มบ้านเรา 55555555
เราเลยถามเพื่อนว่า เอาไว้ทำอะไร เพื่อนเราบอกว่า กาแบบนี้ที่เกาหลีเค้าเอาไว้ใส่ มักกอลลี ดื่ม
มักกอลลี คือ ไวน์ข้าวหมัก รสชาติเหมือน ข้าวหมากหวานบ้านเรา อารมณ์เดียวกันเพราะทำจากข้าวเหมือนกัน กินเยอะๆก็เมาได้เหมือนกัน
รอออะไรล่ะคะไหนๆมาแล้ว จัดมา มักกอลลี ที่นี่ มี 3 รสชาติค่ะ กล้วย พีช และ ออริจินัล สั่งแบบไม่คิด พีชชชอยู่แล้นนน
ทันที่ยก โอ้ววว ข้าวหมากหวาน รสพีช แต่ อร่อยอ่าาาาาา ทานง่ายกว่าโซจูเยอะ หอม แนะนำถ้าใครสายอ่อน อยากนั่งนานๆไม่อยากเมาเร็ว 55555 รับรองโดนใจค่ะ
เมนูต่อมา ต๊อกบกกี เรียกว่าเป็น เมนูปราบเซียน ของหลายๆร้าน ต้องบอกก่อนว่า ต๊อกบกกี ของแต่ละร้านที่เราเคยทาน รสชาติไม่เหมือนกัน บางร้านเผ็ด บางร้านหวาน บางร้านจืดมาก (หรืออาจจะเป็นของเด็ก5555) แต่รสชาติพื้นฐานของต๊อกคือ จะออกหวานนิดๆปนเผ็ดหน่อยๆ นี่คือรสชาติดั้งเดิม เพื่อนเราบอกมาค่ะ ถ้าร้านไหนทำต๊อกบ๊กกีไม่อร่อย ส่วนใหญ่อาหารอื่นมักจะไม่อร่อยตามไปด้วยค่ะ จากสถิติตัวเราเอง คริคริคริ
เพราะ ต๊อกบ๊กกี ถือเป็นอาหารพื้นฐานที่ร้านอาหารเกาหลี สไตล์นี้ต้องมี และต้องอร่อยด้วย ไหนลองซิร้านนี้เป็นอย่างไร??
พี่พนักงานถามว่าเพื่มชีสไหม ใส่สิคะ เราเป็นพวกชีสเลิฟเว่อร์อยู่แล้วว คำแรกที่ได้ชิมหวานนำค่ะ เผ็ดปลาย เนื้อต๊อกเหนียวนุ่มดี มีผักมาให้แก้เลี่ยนด้วย ส่วนตัวเราชอบค่ะ ให้ 8/10 อร่อยเลยแหละ นี่ถ้าขอหลอดดูดได้นี่จะขอเลย 5555
ส่วนเพื่อนเกาหลี เราบอกว่า อร่อยใช้ได้ เหมือนที่เกาหลี แต่สำหรับเราที่เกาหลี ที่เราเคยทานมันหวานโดด แต่รวมๆแล้วถือว่าผ่านค่ะ
ถัดมาเป็นเมนู ที่เราโปรดอีกเมนูหนึ่งเลยนั่นคือ หมูผัดกิมจิ ซอสเกาหลี บอกได้เลยว่าดีงาม พระรามแปด รสชาติอร่อยกว่าที่เกาหลี ที่เราเคยกินอีก เมนูนี้ บอกเลยว่าไปแล้วต้องสั่ง เพราะโต๊ะเราจัดมา 2 เลยค่าาา กินกับโซจู เข้ากั๊น เข้ากันค่ะ เมนูนี้เอาไป 8/10 ที่หักอีกสองคะแนน เพราะชนิดผักที่ใส่มาน้อยไปนิดค่ะน่าจะมีแครอท กับพริกหยวกด้วย จะเป๊ะปัง มากกว่านี้
อีกเมนูหนึ่งอันนี้อยากลองเอง จาจังมยอน หรือ บะหมี่ซอสดำ เห็นในซีรี่ย์กินกันบ่อยมาก จัดมาเลยคะ พอมาเสิร์ฟปุ๊ป แว๊ปแรกที่เห็นคือ
เส้นมาม่านี่หว่า พอมองไปในร้านเห็นซองจาจังมยอน ที่พ่อครัวใช้ทำ ภาพมัน แฟลชแบ็ค กลับไป ตอนที่เราไปเกาหลี เราก็ซื้อแบบนี้กลับมาทำกินเองที่บ้าน ไม่อร่อยเลย จืดมาก แต่ก็กินจนหมดเพราะบางทีช็อต เงินเดือนหมดก็ได้เจ้านี่แหละประทังชีวิต 555555
รสชาติถือว่าใช้ได้ค่ะ ใกล้เคียงกับ จาจังมยอนที่เป็นเส้นสด เราแอบไปถามพี่เค้ามาว่า เคยซื้อไปทำที่บ้านแล้วมันจืด สรุปคือเราใส่น้ำเยอะไปค่ะ จาจังมยอน ต้องน้ำนิดเดียว แต่เสียดายว่าที่นี่ ไม่ใช่เส้นสด แบบที่ทำตามร้านในห้าง หรือ ที่แบบkorean town เลยทำให้คนที่เป็น แฟนพันแท้ จาจังมยอน อย่างเรา แอบผิดหวัง แต่รสชาติถือว่าใช้ได้ค่ะ บางคนที่อาจจะไม่เคยลองทานจาจังมยอนมาก่อน ก็อาจจะชอบก็ได้ค่ะ
ดูในส่วนของบรรยากาศของร้านกันบ้างค่ะ โดยรวมๆก็ให้ feel เกาหลีได้ดีเลยทีเดียว รวมไปถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น จานใส่ต๊อกบ๊กกี ที่นี่ก็หุ้มพลาสติกเหมือนที่เกาหลีเลยจานใส่หมูผัดกิมจิ ก็ห่อกระดาษฟอย เหมือนเลยค่ะ โอเด้งใส่แก้วกระดาษ เหมือนกันเป๊ะ แต่ที่เกาหลี เค้าจะมี คันจัง (ซอสถั่วเหลือง) ไว้ให้ลูกค้าที่ซื้อโอเด้งไว้ จิ้มฟรีค่ะ เผื่อใครอยากเพิ่มรสชาติ
ที่เกาหลีร้าน โพจังมะฉะ เค้าจะเรียกกันสั้นๆว่า Pocha (โพชา) เพราะส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์รถเข็นมีล้อ แบบนี้แหละค่ะ ถือว่า ร้าน อปป้าพาโบ ทำได้ออกมาตรงคอนเซ็ปเป๊ะๆ
ส่วนโต๊ะ เก้าอี้ แล้วแต่ร้านค่ะ บางร้านเป็นสี่เหลี่ยม บางร้านเป็นวงกลม แต่ที่นี่เป็นวงกลมค่ะส่วนตัวเราคิดว่า วงกลมให้ฟีล เกาหลีมากกว่า โลโก้ ก็น่ารักดี สมกับชื่อ อปป้าพาโบ แปลว่า พี่ชายติงต๊อง งี่เง่า ซื่อบื้อ ประมาณเนี้ยะค่ะ
บอกก่อนว่าปกติเราไม่ค่อยได้รีวิวเท่าไหร่ค่ะ จะเป็นสายอ่าน สายตามไปชิมมากกว่า แต่ร้านนี้ขอหน่อยละกัน เพราะโดนใจและรอร้านแบบนี้อยู่ด้วย เราไปถามพี่เจ้าของมาว่าเปิดมานานหรือยัง พี่เค้าบอกว่า ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่เดือนมกราคม แล้วค่ะเป็นร้านของคนเกาหลีกับคนไทยทำด้วยกัน เราเลยถึงบางอ้อค่ะ ว่าทำไมถึงได้เก็บรายละเอียดปลีกย่อย ทั้งบรรยากาศ รวมไปถึงภาชนะที่ใส่
และพี่เค้าบอกอีกว่าวัตถุดิบหลายอย่างก็นำเข้ามาโดยตรงค่ะ
เรื่องราคาสำหรับเรา ถือว่าสมเหตุ สมผลค่ะ ไม่แพงเว่อร์ และก็ไม่ได้ถูกมาก เพราะถ้าใครเคยทานอาหารเกาหลีเป็นประจำจะรู้ว่า ราคาประมาณนี้แหละค่ะ ไม่ได้หนีห่างกันมาก
สรุปโดยรวมสำหรับร้าน อปป้าพาโบ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ บรรยากาศ และการบริการ เราให้ 8/10 พี่ๆที่ร้านใจดี คุยสนุก ตลกดีค่ะ เป็นกันเองมากๆ แต่ขอหักแต้ม จาจังมยอน ค่ะ น่าจะใช้เส้นสด เพราะจะได้ฟินนนกว่านี้
สำหรับใครที่กำลังหาร้านแบบในแบบซีรี่ย์เกาหลี แนะนำเลยค่ะ ที่ร้านเปิดเพลงเกาหลีให้ฟังด้วยค่ะ แต่ไม่มีผ้าใบปิดลงมา เหมือนในซีรี่ย์นะคะ เพราะอากาศเมืองไทยไม่น่าจะเหมาะกับการเอาผ้าใบลงเป็นอย่างยิ่งค่ะ ไม่งั้นคงได้ทานไปอาบเหงื่อไปแน่นอน แต่ที่เกาหลีถ้าอากาศร้อนเค้าก็ไม่เอาผ้าใบลงเหมือนกันค่ะ
การเดินทางก็ไปไม่ยากค่ะ อยู่หลัง เอสพละนาดรัชดาเลย มีรถไฟฟ้าใต้ดิน ไปถึงเลยสถานีศูนย์วัฒนธรรม
เพื่อนเราบอกว่าร้านนี้ มี อปป้า เกาหลีมานั่งทุกวันเลยค่ะ เพราะสถานทูตเกาหลีก็อยู่แถวนั้น แล้วแต่ว่าจะเจอ แก่หรือหนุ่ม แล้วแต่ดวงค่ะ 5555
[CR] หลงรัก อปป้าพาโบ (พี่ชายงี่เง่า)
ตัวเรากับเพื่อนจะชอบหาร้านอาหารเกาหลีทานกันอยู่บ่อยๆ กินไปทั่วเลยค่ะ ตั้งแต่ที่ korean town ไปจนถึงร้านอาหารเกาหลีรอบนอก หรือ แม้แต่ช่วงที่ไปเกาหลีเองเราก็ตระเวนชิม กิน ตามร้านต่างๆ ใครที่ไหนบอก อร่อย เด็ด ไปหมด (ใจจริงคือ ไปแอบเหล่ อปป้า ต่างหาก อิอิ)
ต้องบอกก่อนว่า พอดีเรามีเพื่อนที่เป็นเกาหลีแท้ๆเลยอยู่ 3 คน นางก็จะพาตระเวนไปกิน ทั้งในไทย และในเกาหลี เพื่อนที่ว่านี้ทำงานอยู่ที่ไทยค่ะ ด้วยความที่คลุกคลีกับนาง ไปกินกับนางบ่อยๆ นางก็จะสนิทกับเจ้าของร้านเกาหลีค่อนข้างเยอะ เราก็เลยพอรู้จักไปกับนางด้วย
นางก็จะเป็นคนบอกว่า อันนี้อร่อย อันนี้เกาหลีแท้ อันนี้ไม่ใช่
เคยคิดไว้ในใจว่าทำไม ที่ไทยไม่มีร้านสไตล์ Pojangmacha (โพจังมะฉะ) เป็นสไตล์ สตรีทฟู๊ด ที่เราเห็นตามซีรี่ย์เกาหลี ที่เป็นเต๊นท์ผ้าใบและมีผ้าใบกั้นมีโซจูขาย มีหนุ่มๆสาวๆเกาหลี ไปนั่งเดทกัน ปรับทุกข์กัน สังสรรค์เฮฮา ปาจิงโกะ คือคนเกาหลีส่วนใหญ่ที่มาเปิดร้านอาหารที่เมืองไทย ก็จะเปิดในห้าง หรือ ในห้องแอร์ ตามตึกราม บ้านช่องต่างๆ ไม่มีใครมากางเต๊นท์เลย
เพราะร้านเต๊นท์ผ้าใบแบบนี้ที่เกาหลีนิยมมาก ในเกาหลี เปิดถึงเช้า อยากกินอะไรก็ทำให้ได้ ดื่มก็ได้ เมาก็ได้ หรือจะแบบ รีบกินรีบไป
ซึ่งมีเยอะมากกกกกก ในถนนเส้นหนึ่งนี่ มีติดๆกันเป็นสิบๆร้าน
แล้วเราก็เห็นจากกระทู้ในพันทิพย์นี่แหละค่ะ ว่ามีร้านแนวนี้มาเปิด เป็นร้านสไตล์ Pojangmacha (โพจังมะฉะ) ร้าน ติ่งเกาหลี เลยไปลองทานดู แต่วันนี้เราไม่ได้มารีวิว ร้านติ่งเกาหลี นะคะ เพราะคิดว่าตอนนี้ ร้านน่าจะมีคนรู้จักมากแล้ว แล้วส่วนตัวเราเคยไปแค่ครั้งเดียว แล้วไม่ได้ไปอีกเลย แต่บรรยากาศร้านก็คล้ายๆในเกาหลีค่ะ แต่ยังไม่โดนใจเราเท่าไหร่
เหมือน อปป้า จะได้เสียงจากหัวใจเรา วันหนึ่งเราไปเดินเล่นกับเพื่อน ที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา ค่ะ พอดีมีเพื่อนของเพื่อนเกาหลีเค้ามาเที่ยวที่เมืองไทย แล้วเค้าอยากมาที่นี่ เราก็ งง ว่าทำไมอยากมาที่นี่? นางบอกว่า ตลาดนัดรถไฟรัชดา ที่เกาหลีดังมากๆ คือคนเกาหลีที่มาเที่ยวเมืองไทย ต้องมาที่นี่อย่างน้อยหนึ่งครั้ง เสมือนเป็นที่ ที่ต้องไปเมื่อมาเมืองไทย เราพึ่งรู้จากเพื่อนว่า ที่เกาหลีเค้าไม่มี night market แบบนี้ค่ะ เค้าเลยตื่นเต้น อยากมา จัดไปค่ะ
เดินเล่นจนหิว เพื่อนเราเลยพาไปกินร้านอาหารเกาหลี เพื่อนเราบอกว่าที่นี่มีร้าน สไตล์ Pojangmacha (โพจังมะฉะ) อยู่ด้วยไปลองกัน
แวบแรกที่เห็นคือแบบ เฮ้ยยย!!!! นี่แหละ ใช่เลย ที่รอ มีโอเด้ง ขายด้วย ปรี่เข้าไปถ่ายรูปก่อนเลยจ้าาาาา
โอเด้ง ถ้าพูดง่ายๆ คือ ลูกชิ้นปลาแผ่น นั่นแหละค่ะ แต่ที่ไทยไม่มีขาย ต้องนำเข้ามา คือร้านอาหารเกาหลีที่เราเคยไปกิน บางร้านมีค่ะ แต่เค้าไม่ได้ตั้งโชว์แบบนี้เราจะเห็นแค่ในเมนู แต่ที่นี่ ทำเหมือนร้าน Pojangmacha ที่เกาหลีเลยค่ะ ไม่รอช้ารีบนั่ง เอาเมนูมาดู
เมนูเองมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่หลักๆก็มีครบค่ะ ไม่รอช้าสั่งโอเด้งก่อนเลย ที่นี่เค้าจะมี 2 สูตรค่ะ คือ แบบ ออริจินัล กับ แบบ เผ็ด เลยสั่งมาลองทั้ง 2 อย่างเลยละกัน
ส่วนตัวเราชอบกิน โอเด้ง อยู่แล้ว รสชาติก็ไม่แตกต่างจากที่เกาหลีค่ะ แต่ที่เด็ดคือน้ำซุปที่นี่ อร่อยมาก แบบเข้มข้น ทั้งแบบเผ็ดและแบบต้นตำรับเลยค่ะ แต่ที่เกาหลีที่เราเคยกิน จะจืดนิดๆ บางคนอาจจะชอบแบบเกาหลี แต่เราคิดว่า รสชาตินี้คนไทยน่าจะชอบค่ะ ให้ 3 ผ่าน 9/10 เลยค่ะ ส่วนราคา แบบธรรมดา 40 บาท แบบเผ็ด 45 บาท แบบเผ็ดจะมีซอสราดด้านบนโอเด้งด้วย น้ำซุปเติมได้ตลอด
ราคาอาจจะสูงไปนิด ถ้าเทียบกับลูกชิ้นปลาธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับเราคิดว่า คุ้มค่าค่ะ เพราะเหมือนได้กินที่เกาหลีเลยจริงๆอันนี้คอนเฟิร์ม
แต่รสชาติของโอเด้งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวค่ะ ไม่ได้เหมือนลูกชิ้นปลาบ้านเราซะทีเดียว มีความเหนียว นุ่ม กว่า
วันที่เรามาเป็นวันศุกร์ ที่ร้านคนเยอะมากค่ะ แต่เมื่อมานั่งร้านแบบนี้ บวกกับพรุ่งนี้หยุดงาน แน่นอนว่า งานโซจู ต้องมาสิคะ ฮรี่ๆๆ
ที่นี่มีโซจูหลายรสชาติมากเลย แต่ที่เห็นในเมนู จะมีแค่ 2 รส คือ ออรินัล กับ ส้ม พี่พนักงานบอกว่า เมนูยังไม่ได้อัพเดท สรุปวันนั้นไปกับเพื่อน 4 คนรวมตัวเรากินไป 6 ขวด มีรส พีช องุ่น บลูเบอรี่ เกรปฟรุ๊ต และออริจินัล ส่วนตัวเราชอบ พีช ค่ะ เบาๆ หวานๆ เหมาะกับเรา อิอิอิ
แต่คนเกาหลี เค้าชอบดื่มแบบออริจินอลมากกว่า รสผลไม้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
นั่งกิน นั่งดื่ม สายตาสอดส่าย หาอปป้า แต่ไม่เจอ แต่สายตาเราดันไป สะดุดกับเจ้า กาสีทอง อันนั้นค่ะ ตอนแรกนึกว่าเอาไว้ใส่น้ำชา เหมือนตามร้าน ข้าวต้มบ้านเรา 55555555
เราเลยถามเพื่อนว่า เอาไว้ทำอะไร เพื่อนเราบอกว่า กาแบบนี้ที่เกาหลีเค้าเอาไว้ใส่ มักกอลลี ดื่ม
มักกอลลี คือ ไวน์ข้าวหมัก รสชาติเหมือน ข้าวหมากหวานบ้านเรา อารมณ์เดียวกันเพราะทำจากข้าวเหมือนกัน กินเยอะๆก็เมาได้เหมือนกัน
รอออะไรล่ะคะไหนๆมาแล้ว จัดมา มักกอลลี ที่นี่ มี 3 รสชาติค่ะ กล้วย พีช และ ออริจินัล สั่งแบบไม่คิด พีชชชอยู่แล้นนน
ทันที่ยก โอ้ววว ข้าวหมากหวาน รสพีช แต่ อร่อยอ่าาาาาา ทานง่ายกว่าโซจูเยอะ หอม แนะนำถ้าใครสายอ่อน อยากนั่งนานๆไม่อยากเมาเร็ว 55555 รับรองโดนใจค่ะ
เมนูต่อมา ต๊อกบกกี เรียกว่าเป็น เมนูปราบเซียน ของหลายๆร้าน ต้องบอกก่อนว่า ต๊อกบกกี ของแต่ละร้านที่เราเคยทาน รสชาติไม่เหมือนกัน บางร้านเผ็ด บางร้านหวาน บางร้านจืดมาก (หรืออาจจะเป็นของเด็ก5555) แต่รสชาติพื้นฐานของต๊อกคือ จะออกหวานนิดๆปนเผ็ดหน่อยๆ นี่คือรสชาติดั้งเดิม เพื่อนเราบอกมาค่ะ ถ้าร้านไหนทำต๊อกบ๊กกีไม่อร่อย ส่วนใหญ่อาหารอื่นมักจะไม่อร่อยตามไปด้วยค่ะ จากสถิติตัวเราเอง คริคริคริ
เพราะ ต๊อกบ๊กกี ถือเป็นอาหารพื้นฐานที่ร้านอาหารเกาหลี สไตล์นี้ต้องมี และต้องอร่อยด้วย ไหนลองซิร้านนี้เป็นอย่างไร??
พี่พนักงานถามว่าเพื่มชีสไหม ใส่สิคะ เราเป็นพวกชีสเลิฟเว่อร์อยู่แล้วว คำแรกที่ได้ชิมหวานนำค่ะ เผ็ดปลาย เนื้อต๊อกเหนียวนุ่มดี มีผักมาให้แก้เลี่ยนด้วย ส่วนตัวเราชอบค่ะ ให้ 8/10 อร่อยเลยแหละ นี่ถ้าขอหลอดดูดได้นี่จะขอเลย 5555
ส่วนเพื่อนเกาหลี เราบอกว่า อร่อยใช้ได้ เหมือนที่เกาหลี แต่สำหรับเราที่เกาหลี ที่เราเคยทานมันหวานโดด แต่รวมๆแล้วถือว่าผ่านค่ะ
ถัดมาเป็นเมนู ที่เราโปรดอีกเมนูหนึ่งเลยนั่นคือ หมูผัดกิมจิ ซอสเกาหลี บอกได้เลยว่าดีงาม พระรามแปด รสชาติอร่อยกว่าที่เกาหลี ที่เราเคยกินอีก เมนูนี้ บอกเลยว่าไปแล้วต้องสั่ง เพราะโต๊ะเราจัดมา 2 เลยค่าาา กินกับโซจู เข้ากั๊น เข้ากันค่ะ เมนูนี้เอาไป 8/10 ที่หักอีกสองคะแนน เพราะชนิดผักที่ใส่มาน้อยไปนิดค่ะน่าจะมีแครอท กับพริกหยวกด้วย จะเป๊ะปัง มากกว่านี้
อีกเมนูหนึ่งอันนี้อยากลองเอง จาจังมยอน หรือ บะหมี่ซอสดำ เห็นในซีรี่ย์กินกันบ่อยมาก จัดมาเลยคะ พอมาเสิร์ฟปุ๊ป แว๊ปแรกที่เห็นคือ
เส้นมาม่านี่หว่า พอมองไปในร้านเห็นซองจาจังมยอน ที่พ่อครัวใช้ทำ ภาพมัน แฟลชแบ็ค กลับไป ตอนที่เราไปเกาหลี เราก็ซื้อแบบนี้กลับมาทำกินเองที่บ้าน ไม่อร่อยเลย จืดมาก แต่ก็กินจนหมดเพราะบางทีช็อต เงินเดือนหมดก็ได้เจ้านี่แหละประทังชีวิต 555555
รสชาติถือว่าใช้ได้ค่ะ ใกล้เคียงกับ จาจังมยอนที่เป็นเส้นสด เราแอบไปถามพี่เค้ามาว่า เคยซื้อไปทำที่บ้านแล้วมันจืด สรุปคือเราใส่น้ำเยอะไปค่ะ จาจังมยอน ต้องน้ำนิดเดียว แต่เสียดายว่าที่นี่ ไม่ใช่เส้นสด แบบที่ทำตามร้านในห้าง หรือ ที่แบบkorean town เลยทำให้คนที่เป็น แฟนพันแท้ จาจังมยอน อย่างเรา แอบผิดหวัง แต่รสชาติถือว่าใช้ได้ค่ะ บางคนที่อาจจะไม่เคยลองทานจาจังมยอนมาก่อน ก็อาจจะชอบก็ได้ค่ะ
ดูในส่วนของบรรยากาศของร้านกันบ้างค่ะ โดยรวมๆก็ให้ feel เกาหลีได้ดีเลยทีเดียว รวมไปถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น จานใส่ต๊อกบ๊กกี ที่นี่ก็หุ้มพลาสติกเหมือนที่เกาหลีเลยจานใส่หมูผัดกิมจิ ก็ห่อกระดาษฟอย เหมือนเลยค่ะ โอเด้งใส่แก้วกระดาษ เหมือนกันเป๊ะ แต่ที่เกาหลี เค้าจะมี คันจัง (ซอสถั่วเหลือง) ไว้ให้ลูกค้าที่ซื้อโอเด้งไว้ จิ้มฟรีค่ะ เผื่อใครอยากเพิ่มรสชาติ
ที่เกาหลีร้าน โพจังมะฉะ เค้าจะเรียกกันสั้นๆว่า Pocha (โพชา) เพราะส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์รถเข็นมีล้อ แบบนี้แหละค่ะ ถือว่า ร้าน อปป้าพาโบ ทำได้ออกมาตรงคอนเซ็ปเป๊ะๆ
ส่วนโต๊ะ เก้าอี้ แล้วแต่ร้านค่ะ บางร้านเป็นสี่เหลี่ยม บางร้านเป็นวงกลม แต่ที่นี่เป็นวงกลมค่ะส่วนตัวเราคิดว่า วงกลมให้ฟีล เกาหลีมากกว่า โลโก้ ก็น่ารักดี สมกับชื่อ อปป้าพาโบ แปลว่า พี่ชายติงต๊อง งี่เง่า ซื่อบื้อ ประมาณเนี้ยะค่ะ
บอกก่อนว่าปกติเราไม่ค่อยได้รีวิวเท่าไหร่ค่ะ จะเป็นสายอ่าน สายตามไปชิมมากกว่า แต่ร้านนี้ขอหน่อยละกัน เพราะโดนใจและรอร้านแบบนี้อยู่ด้วย เราไปถามพี่เจ้าของมาว่าเปิดมานานหรือยัง พี่เค้าบอกว่า ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่เดือนมกราคม แล้วค่ะเป็นร้านของคนเกาหลีกับคนไทยทำด้วยกัน เราเลยถึงบางอ้อค่ะ ว่าทำไมถึงได้เก็บรายละเอียดปลีกย่อย ทั้งบรรยากาศ รวมไปถึงภาชนะที่ใส่
และพี่เค้าบอกอีกว่าวัตถุดิบหลายอย่างก็นำเข้ามาโดยตรงค่ะ
เรื่องราคาสำหรับเรา ถือว่าสมเหตุ สมผลค่ะ ไม่แพงเว่อร์ และก็ไม่ได้ถูกมาก เพราะถ้าใครเคยทานอาหารเกาหลีเป็นประจำจะรู้ว่า ราคาประมาณนี้แหละค่ะ ไม่ได้หนีห่างกันมาก
สรุปโดยรวมสำหรับร้าน อปป้าพาโบ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ บรรยากาศ และการบริการ เราให้ 8/10 พี่ๆที่ร้านใจดี คุยสนุก ตลกดีค่ะ เป็นกันเองมากๆ แต่ขอหักแต้ม จาจังมยอน ค่ะ น่าจะใช้เส้นสด เพราะจะได้ฟินนนกว่านี้
สำหรับใครที่กำลังหาร้านแบบในแบบซีรี่ย์เกาหลี แนะนำเลยค่ะ ที่ร้านเปิดเพลงเกาหลีให้ฟังด้วยค่ะ แต่ไม่มีผ้าใบปิดลงมา เหมือนในซีรี่ย์นะคะ เพราะอากาศเมืองไทยไม่น่าจะเหมาะกับการเอาผ้าใบลงเป็นอย่างยิ่งค่ะ ไม่งั้นคงได้ทานไปอาบเหงื่อไปแน่นอน แต่ที่เกาหลีถ้าอากาศร้อนเค้าก็ไม่เอาผ้าใบลงเหมือนกันค่ะ
การเดินทางก็ไปไม่ยากค่ะ อยู่หลัง เอสพละนาดรัชดาเลย มีรถไฟฟ้าใต้ดิน ไปถึงเลยสถานีศูนย์วัฒนธรรม
เพื่อนเราบอกว่าร้านนี้ มี อปป้า เกาหลีมานั่งทุกวันเลยค่ะ เพราะสถานทูตเกาหลีก็อยู่แถวนั้น แล้วแต่ว่าจะเจอ แก่หรือหนุ่ม แล้วแต่ดวงค่ะ 5555